มือหนากระชากร่างเล็กของหญิงสาวให้เดินตามตนเข้าไปยังห้องนอนกว้างใหญ่ เธอพยายามขืนตัวเอาไว้อย่างสุดความสามารถ หากทว่าเรียวแรงของเจ้าหล่อนยังน้อยนิดนักถ้าเทียบกับผู้ชายร่างสูงใหญ่สไตล์ยุโรป แอรอนหงุดหงิดเป็นเท่าตัวเมื่อสาวน้อยในอ้อมกอดดิ้นรนจะหนีท่าเดียว ชายหนุ่มเปิดประตูห้องอย่างแรงแล้วจัดการใช้เท้าทรงพลังปิดกระแทกจนมันเกิดเสียงดังกังวานไปทั่ว บรรดาลูกน้องมองหน้ากันพลางกลืนน้ำลายลงคอ ไม่อยากคิดเลยว่าผู้หญิงร่างบอบบางที่เจ้านายหนุ่มเพิ่งฉุดกระชากเข้าไปยังด้านในนั้นจะต้องเจอกับอะไรในค่ำคืนนี้ พวกเขาทำได้เพียงสงสารแต่ไม่อาจช่วยอะไรเจ้าหล่อนได้
น้ำรินหวาดกลัวกับชะตากรรมของตัวเอง…
พลั่ก!
มือหนาผลักคนตัวเล็กลงบนเตียงกว้าง แผ่นหลังบางดีดเด้งทันทีเมื่อรับรู้ถึงความนุ่มของที่นอน ดวงหน้ามนตื่นตระหนกจนคนมองอมยิ้มร้ายกาจ เขาชอบจริงๆ ไอ้ท่าทางสั่นผวาของเธอ มันช่วยให้เขารู้สึกหึกเหิมจนอยากขย้ำลูกนกตัวน้อยๆ ให้ปีกหักคามือ!
“คิดหนี… หึ น่าขันสิ้นดี!”
เสียงเข้มพูดแล้วยิ้มกับตัวเอง ชายหนุ่มเทน้ำสีอำพันใส่แก้วใส เขายกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดตามเคย
ร่างกายพอได้รับแอลกฮอลเข้าไปมันก็ยิ่งเพิ่มความรุ่มร้อนให้กับเจ้าตัว น้ำรินไม่ชอบเลย… ลำพังไม่มีเหล้าเขาก็น่ากลัวพอทน
“แต่ก็ถือว่าทำได้ดีนะน้ำริน ทำได้ดีพอสมควร เพราะฉันเกือบปล่อยให้เธอรอดพ้นเงื้อมมือไปได้แล้วเชียว ต้องขอบคุณแม่ของไอ้โทมัสที่เลือกบินมาไทยก่อนกำหนด ทำให้มันไปเจอเธอที่สนามบิน และก็ต้องขอบคุณที่มันเป็นเพื่อนกับฉัน เราสองคนถึงได้มีโอกาสเจอกันอีกครั้งไงน้ำริน โอ้พระเจ้า! เห็นไหมที่รัก เรื่องราวระหว่างเรามันช่างซับซ้อนเหลือเกิน” แอรอนพูดแล้วทำท่าตกใจราวกับเรื่องที่เอ่ยมันช่างมหัศจรรย์
ชายหนุ่มกรอกน้ำสีอำพันใส่ปากหยักจนหมดขวดแล้วเขวี้ยงอัดกับกำแพงหนา
เพล้ง!
ร่างบางสะดุ้งเฮือกผวาไปทั้งตัว…
“ไม่ต้องกลัว… ไม่ต้องกลัวที่รัก ดูสิ ตัวสั่นเชียว” แอรอนก้าวขึ้นเตียงพลางรั้งร่างเล็กของน้ำรินเข้าหาตัว
“ทะ ทำไมต้องทำแบบนี้กับฉันด้วย ฉันไปทำอะไรให้คุณ” หญิงสาวถามทั้งน้ำตา คนฟังหัวเราะร่วน
“แค่เธอคิดหนีงานแต่งมันก็มากเกินพอแล้วน้ำริน” แอรอนว่า ดวงตาไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย
“ก็ฉันบอกคุณไปตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันไม่อยากแต่งแต่คุณก็บีบบังคับให้ฉันต้องแต่ง” น้ำรินเถียง แม้จะไม่กล้ามองหน้าแต่เจ้าหล่อนก็ไม่อยากวิ่งหนีความรู้สึกขัดแย้งภายในใจ
“ฉันเหรอที่บังคับเธอ มีแต่พ่อแม่ของเธอต่างหากที่ยัดเหยียดจับเธอถวายพานให้กับฉัน และฉันก็ใจดีที่จะรับเธอเอาไว้”
คนตัวโตจ้องใบหน้าหวาน กลิ่นกายจากเจ้าหล่อนช่างส่งผลต่ออาวุธร้ายของเขาเหลือเกิน
“แต่ทั้งหมดมันเป็นเพราะคุณ!” ดวงตากลมโตวาววับ รู้สึกโกรธที่เขาทำเหมือนตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่ร้ายเกินกว่าใคร
“เพราะฉัน?” แอรอนขมวดคิ้ว
“ใช่! เพราะคุณที่บีบให้บริษัทฯ ของพ่อฉันต้องล้มละลาย และอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าคุณใช้ไอ้พวกเจ้าหนี้โต๊ะบอลเป็นเครื่องมือเพื่อบีบให้น้องชายของฉันจนมุม แล้วคุณก็ใช้ข้ออ้างทั้งหมดเพื่อยื่นข้อเสนอให้ฉันแต่งงานกับคุณ เพียงเพราะคุณต้องการคนอุ้มท้องให้” น้ำรินระบายทุกสิ่งทุกอย่าง
หล่อนเป็นคนนะไม่ใช่สิ่งของที่ใครคิดจะทำอะไรก็ได้
“นั่นเป็นเพราะบ้านเธอทำตัวเองต่างหาก” แอรอนกระชากเสียงเข้ม มือหนาบีบคางมนแน่น “พ่อแม่เธอกำลังจะหมดตัวเพราะบริหารธุรกิจแย่ ฉันอุตส่าห์ไปช่วยซื้อหุ้นเน่าๆ เอาไว้เพราะต้องการพยุงกิจการบ้านเธอให้อยู่รอด ส่วนไอ้น้องชายสารเลวของเธอ ถ้าไม่ได้ฉันเอาเงินไปอุดเจ้าหนี้โต๊ะบอลให้คิดเหรอว่ามันจะมีลมหายใจมาจนถึงทุกวันนี้ เธอควรจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำที่ช่วยให้อะไรๆ มันดีขึ้น!”
“ตรงไหนที่ว่าดี คุณมโนไปเองทั้งนั้น! คุณช่วยเพราะหวังใช้อำนาจกับฉัน ทำไมคุณแอรอน ทำไมต้องตามจองล้างจองผลาญฉันถึงเพียงนี้ ฉันไปทำอะไรให้คุณ ฉันไม่เคยทำอะไรให้คุณเลยนะ” น้ำรินร้องไห้ออกมาอย่างเหลืออด
“เธอทำ!” ชายหนุ่มตวาดกร้าว กดน้ำหนักฝ่ามือลงบนคางมนอีกครั้ง
“ตั้งแต่วันแรกที่ฉันเจอเธอ เธอทำให้ฉันรู้สึกแปลกไป เธอทำให้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอทำ!”
ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงวันแรกที่ได้พบกับสาวน้อยหน้าหวาน วันนั้นเขาบินไปคุมงานที่อเมริกา ระหว่างที่ตนกำลังพักผ่อนด้วยการฟังเพลงบนเครื่องบินนั้น น้ำรินก็เข้ามาดูแลเขาในฐานะลูกค้าคนหนึ่ง ใช่… เขารู้ว่าสำหรับเจ้าหล่อนมันแค่นั้น แต่เป็นเขาเองที่รู้สึกไม่เหมือนเดิม วินาทีแรกที่ได้เห็นดวงตากลมโตสบมองมายังตนร่างกายของเขาก็ร้อนรุ่มด้วยไฟเสน่ห์หา เขาไม่อาจปฏิเสธว่ารู้สึกถูกชะตาร่างบางตั้งแต่แรกพบ น้ำรินทำให้เขาสนใจจนถึงขั้นให้ลูกน้องสืบประวัติของเธอเป็นเรื่องเป็นราว เขารับรู้เรื่องราวของเธอทุกอย่างผ่านตัวหนังสือและคำรายงานจากลูกน้อง มันคือสิ่งที่วิเศษมากที่รู้เบื้องหลังชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง เขายอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของน้ำรินเป็นแผนการของเขา แล้วยังไง? มันผิดหรือที่เขาจะทำเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ
“คุณมันโรคจิตคุณแอรอน!” น้ำรินกัดฟันพูด ถ้ามีอาวุธร้ายอยู่ในมือตอนนี้เธอคงไม่ลังเลที่จะฆ่าเขา
ฆ่าคนที่พังชีวิตของเธอจนย่อยยับ!
“อย่าเพิ่งสาวน้อย… อย่าเพิ่งรีบตัดสินความโรคจิตของฉัน คืนนี้เธอยังต้องเจอกับสิ่งเหล่านั้นอีกเยอะ ใจเย็นๆ” เสียงเข้มกระซิบแหบพร่าสะท้านกายสาว
“ปล่อยนะคุณแอรอน คุณจะทำอะไร ปล่อยนะ!”
น้ำรินตะโกนร้องสุดเสียงเมื่อถูกมือหนากระชากให้ลุกขึ้นแล้วจับเหวี่ยงไปที่โซฟาสีน้ำเงินเข้ม แอรอนเดินไปเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานด้วยท่าทีนิ่งสงบ ชายหนุ่มหันหน้ามาพร้อมกับกุญแจมือ รอยยิ้มร้ายกาจผุดขึ้นบนเรียวปากหยัก
หญิงสาวเบิกตากว้าง