ตอนที่ 5 ความใจที่มากขึ้นแบบนี้รอดยาก

1981 Words
ภูชิต เดินเข้าไปที่ห้องทำงานทันทีหลังจากออกมาจากห้องแลป ตั้งแต่มาจากห้องแลป ชายหนุ่ม ยังไม่หุบยิ้มเลย จนทำให้เลขา อย่างอานนท์ งงกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของ เจ้านายปกติภูชิต เรียกได้ว่าเป็นเสือยิ้มยากคนหนึ่ง แต่สองสามวันมานี้ เขายิ้ม เกือบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ “บอสครับ วันนี้มีประชุมผู้ถือหุ้น สรุปเรื่อง ผลกำไร ของไตรมาสที่ผ่านมาครับ เวลา 14.00 น.ครับ” “อือ รู้แล้ว “ “แล้วบอส จะรับกาแฟเลยไหมครับ” “ไม่ละ ฉันทานมาแล้ว เออแล้วข้อมูลที่ให้ไปหา ว่าไง” ภูชิตถามถึงเรื่องที่เขาให้เลขาไปสืบเรื่องของเมรียา “อ้อครับ คุณเมรียา พักอยู่ห้อง 8 ชั้นที่ 30 ครับ เป็นคอนโดที่ซื้อในนามของนายเชิดศักดิ์ครับ “อานนท์รายงาน “แล้วนายเชิดศักดิ์เป็นใคร”ภูชิตถามต่อ “เอ่อ เดี๋ยวผมให้คนไปสืบอีกครั้งครับ ว่าแต่ ทำไมบอสจึงอยากรู้เรื่องของผู้หญิงคนนี้ละครับ”อานนท์ถามเจ้านายด้วยความสงสัยเพราะภูชิตไม่เคยแสดงออกว่าสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษถึงขั้นให้ตามสืบเรื่องราวของเธอเลยสักคน เมรียาคือคนแรก “ไม่มีอะไร ก็แค่สงสัย” ภูชิต ตอบเลขาคนสนิทเสียงเรียบ เขาจะยอมรับได้ไงว่าสนใจเธอมาก และอีกอย่าง ผู้ชายที่ซื้อคอนโดให้เธอ ต้องเป็นคนที่จัดได้ว่า มีฐานะพอสมควร เพราะคอนโดหรูใจกลางกรุงแบบนี้ราคาไม่ธรรมดา และอีกอย่าง ส่วนมากก็เช่า น้อยคนที่จะซื้อสดแบบนี้ แสดงว่า ไม่ธรรมดา แล้วเมรียาเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนนั้น ถึงขั้นซื้อคอนโดให้ หรือเธอจะเป็น แต่ไม่น่าจะใช่ จากที่เขาจูบเธอมันทำให้เขามั่นใจว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือใครมาก่อนแน่ แต่จะว่าไปทุกวันนี้ มันก็แสดงหรือแกล้งทำว่าไม่เคยก็ได้นี่นะ ภูชิตได้แต่ขมวดคิ้ว สงสัย แต่คนที่สงสัยกว่าคือ อานนท์ที่ตอนนี้กำลังมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของเจ้านาย ในตอนนี้ แต่ภูชิตก็สับสนในใจว่าทำไมต้องไปสนใจเรื่องราวของเธอมากขนาดนี้ ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่สวย รูปร่างดี ยิ้มสดใสน่ารัก จูบไม่เป็น และก็ทำให้อยากจูบเธออีก เฮ้อ นี่เขาเป็นอะไรกันแน่ ภูชิตได้แต่สลัดศีรษะเบา ๆ ก่อนจะยิ้มในหน้า “เอ่อ บอส เป็นอะไรครับ ปวดหัวหรือครับ เอายาแก้ปวดไหมครับ “อานนท์ถามผู้เป็นนายอย่างเป็นห่วง “ไม่มีอะไร นายไปทำงานเถอะ” ภูชิตบอกเลขา ให้ออกไปแล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อไป ..................................................... เมรียาทำงานจนถึงเวลาเลิกงาน มือกำลังเก็บของให้เรียบร้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะรีบกลับบ้านหรืออะไร แต่ว่าวันนี้เป็นวันพิเศษ เพราะธนา จัดงานเลี้ยงครบรอบแต่งงานของเขา กับภรรยา จึงได้เชิญเพื่อน ๆ ในทีมวิจัย ไปฉลองกันที่ ผับชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเชิญเฉพาะเพื่อนๆ ที่สนิท ทุกคนจึงเตรียมตัว ด้วยความกระดี้กระด้าเป็นพิเศษ เพราะนาน ๆ ที ที่จะได้ไปครบพร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้ เมื่อได้เวลาเลิกงานทุกคนจึงรวมตัวกันที่ ผับดังแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพ เมื่อทุกคนเข้าไปในผับ ธนาก็ได้แจ้งกับบริกรหนุ่ม ว่าได้จองโต๊ะไว้แล้ว แล้วบริกรหนุ่มก็ได้พาพวกเขาไปที่โต๊ะ ซึ่งเป็นโต๊ะที่อยู่เกือบ ๆ จะตรงกลาง ทุกคนนั่งดื่มกันอย่างสนุกสนาน “พี่ธนา พี่มุกชนแก้วหน่อย ฉลองครบรอบวันแต่งงานทั้งที”เมรียาพูดพร้อมกับชูแก้วไวน์ขึ้นและทุกคนก็ชูแก้วพร้อม ๆ กัน “ขอบใจทุกคนมาก ๆ นะ เมื่อไหร่ พวกนายจะเป็นฝั่งเป็นฝาซะที ว่าไงนายจัก เห็นคบกับฝนมาก็หลายปีแล้วนี่เมื่อไหร่จะแต่งซะที”ธนาเอ่ยถามจักกฤช ที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่คนเดียว “อีกสักพักแหละพี่ ไม่รีบ” “ระวังผู้หญิงเขาจะไม่รอนะเว้ย”ธนายังไม่วายแกล้งแซว “ไม่หรอกพี่ น้องฝนเขารักไอ้จักจะตาย”เอกวิทย์ช่วยยืนยัน “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดี แล้วนายสองคนละ เอก ต้น เมื่อไหร่ จะมีแฟน”ธนาหันมาถามสองหนุ่มทันที “โอ้ยผมยังไม่อยากมีพันธะพี่ ขออยู่เป็นโสดแบบนี้ไปก่อนไม่รีบ”เอกวิทย์ตอบ “ส่วนผมก็ไม่รีบครับ อีกอย่างสงสัยเนื้อคู่ผมยังไม่เกิด”ตรีภพเอ่ยขำๆ “เอ้า แล้วเราละ เม ไม่พูดอะไร แอบมียัง”ธนาวกมาหาเมรียาจนได้ ทั้งที่ เธอพยายามทำตัวให้ตัวเล็กลีบที่สุดแล้ว แต่ เขาก็ยังวกมาหาเธอ จนได้สิ “พี่ธนา เม ยังเด็กอยู่เลย ไม่คิดจะมีแฟนหรอก”เมรียาทำเสียงแอ้ปแบ้วบอกรุ่นพี่ และส่งสายตาแป๋วให้รุ่นพี่ “โถ ไอ้เม แกนะเขาเรียกว่าไอ้เด็กผี แสบยิ่งกว่าอะไร แล้ว ดูดื่มเข้าไปดิไวน์นะ เดี๋ยวก็เมาหรอกแก”เป็นจักกฤชที่เอ่ยประชดเมรียาอีกครั้ง “ไอ้เม ไวน์ขวดนี้แกเอามาจากแลป ปะเนี๊ยะ ขวดมันคุ้น ๆ นะ” ตรีภพ เอ่ยถามทันที “อือ ก็ขวดที่เขาให้ชิมนั่นละ ก็เลยหยิบติดมือมา”เมรียาบอกพร้อมกับส่งยิ้มแหย ๆ “ไอ้เม นี่มันเท่ากับขโมยเลยนะแก “ตรีภพพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้า “น่า ไม่ต้องคิดมากแค่ไวน์ขวดเดียวเขาไม่หวงหรอก มาชนแก้วกันดีกว่า” ว่าแล้วเมรียาก็ชนแก้วกับพี่ ๆ อย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้สังเกตเลยว่า มีใครบางคนมองเธอไม่วางตาจากชั้นสองของผับ “ภู ขา มองอะไรคะ ชนแก้วกับไอหน่อยสิคะ” ไอรินเดินมาเกาะแขนชายหนุ่มแน่น ก่อนจะเลิกงานหลังจากที่ภูชิตออกจากห้องประชุมบอร์ดผู้บริหาร นั้น เมื่อชายหนุ่มเดินมาที่ห้องก็ต้องแปลกใจเพราะไอรินนได้มานั่งรอเขาที่ห้องทำงานแล้ว โดยที่เธอไม่ได้โทรแจ้งล่วงหน้า เพราะถ้าเธอโทรนัดเขาก่อน เขาอาจจะหาทางหลบเลี่ยงทัน ไอริน หาข้ออ้างที่ทำให้ชายหนุ่มปฏิเสธเธอไม่ได้มาอ้าง จนทำให้เขาต้องยืนอยู่ที่นี่เวลานี้ แต่ตอนนี้เขา ก็นึกขอบคุณที่ไอรินชวนเขามาที่นี่เพราะทำให้เขาได้มาเจอกับ ยัยเมรีขี้เมา ที่คอยมารบกวนจิตใจเขาทั้งวัน “ไม่มีอะไร”ภูชิตหันหลังเดินเข้าไปนั่งที่ โต๊ะ วีไอพีที่ทางผับจัดไว้ให้ เวลาผ่านไปสักพัก ไอรินก็เจอเพื่อนนางแบบที่มาเที่ยวที่นี้ด้วย เธอจึงเดินไปทักทายเพื่อน ภูชิตจึงถือโอกาสนี้เดินลงมาชั้นล่างของผับ และเป้าหมายก็คือโต๊ะของทีมวิจัยที่กำลังดื่มกันอย่างสนุกสนานในตอนนี้ “อ้าว คุณภูชิต มาเที่ยวเหมือนกันเหรอครับ”ธนาพี่ใหญ่สุดเอ่ยทักทายชายหนุ่มเมื่อเห็นเขาเดินตรงมาที่พวกเขา “พอดีผมมากับเพื่อนนะครับ เห็นพวกคุณกำลังสนุกก็เลย เดินมาทักทายหน่อยนะครับ” “อ้อพอดี ผมพาน้อง ๆ มาเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งานของผมกับภรรยานะครับ ก็เลยมาสนุกกันนิดหน่อย ครับนี่ มุกดา ภรรยาผมครับ”ธนาแนะนำภรรยาให้รู้จักกับภูชิต “งั้นเหรอครับ ยินดีด้วยครับ แล้วหายไปไหนคนหนึ่งละครับ”ชายหนุ่มคงจะหมายถึง เมรียานั่นเอง “คุณภูชิตคงหมายถึงไอ้เม มันไปเข้าห้องน้ำนะครับ”ตรีภพเป็นคนตอบชายหนุ่ม แต่ก็อดสงสัยแปลก ๆ เพราะภูชิตรู้สึกจะสนใจเมรียาเพื่อนของเขาเป็นพิเศษ “ถ้ายังไง เชิญคุณภูชิต นั่งก่อนสิครับ”ว่าแล้ว จักกฤชก็ชวนภูชิตนั่งด้วยกัน ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ปฏิเสธ และเขาก็นั่งในตำแหน่งที่หันหลังให้กับทางห้องน้ำทำให้คนที่เดินออกมาจากห้องน้ำมองเห็นแต่ด้านหลังเท่านั้น ภูชิตมองขวดไวน์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ทุกคนจึงส่งร้อยยิ้มแหย ๆมาให้ชาย หนุ่ม เพราะคิดว่าเขาต้องรู้ว่ามันเป็นไวน์ที่อยู่ในห้องแลปแน่ ๆ “พอดี ไอ้เมมันหยิบติดมือ มานะครับ “ตรีภพเอ่ยเสียงเบา “ไม่เป็นไรครับ ตามสบายพวกคุณจะได้รู้รสชาติของไวน์จริง ๆ จะได้นำไปพัฒนาต่อได้ ไม่ต้องคิดมากครับ “ภูชิตตอบยิ้ม ๆ และเขาก็หมายความตามนั้น จริง ๆ “เฮ้ย พี่เอก ต้น เมื่อกี้เมเจอนางแบบสาว คนที่พี่ชอบด้วยตรงห้องน้ำนะ” เมรียา บอกเพื่อนรุ่นพี่ เมื่อเดินมาถึงโต๊ะ “แล้วก็นางแบบคนที่เป็นข่าวควงอยู่กับนายทุนโครงการวิจัยของเราด้วยนะ แต่งตัวเปรี้ยวเข็ดฟันเลยละแต่แปลก ไม่ยักกะเห็นแฟนคุณเธออย่างนายภูชิต” ตรีภพพยายามส่งสายตาให้เพื่อนรัก แต่คุณเธอก็ไม่ได้สนอะไรทั้งสิ้นก็ยังพูดต่อทุกคนต่างมองหน้ากันและทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกในตอนนี้ “ทำไมทุกคนทำหน้าแบบนั้นละ ทำหน้าอย่างกับปวดท้อง พี่จัก ว่าไง “เมรียาหันมาหาจักกฤชที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ตอนนี้ “เอ่อ ไอ้เม แก หุบปากสักครู่ได้ไหม”จักกฤชเอ่ยบอกเสียงเข้ม “ทำไม อะ แล้วนี้ใคร เพื่อนพี่ธนาเหรอ”เมรียาชี้ไปที่ผู้ชายที่นั่งหันหลังให้เธออยู่ตอนนี้ และเมื่อคนที่ถูกเอ่ยถึงหันมา เท่านั้นแหละ เมรียา อยากจะกลายเป็นอากาศธาตุไปซะตรงนี้เลย เขามานั่งตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ “เอ่อ คุณภูชิต คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความตกใจและในตอนนี้ ทั้งทีมที่ตอนแรกยืนอยู่ที่โต๊ะพร้อมหน้า ตอนนี้หายวับ ไปไหนกัน หมดก็ไม่รู้พวกนกรู้ เมรียาได้แต่บ่นต่อว่าพี่ ๆ ในใจ “ก็มาตั้งแต่ได้ยินใครบางคนนินทานั่นละ”ชายหนุ่มจ้องหน้าแล้วก็ตอบ “ไม่ได้นินทา แค่เล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง แค่นั้นเอง”เมรียาแถไปได้น้ำขุ่น ๆ “ยังจะแก้ตัวอีก แล้วไอ้นี้จะว่ายังไง”ภูชิตชี้ไปที่ขวดไวน์ที่ตตั้งอยู่ ที่จริงเขาไม่ได้คิดอะไร แต่อยากเอาคืน ยัยตัวแสบซะหน่อย “ก็แค่หยิบมา แค่นี้ต้องหวงด้วย เดี๋ยวฉันชดใช้ค่าเสียหายให้ก็ได้ เท่าไหร่”เมรียาใจป้ำ “แน่ใจเหรอ “ภีษมะมองอย่างท้าทาย “แน่ใจ บอกมาเลย “พร้อมกับเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน “ก็ไม่แพง เกือบแสนเท่านั้นเอง ”ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบเมรียาได้แต่อ้าปากตกใจ “อะไรนะ เกือบแสน บ้าเหรอ ถึงยังไงคุณก็เอาให้เราทำการวิจัยสูตรอยู่แล้วนี่ คุณก็อย่าคิดแพงนักดิ”เมรียาต่อรอง และท่าทางคำพูดของเธอทำให้ ภูชิตได้แต่ยิ้มในหน้า อย่างนึกเอ็นดู **********************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD