INTRO
หลายสัปดาห์ต่อมา
ผมได้รับเกียรติจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ไม่ใช่สิ ผมได้งานเพิ่ม เป็นอาจารย์บรรยายภาคพิเศษให้กับนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นสถานศึกษาที่เด็กดื้อกำลังศึกษาอยู่ เรื่องคืนนั้นทำให้ผมกับเธอยังไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน ส่วนมากเป็นผมมากกว่าที่เป็นฝ่ายหลบเลี่ยง อยากดัดนิสัยอะไรหลายอย่าง ตามใจจนเคยตัว ผิดที่ผมด้วย วันนี้เป็นอีกวันที่ผมเข้าเวร อยากละจากตรงนี้เหมือนกัน แต่บางครั้งผมรู้สึกว่าเธอก็ไม่อยากได้เวลาจากผม พยายามทำความเข้าใจว่าเรียนแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะผมเคยผ่านมา
"คุณหมอคะ มีแขกมาขอพบค่ะ"
"อีกสิบนาทีผมต้องเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่าตัด คุยได้แค่ห้านาทีครับ " กลับมาใช้ชีวิตตรงเวลาอีกครั้ง ทุกนาทีมีค่า
"พี่หมอ หนูซื้อขนมมาฝากค่ะ " ต้องทำหน้ายังไง หันมายิ้มให้แล้วบอกว่าใส่จานให้พี่เลยครับ หรือว่ายังไงดี รอพี่สามชั่วโมงหรือไม่ก็สี่หรืออาจห้าแล้วเรามากินพร้อมกันดีไหมครับ เฮ้อ....เปลี่ยนไปหมด
"เอาวางไว้บนโต๊ะก่อนก็ได้ พี่จะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว"
"แต่คุณพยาบาลบอกว่ามีเวลาห้านาทีนี่คะ" รู้ดี ก็จริง มีเวลาห้านาทีแต่ผมใช้เวลาห้านาทีกินขนมที่ตัวเองชอบขนาดนั้นไม่ได้หรอก มันต้องใช้เวลาและความละเมียดละไมในการกินค่อนข้างสูง ห้านาทีคงไม่พอ
"ต้องรีบแล้ว ช้าไม่ได้ " เหตุผลอะไรไม่รู้ ฟังไม่ขึ้นเลย ผมก็ว่างั้น เคยปฏิเสธเด็กคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพิ่งเริ่มหัดทำจะเกร็งๆ หน่อย แค่ได้ยินเสียงใสๆ แว่วเข้ามาในหูก็อยากดึงเธอเข้ามากอด ผมทำไม่ได้ ต้องหัดยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง ใจดีมากเกินไปก็เลยทำให้ทุกอย่างวุ่นวายจนเกินแก้ไข
"พี่หมอ หลายอาทิตย์แล้วนะคะ คุยกันได้ไหม " ใช่หลายอาทิตย์แล้ว ที่ความสัมพันธ์ของเราเริ่มห่าง เหินเพราะเรื่องวันนั้นหรือเปล่าก็มีส่วน ในเมื่อพูดกันดีๆ สอนกันดีๆ แล้วไม่ยอมฟัง คงต้องทำแบบนี้
"พี่ว่า พี่พูดไปหมดแล้วนะ ขอตัวนะครับคนไข้รอพี่อยู่ " เป็นคำพูดที่ใจร้ายชะมัด แต่ก็เป็นประโยคที่สวยงามสำหรับหมอคนหนึ่ง เธอน่าจะรู้เรื่องนี้ดี
"พี่หมอ " บีบน้ำตาอีก เฮ้อ ..ผู้ชายร้อยทั้งร้อยแพ้น้ำตาผู้หญิงทั้งนั้น พวกรักเมีย รักมากหวงมากแล้วก็ห่วงมาก บางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีความหมายเมื่อเธอเริ่มพึ่งพาตัวเองได้ โตขึ้นสิ่งแวดล้อมรอบข้างสอนให้เก่งและแกร่ง เธอพยายามทำให้ผมเห็นว่าเธอเก่ง แต่...ในความเป็นจริง ไม่ใช่ เธอเอาตัวไม่รอดหลายเรื่อง โลกภายนอกน่ากลัวกว่าที่คิด
"ถ้าคืนนั้นพี่ไปไม่ทัน คนดีของพี่จะโดนอะไรบ้าง พี่ห้ามไม่เคยฟัง รับปากแต่ก็ทำไม่ได้ ต่อไปนี้..อย่าได้เอ่ยขออะไรจากพี่อีก ขอตัวนะครับ" พูดแรงไปไหม หรือต้องหนักกว่านี้ ไม่อยากทำแบบนี้เลยจริงๆ แต่มันคือบทลงโทษที่เธอควรได้รับ ใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด อย่าเชียวนะสิงห์เหนือ อย่าเดินเข้าไปกอดเมียเด็ดขาด ถ้าเกิดคืนนั้นพู่ไหมเป็นอะไรขึ้นมากำนันซอไม่เอาตายเลยเหรอ พ่อกับแม่ของเธออีก
"พี่หมอ ฮึก หนูผิดไปแล้วค่ะ หนูขอโทษ "
-------------------------------
ไม่ได้ผล น้ำตาไม่ช่วยอะไร ฉันไม่ตั้งใจให้เรื่องเป็นแบบนี้ เพราะความงี่เง่าเอาแต่ใจของฉันเอง รู้แล้วใช่ว่าทำไมทุกคนถึงได้ห่วงเธอนัก เพราะเธอโตแต่ตัวยังไงล่ะ สมองของเธอไม่โตไปด้วยเลย ฉันยืนมองแผ่นหลังของพี่หมอที่กำลังเดินจากไป อยากวิ่งเข้าไปกอดให้หายคิดถึงเหลือเกิน เริ่มรู้สึกถึงเกราะบางๆ ที่พี่หมอสร้างขึ้น ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างเป็นเพราะฉันเอง ฉันเป็นคนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะใจของคนที่รักฉันมากที่สุด ...พี่หมอเกลียดหนูแล้ว
"คงต้องกลับไปกินคนเดียวสินะ " หลังจากพี่หมอเดินออกไป ฉันก็นั่งมองถุงขนมของโปรดพี่หมออยู่นาน กลับคอนโดตอนนี้ก็ต้องอยู่คนเดียวจนถึงตีสอง หรือไม่ก็ตีสามตีสี่ตีห้า พี่หมอรับเคสหนักแทบทุกวันต่างจากเมื่อก่อนกลับบ้านสี่โมงเย็น มีเวลาว่างทำกิจกรรมด้วยกันหลายอย่าง อยู่ดีๆ น้ำตาขอก็ไหลออกมา
"เหอะ สมควรแล้วพู่ไหม พี่หมอรัก พี่หมอหวง ทำไมถึงไม่เข้าใจบ้างนะ " ฉันหยิบถุงขนมขึ้นมา จากนั้นก็ลุกเดินออกจากห้อง ยอมรับกับสิ่งที่ตัวเองทำ ....
----------
...ซ่า ซ่า
ต้องรีบวิ่งหาที่หลบ ฝนหลงฤดูอยากจะตกก็ตก อากาศแปรปรวนแบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก ฉันกอดถุงขนมไว้แน่นเพราะกลัวว่ามันเปียก น่าจะเละมากกว่าเพราะกอดเอาไว้แน่น ฟ้าเริ่มมืดฝนก็เริ่มตกแรง ที่จริงควรถึงคอนโดนานแล้ว มัวเรื่อยเปื่อยชมนกชมไม้ เป็นไงล่ะฝนตกจนได้
"เฮ้อ รู้แล้วว่าผิด ไม่ต้องซ้ำเติม" กลับช้ากลับเร็วก็ไม่มีผลอะไร เพราะพี่หมอกลับดึกอยู่ดี
ซ่า ครืน
จัดมาให้หมดทั้งฟ้าฝน และลมกระโชกแรง แผ่นดินไหวด้วยก็ดีพู่ไหมรับได้
" ใจร้าย ใจร้ายมาก ทำไมต้องเนี้ยบ ทำไมต้องใส่แว่น ทำไมต้องทำหน้าเรียบเฉย เป็นหมอก็ต้องเข้าเวร เออ เข้าใจแล้วว่าโกรธ ทำไมต้องกลับไปเป็นคุณหมอเหมือนในวันแรกด้วย "
เปรี้ยง!
"ฮื่อ ฟ้าผ่า ฉันรู้แล้วโว้ยว่าฉันผิด " ผ่าลงมาเลย กลางหัวใจได้ยิ่งดี คุณหมอจะได้ผายปอด พี่หมอจะได้มาดูแลเหมือนในวันนั้น
"โหยหาความรักความเมตตา " พู่ไหมเธอเป็นอะไร แค่พี่หมอเมินทำเป็นรับไม่ได้
-------------
"พรุ่งนี้ผมจะเข้ามาตรวจอีกรอบ "
"ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ "
"ไม่เป็นไรครับ หน้าที่ของผมอยู่แล้ว พักผ่อนได้อย่างสบายใจแล้วนะครับ " หมออย่างผมไม่ต้องการอะไรมากนอกจากคนไข้ในมือปลอดภัย สิ่งที่ตามมาคือคำขอบคุณจากญาติพี่น้อง รอยยิ้มและคำขอบคุณของพวกเขาทำให้ผมมีกำลังใจและหายเหนื่อย เมื่อนึกถึงกำลังใจ หน้าของเด็กแสบก็แวบเข้ามาในหัวทันที ไม่รู้ป่านนี้จะหลับหรือยัง
แม่เพลง
-สายเข้า-
สายเรียกเข้าทำผมแปลกใจเล็กน้อย เที่ยงคืนกว่าแล้วแม่เพลงโทรมาทำไม? ทำไมยังไม่นอน
"ครับแม่ "
"หมอ ทำอะไรน้องทำไมน้องตัวเปียกกลับบ้านตาบวมแบบนี้ล่ะลูก " จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจอพู่ไหมคือช่วงบ่าย เธอควรกลับถึงบ้านตั้งนานแล้ว แต่ทำไมเพิ่งถึงบ้านตอนนี้
"แม่ให้น้องเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ เดี๋ยวผมกลับไปอธิบายให้ฟัง ออ กินยาแก้ไข้ดักไว้ด้วย พู่ไหมภูมิต้านทานไม่ค่อยดีอาจป่วยได้ " มัวไปทำอะไรมาทำไมไม่กลับบ้านเลือกกลับไปหาแม่เพลงแทนกลับคอนโด คงโกรธผมแล้วจริงๆ
"หมอ น้องบ่นว่าปวดท้องด้วยนะลูก ขนมที่ซื้อมาก็เปียกหมด บอกจะเก็บไว้กินกับพี่หมอ "
"ครับแม่ อีกยี่สิบนาทีเจอกันครับ "
.... เมียก็คือเมีย จะใจอ่อนไม่ได้เด็ดขาด ....
----------------------------