นี่มันวันรวมญาติชัด ๆ
เมื่อเช้าฉันกับลีตื่นขึ้นมาพร้อมกัน โดยฝีมือแม่มายืนเคาะประตูพร้อมเรียกเราสองคนอยู่หน้าห้อง ลีเป็นคนที่ลุกไปดูแล้วพบว่า วันนี้มีตารางเดินทาง..... ยาว
ฉันที่ถูกแม่จับแต่งองทรงเครื่องซะสวยงามตามพิธีนั้น ๆ ที่แม่ต้องมา
งานหมั้นของลูกชายเพื่อน ที่อยู่อีกหมู่บ้าน คราวนี้เป็นงานเช้า
พอมาถึงงาน ฉันเดินตามแม่ทุกฝีก้าว เพราะคราวนี้คนที่คุ้นหน้าคร่าตา ไม่มีเลย
"ชิชา เธอนี่สวยยังไงก็ยังสวยอย่างนั้น สาวพันปีจริง ๆ มีเคล็ดลับอะไรบอกต่อกันหน่อยสิ จะได้ทำตามบ้าง"
ผู้หญิงวัยกลางคน คงรุ่นเดียวกับแม่เอ่ยทักทายทั้งยังชื่นชมเยินยอความสวยยังสาวของแม่ลีไม่หยุดหย่อน
แม่ของลียังสวยเหมือนสาว ๆ คนก็เลยพากันถามหาสูตรลับความอ่อนเยาว์กันหมด
"ออกกำลังกายสิ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ทำจิตใจให้สงบไม่ต้องไปฟังขี้ปากใคร แค่นี้หน้าก็จะตึง ผิวก็จะสวยขึ้นทันตาเลยล่ะ"
แม่ตอบเหมือนดาราที่ชอบปฏิเสธว่าไม่ได้ทำศัลยกรรมเลยค่ะ ทำเอาคนถามถึงกับหรี่ตาจับจ้อง เพราะคิดว่ากำลังโดนแม่แซะรึเปล่า
แต่เท่าที่ฟัง แม่เองก็ 'แอบแซะ'
"จ้า เป็นคุณนายนี่นา ทำอะไรก็ดูดีไปหมดแหละ"
แหนะ.... มีแซะกลับซะด้วย
ฉันไม่เคยเจอพ่อของลีเลยสักครั้ง ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยไถ่ถามหา ลีเองก็ไม่เคยพูดถึงให้ฟัง ตั้งแต่มัธยมจนจบมหา'ลัย ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง
"แล้วนี่ใครล่ะ แฟนตาลีใช่มั้ย"
ผู้หญิงท่านนั้นถามต่อ พร้อมกับส่งยิ้มให้ฉัน
"ใช่ คนนี้แหละลูกสะใภ้ฉัน"
แม่รับคำ พร้อมกับวาดแขนมาโอบไหล่ฉันให้ประชิดตัว แต่ก็ต้องปล่อยเมื่อมีผู้หญิงอีกคนมาเรียกท่านให้ไปอีกด้าน
"สวัสดีค่ะ"
ฉันประนมมือไหว้อย่างมีมารยาท ทั้งที่ทำตัวไม่ถูกแล้ว กับการที่ต้องนั่งอยู่กับคนแปลกหน้า
"จ้า แล้วมานี่รู้จักใครมั้ยหนู"
ท่านรับไหว้ แล้วซักถามต่อ
"บางคนก็คุ้นค่ะเพราะหนูเคยเรียนมัธยม× แต่ก็ไม่คุ้นเคยกับใคร"
ฉันยิ้มน้อย ๆ กลับไป
ฉันไม่ใช่คนที่อัธยาศัยดีขนาดที่ว่าไปทางคุยสนุก แล้วสายตาของผู้หญิงท่านนี้ก็มองฉันแบบไม่ปกติ เหมือนกำลังคิดวิเคราะห์อะไรสักอย่างในตัวฉัน
ฉันรู้สึกแบบนั้น
"แล้วตาลีไปไหนซะล่ะ"
"แยกตัวไปคุยกับเพื่อนค่ะ น่าจะอยู่ทางโน้นมั้งคะ...."
คำพูดของฉันขาดไป สายตาฉันเองก็ชะงักเช่นกัน
ลีกำลังยืนคุยกับเพื่อนเขาที่มีปะปนกันทั้งหญิงชาย ดูเป็นการทักทายสารทุกข์สุขดิบกันมากกว่า แต่ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนั้นยืนเคียงข้างกันกับลี ฉันจะไม่มีท่าทีชะงักไปแบบนี้เลย
'ตาล' ในชุดสีฟ้าอ่อน ดูสวย น่ารัก และ ผิวพรรณที่ขาวนวลนั่นชวนมองเป็นอย่างมาก เธอสวมใส่ชุดนี้ได้ดูดีจริง ๆ
"อย่าหึงเลยนะจ๊ะ ก็คนมันคุ้นเคยกัน"
ผู้หญิงท่านนี้พูดยิ้ม ๆ แต่นัยน์ตากลับแฝงอะไรบางอย่าง
เธอเดินออกไปจากตรงนี้ แล้วเข้าไปตรงที่ลีกับตาลคุยกันอยู่ เธอแตะไหล่ตาลอย่างสนิทสนม จังหวะที่ลีมองเห็น ลีประนมมือไหว้พลางยิ้มแล้วพูดคุยบางอย่างซึ่งฉันคาดเดาไม่ออกว่าคนพวกนั้นกำลังพูดเรื่องอะไร
เพราะนั่นมันมันเป็นเรื่องของลี ฉันไม่ควรจะยุ่งด้วยซ้ำ
"หนูลิน"
แม่เข้ามานั่งข้างฉัน
"ค่ะแม่"
"ยายแต๋วมันพูดอะไรกับลูก ทำไมเงียบไป"
"ลินแค่ไม่คุ้นใคร ก็เลยทำตัวไม่ถูกค่ะแม่"
"ลูกแม่นี่แย่จริง ๆ แทนที่จะพาหนูไปแนะนำกับเพื่อน แล้วนี่ไปไหนล่ะ"
"ลีคุยกับเพื่อนค่ะ แม่ไม่ต้องห่วงลินค่ะ เมื่อคืนลินก็รู้สึกแบบนี้"
ไม่ใช่สิ่งที่กำลังเป็นเลยสักนิด ฉันโกหกเห็น ๆ เลยล่ะ
เมื่อคืนไม่ว่าลีจะเดินไปทางไหน เขาจับมือฉันไว้ตลอดงาน มันเลยผ่านมาได้โดยไม่อึดอัด แต่วันนี้มัน ไม่เหมือนเมื่อคืนสักนิด
ควรรู้สึกยังไงกับห้าวันที่ผ่านมา
ลีหยอดฉันแทบจะทุกครั้งที่มีจังหวะเข้า หวั่นไหวนะ แต่เพราะคิดว่าเราคือเพื่อนกัน เลยไม่กล้าฟันธงอะไร ว่าคิดไปไกลถึงขั้นชอบ ลี
ตอนที่ฉันไปหาลี แล้วลีพาไปซื้อของที่ตลาด ใช่ว่าฉันจะไม่เห็นว่าลีมีคนชื่นชอบบ้างมั้ย น้องที่คุยกับลีวันนั้น น่ารักมาก ๆ แล้วก็ดูเหมือนจะสนิทกับลีมาก ๆ แล้วเธอก็แสดงออกว่าชอบลีมาก เช่นกัน
ใช่ว่าฉันจะไม่เห็น แค่ไม่พูดเพราะไม่ใช่ประเด็นที่ต้องใส่ใจ แต่ทำไมกลับไม่ชอบใจเวลาเห็นตาลกับลีใกล้ชิดกัน
"กลับเลยมั้ยลูก"
แม่ถามด้วยความเป็นห่วง
"อยู่ได้ค่ะแม่ ลินไม่อยากให้แม่เสียผู้ใหญ่"
เพราะงานนี้เป็นงานเพื่อนสนิทแม่ ลูกชายเขาหมั้นทั้งที ถ้าแม่หนีกลับก่อน มันน่าจะไม่งามนะ
"อ้าว... เธอ"
เสียงผู้ชายที่เดินมาตรงนี้ ทักฉันดัง ๆ จนฉันต้องหันไปมอง
'เจ้าบ่าวเมื่อคืน มากับ เจ้าสาวเมื่อคืน'
"พี่ลินสวัสดีค่ะ"
น้อง 'ปลิว' ภรรยาของท็อปทักทายฉัน
คงเพราะท็อปเคยเจอฉัน แล้วท็อปก็สนิทกับลีมาก เมื่อคืนฉันเลยได้คุยกับน้อง 'ปลิว' เจ้าสาวหมาด ๆ จนคล้ายจะสนิทกันแล้ว
"ไอ้ลีอะ"
ท็อปมองหาคนที่เขาเอ่ยชื่อ
"อยู่กลุ่มโน้นอะ"
ฉันเพยิดหน้าไปทางที่เจ้าตัวนั่งอยู่
"นั่นมัน..... แล้วเธอก็มานั่งหงอยคนเดียวนี่นะ ปะ ไปด้วยกัน"
ท็อปเอ่ยชวนฉัน พลางส่งสายตาให้น้องปลิวดึงแขนฉันให้ลุกขึ้น
"ฝากลินด้วยนะท็อป"
แม่บอก
"ครับแม่ ผมจะต่อยลูกแม่ด้วย"
ท็อปว่าอย่างขบขัน แม่เองก็ยิ้ม ๆ
ฉันเดินเคียงคู่มากับน้องปลิว น้องเองก็เหมือนจะคุ้นเคยกับใครหลายคนเพราะบ้านท็อปก็มากันทุกคน ข้อมูลที่รู้เรื่องของสองคนนี้เมื่อคืน ยืนยันได้ว่าท็อปน่ะเจ้าชู้ แต่ดูแล้วน่าจะแพ้ความเอ๋อของน้องปลิวซะมากกว่า
"ไอ้เหี้ยลี"
ท็อปทักอย่างดัง คือเสียงดังมากจริง ๆ คนที่นั่งเรียงรายกัน พลางหันควับมามองกันพร้อมเพรียง
ตาลแสร้งเป็นขยับตัวออกห่างลีเบา ๆ เธอมองฉันนิ่ง ฉันก็นิ่งมองเธอเหมือนกัน ลีกวักมือเรียกฉันให้เดินไปหา แต่แขนฉันดันถูกคว้าไว้ซะก่อน
"โต๊ะนั้นเต็มแล้ว มานั่งกับเราดีกว่า"
ท็อปดึงฉัน น้องปลิวก็ดันหลังให้ฉันไปอีกทาง
คือท็อปต้องการอะไร???
แล้วโต๊ะที่ท็อปพามานั่ง มีผู้หญิงสองคน ที่เหลือคือผู้ชายทั้งนั้น เก้าอี้ถูกยกมาเสริม ผู้ชายหลายคนสะกิดกันให้ขยับ เพราะเราจะได้แทรกเข้านั่ง ฉันเห็นท็อปหันไปยักคิ้วใส่ลีอย่างกวน ๆ
พรึบ!!!
"นี่ ตกใจหมด"
ฉันฟาดแขนคนที่ตรงเข้ามาล็อกคอฉันไม่ให้หย่อนก้นลงนั่ง
"นี่เมียกู"
ลีประกาศกร้าวใส่ชายผู้นั่งมองเราเงียบ ๆ
"เหรอ?... นึกว่ากลับไปแดกของเดิม"
ผู้ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะเหน็บลีสินะ พวกเขาน่าจะรู้จักกันหมดนี่นะ
"ไอ้เซย์ เดี๋ยวไอ้ลีก็ชวนมึงบวกหรอก"
อีกคนที่นั่งข้างเขา ว่าแล้วก็ยิ้ม
แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันขำ
"ไอ้พวกนี้นิ พูดจาไร้สาระ"
ลีทำตาขวางใส่ทุกคน แล้วดึงเก้าอี้มาชิดกัน พอเขานั่ง เขาก็ฉุดแขนฉันให้นั่งลงข้าง ๆ
"มึงนี่ทิ้งลินให้อยู่คนเดียว อย่างกับลินรู้จักใครงั้นแหละ"
ท็อปว่าให้ลี ส่ายหัวกับเรื่องที่พึ่งตำหนิลีออกไปตามตรง
"กูคุยกับพวกนั้นอยู่นี่หว่า ไม่คิดว่าจะเพลิน"
ลีสอดมือเข้ามาจับมือฉัน บีบมันเพื่อเป็นการยืนยัน ว่าอะไรสักอย่าง ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง
"โทษทีนะครับ"
ลีมันอ้อนตีนฉันชัด ๆ ฉันทำตาดุใส่มัน
"เลิกแล้วก็เลิกขาด ยืนให้มันกอดแขนเอานมถูไถอยู่ ถ้ากูเป็นลินนะ กูเดินเข้าไปตบมึงแล้ว"
ท็อปยังไม่เลิกตำหนิ ทั้งที่ฉันไม่ได้คิดจะพูดอะไรออกไป ปล่อยให้เพื่อนเขากัดกันเอง
"ตบมันเลยลิน"
ท็อปยังไม่จบ เขากำลังยุแยงฉันอยู่ ลีมองตาขวางกว่าเดิมส่งให้ท็อป แต่ท็อปลอยหน้าลอยตา อ้อนภรรยาไปอย่างไม่สนใจลี
"ตบดิ"
ลีเอียงแก้มมาใกล้กับใบหน้าของฉัน
"อย่าเล่น คนมอง"
ไม่ใช่แค่โต๊ะเราที่มอง โต๊ะที่ลีลุกออกมา นั่นยิ่งมอง
โดยเฉพาะ 'ตาล' มองอย่างกับโกรธแค้นกัน
"ลี..... "
ฉันกระซิบเสียงดุ เพราะลีโอบเอวฉัน แล้วเอาคางมาเกยไหล่ ไม่เกรงใจสายตาใครที่ส่งมาเลย ทำอะไรไม่เคยปรึกษากันก่อน
ฉันอาย...
"ยืนยันคำเดิม เจ้าสาวของกูก็คือมึง ตาลมันก็แค่เคยคบ แต่ไม่คิดจะเอา เข้าใจนะลิน"
ฉันรู้สึกว่าลีมองใบหน้าด้านข้างฉันตลอดการกระซิบบอก
เข้าใจแล้ว เข้าใจดีเลยล่ะ
"ยิ้มได้แล้ว โชคดีแล้วทูนหัว มีผัวน่ารักขนาดนี้"
กำลังซึ้งนะคะ แต่จังหวะนี้ ขออนุญาต 'เกลียด'
ผัวะ!!!
ฝ่ามือบางแสกกลางหน้าผากลีเกือบเต็มแรง
"เอ้าตีกันแล้ว"
ทายสิว่านี่เสียงใคร ถ้าไม่ใช่ท็อปจอมยุยง
"น่ารัก"
ลีลูบผมฉันเบา ๆ น่ารักบ้าอะไร โดนฟาดแล้วผีออกเลยรึไง
"มึงนี่มันวอนจริง ๆ นะลี"
ฉันชี้หน้าลีอีกครั้ง เพื่อให้ลีเลิกก่อกวนให้เสียอาการสักที
รอยยิ้มที่ลีส่งกลับมาให้ มันไม่มีท่าทีสลด
มีแต่จะริเริ่มความอับอาย ให้กลายเป็นขัดเขินมากเพิ่มขึ้นอีก