หลงอวิ๋นมีสีหน้าเงียบขรึม ก่อนจะหมุนกายพาฉันก้าวออกจากห้องบัญชาการ ผ่านโถงหินอ่อนสู่ลานกว้างเบื้องหน้าวังท่ามกลางเสียงกลองศึกที่ดังก้องกลางรัตติกาล ท้องฟ้ายามค่ำคืนพร่างพรายด้วยดาว ดวงจันทร์เต็มดวงลอยเด่นเหนือหอคอยน้ำแข็ง แสงเงินของมันส่องกระทบชุดเกราะของเหล่าทหารกว่า 50 นายในชุดสีน้ำเงินเข้มที่ยืนเรียงแถวเป็นระเบียบ ม้าศึกตัวแล้วตัวเล่าถูกผูกเตรียมไว้เรียบร้อย กลางลานนั้น มีม้าสีขาวเงินตัวหนึ่งยืนสงบนิ่ง ทว่าท่วงท่ากลับเปี่ยมไปด้วยพลัง เขาใหญ่โตกว่าม้าศึกทั่วไป เขายืนนิ่งอย่างสง่างาม มีเขาเรียวยาวสีเงินโค้งอยู่กลางหน้าผาก ดวงตาของเขา... เป็นสีฟ้าใสลึกล้ำราวธารน้ำแข็งโบราณ หลงอวิ๋นนำฉันเข้าไปใกล้ เขาเอื้อมมือไปลูบแก้มม้าอย่างอ่อนโยน ขณะเอ่ยเสียงนุ่มลึก “นี่คือเสวี่ยเหยียน พาหนะคู่ใจของข้า... ม้าเทพแห่งเทือกเขาเทียนหลง” ฉันก้าวเข้าใกล้ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว เสวี่ยเหยียนเอียงศีรษะเล็กน้อ

