ตอนที่ 14 มังกรสองขั้วกับมนุษย์ที่ไม่ควรถูกเลือก

1562 Words
บรรยากาศในห้องโถงเกล็ดน้ำแข็งที่เคยสงบเงียบ...พลันเปลี่ยนไปในพริบตา เมื่อประตูน้ำแข็งเปิดออกเบา ๆ พร้อมแรงลมที่พัดเข้ามา ร่างของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาอย่างสง่างาม สูงส่ง ดุดัน และเปล่งรัศมีสีทองรอบกายจาง ๆ ดวงตาสีทอง ของเขาคมกริบจนน่าหวาดหวั่น แค่เขาเหลือบมองมาที่ฉัน...ฉันก็เหมือนถูกมองทะลุไปทั้งร่าง “น้องสาม... เจ้าไม่เคยสนใจมนุษย์มาก่อน” เสียงทุ้มของเขาดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ที่ฉันไม่อาจตีความได้ว่าอบอุ่น หรือแฝงคมดาบ “ข้าสงสัย...ว่ามีเหตุผลอื่นซ่อนอยู่หรือไม่” ฉันหันไปมองหลงอวิ๋นทันที เขายังคงนิ่งเงียบ ยืนอยู่ข้างโต๊ะด้วยท่าทางไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย แต่ฉันกลับรู้สึกได้...ว่าความเย็นรอบตัวเขากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ละอองน้ำแข็งแผ่ขยายออกจากเท้าของเขาไปทั่วพื้นห้อง มังกรน้ำแข็ง กับ มังกรเพลิงทองคำ ยืนเผชิญหน้ากันในห้องเดียวกัน แม้พวกเขาจะไม่ได้เอ่ยวาจาร้ายแรง แต่ก็ทำให้...วิญญาณรับใช้ทั้งหมดหายตัวไปในทันที เหลือแค่ความว่างเปล่า และแรงกดดันที่แทบทำให้ฉันหายใจไม่ออก ไอร้อนของหลงเทียนเจิน ปะทะกับความเย็นเฉียบของหลงอวิ๋น ทำให้ไอหมอกบาง ๆ หมุนวนกลางห้องอย่างน่าพิศวง ผนังน้ำแข็งรอบด้านสะท้อนแสงสีทองกับสีฟ้าเย็นของพลังสองสาย เหมือนแสงของตะวัน...ที่กำลังท้าทายทุ่งน้ำแข็ง หลงอวิ๋นขยับเท้าเล็กน้อย...แผ่นน้ำแข็งใต้เท้าแตกร้าวเบา ๆ ด้วยเสียง กริ๊ก กริ๊ก ที่ฉันไม่อาจละสายตาได้ “พี่ใหญ่... ข้าไม่เคยให้ความสนใจสิ่งที่ไร้ประโยชน์ ‘มนุษย์ผู้นี้’...มีคุณค่าต่อการศึกษาของข้า” ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ไม่ได้โกรธ...แต่ก็แอบจี๊ดเล็ก ๆ ‘การศึกษาเหรอ...’ โอเค ฉันเข้าใจนะว่าเขาพูดแบบมังกรเย็นชาที่เคยเป็น แต่ใจก็ยังรู้สึกว่า...คำพูดแบบนั้นฟังดูห่างไกลชะมัด หลงเทียนเจินเดินอ้อมโต๊ะอย่างช้า ๆ แววตาสีทองของเขามองทุกจานบนโต๊ะ คล้ายกำลังอ่านเรื่องราวจากรายละเอียดเล็ก ๆ ของการจัดอาหาร “การศึกษาหรือ?” เขาทวนคำอย่างมีเลศนัย “น้องสาม... เจ้าเคยให้ความสนใจกับสิ่งอื่นนอกจากตำรานานเพียงใด?” ฉันแอบมองเห็น...มือของหลงอวิ๋นกำแน่นอยู่ข้างตัว ใบหน้าขาวซีดของเขาดูซีดลงอีกนิด แต่สิ่งที่เขาทำต่อจากนั้นคือ...ขยับยืนบังฉันไว้โดยไม่พูดอะไร หัวใจฉันเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว “ข้าไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลของข้าให้ใครฟัง” “แม้แต่กับพี่ใหญ่” หลงเทียนเจินหัวเราะเบา ๆ แล้วหยิบแก้วน้ำของตัวเองขึ้น เขาโบกนิ้วเพียงนิดเดียว น้ำในแก้วก็เปลี่ยนเป็นสีทองสดใส...เหมือนเปลวเพลิงเหลว “ความลับของเจ้า...ไม่เคยเป็นความลับสำหรับข้า” “แต่สิ่งที่ข้าอยากรู้คือ...นางรู้หรือไม่ ว่าตัวเองกำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือ?” ฉันหายใจสะดุด แม้จะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่คำพูดนั้น...ชัดเจนพอจะรู้ว่าเขากำลังท้าทายอะไร หลงอวิ๋นก้าวไปข้างหน้าทันที พายุหิมะเล็ก ๆ ก่อตัวขึ้นรอบฝ่าเท้าของเขา ราวกับกำลังตอบสนองต่ออารมณ์เจ้าของ “พี่ใหญ่... การที่ท่านพยายามยุ่งเกี่ยวกับกิจธุระของข้า กำลังทำให้ข้ารู้สึกไม่พอใจ” เสียงของเขาเย็นเยียบ...แต่ชัดเจน มันทำให้ฉันแทบลืมหายใจ ห้องทั้งห้องเงียบลงอย่างประหลาด แม้แต่แสงไฟเวทมนตร์บนผนังก็สั่นไหวเบา ๆ ราวกับไม่กล้าส่องสว่าง เขาหันมามองฉัน ดวงตาสีฟ้านั้นเต็มไปด้วยพลังที่นิ่ง...และปกป้องอย่างชัดเจน “เอลาเรีย...” “เจ้าอยู่ภายใต้การคุ้มครองของข้า” “ไม่มีใครในวังนี้มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวกับเจ้า...แม้แต่ องค์รัชทายาท” ฉันนั่งนิ่งในเงาหลังของเขา รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหว แต่สิ่งเดียวที่ฉันรับรู้ได้...คือไอเย็นบาง ๆ ที่แผ่จากเขา และความอุ่นบางอย่างที่โอบล้อมฉันไว้ แม้เขาจะพูดว่าฉันมี ‘คุณค่าเพื่อการศึกษา’ แต่ในตอนนี้...เขากำลังยืนอยู่ระหว่างฉันกับโลกทั้งใบอย่างไม่ลังเล หลงอวิ๋นยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ร่างสูงในชุดคลุมสีเทาเงินขลิบฟ้าราวกับเงาสะท้อนจากผืนน้ำแข็ง นิ่ง—สงบ—และเยือกเย็นอย่างทรงพลัง แต่...ในความนิ่งนั้นกลับมีบางสิ่งสั่นไหวอยู่ลึก ๆ ละอองหิมะเล็ก ๆ ลอยวนรอบกายเขามากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ที่เขาเก็บไว้ ไม่เคยปล่อยให้หลุดออกมาจากสีหน้า “เอลาเรียอยู่ภายใต้การคุ้มครองของข้า” “จะไม่มีอันตรายใดแตะต้องเธอได้” คำพูดนั้นสั้น เรียบ…แต่ทุกถ้อยคำดังก้องอยู่ในใจฉัน เหมือนเสียงสะท้อนในถ้ำหิมะที่ไม่มีวันจาง ‘เธอ’ เขาเรียกฉันว่า เธอ ไม่ใช่ “มนุษย์ผู้นี้” ไม่ใช่ “ตัวแปร” หรือ “เครื่องมือ” แต่มองฉัน…เป็น “คน” คนหนึ่ง และแค่คำเรียกนั้น มันก็เหมือนละลายน้ำแข็งบาง ๆ ในใจฉันออกจนหมด สายตาของหลงเทียนเจินทอดมองเราสองคน ดวงตาสีทองที่คมราวกับเปลวไฟไม่มีวันดับ มองมาเหมือนอ่านจิตใจทะลุ “น้องชาย…” เขากล่าวเบา ๆ “ข้าแค่ต้องการให้แน่ใจ ว่าเจ้าไม่ได้กำลังกระทำสิ่งที่อาจนำภัยมาสู่ราชวงศ์เรา” คำว่า ราชวงศ์ ของเขาหนักแน่น เต็มไปด้วยพันธะ หน้าที่ และความกลัวสิ่งที่อยู่ “นอกกรอบอำนาจ” บรรยากาศในห้อง...เยือกเย็นอย่างน่าประหลาด แม้จะไม่มีใครใช้เวทอีกต่อไป แต่ไอพลังเวทกลับลอยค้างอยู่ในอากาศ เหมือนฝนที่ยังไม่ตก แต่ก้อนเมฆได้ก่อตัวไว้เต็มท้องฟ้าแล้ว หลงอวิ๋นสูดหายใจเข้าช้า ๆ แผ่นน้ำแข็งใต้เท้าสงบนิ่ง แต่ไอเวทบางเบาก็ยังแผ่ซ่านไปทั่วร่างเขา “เธอเป็นประโยชน์ต่องานวิจัยของข้า” เขายังพูดในแบบของเขา แม้จะฟังดูเหมือนเดิม แต่ฉันรู้... มันไม่ใช่คำแก้ตัว แต่มันคือ กำแพง ที่เขายังต้องตั้งไว้ เพื่อกันไม่ให้ใครตั้งคำถามกับความรู้สึกที่เขายังอธิบายไม่ได้ “ข้าอยากจะขอให้พี่ใหญ่...เคารพการตัดสินใจของข้า” เสียงเขานิ่งมาก...นิ่งจนทุกคำเหมือนถูกหลอมจากน้ำแข็งชั้นดี แต่ในถ้อยคำเหล่านั้น ฉันสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่เปราะบาง เหมือนเขาเพิ่ง กล้าพูด คำนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต หลงเทียนเจินเงียบไปนาน เขาไม่ได้ตอบทันที แต่เพียงยืนมองน้องชายของเขาอย่างลึกซึ้ง ดวงตาสีทองนิ่งราวกับเปลวเพลิงที่กำลังชั่งใจ และในที่สุด...เขาก็พยักหน้าช้า ๆ “ได้…” “ข้าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องนี้” คำตอบนั้น...เหมือนคลายมนต์สะกดทั้งห้อง อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย หิมะที่ลอยอยู่ในอากาศค่อย ๆ หยุดนิ่ง “ข้าขอบคุณในความเข้าใจของพี่ใหญ่” หลงเทียนเจินพยักหน้าให้น้องชายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะทอดสายตามองมายังฉันอีกครั้ง และก่อนที่เขาจะจากไป เขายังทิ้งท้าย...ราวกับประกาศ “แต่จำไว้…” “ข้ากำลังจับตาดูอยู่” “มนุษย์ไม่เคยนำสิ่งใดมาสู่เราเลย...นอกจากปัญหา” เมื่อเขาหันหลังและก้าวออกจากห้อง แสงทองจากร่างของเขาสว่างวาบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ประตูน้ำแข็งจะปิดลงอย่างช้า ๆ กึก… เสียงปิดประตูเงียบงัน แต่กลับดังสะท้อนอยู่ในอกฉัน ... หลงอวิ๋นยังยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม เงียบ ราวกับกำลังฟังเสียงหัวใจตัวเอง...หรือเสียงเงียบในห้องที่เพิ่งผ่านพายุ จากนั้นเขาก็ปล่อยลมหายใจออกมา ลมหายใจที่เหมือนเขาเก็บไว้...มานานเกินไป ความเย็นที่เคยเกาะอยู่บนไหล่ของเขา เริ่มคลายตัวช้า ๆ อย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน “เขาไปแล้ว” น้ำเสียงเขายังเรียบเฉย...แต่ฟังดูเหมือนคนที่ “โล่งอก” เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ฉันกลืนน้ำลาย “พี่ชายของคุณ...ดูไม่ไว้ใจฉันเลยนะคะ” “เขาไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น” “โดยเฉพาะสิ่งที่เขาควบคุมไม่ได้” ฉันนิ่งไป คำพูดนั้น...สะท้อนอะไรบางอย่างในใจฉัน ฉันมองเขาอย่างจริงจัง ก่อนจะถามเสียงเบา “…แล้วคุณล่ะคะ?” หลงอวิ๋นหันมามองฉัน แววตาสีฟ้าน้ำแข็งของเขานิ่ง...แต่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันอ่อนลง ลึกขึ้น และอาจมีประกายบางอย่าง...ที่เรียกว่า “ความรู้สึก” “...ข้าอาจเริ่มเรียนรู้” “ว่าบางสิ่ง...ไม่ควรถูกควบคุม” ... หัวใจฉันเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว คำพูดของเขา...มันไม่ใช่คำสารภาพ แต่มันคือ คำเปิดทาง ห้องโถงที่เคยตึงเครียดเหมือนสนามรบ ตอนนี้...เหลือเพียงความเงียบที่อบอุ่นอย่างน่าประหลาด ละอองหิมะลอยช้า ๆ เหมือนถูกชะลอเวลา และในความเงียบนั้น...หัวใจของมังกรน้ำแข็ง —อาจกำลังละลายอย่างเงียบงัน ...เพราะใครบางคนที่เขาเคยคิดว่า “ไม่ควรถูกเลือก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD