bc

แผนการรักแสนร้าย

book_age18+
551
FOLLOW
2.8K
READ
HE
heir/heiress
bxb
mystery
brilliant
campus
like
intro-logo
Blurb

“แก้มเร็วๆสิลูกร้องไห้ไม่หยุดเลย” เสียงห้าวบอกหญิงสาวเมื่อหลานชายตัวน้อยในอ้อมแขนร้องไห้ด้วยความหิว

“อุ๊แว้ๆๆ แง้ๆๆ...”

“คุณก็ปลอบหลาน เอ้ย ลูกก่อนสิฉันรีบอุ่นนมให้ลูกอยู่ไม่เห็นหรือไง” เก็จลดาตอบชายหนุ่มที่อุ้มหลานชายเดินไปมาอย่างเก้ๆกังๆ

“อุ๊แว้ๆๆ แง้ๆๆ.."

“โอ๋ๆๆ น้องพลับอย่าร้องนะครับลูกม่ามี้แก้มกำลังอุ่นนมให้ครับ แก้มเร็วสิลูกร้องไห้จนหน้าแดงหมดแล้วนะ” พรินซ์เดินวนไปมาหลานชายก็ไม่หยุดร้องด้วยความหิวนมปกติจะได้กินเลยแต่ม่ามี้กำมะลอก็เงอะๆงะเพราะมัวแต่หาอุปกรณ์ที่จะอุ่นนมให้หลานชาย

“โอ้ย..อย่าเร่งได้มั้ยฉันกำลังเร่งมืออยู่นี่ไงเล่า” เก็จลดาอดไม่ได้แหวใส่ชายหนุ่มเสียงดังขึ้น

“พูดเบาๆไม่ได้หรือไง ลูกตกใจหมดเลย โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะลูก” พรินซ์ปลอบหลานชายที่วันนี้งอแงมากกว่าทุกวันหรือว่าจะไม่สบาย

“มาแล้วครับตัวเล็กของน้าแก้ม” เก็จลดาหยดนมลงบนหลังมือแล้วใส่ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มของหลานชายที่อยู่ในอ้อมแขนของพรินซ์แล้วน้องพลับก็หยุดร้องทันที

“หิวนมนี่เองเจ้าตัวแสบเอ้ย” พรินซ์ว่าหลานชายตัวน้อยที่ร้องงอแงไม่หยุดเพราะหิวนมก่อนจะมองน้าแก้มของหลานที่จับขวดนมให้หลานชายแล้วยิ้มชนิดที่ใกล้จนเห็นผิวหน้าเนียนเส้นเลือดฝอยเส้นเล็กชัดเจนและกลิ่นหอมจากร่างเพรียวอวบอิ่มจึงแอบสูดกลิ่นหอมจากร่างบาง

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1
Workshop De Café ร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกที่มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลกที่รู้จักเพราะรสชาติกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครทำให้คอกาแฟทั้งหลายต้องลองลิ้มรสชาติและสาขานี้ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมขาออกไปจังหวัดนครปฐมมีสองสาวสวยนั่งดื่มกาแฟมุมด้านในสุดคุยกันเบาๆด้วยท่าทางเคร่งเครียด “พี่พราวจะทำยังไงต่อไปคะ” เสียงหวานใสของเก็จลดาถามพลอยพราวสาวสวยเปรี้ยววัย27ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวอายุมากกว่าเธอ2ปีเป็นลูกสาวคนเดียวของกัทลีกับชวลิต ญาโนทัย นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และสร้างบ้านจัดสรรและคอนโดขาย กัทลีเป็นลูกสาวของตาผดุงและเป็นน้องชายของตาการินผู้เป็นตาของเก็จลดา “พี่ยังไม่รู้เหมือนกัน แก้มช่วยพี่คิดหน่อยสิ พี่อยากเรียนให้จบคลาสแล้วจะได้ทำงานหาประสบการณ์ที่นั่นก่อนสักปีสองปีแล้วจะกลับมาสร้างแบรนด์ของตัวเอง” พลอยพราวขอให้เก็จลดาน้องสาวคนสวยวัย25ปีลูกสาวของทิวารีกับดิตถ์เป็นลูกสาวคนลูกสาวคนโตของตาการินเป็นญาติผู้น้องของแม่เธอให้ช่วยคิดว่าเธอจะทำยังไงต่อตอนนี้เธอกำลังท้องได้สองเดือนและเธอก็เลิกกับแฟนหนุ่มแล้วกลับมาพักใจที่เมืองไทยก่อนจะกลับไปเรียนให้จบคลาสตามที่ได้ตั้งใจไว้เพื่อจะได้กลับมาสร้างแบรนด์ของตัวเองเพราะเธอไม่ชอบงานบริหารที่พ่อต้องการให้มารับช่วงต่อ ทำให้พ่อของเธอขอร้องให้กิจจาน้องชายของเก็จลดาเรียนบริหารเพื่อจะให้มาช่วยงานเพราะไม่มีทายาทสืบต่อแต่จะให้พึ่งพาลูกหลานของท่านเองก็ไม่มีใครเข้าตาสักคนมีแต่เรียนถูลู่ถูกังจบแบบเส้นยาแดงทั้งนั้นและเห็นว่าหลานชายหลานสาวของภรรยานั้นเป็นเด็กดีตั้งใจเรียนทั้งพี่ทั้งน้องจึงสนับสนุนช่วยส่งเสียให้เรียนมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์และกิจจากำลังจะจบตอนนี้ก็ฝึกงานที่บริษัท ส่วนเก็จลดาก็ทำงานธนาคารเป็นเจ้าหน้าที่การเงินฝ่ายสินเชื่อคนละสาขากับแม่แต่ทำงานธนาคารเดียวกันและพ่อของเธออยากให้มาทำงานที่บริษัทด้วย “แล้วพี่พราวจะทำยังไงกับลูกล่ะคะ ถ้ากลับไปก็ต้องอยู่คนเดียวอีกแก้มว่าบอกคุณลุงคุณป้าดีกว่านะคะ หรือไม่ก็รอให้คลอดลูกก่อนแล้วค่อยกลับไปเรียนก็ได้นะคะ” เก็จลดาพูดกับพี่สาวด้วยความเป็นห่วงไหนจะท้องไหนจะเรียนพอคลอดลูกก็ต้องเลี้ยงลูกอีกมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวและยังอยู่ต่างแดนอีก “ถ้าพี่อยู่เมืองไทยคุณพ่อคุณแม่ต้องอับอายขายหน้าแน่ที่พี่ท้องไม่มีพ่อ พี่ถึงขอให้แก้มช่วยพี่ไงนะแก้มนะช่วยพี่ด้วย แก้มไม่สงสารหลานเหรอจ้ะ” เธอไม่ได้ขอมากแค่ชวนน้องสาวไปเรียนต่อและออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเพื่อเธอจะได้มีเพื่อนอยู่ด้วยแม้เธอจะมีเพื่อนเยอะแต่ไม่เหมือนมีน้องสาวไปอยู่ด้วยเพราะเธอรักและไว้ใจเก็จลดามากกว่าใครรองจากพ่อแม่ “แก้มจะบอกพ่อกับแม่ว่ายังไงละคะ” “เดี๋ยวพี่ไปคุยกับน้าดิตถ์น้าทิพเองนะแก้ม แล้วพี่จะบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าให้แก้มไปเรียนด้านบริหารระหว่างประเทศเพิ่มเพื่อมาช่วยงานท่านและจะได้อยู่เป็นเพื่อนพี่ด้วยแค่นี้ก็เรียบร้อย” พราวพลอยบอกน้องสาวเหมือนไม่ยากแต่มันยาก “แต่แก้มไม่อยากเรียนบริหารนะคะพี่พราว แค่เรียนบัญชีมาแก้มก็ปวดหัวจะแย่กว่าจะจบและแก้มก็จบมาหลายปีแล้วด้วยนะคะสมองมันคงไปต่อไม่ไหวแล้วค่ะ” เธอก็คิดอยากเรียนต่อเหมือนกันแต่คิดอีกทีความหวังของเธออยากเป็นร้านกาแฟที่บ้านมากกว่า “แก้มเพิ่งจบมาสามปีเองนะ แก้มเก่งจะตายงั้นแก้มอยากเรียนอะไรก็เลือกเอาไปถึงที่โน่นไม่มีใครรู้หรอก ไปอยู่กับพี่นะแก้มนะแค่สองปีเอง” พราวพลอยพูดหว่านล้อมน้องสาวเพื่อให้ไปอยู่ด้วยกันที่ฝรั่งเศสซึ่งเธออยู่เมืองไทยไม่ได้และเธอก็ไม่คิดจะเอาเด็กออกแม้เขาจะเกิดมาไม่มีพ่อเธอทำไม่ได้เพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอกับผู้ชายที่รัก “แก้มขอคิดก่อนได้มั้ยคะพี่พราว” “พี่ไม่มีเวลาแล้วนะแก้ม พรุ่งนี้แก้มไปทำเรื่องลาออกแล้วไปขอวีซ่าไปเที่ยวก่อนแล้วค่อยของวีซ่าไปเรียนภาษาสักหกเดือนแล้วค่อยมาคิดกันว่าแก้มอยากเรียนอะไร” พราวพลอยจัดการให้น้องสาวเสร็จสรรพตามความมั่นใจของเธอว่าเก็จลดาไม่ปฏิเสธแน่เพราะเธอมีเวลาแค่เดือนเดียวหากนานกว่านั้นทุกคนต้องรู้แน่ว่าเธอท้อง “แต่พี่พราวคะ” “แก้มช่วยพี่ด้วยนะ พี่ไม่มีใครแล้วจริงๆถ้าแก้มไม่ไปด้วยพี่อาจจะทำอะไรบ้าๆลงไปก็ได้” พราวพลอยพูดเสียงสั่นและเธอขอโทษลูกน้อยในท้องที่เอามาอ้างเพื่อให้น้องสาวใจอ่อน “พี่พราวอย่าคิดมากนะคะ พรุ่งนี้แก้มให้คำตอบแก้มขอคุยกับพ่อแม่ก่อน” หากเธอลาออกก็ต้องลาล่วงหน้าหนึ่งเดือนเพื่อเคลียงานให้คนที่จะมาทำหน้าที่ต่อ “ได้จ้ะ งั้นพี่กลับบ้านด้วยนะคืนนี้จะไปนอนกับคุณตา ” พราวพลอยบอกน้องสาวแล้วเรียกพนักงานมาเก็บเงินก่อนจะเดินไปขึ้นรถเบนซ์สปอร์ตเปิดประทุนสีแดงสดแล้วขับออกไปจากร้านกาแฟเพื่อกลับบ้านสวนพร้อมน้องสาว เวลา 18.00น. ทุกคนในครอบครัวก็มารับประทานอาหารด้วยกันหมือนทุกวันเพียงแต่วันนี้มีหลานสาวมาจากกรุงเทพจึงทำให้คนเป็นตามีความสุขกินข้าวได้เยอะกว่าทุกวัน “คุณตากินเยอะๆนะคะ พราวว่าคุณตาผอมลงนะคะ” พราวพลอยตักอาหารให้ตาผดุง “ขอบใจมากลูก” ผดุงมองหลานสาวอย่างรักใคร่ถึงพราวพลอยจะดูแรงเปรี้ยวในสาวตาคนอื่นแต่สำหรับแกและทุกคนในครอบครัวมองว่าเธอเป็นเด็กสาวอ่อนหวานนอบน้อมเป็นที่รักของทุกคน “วันนี้ตาดุงของหนูพราวกินข้าวเยอะกว่าทุกวันเพราะมีหลานสาวปรนนิบัตินี่เอง” การินล้อน้องชายที่อยู่บ้านกับคนงานส่วนลูกสาวลูกเขยก็อยู่กรุงเทพแต่ก็มาเยี่ยมบ่อยส่วนหลานสาวก็ไปเรียนเมืองนอกได้หกเดือนแล้วเพิ่งกลับมา “รู้อย่างนี้ฉันให้แม่อีหนูมีลูกหลายๆคนก็ดีหรอกจะได้มีลูกหลานอยู่ด้วยเยอะๆ” ผดุงพูดยิ้มๆยังไงเขาก็มีพี่ชายและอยู่เป็นเพื่อนกันทุกวันเพราะต่างก็เสียภรรยาไปเหมือนกัน “เอาไว้พราวเรียนจบเมื่อไหร่จะมาหาคุณตาบ่อยๆนะคะ” “ดีลูก แล้วไอ้แก้มเป็นอะไรไปละลูกวันนี้ไม่พูดไม่จาเลย” ผดุงถามหลานสาวอีกคนที่ปกติคุยไม่หยุดวันนี้กลับเงียบกริบ “แก้มคุยทุกวันแล้วค่ะ พี่พราวมาก็คุยบ้างสิคะ” “แล้วหนูแก้มจะกลับไปฝรั่งเศสเมื่อไหร่จ้ะ” ทิวารีถามหลานสาวเธอได้ยินพี่สาวบอกว่าจะมาแค่ยี่สิบวัน “พราวจะกลับเดือนหน้าค่ะน้าทิพ และพราวชวนแก้มไปเรียนด้วยค่ะ” พราวพลอยเกริ่นนำให้น้องสาว “แก้มอยากไปเรียนต่อเหรอลูก” ดิตถ์ถามลูกสาวเพราะไม่รู้เลยว่าลูกอยากไปเรียนต่อเมืองนอก ดิตถ์เป็นอดีตนักมวยชื่อดังขึ้นสังเวียนมามากมายก่อนจะผันตัวเองมาเปิดค่ายสอนมวยไทยและคนไหนฝีมือดีก็จะส่งไปชกตามเวทีต่างๆที่เขาเคยขึ้นในอดีตทำให้ผู้คนรู้จักค่ายมวยครูดิตถ์ ศ.ไชยเทพ “แก้มอยากลองหาประสบการณ์ใหม่ๆต่างบ้านต่างเมืองดูบ้างค่ะพ่อ แก้มว่ามันน่าจะมีอะไรให้แก้มค้นหาตัวเองได้บ้างว่าชอบอะไรอยากทำอะไรค่ะ” เก็จลดาตอบพ่อเพราะอยากช่วยพี่สาวจึงต้องบอกเหตุผลกับตาพ่อแม่ “มันก็ดีนะลูก แก้มเรียนจบมาก็ทำงานเลยแม่คิดว่าดีเหมือนกันนะพ่อลูกจะได้เปิดหูเปิดตาเผื่อวันหนึ่งอาจจะมีความคิดดีๆทำธุรกิจของตัวเองก็ได้ แม่เห็นลูกของลูกค้าอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดเรียนจบกลับมาก็ทำธุรกิจของตัวเองแม้จะไม่ใหญ่โตแต่เป็นความสามารถของลูกแค่นี้พ่อแม่ก็ดีใจแล้วล่ะ” ทิวารีพูดกับลูกสาวอย่างเข้าใจถึงครอบครัวของเธอไม่ได้ร่ำรวยเป็นชาวไร่ชาวสวนแต่ก็พอมีอันจะกินหากลุกสาวอยากทำธุรกิจของตัวเองเธก็พร้อมจะสนับสนุนเพราะอีกหน่อยเธอเกษียณมาก็จะได้ช่วยงานลูกได้ “จริงค่ะน้าทิพ พราวชอบการออกแบบเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าพราวก็อยางสร้างแบรนด์ของตัวเองจึงตั้งใจเรียนและหาประสบการก่อนจะกลับมาทำตามความฝันไว้ค่ะ” พราวพลอยพูดถึงความฝันของตัวเองแต่ยังไปไม่ถึงไหนเพราะท้องเสียก่อน “ดีลูก คนเรามันต้องมีแรงบันดาลใจถึงจะก้าวไปถึงจุดหมายได้ ตาเป็นกำลังงใจให้หนูพราวกับหนูแก้มนะลูก” ผดุงพูดกับหลานสาวทั้งสอง “ขอบคุณค่ะคุณตา คุณตาคุณน้ารอดูความสำเร็จของเราสองคนนะคะ” พราวพลอยพูดแล้วยิ้มให้ตาทั้งสองและน้าๆ จากนั้นทุกคนก็กินอาหารและคุยกันไปถึงอนาคตสองสองสาวอย่างมีความสุขและอวยพรให้ทั้งสองประสบความสำเร็จดั่งที่ตั้งใจจนกระทั่งเวลาผ่านไปเดือนกว่าที่เก็จลดาทำเรื่องขอลาออกจากธนาคารเพื่อไปเรียนต่อก็ได้รับการอนุมัติจากผู้จัดการสาขาที่เสียดายลูกน้องคนเก่งและขยันแต่เพื่ออนาคตของเด็กเธอก็สนับสนุนและเก็จลดาได้จัดเตรียมเอกสารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยโดยเลขาของชวลิตช่วยจัดการให้ทุกอย่างรวมถึงเรื่องเรียนภาษาที่ฝรั่งเศสและเตรียมตัวเดินทางอีกสองวันเก็จลดาจึงนัดเพื่อนๆมากินข้าวในเย็นนี้เพื่อบอกกล่าวว่าเธอจะไปเรียนต่อ “ฮ้ะ,แกจะไปฝรั่งเศส” พิมพ์ทองร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าอีกสองวันเพื่อนจะไปฝรั่งเศส พิมพ์ทอง แสนสุข ดาราสาววัยรุ่นที่เข้าวงการด้วยการประกวดเวทีซุปเปอร์โมเดลแต่ตกรอบและไปเขาตานักปั้นมือทองอย่างพี่แอลลี่หรืออเนก แม้ไม่ได้เป็นนางเอกโด่งดังคับประเทศแต่ก็มีชื่อเสียงเพราะฝีมือการแสดงเป็นนางรองและตอนนี้กำลังถูกเสนอชื่อให้เป็นนางเอกละครเรื่องใหม่ที่ผู้จัดกำลังแคสติ้งกันอยู่ บ้านอยู่ห่างจากบ้านของเก็จลดาแค่ห้ากิโลเป็นเพื่อเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมยันมหาวิทยาลัย “ใช่แก,พอดีแก้มมัวแต่ยุ่งจัดการเรื่องลาออกและเอกสารไปเรียนก็เลยไม่บอกพวกแกช้าไปหน่อยขอโทษนะพวกแก” หญิงสาวก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่บอกเพื่อนช้าไปหน่อยถึงพวกเธอแยกย้ายทำงานอยู่กันคนละที่ตั้งแต่เรียนจบแต่ก็นัดเจอกันทุกครั้งที่เธอเข้ากรุงเทพเพราะมีเธอคนเดียวที่กลับไปทำงานที่บ้านและอยู่ไม่ไกลกรุงเทพ “ทำไมไม่ไปถึงฝรั่งเศสก่อนแล้วค่อยโทรมาบอกพวกฉันยะนังแก้ม” พัชรพลว่าเพื่อนที่บอกจะไปเรียนต่อฝรั่งเศสก่อนเดินทางสองวัน พัชรพล สุภาพิมาน หนุ่มตี๋รูปหล่อร่างเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงหรือเรียกกันว่าเกย์ควีนทำงานฝ่ายบัญชีบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งทั้งที่บ้านทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างกลับไม่ทำปล่อยให้พี่ชายทำคนเดียว “ทำไมแกตัดสินใจปุ๊บปั๊บวะแก้ม” สาธินี ถามเพื่อนเพราะเก็จลดาไม่ได้พูดถึงเรื่องเรียนต่อเลยแล้วจู่ๆไปเรียนต่อมันต้องมีอะไรสักอย่างที่ทำให้เพื่อนเร่งรีบไปเรียนต่อ สาธินี วนารีรัตน์ สาวห้าวแต่ไม่ใช่ทอมเพราะมีพี่ชายสองคนและเป็นน้องสาวคนเล็กจึงออกห้าวๆอยู่นครชัยศรีมารู้จักกันตอนเรียนมัธยมปีที่หนึ่งที่กรุงเทพจนกระทั่งจบมหาลัย “นั่นสิแก้ม แกไม่เคยเห็นบอกเลยว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอกมีอะไรหรือเปล่า” ม่านฟ้าก็คิดเหมือนสาธินีว่าเพื่อนต้องมีอะไรสักอย่างถึงได้ตันสินใจเร็วแบบนี้ ม่านฟ้า สกุลวดี เด็กกรุงเทพโดยกำเนิดทำงานธนาคารส่วนพ่อแม่เป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง “ก็มีเรื่องนิดหน่อยน่ะแก” เก็จลดาตอบเพื่อนเธอไม่อยากให้ใครรู้มากแต่เธอไว้ใจเพื่อนทั้งสี่ที่สนิทกันไม่มีทางเอาไปพูดต่อแน่แต่ว่าเป็นเรื่องของพี่สาวเธอจะบอกเพื่อนเท่าที่จะบอกได้ “เล่ามาเลยนังแก้ม” พัชรพลบอกเพื่อนแล้วยกมือท้าวคางตั้งหน้าตั้งตาฟัง “พี่พราวมีปัญหาน่ะ แก้มขอโทษนะที่เล่าให้พวกแกฟังไม่ได้เดี๋ยววันหนึ่งพวกแกจะรู้เอง” เก็จลดาไม่อยากเอาเรื่องของพี่สาวมาเล่าให้เพื่อนฟัง “มิน่าล่ะแกถึงยอมไปเรียนต่อ” ม่านฟ้าเข้าใจเพื่อนเพราะเก็จลดากับพราวพลอยสนิทกันรักกันเหมือนพี่น้องจริงทั้งที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันแล้วเก็จลดามาเรียนที่กรุงเทพตั้งแต่มัธยมหนึ่งก็พักที่บ้านของพราวพลอยซึ่งพวกเธอทุกคนก็รู้จักดีเพราะเรียนที่เดียวกันเป็นรุ่นพี่สองปี “ไม่เจอพี่พราวเป็นปีแล้วนะแก แล้วอีกกี่ปีพี่พราวถึงจะจบล่ะแก้ม” พิมพ์ทองถามถึงพี่สาวคนสวยของเพื่อนที่ทั้งสวยหุ่นดีเป็นถึงดาวมหาลัย “น่าจะสองปีสามปีนี่แหละ พี่พราวเรียจบก็จะทำงานก่อนแล้วค่อยกลับมาทำธุรกิจของตัวเองน่ะ” เก็จลดาตอบเพื่อนทั้งสี่ “ขอให้แกโชคดีนะแก้มฉันคงคิดถึงแกมากเลย” พัชรพลพูดกับเพื่อนเพราะเขามักจะโทรไปหาเก็จลดาบ่อยยิ่งตอนอกหัก “แกก็อย่าแรดให้มากนักสินังเคนนี่ ไม่ใช่ว่าเห็นผู้หล่อเข้าหน่อยก็ยอมให้เขาเสียบแล้ว ใจง่ายเกิ้นผู้ถึงเห็นแกเป็นดอกไม้ริมทางไง” เก็จลดาว่าเพื่อนที่อกหักบ่อยกว่าใครแล้วก็โทรไปพร่ำเพ้อรำพันกับเธอ “แก็ก็รู้ว่าฉันเป็นโรคแพ้ผู้ชายหล่อ พอเห็นแล้วใจมันอ่อนระทวยไปหมดเลยอ่ะแก” “ระวังนะนังเคนนี่ ถ้าแกยังมั่วไม่เลิกจะติดโรคเข้าสักวัน” พิมพ์ทองเตือนเพื่อนที่ควงผู้ชายไม่ซ้ำหน้าทั้งที่เป็นผู้ชาย “ฉันก็ป้องกันตัวนะยะนังดารา ว่าแต่แกเถอะได้อยู่ใกล้พ่อพีชของฉันใจไม่อ่อนระทวยบ้างเหรอทั้งหล่อทั้งล่ำเป็นดุ้นๆนะพ่อคุณเอ้ย ชี้ดด..” พัชรพลพูดถึงพระเอกคนดังแล้วสูดปากเหมือนกินอาหารเผ็ด “นังดอกเคนนี่/นังแรด/นังเกย์ใจง่าย/นังลำไย” สาวๆทั้งสี่ต่างว่าเพื่อนพร้อมกัน จากนั้นทั้งหมดก็คุยกันหยอกเย้าจิกกัดกันตามประสาเพื่อนรักก่อนจะแยกย้ายกันกลับ้านตอนสามทุ่มเพราะทุกคนต้องไปทำงานและเก็จลดาเองก็ต้องเตรียมของอีกหลายอย่าง “แล้วเจอกันนะพวกแก ยังไงก็คุยกันในไลน์ในเฟสในสไกป์นะ” เก็จลดาบอกเพื่อนๆ “โชคดีนะแก” “เดินทางปลอดภัยนะแก้ม” “ขอให้แกเรียนจบเร็วๆนะ” “ขอให้แกมีผัวฝรั่งหล่อล่ำกล้ามใหญ่ไซร์เก้านิ้วนะยะนังแก้ม ฮ่าๆๆ” “คิกๆๆๆ/คริๆๆ..” “จะบ้าหรือไงนังเคนนี่ แก้มไปเรียนนะไม่ได้ไปหาผัวสักหน่อย” เก็จลดาขำเพื่อนที่อวยพร “เออน่าแก ไปถึงฝรั่งเศศถ้าไม่ได้ไม่โดนแกก็ไปไม่ถึงฝรั่งเศสนะนังแก้ม” พัชรพลยังไม่เลิกหยอกเย้าเพื่อน “แก้มไม่ใช่แกนะนังเคนนี่ถึงได้ไปถึงทุกที่ ขอบใจนะพวกแก” เก็จลดากอดเพื่อนทีละคน ห้าสาวกอดลากันแล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านเก็จลดาก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านของลุงกับป้าเพราะเธอไม่ชอบขับรถในกรุงเทพสมัยเรียนก็นั่งรถเมล์ตลอด แล้วก็มาถึงวันที่เก็ลดากับพราวพลอยเดินทางไปฝรั่งเศสและสองสาวก็ไม่ยอมให้คนที่บ้านมาส่งนอกจากคนขับรถที่มาส่งคุณหนูทั้งสองที่สนามบินตามคำสั่งของเจ้านาย “ใจหายเหมือนกันนะพี่พราว” คนไม่เคยห่างจากบ้านไปไกลรู้สึกใจหายที่ต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง “ตอนแรกพี่ก็เป็นเหมือนแก้มนี่แหละ แก้มอย่าลืมสิตอนนี้เทคโนโลยีมันไปไกลมากนะสามารถโทรสไกป์คุยกันได้ทุกเวลา” พราวพลอยบอกน้องสาว “มันก็จริงค่ะ เฮ้อ..” คนไม่อยากไปฝรั่งเศสถอนหายใจเบาๆ “พี่ขอโทษนะแก้มที่ทำให้แก้มลำบาก” พราวพลอยขอโทษน้องสาวที่ทำให้ต้องจากบ้านไปไกลครึ่งโลก “ไม่เป็นไรค่ะพี่พราว แก้มก็แค่กังวลนิดหน่อยเรื่องภาษาค่ะ” เก็จลดาบอกพี่สาวถึงเธอพูดภาษาอังกฤษได้ก็ตาม “ไม้ต้องกลัวหรอกที่นั่นเขาก็ใช้ภาษาอังกฤษปนภาษาฝรั่งเศส ไปกันเถอะจ้ะ” พราวพลอยบอกน้องสาวเมื่อได้เวลาเช็คอิน “ค่ะ” เก็จลดามองสนามบินอย่างอาลัยอาวรณ์วันนี้หญิงสาวไม่ให้พ่อแม่มาส่งเธอไม่ชอบการจากลา สองสาวสวยลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปเช็คอินเสร็จก็เดินเข้าเกทไปเพื่อรอขึ้นเครื่องเพราะต้องเช็คอินก่อนสองชั่วโมงก่อนจะออกเดินทางเวลา14.00น. ใช้เวลาเดินทางสิบสองชั่วโมงก็ถึงสนามบินปารีส ออร์ลี เวลา20.00น อยู่ทางตอนใต้ของปารีสห่างจากเมืองปารีสสิบสี่ก็โลเมตร เมื่อได้กระเป๋าเดินทางก็ขึ้นแท็กซี่ไปบ้านพักของพราวพลอยที่เคยอยู่กับแฟนหนุ่มและเขายกให้เธอตอนเลิกกันทำให้เธอไม่ต้องไปเช่าอาพาร์ทเมนท์อยู่เหมือนครั้งที่มาอยู่ปารีสใหม่ๆ “ปะเข้าบ้านกันพรุ่งนี้ค่อยสำรวจ” พราวพลอยบอกน้องสาวที่ยังยืนมองตึกสูงสามชั้นตรงหน้ามีบันไดขึ้นไปสามขั้นเหมือนอาคารพานิชที่เมืองไทยแต่แตกต่างกันที่การตกแต่งจึงสวยหรูกว่าเรียงเป็นแถวยาวไปตามถนนที่สว่างโร่ตลอดเส้นทางและมีรถวิ่งผ่านไปมาขนาดกลางคืนยังดูสวยหากเป็นกลางวันน่าจะสวยกว่านี้ “บ้านใครคะ พี่พราวไม่ได้อยู่อาพาร์ทเมนท์เหรอคะ” เก็จลดาลากกระเป๋าของตัวเองกับพี่สาวขึ้นไปตามทางลาดชันเข้าไปในบ้านขณะที่พราวพลอยล็อคประตูบ้าน “บ้านพี่เองแหละ” “บ้านพี่พราวเหรอคะ” “ใช่,บ้านพี่เอง พอดีแฟนเก่าเขายกให้น่ะพี่ก็เลยไม่ต้องเช่าบ้านและยังมีเงินในบัญชีที่เขาให้อีกร้อยล้านนะเพราะเขาต้องไปหมั้นและแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เขาหาให้ก็เหมือนกับจ้างพี่เลิกกับเขาน่ะ” พราวพลอยเล่าให้น้องสาวฟังเพราะที่เมืองไทยเธอไม่ได้เล่าอะไรกลัวพ่อแม่รู้ “พี่พราวก็ยอมเลิกเหรอคะ” “แก้มจะให้พี่ทำยังไงล่ะ ในเมื่อเขาขอเลิกพี่ก็ไม่รั้งเขาไว้เพราะอะไรรู้มั้ย คนเราเมื่อไม่มีใจให้กันแล้วรั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์ไม่ใช่ว่าพี่เห็นแก่เงินนะ ในเมื่อเขาไม่รักพี่แล้วพี่ก็รักตัวเองให้มากสิแล้วเขาก็เอาเอกสารมาให้พี่เซ็นรับบ้านหลังนี้และเงินหนึ่งร้อยล้านก็จบกันด้วยดี” พราวพลอยคิดถึงวันที่แฟนหนุ่มมาหาและบอกว่าขอเลิกกับเธอเพื่อจะหมั้นกับผู้หญิงที่พ่อแม่หาให้และบอกว่ายกบ้านให้เธอพร้อมกับเงินสดเพื่อขอให้จบกันไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกทำให้เธอช็อกทั้งที่วันก่อนยังพร่ำพรรณาว่ารักเธอวันถัดมาขอเลิกแล้วยังเอาเงินมาฟาดหัวและเธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงหน้าโง่ที่หยิ่งในศักดิ์ศรีจึงรับไว้และตัดใจจากมาตีซ และมารู้ทีหลังว่าท้องทำให้เธอทำอะไรไม่ถูกก่อนจะคิดได้จึงกลับเมืองไทยเพื่อขอให้น้องสาวช่วย “พี่พราวไม่ได้บอกเขาเหรอคะว่าท้อง” “พี่รู้ทีหลังน่ะสิ แต่ดีแล้วที่เขาไม่รู้พี่ว่าตอนนี้ไปนอนกันดีกว่าแก้มพักห้องนี้นะแล้วห้องพี่อยู่นั่นส่วนเรื่องไหนที่แก้มอยากรู้เอาไว้พี่จะเล่าให้ฟัง” พราวพลอยบอกน้องสาวซึ่งเธอเตรียมห้องไว้ให้ก่อนกลับเมืองไทยและมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ก่อนที่เธอจะกลับมา

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

พลาดรักนายคาสโนว่า

read
23.2K
bc

Secret Love ซ่อนรักคุณหมอมาเฟีย

read
1.4K
bc

ยั่วรัก หม้ายสาวสายแซ่บ

read
22.6K
bc

เมียแต่งที่คุณไม่เคยต้องการ

read
20.8K
bc

บำเรอรักขัดดอก

read
2.8K
bc

พี่สามีอย่ารังแกข้า

read
5.5K
bc

แอบเสียวจนได้ผัว (NC20+)

read
60.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook