8 บทที่ 8 (2)

1572 Words
“น้ำ ทางนี้” ธาราเงยหน้าพยายามเดินเบี่ยงผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ในช่วงพักเที่ยงพร้อมกับส่งยิ้มให้กับอัณณาที่กำลังโบกมือมาให้ “มารอนานแล้วหรืออัณ รสล่ะ” คนถามมองไปรอบข้างเมื่อไม่เห็นเพื่อนรักอีกคน “เดี๋ยวคงตามมาแหละ พอดีลงเรียนคนละตัวน่ะ” อัณณาเงยหน้าขึ้นตอบก่อนจะก้มลงดูดน้ำในมือจนหมดแก้ว นั่งเล่นกันอยู่สักพัก รสสุคนธ์จึงปรากฏตัวขึ้นและก้าวมาหาสองสาวด้วยท่าทางเร่งรีบ “ขอโทษที่มาช้านะ” “ไม่เป็นไรหรอกรส เรากับอัณรอกันไม่นานหรอก” “อุ๊ย อัณ เติมปากหน่อยดีกว่าไหม นี่แอบกินขนมไปเยอะล่ะสิ” รสสุคนธ์แกล้งเย้าทำให้อัณณาต้องรีบวางน้ำในมือและคว้ากระจกพกพาใบเล็กขึ้นมาส่องทันที “ตายแล้ว ปากซีดลงจริงๆ ด้วย” อัณณาบ่นอุบก่อนจะหยิบลิปสติกแท่งโปรดที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาทาเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง “อัณเนี่ยชอบใช้ลิปสติกเฉดสีแดงเนอะ” รสสุคนธ์ทักขึ้น แววตาของเธอมีประกายล้ำลึก “ไม่เหมือนกับเราที่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เลยเลือกใช้แค่โทนชมพูเท่านั้น วันนี้ก็ทาสีใหม่มาอีก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเหมาะไหม” “ไหนดูสิ...ก็สวยดีนะรส ถึงสีจะเข้มกว่าสีเก่าไปหน่อยก็เถอะ” อัณณาวิจารณ์ก่อนจะก้มลงเติมใบหน้าของตนต่อ “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เรากลับมาทาสีเดิมดีกว่าจะได้มั่นใจขึ้นหน่อย...พอดีตอนแรกลิปสติกแท่งโปรดของเรามันหายไปน่ะ เพิ่งได้คืนมา เลยไม่อยากทาซ้ำแล้ว” ธาราที่ยืนฟังอยู่ด้วยเริ่มชะงักไปเมื่อจับถ้อยคำบางอย่างได้ หญิงสาวหันไปมองทางรสสุคนธ์ที่หยิบลิปสติกแท่งโปรดของตนขึ้นมากล่าวอ้างแล้วก็ต้องตกใจเมื่อลักษณะเหมือนลิปสติกที่เธอเจอในรถของอัคคีอย่างไม่ผิดเพี้ยน “มีอะไรหรือเปล่าน้ำ ทำไมหน้าซีดไปล่ะ” รสสุคนธ์ถามเพื่อนพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานที่ให้ความรู้สึกลึกลับสำหรับคนมอง ธาราแทบจะวางสีหน้าไม่ถูกแล้วก็ต้องผ่อนลมหายใจเมื่อเห็นว่ามีลิปสติกหน้าตาคล้ายกันอยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอางค์ของอัณณา “ไม่มีอะไรหรอกรส เราคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” ธาราตัดสินใจบอกปัด รสสุคนธ์จึงแกล้งทำท่าไม่ติดใจอะไร “เอ้า...สวยแล้ว...เราไปกินข้าวกันดีกว่า” อัณณาเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับเก็บของๆ ตัวแล้วก้าวนำไป รสสุคนธ์ยิ้มให้ธาราอีกครั้งก่อนจะก้าวตาม ในขณะที่คนรั้งท้ายนั้นได้แต่ลอบถอนหายใจพร้อมกับพยายามปัดความฟุ้งซ่าน ไม่มีอะไรหรอก...คงเป็นเธอที่คิดมากไปเอง... ธาราแอบมองคนรักที่นั่งเล่นอยู่บริเวณโซฟาตัวยาวกลางห้องและกำลังจดจ่อกับทีวีตรงหน้า หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะดึงสายตากลับมาเพื่อให้มีสมาธิกับงานตรงหน้าอีกครั้ง ความหวาดระแวงที่เธอไม่คุ้นเคยกำลังเล่นงานจนทำให้สติของเธอหลุดลอยออกไปหลายหน ยิ่งสาเหตุแห่งความหวาดหวั่นนั้นมีเพื่อนสนิทของเธอเข้ามาเกี่ยวข้องยิ่งทำให้หัวใจ ดวงน้อยเจ็บหนักขึ้นทุกครั้งที่ความรู้สึกเหล่านี้เข้ามาจู่โจม “หืม...แค่ได้กลิ่นก็หิวมากแล้วเนี่ย ถ้าเราแต่งงานกันเร็วๆ ก็ดีสิเนอะ พี่จะได้กินฝีมือน้ำทุกวัน” ธาราสะดุ้งน้อยๆ เมื่ออยู่ๆ อัคคีก็เดินเข้ามาสวมกอดเธอจากด้านหลังพลางทำท่าสูดดมความหอมของอาหารในเตาตรงหน้าร่างเล็กและคลอเคลียแก้มนวล “กินทุกวัน...จะไม่เบื่อหรือคะ” ธาราหลุดเอ่ยปากในสิ่งที่เธอไม่เคยคิดตั้งคำถามมาก่อน “ไม่หรอกค่ะ พี่ไม่มีวันเบื่อน้ำหรือกับข้าวของน้ำหรอก” อัคคีตอบเสียงพร่าริมฝีปากเริ่มไล้ลงมาตามซอกคอขาวนวล คนฟังอมยิ้มก่อนจะย่นคอหนีแล้วดันตัวออกจากวงแขนของเขาที่มือเริ่มอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง “กินข้าวก่อนค่ะ อย่าเพิ่งซน” ธาราจัดแจงพาร่างสูงไปนั่งประจำที่ตรงโต๊ะอาหาร อัคคียิ้มกว้างมองคนรักของตนกลับไปทำอาหารต่อด้วยสายตาหวามหวานก่อนจะดึงร่างบางให้มานั่งข้างตน “นั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ” อัคคียกจานข้าวที่วางอยู่ตรงข้ามตนมาวางตรงหน้าของธาราแทน ธาราส่ายหน้าแต่ไม่นึกขัดใจคนตัวโตกว่าที่กำลังส่งสายตาออดอ้อนจนทำให้เธอคล้อยตาม “วันนี้พี่ไม่มีงานต้องเคลียร์เลยว่าจะอยู่เป็นเพื่อนน้ำจนดึกหน่อย พอกินเสร็จแล้วเราเปิดหนังดูกันไหมคะ พี่เห็นมีสองสามเรื่องที่น่าสนใจอยู่ หรือว่าน้ำดูแล้วคะ” อัคคีชวนคุยพลางตักกับข้าวให้อีกฝ่าย ธาราส่ายหน้าเบาๆ และอธิบาย “ยังหรอกค่ะ หนังพวกนั้นพี่ภูเขาให้ยืมมาและน้ำยังไม่ทันได้ดูเลย เดี๋ยวเราดูด้วยกันก็ได้ค่ะ” อัคคียิ้มกว้างก่อนจะขโมยหอมแก้มคนตัวเล็กอีกครั้ง “รางวัลของเด็กดีค่ะ” ธาราส่งค้อน ใบหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที ทั้งสองกินข้าวพลางพูดคุยจนจบมื้ออาหาร อัคคีจึงลุกขึ้นไปเลือกหนังที่วางอยู่ในชั้นวางทีวี ส่วนธาราก็แยกไปทำความสะอาดจานชามให้เรียบร้อย “ดูเรื่องนี้แล้วกันนะคะน้ำ” อัคคียกแผ่นหนังให้คนรักดู ธาราพยักหน้าอย่างตามใจอีกครั้งก่อนจะเช็ดมือแล้วตามมาสบทบกับคนรักของตน “หนังรัก ก็ต้องนั่งใกล้ๆ กันสิคะ” อัคคีพูดพร้อมกับใช้แขนข้างหนึ่งรั้งคนตัวบางมาไว้ในอ้อมแขน ธารานึกขันก่อนเย้ากลับไป “ไม่ต้องใกล้ขนาดนี้ก็ได้มั้งคะพี่คี ไม่ใช่หนังผีเสียหน่อย ที่จะได้ น่ากลัวขนาดนั้น” อัคคีหุบยิ้มหลบดวงตากลมโตที่มองมาอย่างมีพิรุธ ก่อนจะพยายามหาทางแก้ตัวกับคนที่กำลังเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ “ก็พี่อยากอยู่ใกล้น้ำนี่คะ” ท่าทางของคนรักสร้างความรู้สึกแปลกๆ ในใจของคนมองอีกครั้ง ธาราจึงทำเป็นเอนซบพิงไหล่อีกฝ่าย เพื่อปลดปล่อยความคิดของตนเงียบๆ เพียงลำพัง “เวลาเราจูบกัน หัวใจของน้ำเต้นแรงเหมือนในหนังไหมคะ” “คะ” ธาราเงยหน้าสบตาคมเข้ม เมื่อได้ยินคำถามที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทันที “พี่ถามว่าเวลาเราจูบกัน หัวใจของน้ำ...เต้นแรงเหมือนหัวใจของพี่ไหมคะ” เสียงทุ้มแหบพร่าในขณะที่มือหนาข้างหนึ่งคว้ามือบางมากุมไว้ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนเข้ามาวางบนแผ่นอกกว้างเพื่อแสดงถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่กำลังกระหน่ำแรง “พี่คีคะ...อื้อ” ริมฝีปากหนาจู่โจมเข้าครอบครองริมฝีปากบางอย่างไม่ทันตั้งตัวจนทำให้ธาราเสียหลักล้มไปด้านหลังโดยมีร่างหนาขึ้นทาบทับตามไป อัคคีละเลียดชิมความอ่อนนุ่มจนทำให้สติของคนตัวเล็กเคว้งคว้าง ก่อนที่จะถูกฉุดกลับมาเมื่อร่างบางรับรู้ได้ถึงการรุกรานของมือหนาที่ค่อยๆ ไล้เข้ามาจากชายเสื้อ “อย่าค่ะ” ธารารีบหันหน้าหนีใช้มือทั้งสองข้างตะครุบมือหนาที่วางอยู่บนหน้าท้องแบนราบและทำท่าขยับขึ้นมาเรื่อยๆ “อย่าเพิ่งนะคะ” ธาราย้ำอีกครั้ง ใบหน้าของเธอถอดสีดูตระหนกอย่างเห็นได้ชัด คนมองถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะรีบลุกขึ้นแล้วนั่งหันหลังให้ทันที “ขอโทษค่ะน้ำ” อัคคีพยายามสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อข่มอารมณ์ปรารถนาของตน ธาราที่ลุกขึ้นนั่งรีบจัดเสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อยก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของคนรักอย่างเห็นใจก่อนที่สายตาของเธอจะสะดุดเข้ากับร่องรอยบางอย่าง รอยลิปสติกรูปริมฝีปากที่ปรากฏอยู่บนเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม... แววตากลมโตไหววูบ จดจ้องกับรอยจางๆ นั้นที่หากไม่สังเกตก็คงจะไม่ทันเห็น มือบางค่อยๆ ถูกยกและยื่นออกไปเพื่อจะสัมผัสกับร่องรอยนั้นด้วยความประหม่า ก่อนจะต้องรีบชักกลับเมื่ออยู่ๆ เจ้าของแผ่นหลังหนาก็หันกลับมาเผชิญหน้าเธออีกครั้ง “เดี๋ยวพี่กลับก่อนแล้วกันนะคะ ฝันดีค่ะคนดีของพี่” ร่างสูงก้มลงจูบศีรษะเล็กไวๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูเพราะกลัวจะอดใจไม่อยู่จนไม่ทันเห็นสีหน้าตระหนกของคนตัวเล็ก “พี่ไปแล้วนะคะน้ำ” อัคคีย้ำอีกครั้ง ธาราจึงหันไปมองก่อนจะพยายามปั้นยิ้มให้คนที่กำลังเปิดประตูแล้วออกจากห้องไปในที่สุด ไม่มีอะไรหรอกน่า...คงไม่มีอะไร ธาราพยายามท่องถ้อยคำที่จะทำให้ตนสบายใจขึ้น หญิงสาวคิดประโยคนี้วนเวียนไปมาซ้ำๆ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่ส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความขึ้นมาดู “ไม่จริง...” ธาราครางเสียงแผ่ว เมื่อได้อ่านข้อความจากผู้หวังดีที่ส่งเข้ามาว่าชายคนรักของเธอกำลังนอกใจและมีผู้หญิงอีกคน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD