ตั้งแต่ฉันเกิดมายังไม่เคยพบเคยเจอใครที่หน้าหนา หน้ามึนและน่าตายได้เท่าผู้ชายคนนี้มาก่อนเลย!
“ปล่อย!”
“ฮึ เลิกอาละวาดก่อนแล้วฉันจะปล่อย” มือหนาเพิ่มแรงกดบนเอวฉัน มันทำให้ตัวฉันโถมทับเขามากกว่าเดิม นี่ขนาดในรถแท้ ๆ นะ ทั้งที่มีเกียร์กั้นกลาง แต่เขาก็ยังอุตส่าห์หาเรื่องฉวยโอกาสกับฉันได้
“เข้าใจแล้ว! ปล่อยสักที!” ฉันสะบัดมือออกจากแขนเขาแล้วผลักดันตัวเองออกจากวงแขนแกร่ง เสือพยัคฆ์ยอมปล่อยโดยง่าย พอกลับมานั่งที่เบาะตัวเองเรียบร้อย หันมองเขาด้วยสองคิ้วขมวด “มีอะไรก็รีบ ๆ ถามมาสิ ฉันไม่ได้มีเวลาว่างทั้งวันเหมือนนายนะ”
วันนี้เตี่ยกลับเร็วซะด้วย ขืนฉันกลับบ้านช้าเหมือนเคยล่ะก็… มีหวังบ้านแตกอีกแน่ ๆ
“เธอคิดยังไงกับฉัน?”
หะ… เมื่อกี้เสือพยัคฆ์ถามฉันว่าไงนะ?
สองคิ้วขมวดแน่นกว่าเดิม ทว่าคราวนี้ไม่ใช่รำคาญแต่กำลังสงสัย
“ฉันถามว่าเธอคิดยังไงกับฉัน ความรู้สึกอ่ะ” เขาถอนใจแรง ๆ แล้วถามใหม่ ฉันมุ่ยหน้าหน่อย ๆ ไม่คิดว่าเขาจะถามอะไรแบบนี้ เพราะน่าจะรู้คำตอบของฉันดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
“เกลียดไง ไม่น่าถาม” ฉันตอบโดยไม่คิดเยอะ
“อะไรวะ ฉันไปทำอะไรให้เธอนักหนา ทำไมถึงเกลียดวะ?” เสือพยัคฆ์หันมาจ้องตาฉันอย่างไม่พอใจกัน
อะไร? นี่เขางอแงกับคำตอบฉันงั้นเหรอ?
“ต้องให้ฉันตอบด้วยเหรอ นายทำอะไรกับฉันไว้ก็น่าจะรู้ดีแก่ใจป่ะ โตแล้วหัดคิดเองบ้าง” ตั้งแต่ฉันเจอเขา เคยมีครั้งไหนบ้างที่เขาไม่ทำเรื่องน่าตายใส่ฉัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องเมื่อสองปีก่อนเพราะเขาจำฉันไม่ได้ ถ้ารวมเรื่องนั้นด้วย พูดเลยว่าเขามันสมควรตายที่สุดแล้ว!
“ฉันทำอะไรเธอวะ หรือเพราะฉันจูบเธอ?”
“ไม่ใช่แค่จูบป่ะ แต่นายจะปล้ำฉันด้วย!” ฉันแว้ดเสียงใส่ ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่กับเสือพยัคฆ์ฉันไม่เคยสงบนิ่งได้เลย ร้อนเป็นไฟตลอด เขามักจะทำให้ความเย็นชาของฉันถึงจุดเดือดทุกครั้ง!
“เรื่องนั้นมันเพราะเธอท้าทายฉันนี่ แล้วเธอก็รู้ว่าฉันมันเสือนักล่า มีเหยื่อน่าขย้ำมาอยู่ตรงหน้าซะขนาดนั้น เธอรอดมาได้ก็บุญแค่ไหนแล้ว”
ฉันหันขวับถลึงตาใส่ทันที นี่เขากำลังทวงบุญคุณฉันอยู่หรือเปล่า? ฉันต้องขอบคุณเขาไหมที่วันนั้นเขายอมปล่อยฉันน่ะ!
“ช่างเหอะ! นายจะคิดยังไงก็ช่าง ฉันตอบนายแล้ว เอาโทรศัพท์คืนมาได้ยัง?” ฉันแบมืออีกรอบ รู้สึกว่าเราเถียงกันในรถนานพอแล้ว และฉันก็อยากจะรีบกลับบ้านแล้วด้วย
“ฉันจะคืนให้ ถ้าเธอมาคบกับฉัน”
“เลิกบ้าสักทีแล้วคืน… ห๊ะ? อะไรนะ?!” ฉันที่กำลังจะด่าเขาถึงกับต้องชะงักแล้วหันไปจ้องด้วยความตกใจ เมื่อกี้ฉันฟังผิดไปใช่หรือเปล่า? “หนะ… นายพูดว่าไงนะ?”
“ฉันจะคืนให้?”
“ไม่ใช่! หลังจากคำนั้นดิ!”
“ถ้าเธอมาคบกับฉัน?” เสือพยัคฆ์ทวนคำหน้าตาเฉย แถมมุมปากยกขึ้นนิด ๆ คล้ายพึงพอใจ แต่ฉันนี่สิถูกสตั้นไปแล้ว!
ไม่จริงหรอก… คนอย่างเสือพยัคฆ์ไม่มีทางขอคบกับฉันหรอก ที่ผ่านมาเขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแต่ไม่เคยเห็นคบกับใครจริงจังสักคน ไม่มีใครเคยได้อยู่ในสถานะแฟนของเขา ฉันยังเคยคิดเลยว่าคน ๆ นี้ต้องเสเพลขนาดไหนถึงไม่คิดจะจริงใจกับใครเลยสักคนแบบนี้
แล้ว… แล้วนี่มันคืออะไร? เขาคิดจะปั่นหัวฉันงั้นเหรอ?
“ไม่ตลกเลยนะเสือพยัคฆ์ ฉันไม่ว่างเล่นกับนาย ฉันจะกลับบ้านแล้ว” ฉันตัดใจจากโทรศัพท์แล้วหันจะเปิดประตู ทว่าเสือพยัคฆ์เร็วกว่า เขาพุ่งตัวข้ามฝั่งมาจับที่เปิดประตูเอาไว้ พอหันมองก็เจอกับใบหน้าหล่อร้ายที่อยู่ใกล้ในระยะประชิด “จะ… จะทำบ้าอะไร ถอยออกไปนะ!”
ฉันรู้สึกพ่ายแพ้จริง ๆ ตอนนี้แม้แต่เสียงก็เริ่มสั่นไปหมดแล้ว เสือพยัคฆ์กำลังเอาจริง แววตาของเขาไม่โกหก เขาคิดอยากจะคบกับฉันจริง ๆ งั้นเหรอ นี่มันตลกสิ้นดี ฉันไม่มีทางคบกับเขาแน่!
“เธอกำลังกลัวเหรอขิม ทำไม? คบกับฉันมันไม่ดีตรงไหน?”
ทุกตรงนั่นแหละ!
ฉันกัดฟันตอบในใจ ไอร้อนจากร่างกายเขาแผ่เข้ามาจนฉันสัมผัสได้ ลมหายใจติดกลิ่นบุหรี่อ่อน ๆ ลอยวนในอากาศ
ใจเย็นไว้สายขิม… เขาก็แค่ปั่นหัวแกเท่านั้น อย่าไปหลงกลเด็ดขาด!
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายคิดจะทำอะไร แต่ฉันจะไม่ยอมให้นายมาปั่นหัวกันเล่น ๆ เหมือนผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด”
“ใครบอกว่าฉันเล่น?” มือหนาปล่อยออกจากที่จับประตูแล้วเลื่อนมากุมมือฉันบนตักแทน สัมผัสอบอุ่นบนหลังมือทำฉันตื่นตระหนกหน่อย ๆ “แล้วเธอก็ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นด้วย ไม่รู้ตัวเหรอขิม”
น้ำเสียงของเขานุ่มละมุนอยู่ข้างใบหู หากเป็นตัวฉันเมื่อสองปีก่อนคงหลงเคลิ้มไปกับเขาแล้ว แต่ใช้ไม่ได้กับฉันในตอนนี้
พรึ่บ
“เลิกล้อเล่นสักที! ฉันไม่ใช่ของเล่นแก้เบื่อของนายนะ! อย่ามายุ่งกับฉัน!” ฉันผลักเขาสุดแรงจนร่างสูงเสียหลักกลับไปนั่งเบาะตัวเอง อาศัยจังหวะนั้นเปิดประตูวิ่งลงจากรถมา รีบโบกแท็กซี่ข้างทางแล้วขึ้นรถทันที ช่วงที่รถแท็กซี่ขับผ่านรถของเสือพยัคฆ์ ฉันเห็นเขายังคงนั่งนิ่งอยู่ท่าเดิมในรถ สีหน้าเขาเหมือนกำลังอึ้ง กว่าเขาจะได้สติก็ตอนที่เราสบตากันผ่านกระจกรถแล้ว
เกินไปแล้ว… เขาเล่นตลกกับฉันเกินไปแล้วจริง ๆ!