Chapter.1 ลงมือเอง

1239 Words
"น้องอยู่ไหนครับ " "ข้างบนลูก แม่ให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าวต้มเสร็จพอดีเลยเอาไปให้น้องกินรองท้องก่อนกินยานะลูก " แม่เพลงน่ารักเสมอ รางวัลสำหรับความน่ารักคือการสวมกอด แล้วหอมแก้มทั้งสองข้างฟอดใหญ่ ป๊าไม่อยู่คงเหงา ลูกๆ ก็ไม่ค่อยว่าง ยังดีที่มีพู่ไหมเคยแวะเวียนมาหาบ่อยๆ "ขอบคุณครับที่ดูแลพู่ไหมให้ ขอโทษนะครับที่ต้องลำบากแม่เพลงอีกแล้ว " "อย่าเนี้ยบนักสิคุณหมอ น้องสำนึกผิดแล้ว มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน กลับมาทำงานหนักอีกแล้วใช่ไหม" แม่ก็คือแม่ แม่เพลงเป็นแม่ที่น่ารักที่สุดในโลกเอาใจใส่ผมตั้งแต่เล็กจนโต หอบปัญหามาให้แม่อีกจนได้ แม่เพลงเอ็นดูและรักพู่ไหมไม่ต่างจากยัยแพรเลย ส่วนป๊าก็เชียร์ให้ผมขอพู่ไหมแต่งงานสักที เพราะอยากอุ้มหลานยังทำตามความฝันป๊าไม่ได้เพราะพู่ไหมยังเรียนไม่จบ "ไม่ได้เนี้ยบครับ แค่อยากให้น้องรู้สึกอะไรบางอย่าง ใจดีมากเกินไปก็ไม่ดีนะครับแม่ " "ขึ้นไปหาน้องเถอะลูก น้องคงอยากเจอหมอ " "ขนมล่ะครับ " ได้ยินแม่บอกว่าพู่ไหมมีถุงขนมมาด้วย ต้องเป็นถุงขนมที่ซื้อไปให้ผมที่โรงพยาบาลแน่ๆ เลย "น้องถือขึ้นไปด้วย กินบนที่นอนมดจะขึ้นนะลูก " "ไม่กินบนที่นอนหรอกครับ " แซวตลอดเลย ผมรับถาดข้าวต้มหอมๆ กับน้ำเปล่ามาถือไว้ หวังว่าเด็กแสบคงยังไม่หลับ "แม่ไปนอนก่อนนะ " "ฝันดีครับแม่ อย่าลืมห่มผ้าด้วยนะครับ " "ครับลูก " ----------------------- พอเปิดประตูเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นคือถุงขนมวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงที่มีเด็กดื้อนอนหลับปุ๋ยบนนั้น ผมเดินเข้าไปใกล้ แล้ววางถาดข้าวต้มลง สภาพถุงดูไม่ดีนักข้างนอกเปียกชุ่ม หยิบขึ้นมาดูพบว่ามันกลายเป็นขนมรวมมิตรไปแล้ว รสชาติคงจะดีไม่น้อย "เข้าใจง้อ " ผมยิ้มให้ถุงขนมแล้ววางมันลง ได้ยินแม่เพลงบอกว่าพู่ไหมบ่นปวดท้อง กินข้าวไม่ตรงเวลาชัวร์ จากวันนั้นจนวันนี้สายตาของผมยังมองว่าพู่ไหมเด็กเสมอ เด็กไม่ทันโลก เล่ห์เหลี่ยมมนุษย์ยากเกินบรรยาย เขียนเป็นหนังสือชาตินี้ก็ไม่มีวันจบ ผลัดเปลี่ยนพัฒนาขึ้นมาเป็นความเลวร้าย กลัวจริงๆกลัวว่าวันหนึ่งจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ....พู่ไหม เป็นเมียที่หมอรัก รักมากกว่าชีวิตของหมอเอง ไม่ผิดที่หมอจะใจร้ายดัดนิสัยเด็กดื้อที่หวงและห่วงที่สุด "ไหน ให้หมอดูหน่อยอาการเป็นยังไง " ปวดท้องมากไม่ดีเพราะเธอเคยมีก้อนเนื้อที่ช่องท้องน้อย ถ้าไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพโอกาสกลับมาเป็นมีสูง ผมใช้มือคลำและกดเบาๆ ลงบนหน้าท้องของเธอ ดูเหมือนกำลังปวดอยู่แต่ไม่ยอมลืมตา "พู่ไหม ได้ยินพี่ไหม พู่ไหม ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนเร็วๆ จะได้กินยา" ทำมึนไม่สนใจ หลับตาไม่เนียน แถมยังนอนตัวเกร็งเพราะอาการปวดเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นหมอแล้วอีกไม่กี่ปียังไม่รู้จักวิธีเอาตัวรอดให้ตัวเองเลย กำลังทำให้คนอื่นเป็นห่วงจนแทบบ้า "ถ้ายังไม่ลุก พี่จะกลับเดี๋ยวนี้ " "ลุกแล้วค่ะ โอ๊ย " ตอนลุกรีบเกร็งหน้าท้อง หน้านิ่วคิ้วขมวดเลยเป็นไง ผมรีบเข้ามาประคองจับเธอนอนพิงหัวเตียง ตัวไม่ร้อน วิตามินที่เทคให้ใช้ได้ผลกับร่างกายเธอ "ปวดตรงไหน " "ตรงนี้ค่ะ ปวดมากๆ เลย " "ปวดกระเพาะเพราะไม่กินข้าว รู้ว่าต้องปวดแล้วทำไมไม่กิน " "ไม่ดุได้ไหมคะ หนูกลัว " แบบนี้เหรอดุ ยังไม่รู้สึกเลยว่าดุ เอาอะไรมาตัดสิน "ตอบไม่ตรงคำถาม " "ไม่อยากกินค่ะ " "ทำไมไม่ห่วงตัวเอง ทำให้คนอื่นเป็นห่วงรู้ตัวบ้างไหม " ไม่ชอบเวลาพู่ไหมก้มหน้าแล้วน้ำตาไหลเลย กับคนอื่นเข้มแข็ง กับผมทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้ แล้วผมก็เป็นพวกแพ้ความอ่อนแอเมียตัวเอง อยากเข้าไปกอดแล้วปลอบด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ น่าฟังว่า พี่รักหนูนะคะ ไม่ร้องนะ ...เฮ้อ "พี่หมอด้วยหรือเปล่า พู่ไหมขอโทษนะคะ แค่ไม่อยากกลับบ้าน " "ไม่กลับบ้านแล้วจะไปไหน " "ที่ไหนก็ได้ค่ะ ที่ทำให้พี่หมอสบายใจ พี่หมอไม่อยากเห็นหน้าหนูแล้ว " --------------------------------- "กินข้าวนะ จะได้กินยา "ยังใจแข็งและมีเส้นบางๆ กันเอาไว้ เดี๋ยวเถอะคอยดูจะอ้อนให้ใจอ่อนยวบยิ่งกว่าใยบวบต้มเลยคอยดู สำนวนอะไรไม่รู้คิดเอาเอง "พี่หมอป้อนได้ไหม มือไม่มีแรง " อาการปวดกำลังเล่นงานฉัน พี่หมอรู้ดีเพราะเก่ง จับๆ คลำๆ นิดหน่อยก็รู้ยันลำไส้ใหญ่แล้ว ฉะนั้นพี่หมอจะต้องป้อนไม่อย่างนั้นไม่เป็นอันกินแน่ ช้อนอาจจะหลุดมือเหมือนนางเอกในละครที่กำลังป่วยเอาได้ โรคกระเพาะไม่ใช่โรคเลือดจางฉันคิดอะไรอยู่ "พร้อมจะกินแล้วใช่ไหม" "ค่ะ พร้อมแล้ว " ในที่สุดก็มีคนป้อน ข้าวต้มฝีมือแม่เพลงอร่อยมากฝืนกินจนหมดถ้วยเพราะคนตรงหน้าไม่ยอมหยุดป้อน พอหยุดกินก็พูดว่า..กินเยอะๆ จะได้หายเร็วๆ แค่นี้หัวใจของฉันก็พองโตมากแล้ว หายโกรธสักทีเถอะ อยากกอดแย่แล้ว ------------ "อื้อ หนาว " วันนี้ได้นอนข้างคุณหมอ ไม่เหมือนทุกวันกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตื่นมาก็ไม่เจอหน้าใจร้ายทำกันได้ลงคอไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง ขอเวลากอบโกยบ้าง ทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวไม่เข้าใกล้ กลัวอดใจไม่ไหวล่ะสิ "ห่มผ้าสิ ถีบผ้าออกทำไม " ฉันหรี่ตามองหน้าใสๆ ของคุณหมอแล้วปิดเปลือกตาลงนอนต่อ ...นึกว่าจะกอด ห่มผ้าให้ซะมิดเลย "พี่หมอ " "มีอะไร " คุณหมอแว่นหันหน้ามาหาแล้วลดหนังสือในมือลง น้ำเสียงเฉียบเนี้ยบได้อีก "พู่ไหมอยากให้พี่หมอกอด " "พี่อ่านหนังสืออยู่ " "ทำอะไร " ตกใจใช่ไหม ฉันก็ตกใจที่อยู่ๆ ก็ลุกพรวดออกจากผ้าห่มแล้วขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัวพี่หมอ จะไม่ทนอีกต่อไป ยังไงวันนี้ก็ต้องสำเร็จ "กอดหนูเดี๋ยวนี้เลย ถ้าไม่กอดหนูจะปล้ำ" ครั้งแรกกับการยอมลงทุนปล้ำผู้ชาย แล้วผู้ชายก็ไม่ใช่ใครที่ไหน สามีของฉันเอง "เอาจริง " พี่หมอถอดแว่นออกแล้ววางหนังสือไว้โต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็ใช้มือทั้งสองจับเอวและดึงเข้าหาตัวทำให้ตอนนี้ร่างของฉันเข้าไปใกล้พี่หมอมากกว่าเดิม "จะ จริงค่ะ" "ตะกุกตะกักแบบนี้ กำลังกลัว " "ไม่ได้กลัว " "ไม่ต้องปล้ำพี่ก็ยอม ขอทดสอบวิชาก่อนได้ไหมว่าทำเป็นจริงๆ " "ยังไงคะ" "จูบให้พี่เคลิ้ม ทำได้ไหม " อย่างน้อยๆ วิธีนี้ก็ทำให้เห็นรอยยิ้มพี่หมอ และรู้ความต้องการของฝั่งตรงข้ามอีกด้วย ทำให้เห็นว่าพี่หมอยังต้องการฉันอยู่ "จูบแลกรักนะคะ " "แลกน้ำได้ไหม " ">O<' " -----------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD