บทที่3 เป็นผีก็ไม่แคล้วต้องอกหัก..1

1478 Words
บทที่3 เป็นผีก็ไม่แคล้วต้องอกหัก “พี่ตุลทำอะไรอยู่อะ กังหันเบื่อมากเลยไม่มีคนคุยด้วย พี่น่าจะเห็นกังหันแทนไอ้หมอผีปลอมนั้นนะ กังหันจะได้มีคนคุยด้วย”กังหันนั่งบ่นไปเรื่อยเปื่อย เธอกลับมาหาตุลธรที่โรงพักอีกครั้งเพื่อสืบข่าวของตนเอง “จ่า ได้เรื่องยังไงบ้าง เรื่องสายข่าวของกังหัน” “ยังไม่ได้เลยครับผู้กอง เหมือนจะหายเข้ากลีบเมฆไปเลยหลังจากที่ผู้กองกังหันโดนยิง” “เขาต้องรู้อะไรแน่ๆ เราต้องรีบหาเขาให้เจอ” “นั้นสิ กังหันก็สงสัยเหมือนกัน”กังหันพูดคุยกันคนอื่นประหนึ่งว่าพวกเขาได้ยินเธอ แต่เปล่าเลยเธอคุยคนเดียวทั้งนั้น “จะบอกพี่ตุลยังไงดีกว่าลองไปที่นี่ดู เฮ้อ เป็นผีนี่ชีวิตลำบากแท้ ทำไมถึงจับอะไรไม่ได้เลย” “ผู้กองไม่เคยไปเจอสายข่าวคนนี้กับผู้กองกังหันเลยเหรอครับ” “ไม่เคยเลยจ่า กังหันทำอะไรจะระมัดระวังตัวตลอด” “นั้นใครมาหาผู้กำกับครับผู้กอง ดูน่ากลัวเชียว”จ่าธงถามขึ้นเมื่อเขาหันไปท่าทางน่ากลัวของคนที่มาหาผู้กำกับ “นั้นสิ ไปดูหน่อยดีกว่า”กังหันเดินผ่านประตูเข้าไปยังห้องทำงานของผู้กำกับ นี่คงเป็นเรื่องดีที่สุดตั้งแต่เป็นผีมาคือการไปไหนมาไปไหนก็ได้โดยไม่ต้องกลัวใครเห็น “นายฝากมาบอกว่า ให้คุณทำงานให้มันดีหน่อยอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนั้นอีก” “ผมพยายามเต็มที่แล้ว” “นี่มันเรื่องอะไรกัน”กังหันที่ยืนมองเหตุการณ์ตรงน่าอยู่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมคนที่เข้ามาใหม่ถึงได้ขู่ลุงของเธอ “เต็มที่เหรอ นายเกือบจะโดนจับ แล้วคุณบอกว่าทำเต็มที่แล้ว”ชายชุดดำยังคงขู่กำธรด้วยน้ำเสียงที่เกรี้ยวกราด “ผมว่าผมคงไม่ต้องเตือนคุณอีกครั้งหรอกนะว่าถ้าไม่ทำตามที่สั่ง คุณและครอบครัวจะเจออะไร” “อย่ายุ่งกับครอบครัวผม”กำธรเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง ถ้าไม่ติดว่าไอ้พวกชั่วนี้เอาครอบครัวมาขู่เขาไม่มีทางยอมอยู่ใต้อำนาจของมันแน่ “ถ้าไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อน คุณต้องจัดการเรื่องทุกอย่างที่จะไม่ทำให้นายต้องเดือดร้อนอีก รับเงินไปแล้วก็ทำให้มันดีๆหน่อย”ชายชุดดำเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้กำธรยืนคิดหนักอยู่คนเดียวในห้องที่เงียบสงบ “นี่มันอะไรกันลุง พวกมันเป็นใคร แล้วลุงรับเงินอะไรมา” “โธ่เว๊ย”กำธรใช้มือทุบโต๊ะด้วยความโมโห หญิงสาวที่ไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอเลือกที่จะทำตามสัญชาตญาณความเป็นตำรวจของเธอ ด้วยการตามกลุ่มชายชุดดำไป ถึงแม้เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใครกันแน่ ถึงกล้าเดินเข้ามาในโรงพักแล้วขู่ตำรวจได้ถึงขนาดนี้ “บ้านใครเนี่ยหลังโตเชียว”กังหันตามกลุ่มชายชุดดำจนมาถึงบ้านหลังหนึ่งที่ใหญ่โตพอสมควร “เอาอีกแล้ว เข้าไม่ได้อีกแล้ว มันต้องมียันต์กันผีทุกบ้านเลยรึไง ทำไงดีละ แล้วจะรู้ได้ไงว่าพวกมันเป็นใคร” “กังหัน ยัยผีหื่นอยู่รึเปล่า หายไปไหนของเขา นี่ก็ค่ำมืดแล้ว”วินเซนต์ที่กลับมาถึงบ้านเรียกหาหญิงสาวทันที ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อยเมื่อคิดถึงถุงที่ถือเข้ามาด้วย “ให้ตายเถอะ!!! ยัยผีหื่นทำไมถึงไม่เปิดไฟจะนั่งมืดๆอยู่ทำไม”วินเซนต์ที่เปิดประตูเข้ามายังห้องนอน ต้องตกใจเพราะหญิงสาวดันนั่งอยู่บนเตียง เสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดทำให้หญิงสาวดูน่ากลัวมากกว่าเดิม ไหนจะความมืดแสงไฟสลัวๆจากด้านนอกที่สาดส่องเข้ามา นี่ถ้าเขาเป็นคนขี้กลัวตอนนี้คงหัวใจวายไปแล้ว “ฉันเปิดได้ซะที่ไหน” “แล้วเป็นอะไรทำหน้าเครียดเชียว หรือว่าเธอรู้ตัวคนร้ายที่พยายามฆ่าแม่แล้ว” “ยัง พอดีฉันมีเรื่องต้องคิด เรื่องงานนะ” “ไปสถานีตำรวจมา??” “ใช่ ฉันเจอพวกคนที่น่าสงสัย แต่พอฉันตามไปก็เข้าไปในบ้านไม่ได้อีกตามเคย” “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ก็เหมือนตอนเธอยังเป็นคนนั้นแหละ เธอก็ไม่สามารถเข้าบ้านใครได้ตามอำเภอใจ” “ก็จริงอย่างที่นายพูด” “ออกมาที่ระเบียงสิ” “นายจะทำอะไรเหรอ”กังหันถามด้วยความสงสัย เมื่อเธอเห็นชายหนุ่มถือถังขยะและถุงกระดาษที่เขาไม่แม้แต่จะวางมันด้วยซ้ำ วินเซนต์นำของที่ซื้อมาออกมาตรงระเบียง เขาจ้องมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าที่ทำหน้าสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไร ชายหนุ่มหยิบของที่อยู่ในถุงโยนลงไปในถังที่เขาหยิบออกมาด้วย ก่อนจะหยิบขวดน้ำมันราดลงไป ชายหนุ่มจุดไม้ขีดจากกล่องโยนลงไปในถังอย่างไม่ลังเล เขายิ้มเล็กน้อยให้หญิงสาวตรงหน้า เสื้อผ้าที่หญิงสาวขอบัดนี้ค่อยๆไปอยู่บนตัวของเธอ ตอนนี้หญิงสาวเข้าใจแล้วว่าเขาทำอะไรอยู่ ที่แท้เขาก็เผาเสื้อผ้ามาให้เธอนี่เอง ว่าแต่ทำไมชุดมันแปลกๆจัง “เป็นอะไรไปไม่สวยเหรอ ฉันว่ามันสวยดีออก ทีนี่เธอจะได้ไม่ต้องอายผีตัวอื่นแล้วไง” “ชุดเมดเนี่ยนะ ถามจริงนายโรคจิตป่ะเนี่ย ซื้อชุดคอสเพลย์ให้ฉันทำไม”เธออยากจะบ้าตาย อีตานี่มันต้องเป็นโรคจิตแน่ ทำไมถึงกล้าซื้อชุดนี้มาให้เธอ “ก็ฉันชอบแบบนี้ อีกอย่างเธอก็ไม่ได้บอกว่าจะเอาชุดแบบไหน ฉันเลยเลือกที่ฉันชอบมา” วินเซนต์มองผีสาวที่ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา รูปร่างสมส่วนของกังหันอยู่ในชุดเมดสายเดี่ยวสีดำสั้นประมาณสองคืบ ตรงหน้าอกประดับด้วยเชือกผูกไขว้กันไว้อย่างสวยงาม รอบๆชายกระโปรงประดับลูกไม้เพื่อเพิ่มความเซ็กซี่ปนความหวานให้กับคนสวมใส่ ตรงเอวคอดผูกทับไว้ด้วยผ้ากันเปื้อนลายลูกไม้ผืนบาง ปิดท้ายด้วยถุงน่องสีขาวยางครึ่งน่องกับรองเท้าสีดำเข้ากับชุด รวมๆแล้วเมื่อมันอยู่บนร่างของเธอทำให้เธอดูเซ็กซี่เย้ายวนขึ้นมาในทันที “ฉันอยากจะบ้าตายกับรสนิยมของนาย ไอ้คนหื่นกามโรคจิตเอ๊ย”เธอก่นด่าไอ้คนหื่นตรงหน้าแต่ก็ก้มลงสำรวจตัวเองในชุดที่เขาเผามา “เฮ้อ!! แต่ก็ช่างมัน มองๆไปก็สวยดีเหมือนกันแถมยังเซ็กซี่อีกด้วย ยังไงก็ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว ฉันจะแคร์ไปทำไม”จะว่าไปชุดแบบนี้ในชีวิตจริงเธอคงไม่มีโอกาสได้ใส่เป็นแน่ ใส่ตอนเป็นวิญญาณก็ไม่เลว “มีฉันไงที่เห็น เห็นเต็มสองตาด้วย”พูดไปวินเซนต์ก็มองเรือนร่างงดงามของผีสาวตรงหน้าไป ขาเรียวยาวที่ขาวอมชมพูของเธอนั้นมันน่าลูบไล้ซะจริงๆ “นายเห็นแล้วทำไงได้ ก็ได้แต่มองมั้ยไอ้คนโรคจิต ซื้อมาให้ฉันเองแท้ๆ” “แล้วก็เลิกใช้สายตาหื่นกามของนายมองฉันได้แล้ว ทุเรศจริงๆ”เธอส่งสายตาเขียวไปให้เขา ที่ซื้อมานี่คงเพราะความลามกส่วนตัวล้วนๆเป็นแน่ “แล้วถ้าฉันจับเธอได้ละ”วินเซนต์เดินเข้าหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ เขาค่อยๆ ต้อนเธอเข้ามาในวงแขน “นี่นายจะทำบ้าอะไร”กังหันต้องตกใจเมื่อโดนจู่โจมแบบกะทันหันโดยไม่มีทางหนีที่ไล่ เธอเผลอลืมตัวไปชั่วขณะว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่สามารถจับต้องเธอได้สักนิด แต่ใบหน้าสวยก็ยังร้อนผ่าวด้วยความเขินอายอยู่ดี “ก็เธอบอกว่าฉันได้แต่มอง ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าฉันจับต้องเธอได้หรือเปล่า”วินเซนต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หญิงสาว ลมหายใจรินรดต้นคอขอเธอ ความจริงเขารู้อยู่แล้วว่าจับเธอไม่ได้แต่แค่อยากจะแกล้งเธอเล่นเฉยๆ “ไม่นะไอ้บ้า พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย” เฮ้ออออ เสียงหอบกระหายหลังจากที่กังหันพยายามหลับตาคิดถึงอย่างอื่นเพื่อให้ตนเองออกมาจากไอ้คนลามกนั่น “หึ หมอนี้ชักจะเยอะขึ้นทุกวัน ดีนะที่มาหาพี่ตุลได้ทัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD