พี่เต็มใจช่วยคนน่ารักอยู่แล้ว

2339 Words
“ชะนี! สรุปเรื่องมันเป็นไงยะ ทำไมพีชมันถึงเข้าไปขอถ่ายรูปกับแฟนในอนาคตของฉันได้ เม้าท์ด่วน!” เสียงทักทายของลิซ่าทำให้ฉันที่เพิ่งกดรับสายแล้วเปิดโฟนเหลือบมองหน้าพีชที่นั่งฝั่งตรงข้ามก็เกิดความสงสาร เมื่อเพื่อนรักกำลังถอนหายใจยาวด้วยสีหน้าเหมือนกังวล “ไม่มีไรหรอก พีชทำไปเพราะแลกกับลายเซ็นพี่ปี 3 เท่านั้นแหละ” ฉันตอบเสียงเรียบพลางยกน้ำขึ้นมาดื่ม “แค่เนี่ย?” คราวนี้เป็นน้ำเสียงสูงปรี๊ดของเอมี่ที่ลอดเข้ามาในสาย เอมี่กับลิซ่าเป็นเพื่อนในเอกที่สนิทกับพวกเราพอสมควร ทั้งสองคือคู่ซี้เพื่อนเก้งที่นิสัยดีมาก สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนอยู่ตลอด ใครอยู่ด้วยคือไกลห่างความเครียด แถมทั้งคู่รู้จักคนเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเดียวกันหรือพวกรุ่นพี่ “อื้อ! แค่นี้จริงๆ พี่ปี 3 สั่งให้พีชไปขอถ่ายรูปกับพี่เทมส์ ถ้าทำสำเร็จจะได้ลายเซ็นถึง 4 คน แต่ถ้าไม่ทำ...พวกพี่เค้าจะไม่ยอมเซ็นให้แล้ว พีชขาดแค่ลายเซ็นพี่ 4 คนนี้เท่านั้นเลยจำใจเข้าไปขอ พี่เทมส์ก็ใจดียอมถ่ายรูปด้วย เรื่องมันก็มีแค่นี้เลย” ฉันอธิบายยืดยาวพลางคิดถึงตอนที่พี่เทมส์เป็นฝ่ายยกมือถือตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับพีช นี่ฟันธงเลยว่าพี่เฮ้ดว้ากคณะวิศวะที่หล่อเกินต้านคนนั้นต้องสนใจพีชที่โคตรน่ารักของฉันแน่นอน ไม่งั้นจะยอมถ่ายรูปคู่ง่ายๆ เหรอ... จริงป่ะ? “นี่ก็นึกว่าพีชมันเครซี่พี่เทมส์จนเข้าไปขอถ่ายรูป ถ้าเป็นงั้นมันต้องสวยแข่งกับฉันละนะ” ลิซ่าทำเสียงสองเสียงสามลอดมาตามสาย “อีนี่! มึงก็กล้าพูดเนาะ พีชมันสวยกว่ามึงล้านเท่า กูยังไม่เคยเห็นมันชมตัวเองว่าสวยสักครั้ง” เสียงเอมี่ขัดลิซ่าที่ลอดมาตามสายทำให้ฉันกับพีชหลุดขำ ก็บอกแล้วไงสองคนนี้สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนตลอดเว ใครอยู่ด้วยไม่มีเครียด “กล้าสิคะเพราะกูสวยจริง กูเอาความจริงมาพูด ผิดตรงไหน” ลิซ่าเถียงกลับเพื่อนคู่หู “เอ้าๆ! แกสองคนอย่าเพิ่งทะเลาะกัน ยังไงอย่าลืมแก้ข่าวให้พีชด้วยนะ” ฉันรีบห้ามทัพพร้อมทั้งขอให้สองคนนี้แก้ข่าวลือให้พีชไปในตัว “เรื่องนั้นสบายมาก ว่าแต่แกเหอะฝัน ไปเดินข้างพี่เดย์ได้ไง” ตายๆ! เอมี่ไปรู้ไปได้ยินอะไรมา นี่ก็นึกว่ารอดตัวละในเมื่อทุกคนสนใจแต่พีชกับพี่เทมส์ สุดท้ายก็ไม่รอดจนได้!! น้องไค่ไห้! “เอ่อ...” ฉันอึกอัก พอสบตากับพีชก็เห็นเพื่อนรักทำตาโตอย่างสนใจ ฉันเฉไฉมองที่มือถือก่อนจะตอบว่า “ก็ไม่มีไร พี่เดย์แค่ช่วยกันบอสเอกอิ้งค์ออกจากฉันเท่านั้นแหละแก” “นี่บอสสุดหล่อของฉันยังไม่เลิกตามแกอีกเหรอ!” เอมี่วีดว้ายมาตามสาย เรื่องบอสตามจีบฉันคนรู้ทั้งเอกอ่ะคิดดู หมอนั่นบ้ามั้ยล่ะ...ตอบ! “อื้อ” ฉันรับคำอย่างเซ็งๆ “พี่เดย์สงสารฉันมั้งที่โดนหมอนั่นตื๊อไม่หยุดเลยเข้ามาช่วย” “โอ๊ย! อิจ! ทำไมฉันไม่น่ารักแบบแกแบบพีชบ้างวะ น้องเอมี่ผู้แสนบอบบางก็อยากได้รับความช่วยเหลือจากผู้หล่อๆ บ้างค่ะ” เอมี่เล่นมุกทำให้ฉันกับพีชยิ้มออกมา “แค่นี้แกสองคนก็สวยที่สุดในเอกแล้วเหอะ” ฉันรีบบอกอย่างเอาใจ “พูดจาดี เดี๋ยวฉันสองคนช่วยกระจายข่าวให้เอง” “น่ารักที่ซู้ด ขอบใจพวกแกสองคนมากนะเว้ย” พอฉันบอกขอบคุณ ลิซ่ากับเอมี่ก็วางสายไป เรื่องก็อย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ หลังจากพี่เฮ้ดว้ากคณะวิศวะที่โคตรดุดันแต่หล่อเกินต้านอย่างพี่เทมส์ยอมถ่ายรูปคู่กับพีช เพื่อนในเอกรวมถึงรุ่นพี่ต่างกระหน่ำโทรถามฉัน เอม และแก้มยุ้ยไม่หยุดว่าเกิดอะไรขึ้น พีชชอบพี่เทมส์ถึงขั้นเข้าไปขอถ่ายรูปคู่เลยเหรอ? พอพวกฉันสามคนบอกว่าที่พีชทำไปเพราะแลกกับลายเซ็นรุ่นพี่ปี 3... เรื่องราวก็เลยจบลง “สรุปมันยังไง แกกับพี่เดย์รู้จักกัน?” พีชที่นั่งทานข้าวตรงข้ามกันเปิดประเด็นถาม ลืมบอกว่าเราสองคนซื้อข้าวเย็นมาทานบนห้องฉันกันค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องกลัวใครมาได้ยินทั้งนั้น “ก็ไม่เชิงรู้จักสนิทสนมไรหรอก แต่พี่เดย์เคยช่วยฉันไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม” ฉันกล้าตอบตามตรงเพราะอีกฝ่ายคือพีชนั่นล่ะ “ถามจริง!” พีชตาโตถามเสียงหลง ปกติเราสองคนมีอะไรก็เล่าให้กันฟังตลอด แต่เรื่องพี่เดย์ฉันไม่เคยพูดไรไง พีชคงแปลกใจและงงเป็นธรรมดา “อื้อ” ฉันพยักหน้าน้อยๆ “แกจำวันแรกที่เราสองคนเจอพวกพี่ว้ากวิศวะได้ป่ะ” พีชนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้าขึ้นลง “จำได้” “คืนนั้นหลังไปนั่งเล่นที่ห้องแก ฉันเพิ่งนึกออกตอนสามทุ่มกว่าว่ายังไม่ได้เอาชุดนักศึกษาที่ร้านซักรีด นี่เลยรีบลงไปเอาเพราะกลัวร้านจะปิด แล้วฉันก็ดันซวยโดนรุ่นพี่ที่กำลังเมาเข้ามาตื๊อขอเบอร์ พี่เดย์มาเอาเสื้อที่ร้านซักรีดพอดีเห็นเข้าเลยมาช่วยฉันไว้” ฉันหยีตาลงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นยังแอบผวาไม่หาย “แล้วทำไมแกไม่ชวนฉันล่ะฝัน ถ้าเกิดพี่เดย์ไม่ผ่านมา แกจะทำยังไง!” พีชตาโตโพล่งถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วงจากใจจริง “ก็ตอนนั้นเราสองคนเพิ่งรู้จักกัน ฉันเลยไม่กล้าชวนแกเพราะเกรงใจ แต่ถ้าเป๋นต๋อนนี้อู้ได้เต๋ม ปากเลยว่าฝันหวานบ่เก๋งใจ๋แล้วเจ้า มีหยังยะฮ้องหาลูกพีชเป๋นคนแรกเลย” พอฉันพูดเชียงใหม่ท้ายประโยค พีชที่ทำหน้าเครียดก็เผลอยิ้มออกมา “ให้มันจริง สรุปเพราะเรื่องนี้ทำให้แกกับพี่เดย์เลยรู้จักกัน” “อื้อ” ฉันพยักหน้าขึ้นลง ก่อนจะหยีตาถามเพื่อนอย่างเกรงๆ “แกไม่โกรธใช่มั้ยที่ฉันปิดบังไว้ตั้งนาน” “หึ ไม่อ่ะ” พีชส่ายหน้าช้าๆ พลางคลี่ยิ้ม “เรื่องแค่นี้ฉันจะโกรธแกทำไมก่อน ตอนแรกเราสองคนไม่ได้สนิทกันขนาดนี้ด้วย ไม่แปลกที่แกจะไม่บอก” “ฮือ! แกน่ารักอ่ะพีช เข้าใจกันเหมือนมานั่งกลางใจฉันไม่มีผิด” ฉันชมเพื่อนจากใจจริง “งั้นในฐานะที่ฉันน่ารัก ขอถามต่ออีกนิด พี่เดย์มาหาแกถึงในแถวทำไม... อย่าบอกนะว่าจีบ” พีชยักคิ้วด้วยสีหน้าล้อเลียน ฉันทำเป็นกลอกตานิดหน่อยทำเอาเพื่อนหัวเราะออกมา “จีบไรกันเล่า พี่เค้ามาทวงสัญญาเหอะ” “ขนาดไม่จีบนะ มีสัญญากันด้วย” พีชแซวด้วยรอยยิ้มหวาน “ไม่ได้จีบจริงๆ” ฉันบอกเสียงแข็งขัน “ก็วันที่พี่เดย์ช่วยฉันไว้ ฉันรับปากว่าจะเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน แต่พอมารู้ทีหลังว่าพี่เค้าเป็นพี่ว้าก ฉันก็เริ่มหลบหน้าเพราะความกลัว” นี่ถ้าฉันบอกความจริงไปว่าเรื่องทานข้าวเป็นเรื่องที่พี่เดย์พูดขึ้นมาเองฝ่ายเดียว พีชต้องแซวมากกว่าเดิมแน่ เพราะงั้นให้เพื่อนเข้าใจว่าฉันเป็นฝ่ายอยากเลี้ยงตอบแทนน่ะถูกละ “เออ! อันนี้เข้าใจได้ เป็นฉันฉันก็กลัว เสียงดังแถมดุขนาดนั้น พูดแล้วสยอง” พีชว่าพลางทำคอย่น รู้เลยว่ากลัวจริง “ใช่มะ จะให้ไปทานข้าวกับพี่ว้ากก็กระไรอยู่ เกิดไม่พอใจแล้วโวยวายขึ้นมากลางร้านฉันช็อคแน่” ฉันว่าพลางลูบแขนตัวเอง แค่คิดก็สยองแล้วเหอะ “แล้วแกจะทำไงต่อ ปฏิเสธคงไม่ได้ในเมื่อพี่เดย์มาตามถึงแถว หนีก็ไม่ได้อีกเพราะเจอกันตอนรับน้องทุกวัน” พีชถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงทำให้ฉันยิ้มในความน่ารักของคนที่นั่งตรงข้ามกัน “ฉันตอบตกลงไปทานข้าวกับพี่เดย์ละ” “ถามจริง!! แล้วแกไม่กลัว” พีชถามหน้าตื่นทำให้ฉันรีบเล่าเรื่องเมื่อเย็นให้เพื่อนฟัง “ก็ตอนที่แกเข้าไปขอถ่ายรูปกับพี่เทมส์น่ะ พี่เดย์เข้ามาช่วยกันบอสออกให้ แถมยังบอกว่าไม่ต้องกลัวพี่เค้าหรอก ตัวจริงเค้าไม่ดุแต่ต้องทำเป็นดุเพราะรับหน้าที่เป็นพี่ว้ากเท่านั้น” “อ้อ! ถ้าเป็นงั้นค่อยยังชั่วหน่อย” พีชถอนหายใจด้วยสีหน้าโล่งอก หลังจากนั้นเราสองคนก็คุยเรื่องอื่นเรื่อยเปื่อยแทน วันนี้ฉันต้องกลับหอคนเดียวเป็นครั้งแรกเพราะพีชโดนรุ่นพี่หลีดคณะมาหาเรื่องถึงห้องเรียน ที่แย่ไปกว่านั้นเพื่อจะให้รุ่นพี่พวกนั้นเลิกจิกกัดพวกเราเอกญี่ปุ่น พีชจำใจต้องไปคัดหลีดแค่คนเดียว มองจากดาวอังคารลงมายังรู้เลยว่าเพื่อนรักของฉันโดนแกล้ง จะบอกรุ่นพี่ในเอก... พีชก็ไม่ยอมอีก กลัวมีปัญหากันทีหลัง เฮ้อ! เมื่อกี้ฉันไลน์หาพีชเพื่อบอกว่าเอม แก้มยุ้ยรวมถึงฉันจะไปอยู่รอเป็นเพื่อนเพราะรับน้องเลิกแล้ว แถมวันนี้ไม่ต้องเข้าเชียร์เพราะฝนตั้งเค้ามา รุ่นพี่ให้กลับได้เลย แต่พีชน่ะสิ...ดันห้ามกันไว้ บอกให้กลับเลย ถ้าฝนตกรถติดเดี๋ยวกลับบ้านลำบาก ส่วนฉันก็ให้รีบกลับหอเช่นกันเพราะไม่ได้เอาร่มมา ถึงแม้จะเป็นห่วงเพื่อนแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องจำใจกลับก่อนเพราะพีชยืนยันคำเดิม นี่ก็ได้แต่ภาวนาให้รุ่นพี่หลีดพวกนั้นปล่อยให้พีชกลับไวๆ ไม่งั้นเพื่อนฉันติดฝนใน ม.แน่! “งั้นฉันสองคนไปละนะ พรุ่งนี้เจอกัน” เอมกับแก้มยุ้ยโบกมือลา “บาย” ฉันโบกมือลาทั้งคู่พลางกระชับชีทรวมถึงหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุดอีกหลายเล่มในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ฟิ้ว! ลมเริ่มมาแล้วรีบกลับดีกว่า ยิ่งปี 1 ต้องใส่พลีทด้วย... ลมแรงๆ กลัวกระโปรงเปิด! “แฟนพี่เดย์แน่เหรอวะ วันนี้กูยังไม่เห็นคุยกันเลย” “มึงก็เห็นอยู่เมื่อวันศุกร์เดินข้างกัน ไม่แฟนแล้วไรวะ ฝันหวานไม่เคยเดินข้างผู้ชายคนไหนนอก จากพี่เดย์ มึงตัดใจเหอะ!” “ใช่! กูเห็น! แต่ตอนนี้พี่เดย์อยู่กับเพื่อน ส่วนฝันหวานอยู่คนเดียว แฟนน่ารักขนาดนี้... ถ้าเป็นมึงไม่เฝ้าตลอดไง” มาละเสียงซุบซิบ! ฉันรีบจ้ำพรวดไปด้านหน้า ลมก็แรง ของก็เยอะ ผู้ก็ต้องหนี... อยู่เมินบ่ได้ละเจ้า ต้องขะใจ๋ปิ๊ก!! ฟิ้ววว! จู่ๆ คราวซวยล็อตใหญ่ก็ถาโถมเข้าหาอย่างจัง ลมที่แรงอยู่แล้วดันแรงขึ้นกว่าเดิมสามเท่าราวกับเกิดพายุหมุนขณะที่ฉันเดินบนฟุตบาทโล่งๆ แถมไม่มีอะไรให้กำบัง ด้วยความที่เป็นคนตัวเล็กแถมบอบบางมากทำเอาฉันต้านลมแทบไม่อยู่ถึงขั้นเซมาด้านหลัง ฟิ้วววว! ไม่นะ! ม่ายยย! ใจฉันตกลงไปอยู่ตาตุ่ม เย็นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อลมดันพัดแรงขนาดกระโปรงพลีทปลิดปลิวขึ้นมาอยู่บนหัวเข่าราวกับพร้อมเปิดโชว์กางเกงในทุกเมื่อ พรึ่บ! ระหว่างที่ฉันกำลังรอรับความอายครั้งใหญ่ในชีวิต กลับมีร่างสูงใหญ่ของใครบางคนวิ่งเข้ามาแถมยังใช้บางอย่างมัดที่เอวบางอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันให้ตั้งตัว “ว้ายแก! น่ารักโคตร! นี่มันยิ่งกว่าฉากในซีรีย์อีก!” “แกร๊! ฉันอยากเป็นฝันหวานชะมัด โชคดีอะไรแบบนี้” “กูบอกละว่าแฟน ไม่งั้นจะยอมถอดช็อปทำขนาดนี้ได้ไง!” เสียงออกความเห็นของผู้คนรวมถึงเสียงกรีดร้องของสาวๆ ที่อยู่บริเวณลานเกียร์ทำให้ฉันกลับมามีสติ พอก้มมองที่เอวบางก็เห็นเสื้อช็อปคณะวิศวะผูกอยู่... รุ่นพี่คณะนี้มาช่วยกู้หน้าฉันเหรอ! ขวับ! ฉันเงยหน้าขึ้นมองผู้มีพระคุณทันควัน ก็เห็นเป็นพี่เดย์กำลังส่งยิ้มโลกละลายมาให้กัน “ขอบคุณค่ะ” แม้จะตะลึงอยู่มาก ฉันก็ไม่ลืมที่จะบอกขอบคุณเมื่อพี่เดย์เข้ามาช่วยกันอีกแล้ว “พี่เต็มใจช่วยคนน่ารักแบบน้องฝันหวานอยู่แล้วครับ” อึก! ฉันเบิกตาโตกับคำพูดทีเล่นทีจริงของร่างสูงใหญ่ตรงหน้า “โหว! ไอ้เดย์ มึงเร็วยิ่งกว่าซูเปอร์แมนอีกเว้ย” “ทำคะแนนใหญ่เลยนะมึง” เสียงตะโกนแซวของพวกพี่ว้ากที่ห่างไปประมาณร้อยเมตรทำให้ฉันใจเต้นตึกตัก หน้าร้อนผ่าวราวกับถูกไฟลามเลีย “กูใส่ใจไง พวกมึงอย่าอิจฉา” พี่เดย์ตะโกนกลับไปแบบไม่อายทำเอาฉันเขินหนักยิ่งกว่าเดิมถึงขั้นกอดหนังสือและชีทจนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน “โห่วววว” เสียงโห่แซวของพวกพี่ว้ากกลุ่มใหญ่ทำเอาคนมองมาที่ฉันกับพี่เดย์มากกว่าเดิมจนฝันหวานคนนี้ต้องก้มหน้ามองพื้นหนีอายเป็นพัลวัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD