5 บทที่ 5 (2)

760 Words
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนในช่วงเช้า จำนวนนักศึกษาที่อยู่บริเวณลานกว้างใต้ขณะบริหารธุรกิจก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาทันที อัคคีพยายามสอดส่องสายตามองหาคนที่เขารอมาพบเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงแต่ก็ยังไม่เห็นเป้าหมาย ชายหนุ่มหมุนตัวไปมาก่อนจะต้องหลบวูบเมื่อเห็นอัณณาเดินมาจากห้องเรียนห้องหนึ่ง ชายหนุ่มมีสีหน้าลำบากใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่าเป้าหมายของเขาก็อยู่ในกลุ่มคนที่เดินมากับน้องสาวของตนเช่นกัน “เฮ้อ...อะไรก็ไม่รู้ ยิ่งใกล้สอบไอ้ที่เรียนก็ยิ่งน่าปวดหัว ฉันจะไหวไหมเนี่ย” อัณณาหันไปบ่นกับเพื่อนด้วยสีหน้ายุ่งยาก รสสุคนธ์ยิ้มบางก่อนจะปลอบใจ “ก็เห็นบ่นตลอดแต่ก็ทำได้นี่น่า ไม่ต้องห่วงนะถ้าตรงไหนไม่เข้าใจจริงๆ เดี๋ยวเราช่วยเอง” “แหม...รสนี่น่ารักกับเพื่อนเสมอเลย เราโชคดีจังที่มีเพื่อนแบบรส เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ เราลืมการบ้านไว้ในรถของเรา ตายจริงจอดตั้งไกล รสไปก่อนเลยนะเดี๋ยวเราตามไปที่ห้อง” “อ้าว...” รสสุคนธ์ไม่ทันตอบอัณณาที่หมุนตัวกลับก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปไกลแล้ว คนมองลอบขำความตื่นตูมของเพื่อนก่อนจะหมุนตัวกลับมาในเส้นทางเดิม “อุ๊ย! พี่คี” ร่างบางผงะเมื่อมีร่างสูงมาขวางทางของตนในระยะประชิด แต่เมื่อเห็นว่าเป็นใคร หัวใจที่เต้นรัวอยู่แล้วก็กระหน่ำมากกว่าเดิม “นี่พี่คีไม่ได้ไปช่วยน้ำย้ายของหรือคะ” “พี่มีเรื่องจะคุยกับรสน่ะ ตามพี่มาสิ” รสสุคนธ์งุนงงแต่ก็ยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่าย แม้จะดีใจที่ได้เจอหน้าอีกฝ่ายแต่สีหน้าตึงเครียดของเขาก็ทำให้เธออดหวั่นใจไม่ได้ว่าเรื่องที่ทำให้เขามาพบเธออาจจะร้ายแรงมากกว่าเป็นเรื่องที่ดี “ตกลงพี่คีมีอะไรจะคุยกับรสหรือคะ” คนเดินตามเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าทั้งสองเดินออกมาไกลจนถึงจุดที่ค่อนข้างลับตาคนแล้ว อัคคีถอนหายใจหนักก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ “รสรู้เรื่องที่เราสองคนต้องแต่งงานกันหรือยัง” “อะ...อะไรนะคะ” รสสุคนธ์อุทานด้วยความงุนงง ก่อนจะค่อยๆ เรียบเรียงคำถามที่ทำให้หัวใจของเธอพองฟูขึ้นมาเรื่อยๆ “ยังไม่รู้จริงๆ ด้วยสินะ” อัคคีเบาใจเมื่อเริ่มเห็นความหวัง “พี่ก็คิดอยู่แล้วว่าบางทีรสอาจจะไม่รู้ ถ้าอย่างนั้น รสช่วยปฏิเสธได้ไหม ถ้ารสไม่แต่งซะอย่าง พ่อของพี่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว” อัคคีพูดต่อด้วยท่าทีสบายๆ ราวกับคำขอของเขาเป็นเรื่องง่าย ซึ่งมันก็คงจะเป็นอย่างนั้นถ้าหัวใจของคนฟังไม่ได้แตกสลายไปแล้วในยามนี้ “ปฏิเสธ...” “ใช่...เราจะแต่งงานกันได้ยังไงในเมื่อพี่รักน้ำและรสก็เป็นเพื่อนของน้ำ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าพวกผู้ใหญ่เขาคิดอะไรกันอยู่ แต่พี่จะไม่ยอมให้เรื่องบ้าๆ แบบนั้นเกิดขึ้นแน่ๆ ไม่มีทาง” “เรื่องบ้าๆ อย่างนั้นหรือคะ” คนฟังย้ำเสียงสั่นแต่คู่สนทนาไม่ได้สนใจ ความเปลี่ยนไปของเธอ “ก็ใช่น่ะสิ ถ้ายังไงพี่ฝากรสช่วยคุยกับพ่อของรสให้หน่อยนะ ท่านจะได้รู้ไงว่าเราสองคนไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกัน ตกลงตามนี้นะ” อัคคีมองไปทางหญิงสาวด้วยความคาดหวัง อีกฝ่ายจึงได้แต่ซ่อนน้ำตาของตัวเอง ก่อนจะบังคับเสียงของตนให้ตอบออกไปแม้จะแผ่วเบาแค่ไหนแต่ก็ชัดเจนและกรีดลึกลงกลางความรู้สึกของเธอ “ค่ะ...รสจะลองพูดดูนะคะ” “ขอบใจนะรส ขอบใจมาก พี่คิดอยู่แล้วว่ารสต้องช่วยพี่กับน้ำได้ แค่นี้เราสองคนก็จะได้ไม่ต้องมีปัญหากันแล้ว” ชายหนุ่มระบายยิ้ม เมฆหมอกในใจสลายไปหมด ราวกับว่าเขาได้ยกมันให้กับใครอีกคนไปแล้ว “อ้อ...อีกเรื่องหนึ่ง พี่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ ขอให้ทุกอย่างเป็นความลับด้วยนะ” อัคคีหันไปสำทับคนตัวเล็กที่ต้องพยายามเปล่งเสียงออกมาอีกครั้ง “ค่ะ รสจะเก็บเรื่องของเราไว้เป็นความลับค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD