บทที่1 ข้อแลกเปลี่ยน
หน่วยปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ สองอาทิตย์ก่อนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
“เราสืบทราบมาว่าพวกมันเริ่มหลอกผู้หญิงให้ไปขายบริการที่ฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น โดยที่มีคนจากทางเราคอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้พวกมัน”จ่าธงกล่าวรายงานการสืบค้นข้อมูลให้ผู้กองทั้งสองฟัง
“เดี๋ยวนะจ่า คนจากทางเรานี่หมายความว่าไง”กังหันเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย และก็หวังว่ามันคงจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกใช่ไหม
“อย่างที่ผู้กองคิดนั่นแหละครับ คนที่คอยช่วยเหลือพวกมันก็คือตำรวจ และดูเหมือนว่าคนที่คอยช่วยมันจะมีอำนาจไม่น้อย ทำให้การค้ามนุษย์ของไอ้พวกมาเฟียกลุ่มนี้ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ”จ่าธงยังคงกล่าวรายงานต่อไป
นั่นไงผิดไปจากที่เธอคิดซะที่ไหน ถ้าไม่มีคนคอยหนุนหลังไอ้มาเฟียพวกนี้มันคงไม่สามารถทำการค้าได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
“พอจะมีเบาะแสของคนที่คอยช่วยมันบ้างไหม”ผู้กองตุลธรที่นั่งฟังอย่างเคร่งเครียดเอ่ยถามขึ้นมาบ้าง
“ไม่มีเลยครับผู้กอง เราไม่มาสามารถสาวถึงตัวคนที่คอยหนุนหลังมันอยู่ได้เลย ดูเหมือนว่ามันจะคอยระวังตัวเองอย่างดี”
“ถ้าเป็นแบบนี้ยศมันคงใหญ่น่าดู”ตุลธรเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างใช้ความคิด
“แล้วไอ้ตัวหัวหน้าแก๊งมาเฟียชั่วนี่มันเป็นใคร”กังหันถามด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว ทั้งเธอและหน่วยได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้ทำคดีของแก๊งมาเฟียค้ามนุษย์ที่กำลังขยายเป็นวงกว้างขึ้นในตอนนี้ จนตอนนี้หน่วยของเธอสืบสาวมาจนถึงตัวหัวหน้าใหญ่ของพวกมัน
“สายสืบของเราที่ฮ่องกงส่งข้อมูลของมันมาให้แล้วครับ”จ่าธงยังคงรายงานต่อไป
“ตัวหัวหน้าใหญ่สุดของพวกมันคือ หยางจง ไอ้นี่มันทำอาชีพผิดกฎหมายทุกอย่าง ทั้งค้าประเวณี ค้ายา โดยการที่พวกมันเปิดกาสิโนขึ้นมาบังหน้าและฟอกเงินครับ”
“ด้วยอำนาจและก็เงินของมันทำให้ตอนนี้ไม่มีใครสามารถหาหลักฐานเอาผิดมันได้เลยครับ หรือต่อให้จับมันได้มันก็สามารถหาทางดิ้นจนรอดไปได้ทุกครั้ง”จ่าธงปิดสรุปการรายงานของวันนี้
“มีทั้งเงินทั้งอำนาจสินะ ถึงได้รอดตัวทำชั่วมาได้จนถึงทุกวันนี้”กังหันปิดแฟ้มคดีลงก่อนจะหันไปหาผู้กองอีกคนที่นั่งหน้านิ่งไม่แพ้กัน
“พี่ตุลว่าไง เราพอจะมีทางจับมันได้ไหม”เธอเอ่ยถามตุลธรที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“พี่ได้ข่าวมาว่า ไอ้หยางจงมันขัดขาอยู่กับมาเฟียใหญ่อีกแก๊งหนึ่งอยู่”
“อีกสองอาทิตย์เหมือนพวกเขาจะเข้ามาจัดการธุรกิจในไทย ไอ้หยางจงคงจะอาศัยจังหวะช่วงมาจัดการอีกฝ่ายแน่”
“งั้นหมายความว่าไอ้หยางจงมันจะมาไทยเหรอ”
“มีความเป็นไปได้สูง”ตุลธรวิเคราะห์ความเป็นไปได้ให้หญิงสาวฟัง
“แล้วมาเฟียอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาทำธุรกิจอะไรพี่ตุล”เธอหวังว่าคงไม่ได้เข้ามาทำเรื่องชั่วๆเหมือนกันหรอกนะ
“เหมือนจะทำธุรกิจเกี่ยวกับโลจิสติกส์และการขนส่งนี่แหละ ตอนนี้กำลังขยายสาขามาในไทย แต่ดูแล้วกลุ่มนี้น่าจะทำธุรกิจถูกกฎหมาย”
“งั้นอาทิตย์หน้าเราวางแผนล้อมจับไอ้หยางจงกัน”กังหันเอ่ยบอก ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันวางแผนการในครั้งนี้
“กังหันเลิกงานกลับบ้านได้แล้ว”ตุลธรเอ่ยบอกผู้กองสาวที่ยังคงนั่งก้มหน้าอยู่กับเอกสารกองโตไม่ยอมกลับบ้าน
“แล้วนี่ทำไรอยู่หัวฟูเชียว”
“กังหันกำลังหาดูว่ามีช่องโหว่ ให้เราสืบไปหาคนที่คอยหนุนหลังมันที่นี่บ้างหรือเปล่า”เธอเงยหน้าขึ้นมาตอบผู้กองหนุ่มสุดหล่อของเธอ
“กลับบ้านก่อนนี่ก็จะค่ำแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาสืบต่อ พี่อาสาไปส่งบ้านวันนี้”ตุลธรจัดการปิดเอกสารต่างๆของเธอและเก็บให้อย่างเรียบร้อย พร้อมกับส่งรอยยิ้มหล่อกระชากใจไปให้เธอ
“เจอผู้กองตุลธรบังคับขนาดนี้กังหันจะทำไรได้ละ กลับก็กลับค่ะ”กังหันมองผู้กองสุดหล่อที่เธอแอบหลงรักมาหลายปี ก่อนจะเดินนำเขาออกไปที่รถ
หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ
“ผู้กองครับเราได้รับการยืนยันมาแล้วว่าพรุ่งนี้ทั้งสองฝั่งจะเจอกันตอนหนึ่งทุ่ม ที่โกดังแถวชานเมืองชลบุรี คาดว่าฝ่ายไอ้หยางจงคนน่าจะเยอะกว่า มันคงหวังว่าจะโค่นหัวหน้าแก๊งอีกฝั่งหนึ่งลงให้ได้ครับ”
“งั้นพรุ่งนี้เราดำเนินการตามแผนกันได้เลย”ตุลธรยืนยันแผนการไอ้ทุกคนฟังอีกครั้ง
“ส่วนเรื่องคนที่หนุนหลังพวกมันอยู่ กังหันว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ เดี๋ยวยังไงกังหันจะลองไปปรึกษาคุณลุงดูอีกที”พูดจบทั้งหมดจึงแยกย้ายกันไปทำงานของตนต่อ
“พี่ตุลเย็นนี้ว่างหรือเปล่า ไปกินข้าวกันกังหันเลี้ยง”เธอชวนผู้กองหนุ่มไปทานข้าวเย็นด้วยกัน หวังกระชับความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายให้มากขึ้น
“เย็นนี้พี่มีนัดแล้ว เอาเป็นวันอื่นได้ไหมกังหัน”ตุลธรเอ่ยปฏิเสธ ด้วยว่าวันนี้เขามีนัดไว้แล้ว
“วันหลังก็ได้ แต่วันหลังพี่ตุลห้ามเบี้ยวนะ”
“รับรองวันหลังพี่ไม่เบี้ยวน้องรักของพี่แน่”เขายกมือขึ้นไปขยี้ผมเธอจนมันยุ่ง น้องรักอะไรกัน เธอไม่ได้อยากเป็นแค่น้องสักหน่อย
หลายคนอาจจะมองว่าเธอโหดและแกร่งเกินผู้หญิง ด้วยที่ว่าเธอสามารถสอบเข้าตำรวจได้ตั้งแต่อายุยังน้อยและเลื่อนตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วจนสามารถเป็นผู้กองได้ในเวลาไม่กี่ปี เธอทุ่มเทเวลาและความสามารถทั้งหมดให้กับการเป็นตำรวจ แม้บางคนอาจจะมองว่าเธอใช้เส้นสายของผู้เป็นลุงที่เป็นนายตำรวจยศใหญ่ก็ตามแต่ แต่เธอก็พิสูจน์ให้คนเหล่านั้นได้เห็นแล้ว ว่าเธอนั้นมีความสามารถจริงไม่ได้ใช้เส้นสายแต่อย่างใด