“ไม่นะคะ ไม่ ได้โปรด…”
เสียงหวานกรีดร้องลั่นห้องเมื่อถูกผู้ชายร้ายกาจเหวี่ยงลงบนเตียงกว้าง พิมพ์ชนกรีบถดกายหนีแต่มีหรือที่คนโกรธจะปล่อยไป ลูเซียโน่กระชากข้อเท้าดึงร่างบางให้ตกอยู่ภายใต้อาณัติของตน สติของหญิงสาวดับสูญ กลัวลนลานจนน้ำตารินไหลอาบแก้ม
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันจะไม่พูดแบบนั้นอีกแล้ว ยะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฉันขอโทษจริง ๆ”
“เธอกล้าด่าว่าฉัน กล้าพูดว่ารังเกียจฉัน มันเกินไปพิมพ์ชนก มันมากเกินไป!” ลูเซียโน่เจ็บลึกกับถ้อยคำที่หล่อนพ่นใส่ ไม่รู้หรือว่าเขานั้นหลงใหลเธอเพียงใด อยู่ในสถานะผู้หญิงของเขาไม่ควรต่อต้านหรือดูถูกเขา สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือเชิดชูเขาเท่านั้น
“ฉันแค่โกรธที่คุณมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้น ฉัน…”
“ทำไม? หรือว่าหึงที่ฉันเรียกผู้หญิงคนอื่นมาที่บ้าน” แววตาร้ายกาจเปลี่ยนไป หากหล่อนหึงหวงจริงคงดีใจไม่น้อย
แต่ทว่า…
“คุณจะเรียกใครมาบำเรอความใคร่อีกสักกี่คนฉันไม่คิดหึงหวงเลยสักนิด แต่ฉันรังเกียจการกระทำต่ำช้าของคุณ อย่ามาแตะตัวฉันนะ ฉันไม่ชอบพฤติกรรมส่ำส่อนแบบนี้ ปล่อย!” ความหวาดกลัวเปลี่ยนเป็นความหมันไส้ระคนกรุ่นโกรธ พูดมาได้เต็มปากว่าเธอหึงหวง ผู้ชายที่ดีแต่เรื่องอย่างว่ามีอะไรให้น่าพิศวาสไม่ทราบ
“ปากดีอีกแล้วนะพิมพ์ชนก มาวันแรกก็ยั่วโทสะฉันได้ดีเกินใคร เธอคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรจริง ๆ ใช่ไหม” ลูเซียโน่เกลียดสายตาหยิ่งจองหองของหล่อน เกลียดท่าทางที่แสดงออกชัดว่าไม่ต้องการเขา
“ปล่อยนะ คุณมันกล้าทำได้ทุกอย่างนั่นแหละ ขนาดไปฉุดกระชากลากถูฉันถึงที่คุณยังทำมาแล้วเลย เจอกันแค่วันเดียวฉันก็เกลียดคุณเข้ากระดูกดำแล้วเหมือนกัน!”
พิมพ์ชนกพูดไปตามที่ใจคิด หารู้ไม่ว่าหล่อนกำลังต่อต้านไฟโทสะที่คุกรุ่น ชายหนุ่มกัดฟันกรอด บีบข้อมือเล็กจนเจ็บระบม
“ปะ ปล่อยนะ ฉันเจ็บ” เธอร้องบอก แววตาของเขาแข็งกร้าวและดุดัน สาวเท้าไล่ต้อนจนร่างบางล้มลงบนเตียง หัวใจของพิมพ์ชนกหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม พยายามจะลุกขึ้นแต่ถูกร่างสูงใหญ่โน้มกายทาบทับ
“อย่านะ! คุณสัญญาว่าจะให้เวลาฉันหนึ่งอาทิตย์ จะผิดคำพูดหรือไง” ความกลัวทำให้รีบยกสัญญามากล่าวอ้าง คนฟังยิ้มมุมปาก
“เคยได้ยินไหม ไม่มีสัจจะในหมู่โจร!” สีหน้าโหดเหี้ยม พิมพ์ชนกกลืนน้ำลายลงคอ
“คนนิสัยไม่ดี ไม่ละอายแก่ใจบ้างหรือไง คิดแต่จะรังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้ นี่หรือวิถีของลูกผู้ชาย”
“พอรู้ตัวว่าสู้ไม่ได้ก็รีบอ้างเพศอ้างความเหลื่อมล้ำทันทีเชียวนะ ก่อนหน้านั้นใครกันที่ด่าฉันฉอด ๆ” หากครานี้ไม่ได้ผล คำพูดที่หล่อนสาดใส่มันกัดกินความรู้สึกสงสารจนหมดสิ้น
“อย่านะ แค่หนึ่งอาทิตย์ตามสัญญา คุณจะผิดคำพูดกับฉันจริง ๆ ใช่ไหม?” แววตากลมโตหวาดผวา ร่างกายสั่นเทิ้ม
“หนึ่งอาทิตย์ฉันจะไม่มีอะไรกับเธอ แบบนั้นใช่ไหมที่เธอเข้าใจ”
เสียงเข้มย้อนถาม พิมพ์ชนกรีบพยักหน้ารับ
“ใช่”
“แล้วไง… ฉันก็ไม่ได้ทำผิดสัญญานี่” คนตัวโตยิ้มร้ายกาจ
“นี่หรือไม่ผิดสัญญา คุณกำลังคุกคามฉันอยู่!” เขากดกายหล่อนแทบจมหายกับที่นอนยังมีหน้ามาบอกว่าไม่ผิดสัญญาอีกหรือ
ทำไมถึงเจ้าเล่ห์แบบนี้
“เชื่อสิที่รัก ฉันจะไม่ทำผิดสัญญา”
ลูเซียโน่สบนัยน์ตาหวานลึก พิมพ์ชนกรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ความเงียบปกคลุมไปชั่วขณะ ไม่มีคำพูดใด ๆ นอกจากสายตาของทั้งสองที่มองกันอย่างใช้ความคิด ชายหนุ่มหลงใหลเครื่องหน้าหวานละมุน ทว่าหญิงสาวกลับหวาดกลัวและหนาวเหน็บ ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์เหลือร้ายเธอยอมรับ แต่ในขณะเดียวกันความดุดันที่มีก็ทำให้เธอรู้สึกระแวงอยู่ร่ำไป
“ฉันจะไม่ผิดสัญญา”
เขาย้ำเสียงแหบพร่าก่อนประกบเรียวปากสีเข้มแนบชิดริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ พิมพ์ชนกเบิกตากว้าง ร่างกายแข็งทื่อราวกับต้องคำสาป หญิงสาวเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้เขารุกล้ำด้านใน แม้ไร้ประสบการณ์หากสัญชาตญาณสั่งการให้เธอปกป้องตัวเองสุดฤทธิ์
ลูเซียโน่ใช้ความชำนาญที่มีเลาะเล็มกลีบปากนุ่มจนสาวเจ้าต้องยอมเผยอออกเพราะทนความคมของฟันขาวสะอาดไม่ไหว ดวงตาคมดุจเหยี่ยวร้ายมีความนัยลึกซึ้ง คล้ายกับเขากำลังยิ้มเยาะเธอ ชายหนุ่มส่งลิ้นร้อนเข้าเกี่ยวตวัดความชุ่มชื้น ดื่มด่ำความหวานที่เขาถวิลหา พิมพ์ชนกเกลียดเหลือเกิน สองมือระดมทุบตีอกแกร่งไม่ยั้งหวังให้เขาปล่อย หล่อนไม่รู้หรือว่าแรงมีเท่ามดไม่อาจต่อกรกับราชสีห์ได้ เขามอบจูบดูดวิญญาณให้กับเธออย่างร้อนแรง ขบเม้มดูดกลืนปากนุ่มจนเธอเริ่มหายใจหอบสะท้าน หวาดกลัวระคนตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
ตั้งแต่แตกเนื้อสาวไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนมากเท่านี้มาก่อน ซึ่งลูเซียโน่ทราบดี… อาการที่หล่อนเป็นกำลังฆ่าเขาทางอ้อม ความไร้เดียงสาของสาวน้อยช่างเย้ายวนให้หลงใหล จากตั้งใจแกล้งให้กลัวเพื่อจะได้ไม่คิดต่อต้านอีก กลายเป็นว่าความหวานที่ได้รับทำลายเจตนาเดิมหมดสิ้น เขาเริ่มลูบไล้ทรวดทรงองค์เอว พิมพ์ชนกพยายามดันอกของเขาออกห่างโดยที่ปากอิ่มไม่ได้รับอิสระแม้แต่น้อย เขาจงใจบดเบียดลิ้นเกี่ยวพันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แฮ่ก ๆ” พิมพ์ชนกรีบสูดเอาลมหายใจเข้าปอดยามได้รับการปลดปล่อย “อย่านะ ได้โปรด อย่าทำแบบนี้”
กลัว คำ ๆ นี้ผุดขึ้นมาในใจจนนับครั้งไม่ถ้วน
“ถ้ากลัวก็อย่าทำแบบนี้อีก อย่าพูดว่าเกลียดหรือแสดงท่าทีขยะแขยงฉัน เข้าใจไหม?” เสียงเข้มสั่งชิดริมฝีปากนุ่มละมุนที่เขายังไม่อยากออกห่าง พิมพ์ชนกพยักหน้าถี่ ๆ ลูเซียโน่ยิ้มพอใจ แสร้งเลื่อนฝ่ามือขึ้นมากอบกุมเต้างามข้างขวา เพียงเท่านั้นสาวน้อยก็กลัวลนลาน
“ฉะ ฉันรับปากแล้ว ปล่อยได้ไหม” หล่อนสะอื้น แววตาหวาดหวั่นช่างน่ามองเสียจริง
“ยังไม่ได้เริ่มการลงโทษเด็กดื้อเลย จะให้ปล่อยได้ยังไงล่ะ”
“อย่าทำนะคะ ฉันไม่พร้อม ไม่พร้อมจริง ๆ”
ถ้าสองมือไม่ถูกเขากดแนบติดที่นอน เธอคงกราบกรานร้องขอความเมตตาไปแล้ว นี่ทำได้เพียงส่ายหน้าทั้งน้ำตายามทรวงอกถูกบีบขยำผ่านเนื้อผ้าบางเบา
“แค่สั่งสอนเท่านั้น” ลูเซียโน่กระซิบข้างหู ไม่วายขบเม้มเบา ๆ ให้สาวเจ้าสั่นสะท้านเล่น ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้เนินเนื้องามผ่านบราเซียสีชมพูลายลูกไม้ ชายหนุ่มครางอือในลำคอ แค่สัมผัสจากภายนอกก็รับรู้ว่าอลังการเพียงใด ไม่รออีกต่อไป… เขาจัดการปลดกระดุมเสื้อนอนออกทีละเม็ดด้วยท่าทีใจเย็น ผิดกับคนใต้อาณัติที่พยายามดิ้นหนี
“อย่านะคะ ฮึก… อย่า” พิมพ์ชนกร้องไห้โฮ
คำพูดของเขาไม่มีความหมายเลย ไหนบอกจะให้เวลาเธอปรับตัวหนึ่งอาทิตย์ ยังไม่ทันข้ามคืนก็กลับลำเสียแล้ว
“แค่สั่งสอนเท่านั้น”