คำเตือน มีฉากนายเอกช่วยผู้อื่นที่ไม่ใช่พระเอก(ภายนอกไม่สอดใส่ ไม่มีจูบ)
อิงฮวานั่งรออยู่ในห้องหนึ่งด้วยความตื่นเต้น กลางห้องเป็นโต๊ะขนาดเล็ก ที่มีกับแกล้มและขวดเหล้าวางอยู่ ริมด้านในสุดอีกฝั่งเป็นเตียงไม้ผูกด้านบนด้วยผ้าแพรสีหวาน
หน้าต่างผูกด้วยม่านโปร่งบาง ทำให้อากาศภายในเย็นสบาย มือขาวยกเหล้าขึ้นมาจมูกยังคงได้กลิ่นคาวเลือดอยู่ แต่ใครมันจะสนกันล่ะเขารอเวลานี้มานานแล้ว แม้แต่พระเจ้าก็มาขวางเขาไม่ได้!
ครู่เดียวประตูก็ถูกเปิดออกด้วยมือเรียวสวย ดวงตาสีเทามองตามมือนั้น ผู้เข้ามาใหม่เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าหวานน่ารัก ตัวเล็กกว่าเขาแม้ไม่ได้สวยมากจนงดงาม แต่เป็นความรู้สึกที่น่ารักนาทะนุถนอมแทน
"ขออนุญาตนะเจ้าคะ" หญิงสาวนั่งลงข้างเขาพร้อมกับหยิบขวดเหล้ารินใส่แก้วให้ มือบางลูบไล้ตรงต้นขาทำให้บางสิ่งในนั้นเริ่มดันสู้ขึ้นมา ริมฝีปากเล็กยกยิ้มพร้อมจับมือเขาลุกเดินไปทางเตียงนอน อิงฮวาก้มลงไปจัดการปลดเสื้อผ้าหญิงสาวออก จนไร้สิ่งปกปิดใด ๆ หน้าอกนิ่มสมส่วนกับตัวเด้งตามแรงหอบของและแรงกระแทกที่ถูกส่งจากเขา
เพียงไม่นานอิงฮวาก็จัดการขย้ำหญิงสาวตรงหน้า จนเจ้าหล่อนร้องครางเสียงดัง เขางัดกลยุทธ์ทั้งหมดที่เคยเรียนรู้มาใส่อีกคนทันที จนร่างเล็กนั้นต้องอ้อนวอนให้หยุด แล้วรีบเดินกะเผลกออกจากห้องไปอย่างทุลักทุเล
'กรี๊ดด เปิดประสบการณ์ใหม่!' อิงฮวาทิ้งตัวลงบนที่นอนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มบิดตัวไปมา ลืมตาขึ้นสายตาดันไปกระทบกับบางสิ่งสีดำแวววาวบนเพดานทำให้เขาชะงักไปครู่นึง
"ทหารเงา...หรือ?" เขาจ้องมองสิ่งนั้นไม่วางตา พออีกฝ่ายได้ยินดวงตาสีดำกระตุกวูบทันที พริบตาร่างกายใหญ่กลับโดนกระชากลงมาด้วยเชือกสีดำยาวที่ถูกดึงออกจากผมของเขา ขาใหญ่จะวิ่งหนีกลับถูกแรงมหาศาลเหวี่ยงลงบนเตียง มือโดนเชือกผูกแน่นตอนไหนไม่ทราบได้
"จับได้สักทีนะ แอบมาเฝ้าข้าเสียตั้งนาน" อิงฮวาพูดจ้องอีกคนนิ่ง
"ทะ...ท่านรู้ได้อย่างไร"
"ตั้งแต่แรกแล้วข้าอุตส่าห์นิ่งเงียบมาตั้งนาน แต่ตอนนี้เจ้าก็ยังตามข้ามาอีก" มือขาวเริ่มซุกซนคุกเข่าตรงหน้าคนที่ตื่นตระหนกอยู่ จัดการปลดกางเกงออกด้วยความไวจนสิ่งที่ซ่อนอยู่ก็เด้งผึ่งออกมา
"หยุดนะพ่ะย่ะค่ะพระสนม!" ซีชวนพูดขึ้นอย่างตื่นตระหนก แต่กลับไม่สามารถทำให้เขากลัวได้ มือขาวยังเอื้อมจับไปที่ท่อนลำนั้นชักรูดขึ้นลงเร็ว นิ้วโป้งกดลงที่ส่วนหัว ก่อนจะบดขยี้จนซีชวนร้องออกมาไม่เป็นภาษา
"เจ้ามีอารมณ์ใคร่เพราะแอบดูพวกข้าหรือ ไม่ดีเลยนะ"
"พะ...พอ...อื้มมม" ลิ้นพันกันจนฟังไม่รู้เรื่อง
ดวงตาสีเทาเหลือบขึ้นไปมองซีชวนที่อ้าปากค้าง ส่งเสียงร้องครางไม่หยุด คิ้วหนาแทบผูกกันเป็นปม เสียงหอบหายใจดังทั่วห้องจากเด็กหนุ่มที่อายุอ่อนกว่าเขา
"ฮึกกก...." เอวใหญ่เด้งสวนมือของเขาอย่างลืมตัว แค่พักเดียวก็รู้สึกถึงแรงกระตุกพร้อมกับปล่อยน้ำคาว อิงฮวาลุกขึ้นเช็ดมือมองไปที่เตียง เห็นว่าทหารเงาตัวน้อยสลบไสลไปแล้ว
"เด็กน้อยเอ๋ย" เขาเช็ดมือกับชุดของอีกคน ก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วกระโดดออกมาจากหน้าต่างนั่งบนหลังคาในท่าสมาธิ หลับตาลงพร้อมกับเริ่มซึมซับพลังธรรมชาติเข้าตัว ตลอดเวลาเจ้าเด็กนี่เฝ้าตามเขาจนไม่สามารถดูดซับพลังปราณธรรมชาติได้ ตอนนี้แหละเป็นจังหวะดีที่เขาจะได้ดูดซับพลังปราณสักที
ร่างกายเขาเริ่มร้อนจนใบหน้างามเริ่มขมวดคิ้วแน่น ผ่านไปหลายชั่วยามความอึดอัดทรมานยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด จนเกิดแรงปะทะบางอย่างทำให้เขาหงายหลัง ดวงตาสีเทาหม่นหมองลงไม่รับรู้สิ่งใดอีกเลย
แสงแดดยามเช้าแยงเข้าตารบกวนการนอน จนอิงฮวาต้องลืมตาตื่นขึ้น สะบัดไล่ความมึนงงสักพัก พบว่าเขากำลังนอนอยู่บนหลังคาสีแดง บิดไล่ความเมื่อยก็กระโดดกลับมาที่ห้องเมื่อคืน ยังเห็นซีชวนนอนกรนอยู่บนเตียง
"รีบตื่นได้แล้วเด็กน้อย" เขาเขย่าอีกคนจนตัวสั่น ทำให้ทหารเงาสะดุ้งตื่นขึ้น เห็นหน้าอิงฮวาก็ชะงักไปทันที
"พระสนม!" ดวงตาสีดำเบิกโพลงคล้ายกับเห็นผี อิงฮวาเดินมาใกล้เอื้อมมือไปข้างหลังคล้ายจะโอบกอด ทำให้ซีชวนตัวแข็งทื่อนิ่งชะงักไป แต่กลับเป็นแรงรัดแน่นตรงข้อมือที่คลายลง
"รู้ใช่หรือไม่ว่าควรรายงานสิ่งใดบ้าง" อิงฮวาเอ่ยเสียงเรียบเย็น ตามองอีกฝ่ายที่กำลังตัวสั่นอยู่
"พ่ะย่ะค่ะ!!" อีกฝ่ายตอบรับอย่างขันแข็ง จากนั้นก็หายตัวไปเพียงแค่พริบตาเดียว
"เชื่อฟังดีจังเลยนะ ฮ่าฮ่า" เขาหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินกลับตำหนักด้วยความอารมณ์ดี
ซีชวนรีบกลับมารายงานฮ่องเต้ระหว่างทางกลับหาข้ออ้างมากมาย มาถึงรีบเข้าเฝ้าและรายงานทันที เบื้องหน้าเป็นบุรุษใบหน้างดงามกำลังบึ้งตึง มองเขาที่ตอนนี้ตัวสั่นจากแรงกดดัน
"เกิดเหตุใดขึ้น ทำไมเจ้าถึงเพิ่งมา" เทียนเป่าเอ่ยถาม เมื่อคืนเขาอุตส่าห์รออยู่นานก็ไม่ได้รับรายงานจากเด็กหนุ่มเลย
"ขออภัยพ่ะย่ะค่ะพระสนมทรงเข้าป่าแล้วเกิดหลงทาง เพิ่งเสด็จกลับตำหนักเมื่อไม่นานมานี้เอง" น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยจากเรื่องโกหกที่ตนสร้างขึ้น แม้เขากลัวฮ่องเต้ตรงหน้า แต่ใจลึก ๆ กลับหวาดกลัวในตัวของพระสนมอิงฮวามากกว่า
"เฮ้อ...ทั้งปีนกำแพงวังหนีไปเที่ยวเล่นทุกวัน นี่ยังเขาป่าจนหลงทางอีก" เทียนเป่านั่งกุมขมับตนปวดหัวกับความซุกซนของอีกฝ่าย มือหนาโบกมือคล้ายไล่อีกคนออกไป อีกมือพลางหยิบสมุดที่ลงรายละเอียดของเหล่าสนมไว้
'หน้าตาอัปลักษณ์หรือ' ท่อนที่ลงไว้เป็นรายละเอียดของสนมลำดับสุดท้ายจากตระกูลหลิว หลิว อิงฮวา เขารู้ทุกเรื่องวุ่นวายภายในวังแต่ที่ผ่านมาหาได้สนใจไม่ เขาสนเพียงแต่การขึ้นเตียงกับเหล่าสนมเพื่อให้พวกขุนนางเลิกบ่นเท่านั้น พูดให้ถูกคือแม้แต่เหล่าสนมที่เหลือเขายังไม่รู้ชื่อเลย
หลังจากโดนฮ่องเต้ไล่ออกมาแล้ว ซีชวนกระโดดกลับที่พักทันทีมุ่งตรงไปหา 'หวังผา' หัวหน้าใหญ่ขององค์รักษณ์เงา มาถึงเมื่อเจอคนที่ตามหาอยู่รีบแจ้งจุดประสงค์ทันที
"ท่านหัวหน้าได้โปรดเปลี่ยนคนไปเฝ้าพระสนมด้วยขอรับ!!" เด็กหนุ่มคุกเข่าตรงหน้าคนที่กำลังขัดดาบอยู่ สามคนที่เหลือเมื่อได้ยินสายตาทุกคู่หันมามองที่ซีชวน
"ย่อมได้ แต่หากเจ้ามีปัญหาอะไรบอกกล่าวข้าได้นะซีชวน" หวังผาตอบน้ำเสียงอ่อนโยน มือจับไหล่เด็กหนุ่มให้เขาลุกขึ้นมานั่งดี ๆ
"ไม่มีอะไรขอรับ"
"หากเจ้ามั่นใจแล้วข้าจะเปลี่ยนให้ 'ชิงเอ๋อ' ทำงานนี้แทน ส่วนเจ้าก็พักผ่อนเสีย" ฝ่ายคนโดนใช้งานเดินมาตบบ่าซีชวนอีกคน
"ซีชวนเดี๋ยวที่เหลือข้าจัดการให้เอง" เด็กหนุ่มได้ยินก็แทบกระโดดกอดอีกคนทันที 'ได้ที่สุดข้าน้อยก็รอดจากเงื้อมมือมารเสียที'
ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นานชิงเอ๋อ บุรุษร่างสูงสมส่วน ใบหน้าคมผิวสีขาวราวหิมะผมสีดำสนิท ขายาวกำลังจะก้าวออกจากที่พักกลับโดนซีชวนมาขวางหน้าก่อน
"เอ่อ...ท่านพี่ชิงเอ๋อได้โปรดระวังตัวด้วยนะขอรับ"
"ได้" ร่างหนาหายตัวไปยังตำหนักฮวาทันที เพียงแค่มาติดตามพระสนมเท่านั้น มีเรื่่องใดที่ทำให้ซีชวนถึงกับต้องบอกให้ตัวระวังตัวกัน
ตกเย็นอิงฮวาลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมา กำลังจะเดินออกไปตลาดเช่นทุกวัน จมูกได้กลิ่นแปลกปลอมจากบุคคลที่มาใหม่ เป็นกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นกว่าเดิมปนกับกลิ่นหวานราวกับน้ำผึ้ง คนละระดับกับเด็กหนุ่มเมื่อวาน คิ้วเรียวกระตุกถี่อย่างหงุดหงิด
'ยังจะส่งคนใหม่มาอีกหรือไงนะ' แต่เขาไม่ได้สนใจอะไรมาก ตอนนี้ของกินสำคัญกว่า
ซื้อของทุกอย่างเสร็จก็กลับมาทานอาหารในตำหนักเช่นเดิม ตอนที่เขานั่งซึมซับพลังธรรมชาติอยู่เมื่อวานดันเผลอเปิดมิติเก็บของได้ แต่สามารถเก็บได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มิติปราณนี้ยังสามารถเก็บของขนาดใหญ่อย่างเช่นเครื่องเรือนได้
ตอนไปตลาดเขาซื้อมาเพียงแค่โซ่เหล็กเท่านั้น จากสถานการณ์ในตอนไปหอโคมแดงครั้งแรก เจ้าเด็กทหารเงานั่นดึงเชือกผูกผมเขาแทบขาด คราวนี้เปลี่ยนเป็นโซ่เหล็กเสียเลยคราวนี้จะเอาออกกันได้ไหม ฮ่าฮ่าฮ่า
------
ผ่านไปเพียง 1 อาทิตย์ ชิงเอ๋อหลังจากกลับจากการเข้าเฝ้าฮ่องเต้รีบตรงมายังที่พักทันที ก่อนจะก้มลงคุกเข่าลงตรงหน้าหัวหน้าของตน
"ท่านหัวหน้าได้โปรดเปลี่ยนคนไปจับตาพระสนมด้วยขอรับ!!" เสียงทุ้มเอ่ยขอร้องปนไปด้วยเสียงสะอื้นเบา ๆ ทำให้หวังผาเกิดความสงสัยขึ้น
นี่เป็นคราที่สองแล้วที่เปลี่ยนทหารเงาไปเฝ้าพระสนมอิงฮวา แต่ตนก็ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไร นึกเพียงอาจจะเบื่อกันเพราะเท่าที่อ่านรายงาน แต่ละวันพระสนมทำแต่กิจวัตรเดิมซ้ำ ๆ
"ด....ได้เดี๋ยวข้าจะให้ 'มู่ชิง' ไปทำงานนี้แทนเจ้าละกัน" ชิงเอ๋อได้ยินริมฝีปากยิ้มปริถึงใบหูทันที แต่พอหันมาทางซีชวนพลันเปลี่ยนเป็นแววตาดุร้าย ก่อนจะเดินมาลากเด็กหนุ่มออกไปคุยอีกที่
"ทำไมเจ้าไม่บอกข้าเรื่องพระสนมให้ครบ" ดวงตาสีดำสั่นเครือนึกย้อนไปถึงวันที่ตนตามพระสนมไปยังหอโคมแดง
เห็นเหตุการณ์ที่ร่างบางร่วมรักกับหญิงสาว แล้วตนยังโดนอีกฝ่ายจับตัวได้ หนำซ้ำยังต้องเสียความบริสุทธิ์ (ภายนอก) ไปอีก
"พะ...พี่ชิงเอ๋อใจเย็นก่อนขอรับ ข้าไม่คิดว่าพระสนมจะกระทำท่านด้วย" ทั้งสองทะเลาะกันไม่นานก็ต้องแยกย้ายไป
ในหัวคิดเพียงอย่าให้ทุกคนจับได้ก็พอ หากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นโดยที่อีกฝ่ายเป็นถึงพระสนม หัวพวกเขาหลุดออกจากบ่าแน่
วันนี้อิงฮวามีแผนการปลูกดอกไม้หลังจากปล่อยให้ดินที่ขุดไปว่างอยู่นาน ขาเรียวเดินไปแถวป่าตำหนักกลางสระบัวที่คาดว่าจะเป็น ตำหนักเล็กของฮ่องเต้ ด้านหน้ามีเขียนไว้ว่า 'ตำหนักเหลียนฮวา' ซึ่งแปลว่าดอกบัว เข้ากับบรรยากาศสระบัวที่ล้อมรอบตำหนัก
แต่วันนี้เจตนาเขาแค่มาขุดต้นไม้กลับไปปลูกที่ตำหนักเท่านั้น มือขุดไปก็ยังคงได้กลิ่นของทหารเงาคนใหม่ที่แอบติดตามตลอด
แต่จะไปฟ้องอะไรก็ตามใจ จะได้รู้ตัวเสียบ้างว่าปล่อยปละละเลย จนหนึ่งในพระสนมแอบมาขุดดอกไม้กลับไปปลูกที่ตำหนักเอง หากชาวบ้านรู้เข้าคงพากันนินทากันไปหลายวัน
อิงฮวาขนดอกไม้นับสิบกลับตำหนัก เศษดินเปรอะตามทางเดินหินอ่อนแต่เขาไม่สนใจอะไร มาถึงก็ยัดดอกไม้ลงหลุม นั่งทำอยู่นานก็ไม่เหลือดอกไม้ให้ลงดินแล้ว เขายืนมองผลงานสวนดอกไม้ที่เขาตั้งใจทำมาทั้งวันด้วยความภูมิใจ