ตอนที่ 6 / ลูกสะใภ้

1503 Words
ปวดหัว ปวดหัวที่สุดในสามโลก "อื้อ หนักชะมัด" ฉันบิดขี้เกียจแล้วขยับตัวเล็กน้อย แต่ช่วงท้องมันหนัก ๆ ทั้งยังมีขนอะไรไม่รู้ว่าซุกคอเนี่ย "ใครวะ?" ฉันลืมตาขึ้นมาพึมพำเบา ๆ มองเห็นท่อนแขนที่อยู่ช่วงเอว มันใหญ่ ขนแขนก็เยอะ แขนแน่นชะมัด ผู้ชายแน่นอน! พอเพ่งสายตามองรอบ ๆ เพราะลองจับท่อนแขนใหญ่นี้ออกแล้ว แต่มันไม่หลุด เลยมองสำรวจรอบห้องก่อน พิจารณาว่าคือ 'โรงแรม' หรือ 'ม่านรูด' ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง มันคือห้องพักของ 'ลี' ตั้งแต่สมัยเรียน แสดงว่าเสียงเมื่อคืนคือ 'ลี' แล้วเขาพามาที่นี่ทำไมกัน แล้วเขามากรุงตั้งแต่ตอนไหนกัน แล้วที่พูดกันเมื่อคืนมันหมายความว่าไงกัน ฉันเป็นเมียของ 'ลี' แล้วงั้นเหรอ? พรวด!!! ฉันดีดตัวนั่งแบบอัตโนมัติ หันไปมองอีคนข้าง ๆ ที่หลับตาพริ้มพร้อมผมที่ลงมาปกปิดหน้าผาก แล้วจัดการแหวกผมซะ แปะ! "โอ๊ย ลิน" ลีร้องออกมาอย่างดัง แล้วลืมตาทำดุใส่ฉันอย่างทันที "มึงปล้ำกู ไอ้บ้า" ฉันฟาดแผงอกเขาไปเต็มแรงมือ ไม่รู้ล่ะ ขอโวยวายไว้ก่อน "เหอะ ๆ" หัวเราะเพื่อ? "ไม่ตลกนะลี" ฉันกำคอเสื้อมัน ทั้งที่มันยังนอนอยู่นั่น แต่ลีดันเอามือขวามาหนุนหัว แล้วมองหน้าฉันแบบจ้อง ๆ "ถ้าจะเอากันจริง มึงคิดว่ากูจะปล่อยมึงให้นอนมั้ย" พอลีพูดมาแบบนั้น ฉันก็มองต่ำมาที่ชุดตัวเอง พร้อมสำรวจร่องรอยต่าง ๆ ว่าด่างพร้อยตรงไหนมั้ย หน้าอกไม่คัด ส่วนนั้นไม่เจ็บแสบ "คิดอะไรเพ้อเจ้อ" ลีดันตัวลุกนั่ง แล้วผลักหน้าผากฉันเบา ๆ ก่อนจะเดินหัวเราะเข้าห้องน้ำไป "แล้วมึงมานี่ได้ไง" ฉันตะโกนไล่หลังลีไป "ขับรถมาสิโว้ย" แล้วลีก็ตะโกนกลับมา ฉันลุกขึ้นจากเตียง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นอนร่วมกัน สมัยมหา'ลัยนั้น ทำกันเป็นประจำ ฉันเมาแล้วค้างกับลีบ่อยครั้ง แต่มันก็ไม่เคยล่วงเกินอะไรฉัน ฉันจึงไว้ใจลีมาก ๆ แต่ตอนนี้ ลียืนยันว่าจะ 'เอา' ฉันจริง ๆ ต่อไปนี้ การอยู่กับลีแบบลำพัง คงจะไม่ปลอดภัย พรึบ! ผ้าผืนบางหล่นลงมาที่หัวของฉัน "ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไป จะได้ลงไปหาอะไรกิน" ลีบอกกับฉัน ซึ่งฉันก็ทำตามอย่างว่าง่าย "แก้มหอมดีนะ" ลีเข้ามากระซิบแบบเร็วไว ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินผ่านเขาเข้าห้องน้ำ "ไอ้ลี" ฉันรีบดันตัวมันออก แล้วปิดประตูห้องน้ำใส่หน้ามัน หวั่นไหวนะโว้ย! เราเป็นเพื่อนกันมานาน จนรู้สันดานเนื้อแท้เนื้อในกันหมด ลีมีผู้หญิงไม่เคยขาด ไม่มีทางที่เขาจะพิศวาสฉัน เพราะมันไม่เคยแสดงออกแบบนี้เลย มีแค่ตอนนั้น วันเรียนจบ ลีไม่อยู่ฉลองด้วยกัน เดินออกไปทันทีที่ฉันไปถึง แล้วจากนั้น เราก็เจอกันบ้าง เป็นครั้งคราว ฉันไม่อยากเอาเพื่อนมาทำผัว กลัวประคองความสัมพันธ์ได้ไม่นาน เพราะรู้สันดานกันทุกส่วน ล้วนแล้วแต่จะคิดมาก หากอยู่ด้วยกันทุก ๆ วัน "ลิน เร็ว ๆ" ลีเคาะประตูเร่ง "แป๊บนึง" ไม่ต้องแปลกใจทำไมกล้าอาบน้ำล้างตัว เสื้อผ้าของฉันมีเกือบครึ่งตู้ในห้องนี้ ไม่รู้เหมือนกัน ว่าทำไมลียังเช่าไว้อยู่ ทั้งที่นาน ๆ มันจะขึ้นกรุงที แต่ก็ดีเหมือนกัน ฉันจะได้มาขลุกอยู่นี่ เวลาขี้เกียจเข้าบ้าน "ปะ" ฉันแต่งตัวเรียบร้อย แต่ไม่มิดชิด แต่งหน้าทาปากเบา ๆ ให้เข้ากับเสื้อผ้าที่เลือกมาสวมใส่ จากนั้น ก็เดินมั่นหน้ามาหาลีที่นั่งกดมือถือรออยู่ "....." เขาถอนหายใจ แล้วเดินนำออกไป จะมาทำเป็นหงุดหงิดใส่ฉันไม่ได้นะ ไม่ได้มาตั้งนาน เสื้อผ้าก็เลือกได้ไม่มากนัก มันจะแอบรัด ๆ หน่อย เพราะอะไร ฯ มันก็ใหญ่โตขึ้น "ขี้อ่อย" ลีเดินตามหลังเข้าร้านมา ฉันที่เดินมาก่อนแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร ก็หันมองรอบกายทันที ทำไมมองมาที่ฉันกันล่ะ คุณลูกค้าทั้งหลาย โดยร้านที่ลีพามา คือร้านอาหารตามสั่งธรรมดาที่เราพากันมายัดเยียดการเป็นลูกค้าประจำให้กับเจ้าของร้านสมัยเรายังร่ำเรียน จนกระทั่งกล้าพูดคุยแบบสนิทชิดเชื้อกับลุงป้าเจ้าของร้าน "สองคนนี้ คบกันนานนะลูก" ป้าเอ่ยทัก เมื่อยกจานข้าวสองเมนูที่ฉันกับลีได้เลือกสั่งไปคนละอย่าง วางตรงหน้าเราสองคน เราสองคนมองหน้ากันแบบอัตโนมัติ "เราเป็นเพื่อนกันนะคะ" ฉันว่าเสียงใส พลางเสมองหน้าลี ให้ปฏิเสธตามกัน แต่มันกลับยกยิ้มมุมปาก! "โต ๆ กันแล้วลูก มีลูกมีเต้ากันได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันใช้เอา" ป้าว่าเสริมอีกระลอก แล้วเร่งก้าวฝีเท้าออกจากโต๊ะไป ฉันที่อยากคัดค้านไป กลับต้องกลืนคำพูดลงลำคอ ไอ้บ้าลี นี่ก็นั่งยิ้มอยู่ได้ ! "คิดจะแก้ตัวบ้างมั้ย" ฉันค้อนขวับตาเขียวใส่คนตรงหน้า "แก้ว่า?" มันเลิ่กคิ้วกวน ๆ ใส่ฉัน "ก็เป็นเพื่อนกันไง" เริ่มจะหงุดหงิดกับท่าทางของลีจริง ๆ ละนะ "เดี๋ยวก็เลื่อน" เขาพูดรัวเร็ว แต่ฉันฟังทัน "มึงฝันอยู่เหรอ 'ลี' " "หึ... " เกลียด! เกลียดเสียงลอดผ่านลำคอที่เยาะเย้ยกัน เกลียดมันจริง ๆ อาหารที่รสชาติดี พาลให้ฉันกับลี เกิดความมูมมามสั่งมาอีกคนละจาน ตอนทานข้าวเงียบ ๆ ไม่กวนตีนกัน ก็เหมือนว่าเราถูกกันดี แต่เมื่อไหร่ที่เราสองคนเปิดปาก เราแทบจะกระชากเสียงมาคุยกัน ความสัมพันธ์เราช่างแปลก ! "ไปไหนต่อปะ" ลีถามขึ้น หลังจากที่เขากระดกน้ำเปล่าแก้ความเผ็ดของผัดกะเพราที่เขาสั่ง แล้วเขาก็ซัดจนหมดเกลี้ยงแทบไม่เหลือให้แม่ค้าเอาทิ้ง "....." ฉันส่ายหน้าเบา ๆ คนว่างงานที่เกาะแม่รับประทาน จะมีที่ไหนให้ไป "งั้นไปบ้านกู" ลีบอกอย่างเอาแต่ใจ "ไม่ไป" "ขัดใจเหรอ?" ลีจ้องเขม็ง "บังคับกูทำไม" ฉันเอ่ยอย่างเซ็ง ๆ "....." ลีไม่พูดอะไร แต่ลุกขึ้นพรวดพราดแล้วตรงไปจ่ายเงินค่าอาหาร ฉันจึงลุกตามอย่างอ้อยอิ่ง แล้วมาหยุดยืนข้างลี ที่ตอนนี้ยืนพูดอะไรกับลุงป้าก็ไม่รู้ "ผมจะแวะมาบ่อย ๆ นะครับ" "จ้า แต่งเมื่อไหร่ป้ายินดีล่วงหน้านะลูก พ่อหนุ่มนี่ก็มั่นคง แม่หนูนี่ก็ใจเดียว มีลูกเต็มบ้านนะลูก หนักเบาก็ให้อภัยกันนะ หันหน้าคุยกัน ปัญหาจะใหญ่จะเล็ก ถ้าสองคนเข้าใจกัน ทางออกก็อยู่ไม่ห่างไกล รักกันจนแก่เฒ่านะเด็ก ๆ" แหม.... อย่างกับอวยพรคู่บ่าวสาว แต่เดี๋ยวก่อนนะ!!! "ขอบคุณครับป้า ผมลาล่ะครับ" แล้วลีก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ก่อนจะฉุดรั้งแขนของฉันให้รีบสาวเท้าตาม "เดี๋ยวสิลี" ฉันออกแรงขัดขืนนิดหน่อย แต่ลีก็ดื้อดึง ดึงจนเรามายืนข้างรถ จึงค่อยปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระ แล้วหมุนตัวกลับมา มองหน้าฉันนิ่ง "ผู้ใหญ่อวยพร มึงจะขัดหรือไง" ลีออกเสียงตำหนิ "แต่มันไม่ใช่.... " "แล้วนี่อะไร" ลียกมือข้างซ้ายของฉันมาตรงหน้า ทันทีที่ฉันกำลังอ้าปากจะพูดขัด "....." ฉันกำลังมึนงงกับสิ่งที่เห็น สิ่งที่ประทับอยู่บนมือ สิ่งที่สวมอยู่ตรงตำแหน่งนิ้วนาง แหวนของลี! ฉันจำมันได้ ครั้งหนึ่งมันเคยหล่นหาย แล้วลีก็กระวนกระวายแทบไม่เป็นอันทำอะไร เพราะแหวนนี่สำคัญกับเขา เขาบอกว่ายายของเขาให้ไว้ ก่อนที่ท่านจะเสีย "จองแล้วนะ" เขาพูดแต่ตาก็ยังมองหน้ากัน "ลี.... " "ถ้ามึงถอด กูจะบอกให้ยายมาหลอกมึง" นี่เขาจะเอาเรื่องผีสางมาข่มขู่ไม่ได้นะ ฉันน่ะ กลัวสิ่งลี้ลับยิ่งกว่าสิ่งใดบนโลก แล้วลีก็ใช้จุดอ่อนของฉัน มาบังคับกันให้สวมแหวนของเขา "แม่ต้องดีใจแน่ ที่จะได้ 'ลูกสะใภ้' เป็นคนที่หมายตาไว้" เขาว่าจบอย่างอารมณ์ดี แล้วผิวปากอย่างคนรื่นเริงใจ แล้วฉันทำอะไรได้บ้าง นอกจากเข้ามานั่งนิ่ง ๆ ในรถ ที่ข้างกายมีผู้ชายชื่อลี ที่ตอนนี้ อารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD