bc

BELOVED รักร้ายพ่ายสวาท

book_age16+
369
FOLLOW
1.0K
READ
playboy
goodgirl
comedy
sweet
bxg
coming of age
first love
sassy
virgin
shy
like
intro-logo
Blurb

ผมหลงรักผู้หญิงข้างห้อง เธอน่ารัก กวนประสาทเก่ง แต่เอาใจก็เก่ง

จากผู้ชายรักษาซิงของตัวเองอย่างผมที่ไม่เคยสนใจเรื่องความรักเลย

กลับหัวใจสั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้เธอ

“ถามจริง นายยังซิงอยู่จริงๆเหรอ?”

เธอถามผมเป็นร้อยรอบด้วยความสงสัยจนผมอายที่จะตอบ

ทำไมครับ ผู้ชายยังซิงมันแปลกมากเหรอ?

“เธออยากซิงแลกซิงกันหน่อยปะล่ะ?”

“ไม่ล่ะ กลัวนายทำไม่เป็น”

ดูถูกกันเข้าไป เอาไว้จะทบต้นทบดอกทีเดียวให้ลุกจากเตียงไม่ไหวเลยคอยดู!!

chap-preview
Free preview
BELOVED 01
[ข่าวร้อนประจำวันนี้นะครับ คุณยายวัยเจ็ดสิบปีถูกคนร้ายกระชากสร้อยคอ แต่โชคดีที่คุณตาผู้เป็นสามีของคุณยายนี่นะฮะได้เห็นเข้าซะก่อน เลยโยนเศษกระถางต้นไม้ที่แตกใส่คนร้าย และโดนบริเวณขาพอดีทำให้คนร้ายหยุดวิ่ง ประเด็นสำคัญคือสร้อยคอที่คนร้ายกระชากไปมันคือสายคล้องแว่นครับ ไม่ใช่ของมีมูลค่าอะไรเลยแค่มีสีทองเท่านั้น ท่านผู้ชมต้องคอยระวังกันด้วยนะครับ โชคไม่ได้เข้าข้างเราเสมอไป อาจจะไม่โชคดีเหมือนคุณยายที่มีคุณตาเป็นอัศวินช่วยได้ทันเหมือนคราวนี้....] “ทำไมเมืองไทยน่ากลัวแบบนี้ แม้แต่สายคล้องแว่นก็ต้องกระชากกันด้วย แล้วฉันจะอยู่อย่างปลอดภัยไหมเนี่ย ถ้าเจออัศวินกับเขาบ้างก็คงดีสิ” ฉันชื่อป๊อกกี้ ปัทยา เรณุโยธิน สาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส แต่ฉันพูดไทยได้นะก็คุณพ่อฉันเป็นคนไทยน่ะ และเนื่องจากฉันต้องมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย ที่จริงฉันเรียนจบจากฝรั่งเศสแล้วด้วยซ้ำ แต่ฉันอยากรู้อยากลองใช้ชีวิตแบบคนปกติบ้าง บ้านฉันประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ การบิน ก็ไม่รวยเท่าไรหรอกนะแค่เป็นเจ้าของสายการบินเท่านั้นเอง (แอบเบะปากใส่) ชีวิตฉันน่ะสุขสบายเกินไปแล้ว พอเรียนจบมาคุณพ่อก็ให้นั่งให้นอน อยู่บ้านใช้เงินอย่างเดียว ฉันเลยหาข้ออ้างหนีชีวิตแบบนั้นมาอยู่นี่ โดยอ้างว่าจะมาเรียนเก็บเกี่ยวประสบการณ์เกี่ยวกับการบินที่เมืองไทยหนึ่งปี เนื่องจากประเทศไทยมีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมการบินได้ก้าวกระโดดมาก ฉันให้คำมั่นสัญญากับคุณพ่อไว้ว่า จะมาช่วยคุณพ่อบริหารกิจการ คุณพ่อจึงยอม แต่มีข้อแม้ว่าต้องมาเรียนรู้การบริหารการบินจากมหาวิทยาลัยของเพื่อนคุณพ่อ ทุกอย่างเป็นไปตามคาด ฉันได้มาเมืองไทย มาเรียนมหาวิทยาลัยการบินชื่อดังโดยเส้นสายของคุณพ่อ ได้มาเป็นนักศึกษาชั้นปี ที่สี่ สมใจ คุณพ่อซื้อคอนโดที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากให้ฉันอยู่ ฉันเป็นลูกครึ่งไทยก็จริงแต่ไม่มีญาติอยู่นี่เลย ก็ตั้งแต่คุณย่าเสียไปเมื่อสองปีที่แล้ว คุณป้าและคุณน้าก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศกันหมด บ้านที่ไทยก็ขาย และตอนนี้ฉันอยู่เมืองไทยแล้ว มีอย่างหนึ่งที่ฉันอยากทำ คือ ฉันอยากเข้าผับ มันอาจจะฟังดูไร้สาระนะ แต่ฉันอยากเข้าจริงๆอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง ตอนอยู่ฝรั่งเศสน่ะคุณพ่อฉันหวงยิ่งกว่าอะไร พอฉันขอไปผับนะคุณพ่อก็จะไปด้วย แล้วใครมันจะกล้าไปล่ะ สุดท้ายก็ไม่เคยได้ไป ได้แต่ดื่มไวน์อยู่บ้าน แหงนมองนาฬิกาก็ปาเข้าไปสามทุ่ม หึๆๆ ได้เวลาสนุกแล้วสิ ฉันจัดการแต่งตัวสวยด้วยชุดเดรสเกาะอกสีบานเย็น รองเท้าส้นสูงปรี๊ด แต่งแต้มหน้าพอประมาณแล้วขับรถมายังผับที่อยู่ใกล้ๆคอนโด ฉันเตรียมตัวมาดีนะจะบอกให้ ถึงฉันจะไม่เคยกินเหล้าแต่ฉันก็เคยกินไวน์นะ มันก็คงคล้ายๆกันนั่นแหละ แค่เปลี่ยนสถานที่จากที่บ้านมาเป็นในผับเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องเต้นน่ะฉันหาดูจากยูทูปเรียบร้อยแล้วด้วย ท่าที่วัยรุ่นไทยเต้นตอนสงกรานต์น่ะนะ ฉันฝึกมาอย่างดี “เอาล่ะ ถึงแล้วป๊อกกี้ วันนี้ฉันจะดิ้นให้สุดเหวี่ยงไปเลย” ฉันจอดรถเป็นที่เรียบร้อย แต่ตอนกำลังเดินสายตาดันเหลือบไปเห็น ผู้ชายคนหนึ่งยืนทำอะไรสักอย่างอยู่ริมถนนใกล้ๆที่จอดรถ ดูยังวัยรุ่นอยู่เลยนี่ แล้วมายืนทำไมตรงนี้จะล้มไม่ล้มแหล่แล้ว ฉันเข้าไปดูหน่อยดีกว่าเผื่อเป็นอะไรจะได้ช่วยทัน “เห้!!” “เห้ยยยยยยยย ยัยบ้า!!!” ตะเถร..มาตกใจฉันทำไมเนี่ย โอ้วพระเจ้า...ผู้ชายคนนี้หน้าหวานอย่างกับผู้หญิง สีผิวไม่ได้ขาวมาก จมูกโด่ง น่ารักดีจัง “อุ้ย น้ำอะไรเนี่ย” ฉันมัวแต่หลงใหลกับหน้าตาของเขาจนมารู้ตัวอีกทีกระโปรงเดรสของฉันก็เปียกเป็นทางแล้ว ว่าแต่มันคือน้ำอะไร ฝนก็ไม่ได้ตก “อย่า!! เธอจะดมทำไม บ้ารึเปล่า” “อ้าว ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าน้ำอะไร นายทำน้ำหกใส่ฉันเหรอ?” “เอ่อ..คือว่า... มันเป็นน้ำฉี่ฉันน่ะ” เหมือนโลกหยุดหมุนชั่วขณะ ฉันงงเป็นไก่ตาแตก ทำไมมีการฉี่ข้างเสาไฟฟ้าแบบนี้ได้ล่ะ ตำรวจไม่จับ? ปกติมีแต่สุนัขไม่ใช่เหรอที่ยืนฉี่ข้างเสาไฟฟ้าน่ะ เอ๊ะ หรือเป็นปกติใครๆก็ทำกัน “เธอๆ!! เป็นอะไรรึเปล่า ทำหน้าเป็นปลาทองอยู่ได้” “นี่ๆ นายน่ะ ฉันถามอะไรหน่อยสิ คือปกติฉี่แบบนี้ไม่มีใครว่าเหรอ?” “ก็ไม่นี่ ใครเขาก็ทำกัน มันง่ายๆดีอะ ปวดก็ปล่อย หาที่หลบมุมซะหน่อยเป็นพอ” “เหรอ ดีจัง” “ห้ะ..อะไรของเธอ ไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวละกัน” ไหนๆวันนี้ก็จะลองเข้าผับครั้งแรกแล้ว มาลองฉี่ข้างเสาไฟฟ้าครั้งแรกบ้างจะเป็นอะไรไป นายนั่นทำได้ฉันก็ทำได้ ว่าแต่หญ้าที่พื้นมันจะไม่บาดอะไรๆของฉันใช่ไหม? SNOW TALK ได้เวลาแนะนำตัวแล้วสินะครับ ผมชื่อสโนว์ ศิราภัคร อมรเมธากุล อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษาปีที่สี่ เรียนจบไปก็มาช่วยพ่อบริหารมหาวิทยาลัย อ่อ พ่อผมเป็นเจ้าของมหาวิทยาลัยที่ผมเรียน มหาวิทยาลัยการบินน่ะครับ ผมมีพี่ชายอยู่ 1 คน ชื่อพี่เรน ตอนนี้เป็นครูฝึกแอร์โฮสเตสอยู่ประเทศคูเวตให้กับสายการบินชื่อดัง น่าตลกชะมัด แมนซะเปล่าดันไปสอนแอร์โฮสเตส แต่รายได้ดีมากเลยนะครับ นานๆจะกลับมาไทยสักที วันนี้น่ะผมเจอผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาโคตรแบ๊ว ก็..น่ารักดี ผมยืนฉี่อยู่เธอก็มาเรียกเสียงดัง ผมตกใจเลยหันไปดู ฉี่ก็ตวัดโดนชุดเธอ คือผมก็ไม่ได้ตั้งใจนะ ยัยนั่นแหละทะเล่อทะล่าเข้ามาเอง แต่เดี๋ยวก่อน ถ้ามีสาวๆ รู้ว่าผมมายืนฉี่ข้างเสาไฟฟ้าเรตติ้งผมต้องตกแน่ ผู้ชายหล่อและฮอตอย่างผมยอมไม่ได้ “เห้ยยยย อะไรวะนะ” เมื่อผมคิดได้ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความลับผมก็หันหลังเดินกลับมาเพื่อจะไปเจรจากับเธอ แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ...เธอนั่งฉี่อยู่ข้างเสาไฟฟ้า!! ให้ตายเถอะเกิดมาไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนบ้าบิ่นขนาดนี้ ชักจะกล้าเกินไปแล้ว ว่าแต่ก้นยัยนี่ขาวชะมัด ดูเต็มไม้เต็มมือดีจัง “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นะยัยเพี้ยน!!!” ผมสั่งเธอให้ลุกพร้อมกับฉุดแขนเธอขึ้นมาแต่เธอกลับสะบัดจนหลุด แล้วยังมาทำหน้าหงุดหงิดใส่ผมอีก อะไรวะ นี่ผมหวังดีนะโว้ย ลองคิดดูถ้าเป็นคนอื่นจะมาบอกให้เธอลุกหรือจะฉุดเธอเข้าดงหญ้า เธอโชคดีแค่ไหนแล้วที่มาเจอผู้ชายหล่อและนิสัยสุภาพบุรุษแบบสโนว์ อะโด่ว... “เดี๋ยวๆ ยังฉี่ไม่สุดเลย” ช็อคเลยครับ... แทนที่จะรีบลุก นี่ยังนั่งเย้ยฟ้าท้าดินอยู่อีก! “อะๆ เสร็จแล้ว ตื่นเต้นดีชะมัดเลยฉี่แบบนี้ มีอะไรว่ามาสินายน่ะ” เธอลุกขึ้นมาจัดองค์ทรงเครื่องตัวเองเสร็จสรรพจึงหันหน้ามาเผชิญกับผมตรงๆ คือยัยนี่มันเป็นคนหรือตุ๊กตาวะทำไมหน้ามันแบ๊วขนาดนี้ เล่นเอาผมประหม่าเลย “คือฉันจะมาบอกเธอว่า ห้ามเธอบอกเรื่องที่ฉันฉี่ข้างเสาไฟฟ้าและฉี่ใส่เธอให้ใครรู้เด็ดขาด ฉันอายเขา แล้วเธออยากได้อะไรเป็นค่าปิดปากว่ามาเลย เงินกี่บาทฉันจะให้” “ชื่อนายฉันยังไม่รู้เลย ส่วนเงินฉันไม่เอาหรอก ฉันรวยอยู่แล้วน่ะ” จะมาอวดรวยใส่ผมว่างั้น? “ฉันก็รวยมากนะไม่อยากจะพูด” “เอ้า ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูดสิ แล้วจะมาบอกฉันทำไม” “เธอนี่มัน...” “นี่ เอาไลน์นายมาสิ ฉันคิดค่าปิดปากออกจะบอกละกัน นายชื่ออะไรฉันจะได้เรียกถูก” “สโนว์” “ฉันชื่อป๊อกกี้นะ” “ฉันถามเธอเหรอ ไม่ได้อยากรู้สักหน่อย” “ก็แล้วแต่..” ผมว่าเธอชักกวนตีนผมละ เมื่อแลกไลน์อะไรกันเสร็จผมก็หันหลังเดินมาทันที ในหัวก็คิดอยู่ว่าจะจีบเธอดีไหม คือก็น่ารักดีอะ ชอบ แต่ดูจะเพี้ยนๆ ผมน่ะควงผู้หญิงไปเรื่อยแหละไม่ได้คิดจริงจังอะไร ผมยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะนะ “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!!!” เมื่อเหลียวหลังไปมองตามเสียงก็พบว่าเธอโดนโจรวิ่งราวกระเป๋า ผมจึงวิ่งตามคนร้ายไปจนทัน แต่กว่าจะทันก็เล่นเอาหอบอยู่เหมือนกัน ไอ้โจรห่านี่วิ่งเร็วชะมัด กว่าจะถึงระยะที่สามารถกระโดดถีบกลางหลังได้นี่วิ่งไปเกือบกิโล แล้วกว่าจะซัดมันให้หมอบได้อีกนี่ก็หลายหมัด ดีที่มันไม่มีอาวุธ ผมเดินถือกระเป๋ากลับมาคืนเธอด้วยท่าทางหล่อเหลาสุดๆ แต่เธอกลับก้มหาอะไรอยู่ที่ข้างทางสักอย่าง อะไรวะ แทนที่จะหันมาสนใจผมนะเว้ย “นี่ กระเป๋าเธอ แล้วหาอะไรอยู่” “โอ้ว..อัศวินของฉัน ฉันหาเศษกระถางต้นไม้อยู่น่ะ แต่ขอบคุณนายมากนะ” จุ๊บ เหวอ...ผมนี่เหวอไปเลย อยู่ดีๆก็กระโดดมาจุ๊บปากผม อ่า ให้ตายเถอะใจผมเต้นแรงชะมัด เธอวิ่งเข้าผับไปแล้วปล่อยให้ผมยืนงงอยู่กับที่ นี่ถ้าผมไม่ออกมาคุยโทรศัพท์ก็คงไม่เจอเธอสินะ ถ้าผมไม่เดินไปฉี่ตรงนั้นเธอก็คงไม่เดินมาทักผม ต่อมา... “เห้ย..พวกมึงดูยัยนั่นดิ เต้นตลกชะมัด อย่างกับนกเป็นสันนิบาตเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” ไอ้บอสเพื่อนผมมันพูดขึ้นมาอย่างเชิญชวนให้หันไปมอง ในเวลานี้ผมไม่มีกระจิตกระใจจะหันไปมองอะไรเพราะยังคงมีอาการเหนื่อยอยู่ นิดหน่อยและในหัวก็คิดถึงแต่หน้าเธอที่ชื่อป๊อกกี้อะไรนั่น “ฮ่าๆๆๆๆ เออ ตลกว่ะ แต่หุ่นน่าขย้ำดีนะ” “หน้าตาก็น่ารักดีนะเว้ยยย เห็นแล้วน้ำเดินเลยว่ะ” ไอ้วินและไอ้ท็อปคุยกันออกแนวทะลึ่งตามภาษาผู้ชาย ที่เมื่อแอลกอฮอล์เข้าปากก็มักจะพูดเรื่องลามกได้อย่างไม่เขินอาย ซึ่งพวกมันก็มักจะเป็นแบบนี้ประจำ “เห้ย ไอ้สโนว์ มึงไม่หันไปมองหน่อยเหรอวะ น่ารักดีนะเว้ย หน้าอย่างกับตุ๊กตา แต่ดูท่าจะเมาจัดเลยล่ะ” “ไม่อะ” “มึงนี่ไม่สนใจผู้หญิงแบบนี้เมื่อไรจะได้เปิดซิงวะ” มันอาจจะดูเป็นเรื่องตลกนะที่ผมยังซิง แต่มันเป็นเรื่องจริงนะครับ ผมโตมาจนอายุ 22 ปียังไม่เคยได้อึ๊บสาวที่ไหนเลย เคยควงสาวตั้งหลายคนแต่พอถึงเวลาแบบอย่างว่ามันก็ไม่อยากทำขึ้นมาดื้อๆก็แต่ละคนดูโชกโชนเกินไป พรหมจรรย์อันมีค่าของผมต้องคู่ควรกับสาวที่บริสุทธิ์เหมือนกัน อาจจะเป็นความคิดบ้าบอ แต่ผมคิดแบบนี้จริงๆนะ “ชุดสีบานเย็นแทบจะหลุดจากอกเลยว่ะ เต้นสะบัดปานนั้น แหม่ นมแทบทิ่มหน้าเลยครับ” ชุดสีบานเย็นงั้นเหรอ? คงไม่ใช่ยัยนั่นหรอกมั้ง ยัยป๊อกกี้นั่นดูท่าทางคุณหนูจะตายไม่น่าจะมาเต้นแร้งเต้นกาเป็นสันนิบาตแบบที่ไอ้พวกนี้ว่า “เธอเดินมาทางนี้แล้วว่ะ อย่าเรียกว่าเดินเลย เรียกว่าคลานมาจะดีกว่า ท่าทางเมามาก” “ป๊อกกี้!!!!!!!!!” สุดท้ายผมก็หันไปมองตามที่ไอ้วินบอก แล้วก็เป็นเธอจริงๆ ว่าแต่นั่นมันท่าเต้นแบบไหนกันวะ แมงมุมเหรอ คลานไปก็ขย่มหลังไป คลานมาแบบนี้มันเห็นนมอะ ขาวชะมัดเลยแฮะ พรึ่บ!!! “เห้ย!!! พวกมึงไปช่วยกันเร็ว ไอ้บอสไอ้วิน เธอฟุบไปแล้ว” “ไม่ต้อง!!! กูจัดการเอง กูรู้จักยัยนี่” ผมอาสาจะช่วยเหลือเธอเองเพราะอะไรผมก็ไม่รู้ แต่ผมอยากช่วย ผมอุ้มเธอเดินออกมาจากผับเพื่อจะพาเธอไปยังรถของผม “ไอ้สโนว์รอเดี๋ยว! กระเป๋าเธอน่ะ กูเดินไปหยิบที่โต๊ะมากะจะบอกเพื่อนเธอให้มาดูแต่ก็ไม่เจอใครสักคน ถามโต๊ะข้างๆก็บอกว่าเธอมาคนเดียวว่าแต่มึงจะพาไปไหนวะ” “ไม่รู้ว่ะ คอนโดกูมั้ง” “ชอบใช่ไหมล่ะมึง ถูกใจใช่ไหมล่ะครับ ขาวๆอึ๋มๆขนาดนี้” “บ้าน่า กูแค่บังเอิญรู้จักเธอเฉยๆไม่ได้ชงได้ชอบอะไร แต่ก็นะขาวดีจริงๆว่ะ” “เออๆ ทำเป็นพูดไป เดี๋ยวตกหลุมรักไม่รู้ตัวนะเว้ยยยย” “อย่างกูจะมีใครได้วะเล่นมีคู่หมั้นผูกคอแบบนี้ พูดแล้วก็ฉุนคุณปู่ ฉิบเป๋งเลยว่ะ ช่างเหอะ กูไปละนะ หนักอย่างกับแบกตึก”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.7K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.5K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.5K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook