ตอนที่ 5 ราเมนร้อน ๆ กับหัวใจที่เริ่มละลาย

1678 Words
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของฉันก้าวย่ำลงบนหิมะกรอบกรับในความเงียบ เสียงนั้นเล็กน้อยนัก เมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตของลานหิมะที่แผ่ขยายอยู่รอบตัว ฉันกอดกระเป๋าส่งอาหารแนบตัวแน่น เดินตามหลังชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีครามเข้มที่ปลิวลู่ตามแรงลมเบา ๆ อย่างสง่างาม ร่างสูงโปร่งของเขาเป็นเหมือนเส้นทางนำทางเดียวในโลกที่ไร้จุดหมายนี้ ลมหิมะที่เคยเกรี้ยวกราด ราวกับโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่ บัดนี้กลับสงบนิ่งอย่างประหลาด ราวกับธรรมชาติเองยังยอมสยบให้กับการปรากฏตัวของเขา หลงอวิ๋น — ฉันยังไม่รู้จักชื่อจริงของเขาในตอนนี้ แต่ในใจของฉัน...ได้ตั้งชื่อให้เขาเงียบ ๆ ว่า "เจ้าชายน้ำแข็ง" เมื่อก้าวผ่านประตูวังเข้าไป... ฉันเผลออ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว ภายในวังน้ำแข็ง... ไม่ได้เยือกเย็นน่ากลัวเหมือนที่ฉันเคยจินตนาการเอาไว้เลย ตรงกันข้าม — มันสวยงามจนแทบหยุดหายใจ ห้องโถงใหญ่เบื้องหน้าสูงเสียดเพดาน ราวกับแผ่นฟ้าถูกยกมาครอบวังแห่งนี้ เสาหินน้ำแข็งบริสุทธิ์ตั้งตระหง่านแต่ละต้นแกะสลักลวดลายอย่างประณีต — มังกรน้ำแข็ง พันตัวลอยละลิ่วขึ้นไปสู่ความสูง ราวกับจะทะยานสู่ท้องฟ้า เพดานประดับด้วย คริสตัลน้ำแข็งนับพัน แต่ละเม็ดเจียระไนเป็นรูปทรงดวงดาวและดอกไม้เรืองแสงจาง ๆ ส่องประกายระยิบระยับเหมือนดวงดาวที่จับต้องได้ แสงสีฟ้าจาง ๆ ลอดผ่าน หน้าต่างกระจกน้ำแข็งหนา รอบห้องโถง สร้างเงาสะท้อนเลือนลางบนพื้นน้ำแข็งใสที่ขัดเงาจนเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ใต้ฝ่าเท้า เงาของฉันเดินขนานไปกับเงาของเขา — คล้ายกับเราเป็นสองภาพเงาในโลกที่หยุดหมุนไปแล้ว ทุกอย่างเงียบสงบ... เงียบจนแม้แต่เสียงลมหายใจยังชัดเจน อากาศเย็นจัด แต่แฝงด้วยความอบอุ่นลึก ๆ บางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ เหมือนว่าที่นี่...ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา แต่เป็นห้วงเวลาที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้โดยฤดูหนาวนิรันดร์ 'สวยเหมือน...โลกในเทพนิยายเลย' ฉันคิดในใจอย่างตื่นตะลึง ดวงตากลมโตไล่มองไปรอบห้องอย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่อาจละสายตาได้เลย แต่ในความงามตระการตาเหล่านั้น... กลับแฝงไว้ด้วยความเงียบเหงา และความเย็นยะเยือกที่ซึมลึกเข้าถึงกระดูก มันเป็นความเงียบที่ไม่ใช่แค่ไร้เสียง แต่มันคือความว่างเปล่าที่ชวนอ้างว้าง เหมือนกาลเวลาทั้งหมดถูกตรึงให้หยุดนิ่งอยู่ในห้วงหนาวนิรันดร์ เหมือนตัวเจ้าของวังแห่งนี้ — ผู้ซึ่งเดินนำฉันอยู่เบื้องหน้า หลงอวิ๋น ร่างสูงในชุดคลุมสีเงินนั้นหยุดลงตรงกลางโถงน้ำแข็งที่เงียบสงัด เขาหันกายกลับมาอย่างช้า ๆ — ผ้าคลุมหนาหนักสะบัดแผ่วในอากาศ ดวงตาสีฟ้าเข้มนิ่งสงบเย็นเฉียบ จ้องตรงมาโดยปราศจากคลื่นอารมณ์ใด ๆ เหมือนผิวน้ำแข็งที่แข็งตัวมาแล้วพันปี "ส่งมันมา" น้ำเสียงของเขาราบเรียบ — ไม่มีคำสั่ง ไม่มีความก้าวร้าว — แต่แผ่แรงกดดันอ่อน ๆ พอให้หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะ ฉันรีบถอดกล่องราเมนออกจากกระเป๋าส่งอย่างลนลาน สองมือสั่นน้อย ๆ ขณะยื่นกล่องเรืองแสงอ่อน ๆ ไปให้เขา กล่องอาหารพิเศษของ Omnibite ยังแผ่ไออุ่นบางเบาออกมา — กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของราเมนร้อน ๆ ลอยอวลเป็นม่านบาง ๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บของวัง หลงอวิ๋นเอื้อมมือมารับอย่างสงบนิ่ง นิ้วเรียวยาว ขาวซีดอย่างกับน้ำแข็ง แตะเบา ๆ ลงบนฝากล่อง เขาเปิดมันออกด้วยท่วงท่าเรียบง่าย — เหมือนเปิดกล่องสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลก ทันใดนั้น... กลิ่นราเมนอันหอมกรุ่นก็พวยพุ่งขึ้น ไออุ่นร้อน ๆ กระทบกับอากาศเย็นจัดจนกลายเป็นม่านหมอกจาง ๆ ลอยขึ้นเหนือกล่อง ราวกับเวทมนตร์แห่งฤดูหนาวกำลังเต้นระบำ ฉันเผลอกลั้นหายใจ — เฝ้าจับตามองเขาอย่างตื่นตระหนก หลงอวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างลังเล สายตาคู่นั้นเหมือนกำลังตัดสินใจอยู่ระหว่างความระแวงระวัง และความอยากรู้อย่างลึกซึ้งที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว ในที่สุด... เขาก็ค่อย ๆ หยิบตะเกียบที่แนบมาในกล่อง จับเส้นราเมนอวบอิ่มขึ้นมาอย่างประณีต —เส้นราเมนสีแดงทอง เปล่งประกายเล็กน้อยในแสงสะท้อนของคริสตัลน้ำแข็ง ไออุ่นจากเส้นราเมนยังคงระเหยขึ้นเป็นม่านบาง ๆ ลมหายใจแผ่วเบาของเขาเป่าเส้นราเมนเบา ๆ — ทำให้ม่านไออุ่นนั้นเต้นระริก ทุกกิริยาของเขาช่างระมัดระวัง อ่อนโยน จนฉันเกือบลืมหายใจตาม แล้ว... เขาก็ลิ้มรสเส้นราเมนคำแรก หลงอวิ๋นเคี้ยวช้า ๆ ไม่รีบร้อน แววตานิ่งเฉยตามแบบฉบับของเขา...แต่ชั่วขณะหนึ่ง — ชั่วเสี้ยววินาทีที่แทบมองไม่ทัน ดวงตาสีฟ้าเยือกแข็งคู่นั้นไหววูบลงเล็กน้อย เศษเสี้ยวบางสิ่งแวะมาเยือนสายตาเขา — บางสิ่งที่อบอุ่น อ่อนโยน และเปราะบาง... เหมือนน้ำแข็งพันปีถูกแตะต้องด้วยไออุ่นจากวันวาน แม้สีหน้าของเขาจะกลับมาเยือกเย็นดังเดิมในพริบตา แม้ไม่มีถ้อยคำ ไม่มีรอยยิ้ม แต่ฉันสัมผัสได้ — ว่ามีรอยร้าวเล็ก ๆ เกิดขึ้นในหัวใจที่เคยแข็งทื่อของเขาแล้ว เพราะเพียงราเมนชามหนึ่ง เพราะเพียงไออุ่นเล็ก ๆ จากอีกโลกหนึ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมานานแสนนาน ฉันยืนกอดกระเป๋าแน่น ใจยังเต้นระรัวไม่หาย ขณะที่หลงอวิ๋นวางตะเกียบลงข้างกล่องราเมนอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางโถงน้ำแข็งที่เงียบงัน สายตาเขาเหลือบต่ำลงเล็กน้อย — จับจ้องไปยังอกเสื้อของฉันที่กระเพื่อมไหวอย่างน่าสงสัย ฉันก้มตามสายตาเขา แล้วรีบเบิกตากว้าง เจ้าก้อนขนขาวที่ฉันห่อไว้ในผ้าพันคอเริ่มขยุกขยิก ดิ้นน้อย ๆ ส่งเสียง "คิ๊ว~" เบา ๆ ราวกับกำลังงัวเงียตื่นจากฝัน "เอ่อ..." ฉันยิ้มแห้ง ๆ รีบคลี่ผ้าเผยให้เห็นเจ้าลูกจิ้งจอกน้อยตัวนั้น ขนสีขาวระยิบระยับราวเกล็ดหิมะ ท่ามกลางลมหายใจอุ่น ๆ ที่ไหลวนอยู่รอบตัวมัน หลงอวิ๋นก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด สายตาของเขาจับจ้องลูกจิ้งจอกเล็กด้วยแววตานิ่งสงบ — แต่ในความนิ่งนั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไป ไม่ใช่ความเย็นชาอีกต่อไป แต่เป็นแววระแวดระวัง...ปนกับความเศร้าลึก ๆ ที่แทบไม่สังเกตเห็น "นั่นคือ..." เขาพึมพำเสียงแผ่ว ราวกับพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน "คะ?" ฉันถามเบา ๆ "ลูก 'ไป๋หลิง'" เขากล่าว ดวงตาสีน้ำแข็งสะท้อนประกายครุ่นคิดลึกซึ้ง "สัตว์จิตวิญญาณประจำหิมะ...มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการแบ่งลมหายใจจากแม่เท่านั้น" ฉันเบิกตากว้าง หัวใจร่วงวูบ "ถ้ามันหลงจากแม่...ไม่นานนัก มันจะ..." เขาหยุดไปนิดหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยเสียงเรียบเย็น "...ตาย" คำว่า "ตาย" สั้น เรียบ และหนักพอจะทำเอาอกของฉันปวดแปลบ ฉันกอดเจ้าก้อนขนน้อยแน่นโดยไม่รู้ตัว เหมือนสัญชาตญาณกำลังพยายามปกป้องมันไว้ "ไม่ได้นะ..." ฉันกระซิบ รู้สึกเหมือนน้ำตารื้นขึ้นมาที่ขอบตา "นายต้องรอดนะ...เจ้าจิ้งจอกน้อย..." หลงอวิ๋นยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะยกมือขึ้นช้า ๆ ปลายนิ้วของเขาวาดเส้นเวทสีฟ้าอ่อนกลางอากาศ แสงเย็น ๆ ส่องสว่างเหมือนริบบิ้นน้ำแข็งที่ไหลเคลื่อนไปตามปลายนิ้วเรียวยาวนั้น เส้นเวทค่อย ๆ ทอประกาย ร้อยเรียงกันกลายเป็น กรงน้ำแข็งใสกริบ ประดับด้วยเกล็ดหิมะละเอียดที่ระยิบระยับราวเพชร กรงนั้น...สวยงามราวกับหลุดมาจากตำนาน "ข้าจะผนึกพลังชีวิตจำลองของแม่มัน...ไว้ในกรงนี้" เสียงของหลงอวิ๋น...นุ่มลง แทบสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ หลังผืนน้ำแข็งหนาแน่นนั้น "มันจะอยู่ได้...จนกว่าจะพบแม่ตัวจริง" ฉันจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา "คุณ...ช่วยมันไว้จริง ๆ เหรอ..." หลงอวิ๋นไม่ตอบ เขาเพียงเบือนหน้าหลบเบา ๆ อย่างไม่ต้องการรับคำขอบคุณหรือคำชมใด ๆ ฉันประคองเจ้าจิ้งจอกน้อยเข้าไปวางลงในกรงเวท กรงน้ำแข็งเปล่งไออุ่นจาง ๆ โอบล้อมเจ้าก้อนขนขาวราวกับอ้อมแขนอ่อนโยนของแม่ เจ้าตัวน้อยส่งเสียง "คิ๊ว~" อย่างพอใจ ขยับหูนิด ๆ แล้วขดตัวหลับปุ๋ย ท่ามกลางแสงเวทอันอบอุ่น ฉันยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ หัวใจอุ่นวาบเหมือนไฟเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ลุกโชนขึ้นในอก ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้เย็นเยียบตรงหน้า "ขอบคุณค่ะ...จากใจจริง" หลงอวิ๋นยังคงไม่ตอบ แต่แค่การที่เขายืนนิ่ง ไม่เร่งรัด ไม่ผลักไส... ก็เหมือนกับว่าเขากำลังฟัง — และรับรู้ความรู้สึกของฉันอย่างเงียบ ๆ ฉันก้มมองเจ้าก้อนขนขาวในกรงเวทอีกครั้ง แล้วยิ้มบาง ๆ "นายต้องมีชื่อนะ..." ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างตัดสินใจได้ "งั้น...เรียกว่า 'หยกหิมะ' ละกัน" "เพราะนายตัวนุ่ม ๆ ขาว ๆ เหมือนก้อนหยกในหิมะเลย" เจ้าก้อนน้อยขยับหูเบา ๆ เหมือนตอบรับอย่างอารมณ์ดี ทุกอย่างในโถงน้ำแข็ง...เงียบสงบลง หลงอวิ๋นสะบัดชายเสื้อเบา ๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "ตามข้ามา" แล้วเขาก็หันหลัง เดินต่อไป ราวกับทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงภาพสะท้อนน้ำที่ปลิวหายไปกับสายลม ฉันหอบเจ้ากรงน้ำแข็งแนบอก กระชับกระเป๋าอาหารไว้แน่น แล้วรีบก้าวเท้าตามเขาไป ในใจฉันอบอุ่นแปลก ๆ ราวกับว่า... ความเย็นยะเยือกที่เคยโอบล้อมตัวมาตลอด เริ่มมีแสงไฟดวงน้อย ๆ ค่อย ๆ ลุกขึ้นทีละนิด ❄️ 🐉❄️ 🐉❄️ 🐉❄️ 🐉❄️ 🐉
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD