bc

สาวน้อยส่งอาหารทะลุมิติxองค์ชายมังกรน้ำแข็ง

book_age18+
97
FOLLOW
1K
READ
forbidden
fated
prince
blue collar
drama
bxg
brilliant
mythology
magical world
dragons
like
intro-logo
Blurb

ในคืนธรรมดา ๆ เอลาเรีย เวลเลนไฮม์ — พนักงานส่งอาหารของบริษัทลึกลับ "Omnibite" —

ได้รับออเดอร์พิเศษที่ไม่เคยมีในระบบมาก่อน

เมื่อก้าวผ่านประตูส่งของ เธอก็พลัดหลงเข้ามาในโลกต้องห้าม...

— ดินแดนที่หิมะไม่เคยละลาย และราชวงศ์มังกรน้ำแข็ง "เทียนหลง" ปกครองอยู่เหนือทุกสิ่ง

ที่นั่น เอลาเรียได้พบกับ "หลงอวิ๋น"

องค์ชายมังกรน้ำแข็งผู้ถูกขนานนามว่า "เงาแห่งเทียนหลง"

เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีฟ้าเย็นเยือก ผู้มีหัวใจที่แข็งกระด้างราวน้ำแข็งพันปี

การมาของเอลาเรีย...

เป็นเพลิงเพียงดวงเดียวที่สามารถละลายหัวใจอันเยือกเย็นนั้นได้

แต่โลกของเขาเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ เลือดมังกร และคำสาปโบราณ

สายสัมพันธ์ระหว่าง "มนุษย์" กับ "มังกร" ถูกมองว่าเป็นหายนะ

เอลาเรียต้องเลือกระหว่าง

• ก้าวข้ามชะตากรรม…เพื่ออยู่เคียงข้างเขา

• หรือปล่อยให้หิมะนิรันดร์กลืนหัวใจที่เริ่มเต้นของเขาไปตลอดกาล

🍜 หนึ่งถ้วยราเมน

❄️ หนึ่งดวงใจที่รอการละลาย

🐲 หนึ่งพันธะ...ที่อาจเปลี่ยนชะตาของทั้งสองโลกตลอดไป

*******************************************************

❄️บทนำ 💙❄️

เสียงของฉันดังฝ่าอากาศเย็นยะเยือก

ในมือมีถุงอาหารที่ยังอุ่น กลิ่นหอมฉุนของซุปเข้มข้นลอยตัดกับลมหายใจที่กลายเป็นไอขาวในอากาศระดับติดลบ

เบื้องหน้าฉัน—

ไม่ใช่ตึกสำนักงาน หรือคอนโดมิเนียมแบบที่เคยไปส่งทุกวัน

แต่เป็น...พระราชวังน้ำแข็งขนาดมหึมา

ยอดหิมะโปรยปราย แสงจันทร์สีน้ำเงินสาดกระทบหลังคาแก้วใส สะท้อนประกายราวโลกในเทพนิยาย

และตรงกลางลานหิมะนั้น

ชายหนุ่มผู้หนึ่ง... ยืนเงียบงัน

เขาสวมชุดกิโมโนยาวสีเงิน ปักลวดลายมังกรน้ำแข็งละเอียดงดงาม เส้นผมยาวสีน้ำเงินเข้มพลิ้วตามแรงลม ใบหน้าเรียบเฉยแต่หล่อเหลา ดวงตาสีฟ้าเยือกเย็นจับจ้องมาที่ฉันอย่างไม่กระพริบ

...สายตานั้นราวกับเขาไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตเช่นฉันมาก่อน

“นี่... ที่นี่ที่ไหนเหรอคะ?”

ฉันกลืนน้ำลาย กลั้นหายใจแน่น พร้อมกับยกถุงราเมนขึ้นเล็กน้อย—ราวกับมันจะช่วยอธิบายสถานการณ์ได้

ชายหนุ่มไม่ตอบในทันที

เขาเพียงยื่นมือออกมาอย่างเชื่องช้า ปลายนิ้วยาวแตะขอบถุงอย่างเบาบาง

สัมผัสของเขาเย็นราวเกล็ดหิมะ แต่กลับทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจจนหัวใจสะดุด

“...เจ้ามาจากที่ใด”

เสียงของเขาทุ้มต่ำ เย็นเฉียบ แต่ทุ้มลึกจนเหมือนกระเพื่อมในอก

“เอ่อ... บริษัท Omnibite ส่งมาค่ะ...”

ฉันตอบไปแบบงง ๆ ยังไม่แน่ใจว่านี่คือการแสดง VR หรือความฝันแบบอินฟินิตี้

แต่ไม่ทันที่สมองจะหาคำอธิบายให้ตัวเอง

วงเวทสีน้ำเงินก็เรืองแสงขึ้นใต้เท้าฉัน!

อากาศสั่นไหว พื้นน้ำแข็งใต้ฝ่าเท้าส่งคลื่นแสงสีฟ้าแล่นผ่านหิมะขาวโพลน

กลิ่นหอมของราเมนร้อน ๆ ปะทะกับไอเย็นรอบตัว ราวกับสองโลกกำลังบรรจบกัน

และเมื่อฉันเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง—

เขาจ้องมาที่ฉัน...อีกครั้ง

ดวงตาคู่นั้นไม่ใช่แค่สงบเยือกเย็นอีกต่อไป แต่มีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใต้

“เจ้า...”

เขากระซิบ ราวกับถ้อยคำของคำสาปโบราณที่ไม่เคยถูกเปล่งออกจากปากใคร

“...อย่าจากข้าไปไหนอีก”

ฉันเบิกตา ไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร

แต่ในวินาทีนั้น ฉันรู้สึกได้—

ว่าในโลกซึ่งฤดูกาลไม่เคยเปลี่ยน ในโลกที่หัวใจของมังกรไม่เคยเต้นอีกเลย...

รอยยิ้มเล็ก ๆ จากผู้ส่งอาหารธรรมดา

อาจเป็นสิ่งเดียว... ที่ละลายน้ำแข็งพันปีลงได้อีกครั้ง

*****************************************************

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 ออเดอร์ลึกลับจากโลกที่ไม่มีในแผนที่
เสียงหัวเราะเยาะ... เสียงซุบซิบกระซิบกระซาบ... และเสียงก่นด่าอันแสบแก้วหู ดังก้องสะท้อนอยู่ในความฝันอันพร่าเลือน เอลาเรีย เวลเลนไฮม์ ยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางจัตุรัสเมืองเก่า ที่ครั้งหนึ่งเคยอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของขนมปังสดใหม่และเสียงหัวเราะของผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมชม ตลาดที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับกลายเป็นเวทีประจานเย้ยหยัน เธอยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายสั่นสะท้านในเสื้อคลุมสีกรมท่าขาดรุ่งริ่ง ผมสีน้ำตาลเข้มแห้งกรอบปิดใบหน้าที่สวยสด สายลมหนาวกรูกราวพัดกระโชกจนชายเสื้อของเธอสะบัดฟาดไปมาเหมือนธงแห่งความพ่ายแพ้ ผู้คนมากมายรายล้อมเธอเป็นวงกลม แววตาที่เคยมองเธอด้วยความเลื่อมใส บัดนี้กลับเปลี่ยนเป็นสายตาแข็งกร้าว เคลือบด้วยความโกรธและความผิดหวัง โต๊ะไพ่ตัวเดิมที่เธอเคยนั่งประจำ ถูกพลิกคว่ำกลางลานหิน เสียงไม้กระแทกพื้นดังกึกก้อง ไพ่ทาโรต์สีสดปลิวกระจัดกระจายไปตามแรงลม ราวกับนกน้อยที่สิ้นแรงบิน พร็อพเวทมนตร์—ลูกแก้วพยากรณ์ กระดิ่งเงิน และเครื่องรางสีหม่น—กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น เหยียบย่ำจนแทบไม่เหลือสภาพ แผ่นป้ายไม้ที่สลักคำว่า "เอลาเรีย เวลเลนไฮม์ - หมอดูผู้หยั่งรู้โชคชะตา" ถูกเหยียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนตัวอักษรแทบเลือนหาย เหลือเพียงเศษไม้ผุ ๆ เปื้อนโคลน เธอโดนใส่ร้าย!! คู่แข่งที่ประสงค์ร้ายต่อเธอใส่ร้ายป้ายสีผ่านโลกโซเชียลที่เต็มไปด้วยความหลอกลวง ส่งผลให้เธอถูกประณาม "เธอก็แค่ต้มตุ๋น!" เสียงหนึ่งตะโกนขึ้น ทะลุทะลวงหมอกหนาในหัวของเธอ "คำพยากรณ์ไม่มีจริง!" อีกเสียงแหลมสูงแทรกขึ้นมา ตามด้วยเสียงโห่ไล่อีกระลอก "เราถูกหลอก!" เสียงสุดท้าย รุนแรงจนเหมือนตบหน้าด้วยฝ่ามือเย็นเฉียบ เสียงเหล่านั้นโหมกระหน่ำใส่เธอไม่หยุดหย่อน ไล่ล่าเธอเหมือนเงามืดที่ไม่มีวันหลุดพ้น เอลาเรียพยายามอ้าปากตะโกนอธิบาย พยายามเรียกคืนศรัทธาที่หายไป แต่คำพูดของเธอกลับกลืนหายไปในหมอกหนาทึบ ราวกับโลกนี้ไม่เหลือใครฟังเธออีกต่อไป เธอเหวี่ยงแขน คว้าไพ่ใบหนึ่งที่ลอยละลิ่วในอากาศ—แต่ปลายนิ้วของเธอกลับสัมผัสได้เพียงอากาศว่างเปล่า ไพ่กลับลอยหนีไป ราวกับเธอไม่มีตัวตน ขาของเธอเริ่มจมลงในหมอกหนา เย็นเยียบ และเหนียวหนืด ราวกับจะกลืนร่างของเธอทั้งเป็น ความรู้สึกโดดเดี่ยว ความสิ้นหวัง และความหวาดกลัว ท่วมท้นขึ้นมาจนแทบหายใจไม่ออก ในห้วงวินาทีนั้น เอลาเรียรู้สึกได้ว่า... เธอกำลังถูกโลกทั้งใบลืมเลือน แล้ว... ตี้ง! ตี้ง! ตี้ง! เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือดังก้องแสบแก้วหู ราวกับระฆังเร่งเร้าให้ลืมเลือนฝันร้าย เสียงนั้นกระชากเอลาเรียให้ผงะตื่นจากห้วงหลอนในพริบตา เธอสะดุ้งโหยง ลมหายใจติดขัด ดวงตาเบิกโพลง มองไปรอบห้องเช่าเล็ก ๆ ของตัวเองด้วยหัวใจที่ยังเต้นระรัว ผนังสีเทาหม่นแตกร้าวเป็นเส้น ๆ ด้านข้าง ผ้าม่านเก่าขาดวิ่นปลิวไหวไปมาตามกระแสลมอ่อนยามเช้า แสงแดดสีซีดส่องลอดผ่านรูตะเข็บเข้ามา ฉายเงาสั่นไหวบนพื้นไม้เก่า ๆ ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดตามแรงลม กลิ่นอับชื้นและกลิ่นไม้เก่าผสมปนเปกันในอากาศ แต่มันกลับให้ความรู้สึกจริงยิ่งกว่าฝันเมื่อครู่หลายเท่า เอลาเรียหอบหายใจแรงราวกับวิ่งหนีฝันร้ายมาทั้งคืน เธอยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ เพื่อบรรเทาความปวดหนึบที่เล่นงานราวกับจะตอกย้ำว่าฝันนั้นทิ้งร่องรอยไว้ในความจริง "ฝันบ้า ๆ ... อีกแล้ว..." เธอพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงแหบพร่า ริมฝีปากแห้งแตกแทบไม่มีน้ำเสียงเหลือ มือของเธอลูบผ่านข้างเตียง สัมผัสเจอโต๊ะไม้เก่า ๆ ที่วางของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้บนมัน ทั้งกองไพ่ทาโรต์เก่า กล่องไม้เก็บเครื่องราง และเหรียญทองแดงไม่กี่เหรียญที่เป็นเงินทุนก้อนสุดท้าย เธอสูดหายใจลึก กลืนก้อนแข็ง ๆ ที่ค้างอยู่ในลำคอลงไป ก่อนจะค่อย ๆ พาตัวเองลุกขึ้นจากเตียงผ้าใบเก่า ๆ ที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดเบา ๆ วันนี้เป็นวันแรก — วันที่เธอไม่มีสิทธิ์ล้มเหลวอีกแล้ว เธอเหลือบมองไพ่ทาโรต์ที่วางกองอยู่ ขอบไพ่หลุดลุ่ยจนแทบจับไม่ติดกันแล้ว แต่เธอกลับยื่นมือไปหยิบมันขึ้นมาแนบอกแน่น ราวกับมันคือเศษเสี้ยวสุดท้ายของตัวตนที่เธอไม่ยอมปล่อยมือ ไม่ว่าโลกจะพังทลายลงกี่ครั้ง วันนี้... เธอจะต้องเริ่มต้นใหม่ให้ได้ หลังจากลุกขึ้นอาบน้ำ ล้างหน้าล้างตาจนความง่วงหายไป เอลาเรียเช็ดผมเปียกหมาด ๆ ด้วยผ้าขนหนูเก่า แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ ข้างเตียง บนราวไม้แขวนเก่า ๆ มีชุดใหม่ล่าสุดแขวนอยู่ — ยูนิฟอร์มที่เพิ่งได้รับมาจากบริษัท Omnibite เมื่อวานนี้ เธอยื่นมือไปสัมผัสเนื้อผ้า พลางอดยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากไม่ได้ ความรู้สึกตื่นเต้นน้อย ๆ จาง ๆ ผุดขึ้นในอก ยูนิฟอร์มของ Omnibite ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันจนเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดว่ามันเป็นเพียง "ชุดทำงาน" เสื้อแจ็กเก็ตน้ำหนักเบา สีดำด้าน โครงเสื้อเข้ารูปเล็กน้อยเพื่อให้คล่องตัว ตัดเย็บด้วยผ้าที่ทั้งกันน้ำและระบายอากาศได้ดี พื้นผิวแต่งลายสะท้อนแสงสีเงินเป็นเส้นสายบาง ๆ พาดผ่านเหมือนรอยร้าวของอวกาศ ทว่าในแสงธรรมดามองแทบไม่เห็น เส้นสายเหล่านี้จะเปล่งแสงวาววับก็ต่อเมื่อสะท้อนกับแสงไฟยามค่ำคืน ตรงอกซ้ายปักตราสัญลักษณ์ตัว "O" รูปประตูมิติบิดเบี้ยวซ้อนกับภาพราเมนถ้วยเล็ก ปักด้วยด้ายสีขาวสะอาดตา ลายเส้นละเอียดจนดูเหมือนภาพมีชีวิต ด้านในเป็นเสื้อยืดสีเทาเข้มเนื้อผ้านุ่ม เบา และยืดหยุ่น รองรับการขยับตัวได้อย่างอิสระ กางเกงขาสามส่วนทรงแอคทีฟ ตัดเย็บด้วยผ้าเทคนิคอลชนิดพิเศษ ที่ทั้งกันน้ำ กันลม และยืดหยุ่นได้ดี แม้ต้องเผชิญฝนห่าใหญ่หรือวิ่งไล่ส่งอาหารในตรอกแคบ ๆ ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ รองเท้าผ้าใบดีไซน์โฉบเฉี่ยว สีดำขลิบเส้นเงินสะท้อนแสง บริเวณข้อเท้ามีชิประบุตัวตนฝังอยู่เป็นมาตรฐานใหม่ของบริษัท เพื่อความปลอดภัยและการเช็กอินแบบไร้สัมผัส เมื่อสวมใส่ครบชุด เอลาเรียยืนพิจารณาตัวเองหน้ากระจกบานเล็กที่มีรอยแตกตรงมุมหนึ่ง ใครเห็นก็คงคิดว่าเธอเป็นสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการลับจากองค์กรลึกลับ...ไม่ใช่แค่พนักงานส่งอาหารธรรมดาแน่นอน "อย่างน้อย...ก็ดูเท่ล่ะนะ" เอลาเรียหัวเราะเบา ๆ กับตัวเอง เสียงหัวเราะนั้นเจือด้วยความขมอมหวานและความหวังเล็ก ๆ ที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความเปราะบางของชีวิตใหม่ เธอยืนอยู่หน้ากระจกบานเล็ก จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ดึงซิปเสื้อแจ็กเก็ตขึ้นจนสุดคออย่างตั้งใจ ก่อนจะเอื้อมไปคว้ากระเป๋าส่งอาหารพิเศษของ Omnibite ที่แขวนอยู่ข้างประตู กระเป๋าใบนั้นมีผิวสัมผัสเนียนลื่น ลวดลายบาง ๆ เรืองแสงจาง ๆ บนพื้นผิวเหมือนเส้นทางในจักรวาลไกลโพ้น มันทั้งแข็งแรง กันกระแทก และดูเหมือนมีชีวิตในตัวเอง เอลาเรียสะพายกระเป๋าขึ้นบนหลัง จัดท่าทางให้มั่นใจอีกครั้ง เธอมองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจก ผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบขึ้นลวก ๆ ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยร่องรอยความเหนื่อยล้า แต่ในดวงตาคู่นั้น—มีประกายของความกล้าอยู่ลึก ๆ "ส่งอาหารทะลุมิติ...เหรอ?" เธอนึกถึงตอนที่เห็นประกาศรับสมัครครั้งแรกทางออนไลน์ ภาพโฆษณาสีฉูดฉาด บอกว่างานนี้คือโอกาสสำหรับ "ผู้กล้าที่พร้อมเดินทางข้ามพรมแดนแห่งจักรวาล" มันฟังดูไร้สาระเสียจนเธอหัวเราะออกมาในตอนนั้น 'ส่งอาหารข้ามมิติ...ต้องบ้าแน่ ๆ' เธอเคยคิดแบบนั้นจริง ๆ — และก็ยังคิดอยู่นิดหน่อย แต่ตอนนี้ เธอกลับยืนอยู่ตรงนี้ สวมชุดยูนิฟอร์มเท่ ๆ และพร้อมจะก้าวออกไปสู่โลกใบใหม่ ที่แม้จะยังมืดมน...แต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด ตี้ง! เสียงแจ้งเตือนจากนาฬิกาข้อมือดังขึ้น ดึงเธอออกจากภวังค์ [คุณมีออเดอร์ใหม่จาก Omnibite : "โลเคชั่นไม่สามารถระบุได้"] เอลาเรียกะพริบตาปริบ ๆ มองข้อความที่กระพริบอยู่บนนาฬิกา ก่อนจะหลุดหัวเราะขม ๆ ออกมา "ไม่รู้โลเคชั่นงั้นเหรอ..." เธอพูดกับตัวเองเบา ๆ ราวกับจะถามโลกนี้กลับไป “เอาสิ...อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปมิติไหน” เสียงหัวเราะของเธอเบาแต่จริงใจ คราวนี้ไม่มีความกลัวเจืออยู่เลย เอลาเรียยกนิ้วจิ้มปุ่ม "ตกลงรับงาน" อย่างไม่ลังเล — โดยไม่รู้เลยว่า การตัดสินใจครั้งนี้ จะนำพาเธอไปสู่การผจญภัยที่ไม่อาจหวนกลับ และจะเปลี่ยนชีวิตของเธอ...ตลอดกาล 🧊 🧊 🧊 🧊 🧊

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

พิษรักซาตาน

read
5.4K
bc

ฮูหยินกลับมาเถิดข้าไล่พวกนางไปหมดแล้ว

read
10.4K
bc

ข้านี่แหล่ะ ฮูหยินของท่านแม่ทัพ

read
3.8K
bc

เกิดใหม่พร้อมกับมิติฟาร์มส่วนตัว

read
5.2K
bc

รอยรักคนใจร้าย

read
10.1K
bc

ทาสรักของจอมมาร

read
1.1K
bc

เกิดใหม่ทั้งที ดันกลายเป็นพี่สาวเจ้าแฝด

read
5.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook