“เราได้เบาะแสของสายข่าวผู้กองกังหันแล้วครับผู้กอง”
“จริงเหรอ เขาอยู่ที่ไหน”เสียงของตุลธรที่กำลังคุยกับจ่าธงอยู่นั้นเรียกความสนใจของหญิงสาวให้หลุดออกจากภวังค์
“ที่ชุมชนห่างจากโรงพักไม่มากนักครับ”
“นั้นเราไปหาเขาเลยดีกว่าจ่าธง”
“ผู้กองตุลจะออกไปไหนเหรอ”กำธรที่เดินออกมาจากห้องทำงานของตนเอ่ยถามขึ้น
“เรากำลังจะออกไปหาสายข่าวที่กังหันเคยทำงานด้วยครับท่าน”
“สายข่าวของกังหันเหรอ”กำธรแสดงสีหน้าตกใจเล็กน้อยก่อนจะเก็บอาการไว้ภายในใจ
“ใช่ครับ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ยังไงผมจะจับตัวคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ให้ได้”
“หมายความว่ายังไง คนที่อยู่เบื้องหลัง คุณรู้อะไรมาผู้กอง”กำธรถามขึ้นเมื่อเห็นว่าลูกน้องหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ารู้อะไรมากเกินกว่าที่ตัวเองควรจะรู้
“มันแค่ข้อสันนิษฐานของผมนะครับท่าน ผมเชื่อว่ากังหันไม่ได้โดนลูกหลงแน่ สายข่าวของกังหันคนนี้ต้องรู้แน่ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง”
“แล้วสายข่าวคนนั้นอยู่ที่ไหนละ”
“ชุมชนใกล้ๆนี่เองครับ ผมขอตัวก่อนครับ”พูดจบผู้กองหนุ่ม
กับจ่าธงขอตัวผู้บังคับบัญชาออกไปหาสายข่าวที่ตนกล่าวถึง โดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่าสิ่งที่พูดออกไปนั้นจะนำภัยมาสู่ตน
จะให้พวกนั้นรู้เรื่องไปมากกว่านี้ไม่ได้ กำธรที่เป็นกังวลหากผู้กองตุลธรเจอสายข่าว เขาจะต้องลำบากเป็นแน่ ความลับที่เก็บมา
เนิ่นนานก็จะต้องถูกเปิดเผย
“ตามไปด้วยดีกว่า ขอไปด้วยนะพี่ตุล”กังหันที่ยืนฟังอยู่นานไม่รอช้าที่จะตามผู้กองตุลธรไป
Rrrrrrrrrrrr
“ตามผู้กองตุลไป ถ้าเจอสายข่าวคนนั้นชิงลงมือได้ทันที อย่าให้มันเปิดปากพูดอะไรออกมาได้เด็ดขาด”กำธรสั่งงานคนของเขาให้จัดการกับสายข่าวเพื่อปกปิดความลับอันดำมืดของเขา
“ครับท่าน”
“ทางนี้ครับผู้กอง”จ่าธงเดินนำผู้กองหนุ่มมายังบ้านต้องสงสัย
ก๊อก ก๊อก
“เปิดประตู นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีใครอยู่มั้ย”
“พี่ตุลหลังบ้าน เร็ว เขาจะหนีไปแล้ว”กังหันที่เข้าไปดูสถานการณ์ในห้องก่อน จึงเห็นว่าสายข่าวกำลังจะหนี เธอไม่น่าให้เขาระวังตัวขนาดนี้เลย เธอฝึกสายข่าวคนนี้มากับมือจึงรู้ว่าเขานั้นเก่งมาก ไม่มีใครเคยจับเขาได้นอกจากเธอ
“จ่าธงหลังบ้าน เขากำลังจะหนีแล้ว”ตุลธรรีบวิ่งไปยังข้างบ้านทันที เพื่อพยายามจะดักสายข่าวจากด้านหน้า เขาประเมินสายข่าวคนนี้ต่ำเกินไป ชายหนุ่มกระโดดข้ามกำแพงด้านหลังบ้านออกไปยังป่ารกทึบที่อยู่ติดกำแพงบ้าน
“แฮะ แฮะ หายไปไหนแล้วครับผู้กอง”จ่าธงที่วิ่งตามมาติดๆถามขึ้นด้วยความเหนื่อยหอบ
“หนีไปแล้วจ่า วิ่งเร็วชะมัด กังหันคงฝึกมาดี”
“ไม่น่าเลยเรา รอกังหันฟื้นก่อนนะพี่ตุล เหนื่อยแย่เลย มากังหันพัดให้”กังหันโบกมือไปมาเพื่อพัดให้กับตุลธร
“ดีหน่อยที่ลมพัดเย็นนะจ่า”ตุลธรรู้สึกถึงความเย็นที่กระทบเข้าที่หน้าของเขา
“ลมที่ไหนผู้กองไม่มีเลย กลับกันเถอะครับเดี๋ยวผมสืบที่อยู่ให้ใหม่”
“นี่ก็เลิกงานแล้วผมว่าจะไม่เข้าไปที่ สน. แล้วจ่าธงละจะกลับบ้านเลยมั้ย”
“ก็ดีเหมือนครับ ไม่ได้วิ่งนาน เหนื่อยเหมือนกันนะครับผู้กอง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ไปกันจ่า”เมื่อไม่สามารถตามจับสายข่าวได้ในคราวนี้ทั้งสองจึงกลับไปตั้งหลักตามหาตัวของเขากันใหม่ในคราวหน้า
“รอกังหันด้วย”กังหันยังคงตามตุลธรไป วันนี้เธออยากอยู่กับตุลธร อยากมองหน้าผู้ชายที่เธอแอบหลงรักนานๆ ขอตามไปดูหน่อยแล้วกันว่าเขาเลิกงานแล้วไปทำอะไรต่อบ้าง
ด้านชายปริศนาสองคนที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลาที่มุมมืดที่ไม่มีใครสังเกตเห็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายรายงานผู้เป็นเจ้านาย
Rrrrrrrrrrrrrr
“ท่านครับมันหนีไปได้”
“ตามหามันให้เจอแล้วจัดการมันซะ”เสียงเกรี้ยวกราดจากปลายสายเอ่ยสั่งก่อนที่ทั้งสองจะวางสายไป
“ครับท่าน”
“แยกกันตรงนี้เลยแล้วกันจ่าธง ผมมีคนต้องไปเจอ”
“ใครเหรอครับผู้กอง แหม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวคงเป็นคนสำคัญสินะครับ”
“ครับ”
“อะไร ยังไง อย่าบอกนะว่าพี่ตุลมีแฟน ไม่จริงใช่มั้ย ตั้งแต่เมื่อไร”กังหันที่เอ่ยถามตุลธรประหนึ่งว่าเขาจะได้ยินเธอ แต่ความจริงแล้วเธอก็ยังคงพูดอยู่ฝ่ายเดียว ตุลธรคือชายหนุ่มที่เธอหมายปองแอบชอบมานาน แล้วนี่อะไรเขาแอบไปมีแฟนตอนไหนทำไมเธอไม่รู้
“ไปนะครับจ่าธง”ชายหนุ่มเดินไปยังรถที่จอดอยู่ เขาขับมุ่งตรงไปยังที่นัดหมาย
กังหันที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่ตรงที่นั่งด้านหน้าใกล้คนขับ เธอมองตุลธรที่ขับรถไปด้วยรอยยิ้ม ไหนจะขนมและดอกไม้ที่ชายหนุ่มแวะซื้อมาอีกเมื่อครู่ ทำให้เธอรู้ว่าคนที่นัดหมายคงเป็นคนสำคัญมากกับตุลธร
รถหยุดสนิทหลังขับมาได้พักใหญ่ ตุลธรเดินลงจากรถเข้าไปในตึกของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอจำได้แม่น นี่คือโรงพยาบาทที่ร่างของเธอนอนอยู่
“นี่อย่าบอกนะว่าเจอกันตอนกังหันเข้าโรงพยาบาล ใจร้ายจริง”
“เหนื่อยมั้ยคะวันนี้”พยาบาลสาวสวยเอ่ยถามขึ้นระหว่างเดินเคียงคู่กับตุลธรออกมาจากโรงพยาบาล มุ่งหน้ามายังรถที่จอดอยู่
“ไม่ครับ วันนี้ออกนอกพื้นที่นิดหน่อยก่อนมา แค่เห็นหน้าเค้กพี่ก็หายเหนื่อยแล้ว”
“แหวะ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่ตุลจะเลี่ยนขนาดนี้”กังหันที่นั่งมองเหตุการณ์ของทั้งคู่อยู่ที่เบาะด้านหลังแสดงอาการคลื่นไส้ออกมาหลังจากเห็นการกระทำของตุลธร
“บ้านะพี่ตุล แล้วนี่อะไรคะ”พยาบาลสาวถามขึ้นเมื่อตุลธรยื่นช่อดอกไม้ให้กับเธอ
“เราไปกันเลยดีกว่าพี่หิวแล้ว เค้กอยากกินอะไร”
“อืม กินชาบูดีไหมคะ เค้กอยากกิน”
“ได้เลย เค้กอยากกินอะไรพี่จะพาไปกินหมดเลย”
“จริงเหรอคะ น่ารักที่สุด”สองเสียงของหนุ่มสาวด้านหน้ายังคงคุยหยอกล้อกันอย่างมีความสุข โดยที่วิญญาณด้านหลังได้แต่นั่ง
เบะปากให้คนทั้งคู่
รถเคลื่อนตัวออกจากที่จอด กังหันที่นั่งมองบทสวีทหวานของทั้งคู่ ถึงกับทนไม่ไหวถึงแม้เธอจะหมายปองตุลธรมาเนิ่นนาน แต่ในเมื่อเขามีแฟนที่รักกันขนาดนี้ คงต้องเป็นเธอสินะที่ต้องถอยหลังออกมา เธอคงต้องทำใจให้เลิกชอบตุลธรเพราะเขากำลังมีความสุข เธอจะไปขัดความสุขของคนเธอที่รักได้ไงแม้คนที่เจ็บจะเป็นเธอ แต่อย่างน้อยคนที่เธอรักก็มีความสุข และอีกอย่างตุลธรก็ไม่เคยรับรู้ว่าเธอแอบคิดเกินเลยกับเขามากกว่าที่เขาคิดกับเธอ เฮ้อ!! ไม่คิดเลยว่าฉันจะมาอกหักตอนเป็นผี
“ไปดีกว่า หวานจนเลี่ยน ไม่เห็นใจคนอกหักบ้างเลย”กังหันหลับตานึกถึงบ้านของวินเซนต์แล้วหายวับไปจากคู่ตรงหน้าทันที
หญิงสาวโผล่เข้ามาในบ้านด้วยอาการคอตก เธอไม่นึกเสียใจเลยที่ตุลธรมีแฟนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ เป็นความผิดของเธอด้วยซ้ำที่ไม่บอกความรู้สึกจริงๆให้ตุลธรรับรู้
“เฮ้อ อิจฉาพี่ตุลจังมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว แล้วนี่เราทำอะไรอยู่เมื่อไรจะได้กลับเข้าร่าง”
“เบื่อโว้ยยย”
“จะมาตะโกนเสียงดังอะไรในบ้านคนอื่น”วินเซนต์ที่ได้ยินเสียงตะโกนโวยวายของผีสาว ตะโกนถามกลับทันที
“เรื่องของฉัน”
“หายไปทั้งวันได้อะไรมาบ้างละ”
“ไม่ได้”เธอตอบออกไปเสียงหงอย ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียงหรือพูดคุยกับใครทั้งนั้น
“เป็นอะไร ใครทำให้ผู้กองกังหันหน้างอเป็นปลาทูแม่กลองขนาดนี้”
“เรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่ง”กังหันหันหลังเดินสะบัดตัวเดินขึ้นไปยังห้องนอนของชายหนุ่มแทน
“เหอะ ใครอยากยุ่งเรื่องของเธอกัน จะไปไหนก็ไปเลย”วินเซนต์ที่แอบเคืองหญิงสาวเล็กน้อยที่หาว่าเขาเข้าไปยุ่งเรื่องของเธอ
“ใครสนเธอกัน ออกไปเที่ยวดีกว่า”