“ใช่ค่ะ ป้าว่าหนูรินอย่าเพิ่งคิดมากไปเลยนะลูก เรื่องพรุ่งนี้ก็ให้มันเป็นเรื่องของพรุ่งนี้ วันนี้เราหนีมาไกลถึงเพชรบูรณ์ รับรองว่าพวกนั้นยังไม่ทันรู้อิโหน่อิเหน่อะไรหรอกจ้ะ กินให้อิ่มแล้วนอนให้หลับ จะได้มีแรงคิดเรื่องอนาคตต่อ จริงไหม?” จิตใจช่วยพูดให้อีกฝ่ายผ่อนคลายอีกแรง
น้ำรินเริ่มคล้อยตาม… หญิงสาวพยักหน้ารับคำ
“งั้นตอนนี้ก็กินข้าวได้แล้ว ส่วนเรื่องไอ้บ้านั่นช่างหัวมัน เนอะป้าเนอะ” เพียงฟ้าหันไปพยักเพยิดกับจิตใจ
“ใช่แล้วคนเก่ง”
น้ำรินเริ่มทานข้าวตามคำเชิญชวนของเจ้าบ้าน ด้วยว่าร่างบางใช้พละกำลังไปมากเหลือเกินจึงทำให้เธอรับประทานอาหารจนหมดเกลี้ยง ท่ามกลางความดีใจของทั้งสอง จิตใจมองเพียงฟ้าพลางยิ้มให้กันอย่างโล่งอก จะกังวลเพียงใดขอแค่ยอมทานข้าวไม่ทำร้ายร่างกายตัวเองเท่านี้หล่อนก็อุ่นใจแล้ว
ในฐานะเพื่อนที่หวังดีคนหนึ่ง...
ผ่านไปสามวันหลังจากที่เจ้าสาวคนสวยตระกูลดังหนีหายไปจากงานแต่ง ทิ้งให้เจ้าพ่อหนุ่มแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ผู้ที่ได้ฉายาว่า มาเฟียแห่งโลกธุรกิจ ฉุนเฉียวทุกครั้งยามได้รับรายงานเรื่องของเจ้าหล่อน
ปัง!
มือหนาทุบโต๊ะทำงานเสียงดังสนั่น บรรดาลูกน้องมือขวาหรือคนสนิททั้งหลายต่างก้มหน้าไปตามๆ กัน เวลานี้ไม่มีใครกล้าสบตากับผู้เป็นนายแม้แต่คนเดียว!
“สามวันแล้วที่น้ำรินหายตัวไป พวกแกยังตามไม่เจออีกเหรอวะ!” เสียงเข้มไม่พอใจอย่างมาก
“พวกเราพยายามเช็คทุกช่องทางแล้วครับนาย แต่ไม่มีวี่แววของคุณน้ำรินเลยครับ” ลูกน้องคนหนึ่งรายงาน แม้จะกลัวหากก็พยายามข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่น เพราะชายหนุ่มไม่ชอบให้คนที่ทำงานด้วยมีท่าทีไม่สง่าผ่าเผย
“แค่ผู้หญิงคนเดียวพวกแกยังไม่มีปัญญา แล้วแบบนี้ฉันจะฝากฝังอะไรได้!” เสียงกร้าวตวาด ชี้หน้าลูกน้องทุกคนอย่างโกรธจัด
“ไปตามหาน้ำรินให้เจอ ถ้าไม่เจอไม่ต้องเอาหน้าโง่ๆ มาให้ฉันเห็น ไป!!!”
“ครับๆ”
บรรดาชายหนุ่มใส่สูทผูกไทต่างโค้งคำนับให้กับคำสั่งอันร้อนแรง ไม่มีใครกล้าขัดใจนายหนุ่มแม้แต่คนเดียว ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาว ระบายลมหายใจหงุดหงิด สองมือกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูนขึ้น ขบเม้มริมฝีปากหยักสีน้ำตาลเข้ม ยิ่งนานวันความรู้สึกอยากเอาชนะเจ้าสาวจอมเหย่อหยิ่งก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น คอยดูเถอะ ถ้าเจอตัวเมื่อไหร่เขาจะเล่นงานหล่อนให้เจ็บแสบ ให้สมกับความอัปยศที่เจ้าตัวทิ้งให้เขาต้องเผชิญเพียงลำพัง
“โธ่เว้ย!”
เสียงเข้มสบถลั่นห้องทำงาน ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น ผู้หญิงคนนั้นกล้าดีอย่างไรทิ้งเขาให้เป็นไอ้งั่วกลางงานแต่งแล้วตัวเองก็หนีไป การใช้ชีวิตอยู่กับเขามันน่ารังเกียจนักหรือ เขามีเงินมีอำนาจ มีบริวารมากมายที่ใครต่อใครต่างนับหน้าถือตาว่าเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลทางธุรกิจและแวดวงไฮโซ การที่น้ำรินทำแบบนั้นเท่ากับหยามศักดิ์ศรีเขาอย่างป่นปี้ มีผู้หญิงอีกมากที่อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาแต่พวกหล่อนก็ไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ผิดกับเธอ… เขาให้เธอมาเป็นที่หนึ่ง แล้วทำไมถึงคิดหนี
“ทำไมวะ!”
มือหนาทุบโซฟาราคาแพงอีกครั้งเพื่อระบายอารมณ์คลั่งจากส่วนลึก เขาพยายามแล้ว พยายามที่จะใจเย็นแล้วตามล่าแม่กวางสาวจอมพยศอย่างมีสติ แต่ยิ่งนานวันเขากลับยิ่งคลุ้มคลั่งกับการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเธอ
“ใจเย็นสิวะ” น้ำเสียงติดทะเล้นเอ่ยพลางกับเดินเข้ามาหาชายหนุ่มที่กำลังอารมณ์เสียอย่างถือวิสาสะ “แก้ขัดหน่อยไหม?” มือหนาส่งแก้วเหล้าสีอำพันให้กับเจ้าตัว
แอรอน รับเอาสิ่งที่ตนคุ้นชินมากระดกดื่มรวดเดียวหมด…
“แกมาถึงเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“ก็ช้ากว่าวันแต่งงานแกสองวัน แต่ข่าวฉันก็อัปเดตตลอดนะเว้ย ฉันรู้ความเคลื่อนไหวของแกตั้งแต่ตอนที่แกถูกเจ้าสาวคนสวยปล่อยลอยลำกลางงานแต่ง”
“ไอ้เวรโทมัสเงียบปากไปเลย!” แอรอนชี้หน้าเพื่อนรัก ถ้าไม่ติดว่าคบหากันมานานอย่าหวังเลยว่าจะได้นั่งหน้าสลอนอยู่แบบนี้
“ฮ่าๆ โทษทีๆ ลืมไปว่าคนมันมีปม”
โทมัส หัวเราะร่วนพลางกับยกมือเชิงยอมแพ้ จะว่าไปเขาก็อึ้งเหมือนกันตอนที่รู้เรื่อง ใครจะคิดว่าในโลกนี้ยังมีผู้หญิงไม่อยากได้ตัวแอรอนหลงเหลืออยู่ เห็นกี่รายๆ ที่เขาพาขึ้นเตียงด้วยแก้เบื่อก็อยากจะดันตัวเองให้ถึงทะเบียนสมรสกันทั้งนั้น
ไม่น่าเชื่อจริงๆ…
“แล้วทำไมไม่หาคนอื่นวะเพื่อน เขาไม่อยากแต่งก็มีสาวๆ อีกมากที่อยากรับหน้าที่นั้น”
โทมัสว่าไปตามที่คิด คนฟังส่ายหน้าทันควัน
“ฉันต้องการแค่น้ำรินเท่านั้น!” เสียงเข้มเอ่ยชัดเจน
“ฉันพอจะรู้มาว่าการแต่งงานครั้งนี้ทางบ้านของผู้หญิงเองกำลังจะถูกฟ้องเป็นบุคคลล้มละลายเลยต้องขายลูกสาวกิน” นี่ก็เป็นอีกข่าวที่ลอยลมมาถึงหูเขาโดยความบังเอิญ
“ข้อนั้นฉันไม่สน ฉันสนแค่ผู้หญิงที่จะมาอุ้มท้องมีทายาทให้กับฉันเท่านั้น” พูดจบก็เทน้ำสีอำพันใส่แก้วอีกครั้ง จากนั้นก็ดื่มรวดเดียวไม่มีเหลือ
“ถ้าไม่สนแล้วทำไมต้องเจาะจงเป็นคนนี้วะ อย่างที่บอกสาวๆ คนอื่นมีอีกมาก และที่สำคัญ… ถ้าแกต้องการแค่คนอุ้มท้องทำไมต้องจัดงานแต่งงานให้มันวุ่นวายด้วย แอบมีเงียบๆ แล้วทำสัญญากันไม่ง่ายกว่าเหรอ?” ข้อนี้เขาอยากรู้เหลือเกินว่าเพื่อนเจ้าเสน่ห์ของตนกำลังคิดทำอะไรอยู่
แอรอนเงียบไป… เบนสายตาหันไปมองทางอื่น โทมัสพอจะจับกระแสบางอย่างได้ลางๆ
“เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่านายหลงรักแม่เจ้าสาวคนนั้น” คำพูดของเพื่อนรักกรีดหัวใจแกร่งให้ย่อยยับ
“ไม่มีวัน!”
ปัง!
ชายหนุ่มกระแทกแก้วเหล้าลงกับโต๊ะเสียงดัง
“ฉันไม่มีวันรักผู้หญิงที่หยามศักดิ์ศรีของฉันเด็ดขาด!”
น้ำเสียงเดือดดาลจนคนฟังขนลุก รู้สึกเป็นห่วงสาวน้อยคนนั้นขึ้นมา เขาแอบภาวนาให้หล่อนหนีพ้นจากอุ้งมือซาตานร้ายอย่างแอรอน ลองถ้าได้โกรธขนาดนี้เห็นทีร่างของผู้หญิงคนนั้นคงแหลกเป็นผุยผง
“ถ้าฉันเจอแม่นั่นเมื่อไหร่ หล่อนจะได้รู้ว่านรกมันมีจริง!!!”