ความลับของเราสองคน

1606 Words
เพราะคำพูดของรุ่นพี่คณะวิศวะที่ชื่อพี่เดย์แท้ๆ เลย ทำเอาฝันหวานคนนี้ข่มตานอนแทบไม่ลง ในหัวมันวนเวียนคิดถึงใบหน้าหล่อเหลารวมถึงรอยยิ้มโลกละลายนั่นไม่หยุด ยังดีนะที่ผล็อยหลับไปตอนตีหนึ่งกว่าได้มั้ง รู้ตัวอีกทีคือนาฬิกาปลุกละ ไม่งั้นขอบตาคงดำเป็นหมีแพนด้าแบบไม่ต้องสืบอ่ะ! การที่รุ่นพี่ผู้ชายใน ม. เดียวกันชวนรุ่นน้องผู้หญิงต่างคณะไปทานข้าว มันไม่ทะแม่งเกินไปหน่อยเหรอ? เกิดมีใครมาเห็นเข้า... ไม่เข้าใจผิดแย่ แถมพอฉันจะอ้าปากปฏิเสธ พี่เดย์ก็ดันหันหลังว๊าบหนีต่อหน้าต่อตา โอย! จ่างมันเต๊อะ! กึ๊ดนักมีแต่ปวดหัว! บางทีพี่เค้าอาจจะพูดเล่นไปงั้นก็ได้ป่ะ ฉันสูดลมหายใจยาว ใช้มือตบสองแก้มเบาๆ สั่งให้ตัวเองเลิกคิดถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด หยิบมือถือขึ้นคอลหาพีช พอเจอหน้ากัน.. เราสองคนต่างยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยม “เมื่อคืนหลับสบายป่ะ” ฉันชวนพีชคุยระหว่างอยู่ในลิฟท์ “หึ” พีชส่ายหน้าไปมา “ดันฝันประหลาดเลยหลับไม่ค่อยสนิทแถมตื่นก่อนนาฬิกาปลุกอีกต่างหาก แล้วฝันล่ะ... เป็นไง หลับสบายมั้ย” “ไม่เท่าไหร่” ฉันบู้ปากพลางหยีตา “กว่าจะข่มตานอนได้ก็ปาเข้าวันใหม่ละ” “หวังเราสองคนไม่แข่งกันหลับโชว์บนหอประชุมนะ!” ฉันกับพีชโพล่งคำพูดเดียวกัน เราเบิกตามองหน้ากันอึ้งๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา เห็นป่ะ! บอกแล้วว่าเราสองคนเหมือนกันมาก ขนาดความคิดยังไปในทางเดียวกันเลย ฉันกับพีชไป ม. ด้วยการเดินเพราะมันง่ายและสะดวก แค่ออกจากซอย เดินข้ามถนนก็ถึงเลย ระหว่างนี้เราก็คุยเล่นเรื่อยเปื่อยโดยที่ฉันไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้เพื่อนฟังแม้แต่น้อย พอเข้ามาในรั้วมหาลัย ฉันรู้สึกได้ว่านักศึกษาส่วนใหญ่ต่างมองมาทางนี้ ก็เป็นธรรมดาล่ะเนอะในเมื่อพีชที่เดินข้างกันโคตรน่ารักแถมนิสัยก็น่ารักด้วย ใครล่ะจะอดใจไม่มองเพื่อนฉันยังไงไหว ขนาดฉันเป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดมองเพื่อนตัวเองไม่ได้เลย แฮร่! เมื่อถึงหอประชุมฉันกับพีชช่วยกันส่องว่าเอกญี่ปุ่นนั่งตรงไหน “เอกเราอยู่โน่น” พีชชี้ไปยังรุ่นพี่หน้าแถวที่ถือป้ายเอกญี่ปุ่นด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ไปกัน” ฉันพยักหน้าให้เพื่อนด้วยรอยยิ้มหวาน เมื่อเข้ามานั่งในแถว เราได้เพื่อนใหม่ชื่อแก้มยุ้ยและเอม สองคนนี้เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ ม.ปลายแถมยังแอดติดที่เดียว กันด้วย พวกเราสี่คนคุยกันอย่างถูกคอ จากนั้นก็แลกไลน์ ไอจี เบอร์โทรรวมถึงเฟซบุ๊คของกันและกันไว้ พอปฐมนิเทศเสร็จ ฉัน พีช เอมและแก้มยุ้ยตกลงกันมาหาข้าวทานแถวหน้ามหาลัย แล้วอะไรคือการที่ร้านเด็ดที่รุ่นพี่ปี 2 แนะนำมาดันไม่มีโต๊ะว่างเหลือเลย... อดกิ๋นเลยเจ้า! เพราะงั้นตอนนี้เราสี่คนเลยเดินเรื่อยเปื่อยมาถึงคาเฟ่สีขาวสไตล์มินิมอล พอผลักประตูกระจกเข้ามาด้านใน ว้าว! ตกแต่งได้น่ารักชะมัด แถมโชคดีมีโต๊ะใหญ่โต๊ะสุดท้ายว่างอยู่ด้วย เราสี่คนรีบจ้ำเท้าเข้ามานั่งทันที ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟก็คุยเล่นทำความรู้จักกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่ง “เฮ้ย! โต๊ะใหญ่มีที่เหลือเว้ย เข้าไปเหอะกูหิวแล้ว ขี้เกียจหาร้าน!” เสียงของผู้ชายที่เปิดประตูเข้ามาในคาเฟ่ทำเอาพีช ฉัน เอมและแก้มยุ้ยหันมองกันหน้าตื่น ประเด็นคือโต๊ะที่พวกเรานั่งอยู่เป็นแบบสิบที่นั่งไง นั่นหมายความว่าจะมีผู้ชายเข้ามานั่งด้วย จะห้ามพวกเขาก็น่าเกลียดเกินในเมื่อพวกเราใช้แค่สี่ที่ แต่จะให้นั่งกับคนไม่รู้จักก็อึดอัดเป็นนะ “อ้าว! น้องฝันหวานน้องพีช สวัสดีครับ เจอกันอีกแล้ว” เสียงทักทายหัวโต๊ะทำให้เราสี่คนหันมองพร้อมกัน พะ... พี่เดย์! ฉันเบิกตาอึ้งๆ ในความโลกกลมนี้ คนที่ทำให้ฉันนอนแทบไม่หลับดันมาอยู่ตรงหน้า! แล้วถึงพี่เดย์จะมากับเพื่อน แถมพี่คนอื่นก็ส่งยิ้มมาอย่างเป็นกันเอง แต่ฉันสัมผัสได้ว่าดวงตาของพี่เดย์ไม่เคลื่อนไปจากใบหน้าของฝันหวานคนนี้เลย ตึกตัก! ตึกตัก! ฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังก้องในหัวอีกแล้วเมื่อเห็นรอยยิ้มโลกละลายของพี่เดย์อีกครั้ง... บ้าบอมาก ไม่ดีต่อใจสาวน้อยอย่างหนูเลย “สวัสดีค่ะพี่ๆ” แม้จะเขินอยู่มาก ฉันสั่งให้ตัวเองทำตัวเป็นปกติ รีบชิงทักตอบก่อนที่พี่เดย์จะพูดจาแปลกๆ เหมือนเมื่อคืนต่อหน้าเพื่อนทั้งสามคน บอกตามตรงฉันยังไม่พร้อมให้ใครรู้ว่ามีหนุ่มหล่อมาชวนทานข้าวตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม! ฝันหวานกลัวโดนแซว... “พวกมึงสามคนรู้จักเกรงใจคนอื่นมั่ง ร้านมีเยอะแยะจะเบียดคนไม่รู้จักทำไม กลับ!” น้ำเสียงนิ่งปนหงุดหงิดทำให้แทบทั้งร้านหันไปมองคนพูด อ้อ! พี่หล่อเกินต้านที่ดูเหมาะกับพีชนี่เอง ถูกต้องแล้วค่ะ! พี่มาถูกทางแล้ว เชิญตัวเพื่อนของพี่ออกไปจากคาเฟ่เถอะค่ะ พลีสสส! “มึงแหกตามองดีๆ ไอ้เทมส์ คนไม่รู้จักที่ไหน นี่น้องฝันกับน้องพีชไงวะ” เอ้า! ไหงพี่หล่ออีกคน (ที่ยังไม่รู้จักชื่อ) พูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนล่ะคะ พี่ต้องลากเพื่อนออกจากคาเฟ่ถึงจะถูก! ไลน์~ เสียงเตือนไลน์ของฉัน พีช เอมและแก้มยุ้ยดังพร้อมกัน พวกเรารีบหยิบมือถือขึ้นมาเช็คข้อความแล้วพบว่า... “เอาไงดี ข้าวก็สั่งไปแล้ว” เอมถามอย่างปรึกษา “นาทีนี้คงต้องใช้วิธีใส่กล่องหิ้วเข้า ม. ละแหละ” แก้มยุ้ยถอนหายใจทิ้งด้วยสีหน้าเสียดาย... ฉันก็ว่างั้นแหละ วิธีนี้น่าจะดีสุดละ “แต่ถ้ามัวรอ อาจไม่ทันก็ได้นะ” พีชหยีตาพูดเสียงเบา เออ! ก็จริง คาเฟ่คนเต็มเลย อาหารที่พวกเราสั่งไปไม่น่าได้เร็วๆ นี้... แล้วจะทำยังไงดีล่ะ! “มีไรกันรึเปล่าครับน้องๆ ทำหน้าเหมือนคิดไม่ตกงั้นล่ะ” เสียงของพี่เดย์ทำให้พวกเรารู้สึกว่า ไม่ได้อยู่กันแค่สี่คน “พี่ในเอกน่ะค่ะ ไลน์มาบอกว่าอาจารย์ประจำภาคอยากเจอปี 1 ภายในครึ่งชั่วโมง แต่ว่าพวกเราสี่คนเพิ่งสั่งข้าวไป” ฉันยิ้มเจื่อน ในใจก็ได้แต่หวังว่าพี่เดย์ที่กำลังมองกันด้วยรอยยิ้มจะไม่พูดเรื่องเมื่อคืนออกมา! “งั้นไม่ต้องคิดมากครับ ไปหาอาจารย์เหอะ ถ้าข้าวมาเดี๋ยวพวกพี่กินแทน” เพื่อนที่มากับพี่เดย์บอกอย่างใจดี “จะดีหรือคะ เมนูที่พวกหนูเลือก พี่ๆ อาจจะไม่ชอบ” พีชถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเกรงใจ “พวกพี่กินง่ายอยู่ง่ายครับ น้องๆ รีบไปเถอะ ชักช้าระวังโดนลงโทษเอานะ” พี่เดย์พูดด้วยรอย ยิ้มโลกละลาย ใช้สายตาหวานระยับมองกันไม่หยุดทำเอาฉันรีบเฉไฉมองเพื่อนเหมือนปรึกษา “เอาไงดี” พีชถามด้วยสีหน้าหวั่นเกรง เอาตามตรงฉันก็กลัวเหมือนกันนะ ถึงรุ่นพี่จะใจดีแต่ถ้าต้องโดนลงโทษตั้งแต่วันแรก ไม่ใช่เรื่องสวยงามนะคะ! “ฉันว่าทำตามที่พี่เค้าบอกเหอะ นี่ยังไม่อยากโดนทำโทษตั้งแต่วันแรก” แก้มยุ้ยระรัวพยักหน้าชวน พวกเราที่เหลือต่างพยักหน้าเห็นด้วยไปในทางเดียวกัน “งั้นพวกหนูฝากทานข้าวแทนด้วยนะคะ” เอมเป็นฝ่ายออกปากอย่างเกรงใจ ก่อนที่พวกเราสี่คนจะพากันขอบคุณรุ่นพี่วิศวะ จากนั้นก็พากันล้วงกระเป๋าตังค์เตรียมจ่ายเงิน “ไม่ต้องครับ เดี๋ยวพวกพี่จัดการเอง” พี่เดย์ยกมือห้ามทัพเอาไว้ “แต่ว่า...” พีชกำลังจะแย้งด้วยสีหน้าเกรงใจ “ไม่มีแต่ครับ ถือว่าพวกพี่เลี้ยงน้องใหม่ต่างคณะ ห้ามปฏิเสธความต้องการของรุ่นพี่สิครับ” หนึ่งในเพื่อนหน้าหล่อของพี่เดย์พูดอย่างใจดี พวกเราจะปฏิเสธก็ใช่ที่ เดี๋ยวพวกพี่เค้าคิดว่าหยิ่งทำไงเล่า เพราะงั้นเลยทำได้แค่เพียงยกไหว้ขอบคุณก่อนจะลุกจากโต๊ะ ระหว่างที่ฉันเดินออกเป็นคนสุดท้ายเพราะนั่งด้านในสุด พี่เดย์ก็กระแอมไอขึ้นมา ฉันมองหน้าหล่อโลกละลายโดยอัตโนมัติ เห็นริมฝีปากได้รูปสวยยกยิ้มแถมยังพูดโดยไม่ออกเสียงแต่อ่านปากได้ว่า “พี่รอทานข้าวกับน้องฝันหวานสองคนอยู่นะครับ” ตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นมาซะอย่างนั้น ใบหน้าร้อนผะผ่าวราวกับโดนพระอาทิตย์เวลาเที่ยงตรงสาดส่องเข้าใส่ รีบก้มหน้าเดินประชิดตัวพีชโดยไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธพี่เดย์แต่อย่างใด ถือว่าโชคดีใช่มั้ยที่พี่เค้าไม่พูดความลับของเราสองคนออกมาต่อหน้าทุกคน เพราะถ้าพูด... ฉันก็ไม่รู้จะปั้นหน้ายังไงเหมือนกัน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD