“ยัยผีโรคจิต จะยืนมองลูกฉันอีกนานไหม”วินเซนต์เรียกสติของคนที่เอาแต่จ้องลูกชายตัวใหญ่ของเขา เขารึอุตส่าห์จะมาแกล้งให้ยัยผีนี่อาย ที่ไหนได้แม่คุณกลับยืนจ้องตาแทบถล่นออกมา
“นายนั่นแหละโรคจิต มายืนทำทุเรศให้ฉันดูอยู่ได้”เธอเถียงกลับทั้งๆที่ใบหน้ายังร้อนผ่าว ไม่คิดเลยว่าพอเป็นวิญญาณแล้วเธอจะใจกล้าถึงขั้นยืนดูเรื่องอย่างว่าได้หน้าตาเฉย
“ฮึ คนที่มาแอบดูคนอื่นเขาเอากันมีสิทธิ์มาว่าฉันทุเรศรึไง”ชายหนุ่มเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันท่อนล่างเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเป็นอาหารตาให้ยัยผีหื่นไปมากกว่านี้
“แล้วเธอกลับมาหาฉันอีกทำไมยัยผีหื่น”เขานั่งลงบนที่นอนเอ่ยถามอีกคน ไม่สิ อีกวิญญาณหนึ่งที่ตามมานั่งใกล้ๆเขา
“อย่ามาเรียกฉันว่าผีหื่นนะ”เธอโวยวายไอ้คนที่ใส่ร้ายเธอเสียงแข็ง
“แล้วมาทำไม ทำไมไม่ไปเข้าร่างเธอซะ”เขาถามกลับไปอีกครั้ง เพราะที่นี่เป็นโรงแรมไม่ใช่บ้านของเขา เลยทำให้ยัยผีหื่นนี่สามารถมาหาเขาได้ รู้อย่างนี้รีบกลับบ้านไม่แวะโรงแรมซะก็ดี
“ถ้าฉันเข้าร่างได้ฉันจะมาหานายทำซากอะไรละ”กังหันตอบเขากลับ คิดว่าถ้าเธอกลับเข้าร่างเองได้แล้วจะมาหาเขารึไง
“แล้วมาหาฉันคิดว่าฉันช่วยเธอได้รึไง”วินเซนต์เหล่ตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจผีที่ส่งสายตาเขียวมาให้เขา ใช่เขาช่วยเธอได้แต่แค่ไม่อยากช่วยแค่นั้น
“ฉันรู้ว่านายต้องช่วยได้ ไม่งั้นทำไมมันถึงมีแค่นายละที่มองเห็นฉัน”
“ฉันไม่ได้มองเห็นแค่เธอ ฉันมองเห็นผีทุกตัว เลิกหลงตัวเองได้แล้ว”เขาเปล่งเสียงออกมาทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
“หมายความว่านายช่วยฉันไม่ได้เหรอ”กังหันก้มหน้าลงมองพื้นอย่างหมดหวัง เธอหวังว่าเขาคงจะช่วยเธอได้บ้างสักนิด แต่ในเมื่อเขาพูดมาแบบนี้เธอคงหมดหวังแล้วจริงๆ
“เฮ้ออ น่าสงสารจริงๆยัยผีหื่น ก็นะเธอทั้งยังสาวยังสวยขนาดนี้มาตายเอาแบบนี้คงรู้สึกแย่สินะ”วินเซนต์ลุกขึ้นนั่งมองเธออย่างปลอบใจ
“ว่าแต่มีผัวรึยังอะ”
“ไม่มี แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฉันแค่สงสัย มิน่าล่ะไม่มีผัวนี่เองถึงได้เป็นผีขี้หื่น”เขาหัวเราะออกมาเสียงดัง เรียกความโมโหของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
“ไม่มีผัวแล้วมันหนักส่วนไหนของนาย”คนที่โดนจี้ใจดำยกมือขึ้นทุบคนที่เอาแต่นั่งหัวเราะเยาะเธอ แต่กลับกลายเป็นว่ามือของเธอผ่านร่างของเขาไปโดยที่ไม่สร้างรอยขีดข่วนใดๆแกชายหนุ่มเลย เพราะเธอแตะต้องหรือจับเขาไม่ได้
“ยัยผีไม่เจียมตัว ฮึ”
“นายมันนอกจากจะกวนตีน แล้วยังไร้ประโยชน์อีก”เธอชี้หน้าด่าเขา
“อ้าว ด่ากันอย่างนี้ก็ไปไกลๆเลย ตอนแรกก็สงสารคิดว่าจะยอมช่วย แต่ปากอย่างนี้เปลี่ยนใจละ”วินเซนต์มองหน้าผีสาวแวบหนึ่งก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
“นายช่วยได้จริงเหรอ ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ ฉันอยากกลับเข้าร่าง”เธอเข้าไปนั่งใกล้ๆร่างแกร่งมากขึ้น จ้องหน้าเขาอย่างมีความหวังอีกครั้ง
“นาย ช่วยฉันหน่อยเถอะนะ ฉันจะไม่ด่านายแล้วก็ได้ เห็นแกผีตาดำๆเถอะนะ”
“ฉันช่วยก็ได้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะ”เขามองยัยผีที่มองหน้าเข้าอย่างมีความหวังอีกครั้ง
ที่เขายอมช่วยเธอไม่ใช่เพราะสงสารหรอกนะ แต่เขามีบางเรื่องที่หากใช้คนสืบคงใช้เวลานาน แต่ถ้าใช้วิญญาณที่ไม่มีใครมองเห็นเรื่องคงเร็วขึ้นเยอะ บวกกับได้ความสามารถของยังผีนี่มาช่วยเรื่องคงง่ายขึ้น ถือว่าเป็นข้อแลกเปลี่ยน ที่เขาจะช่วยพาวิญญาณของเธอกลับเข้าร่างก็แล้วกัน
“แล้วฉันต้องช่วยอะไร”
“เธอไปสืบมาว่าใครวางยาแม่ฉัน ถ้าเธอทำได้ฉันจะช่วยเธอ”
“ได้ แล้วนายมีเบาะแสอะไรให้ฉันบ้าง”ให้เธอช่วยตามสืบหาเรื่องง่ายๆแค่นี้แลกกับการได้กลับเข้าร่าง ตำรวจที่ฝึกมาอย่างดีอย่างเธอทำได้สบายมาก
“ฉันเจอยาตกอยู่ในบ้าน แล้วหมอก็ตรวจออกมาแล้วว่ายาที่ฉันเจอตรงกับยาที่แม่ได้รับเข้าไป”
“แล้วนายสงสัยใคร”
“ฉันไม่แน่ใจ ตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสคนร้ายเลย ฉันย้ายแม่มารักษาที่ไทยหวังว่าอาการจะดีขึ้น แต่มันไม่ดีขึ้นเลย”
“งั้นฉันขอไปดูที่ที่แม่นายเคยอยู่หน่อยสิ บ้านที่ไทยก็ได้ เผื่อพบอะไรบ้าง”
“นี่เธอจะหลอกเข้าบ้านฉันเหรอ”
“แล้วนายไม่อยากรู้เหรอ ก็แล้วแต่นะ ถ้านายไม่ให้ฉันเข้าบ้านฉันคงช่วยยากหน่อย”
“เออ ก็ได้ว่ะ”สุดท้ายเขาก็ต้องยอมให้ยัยผีหื่นนี่เข้าบ้านจนได้
“นั้นก็ไปสิ ไปใส่เสื้อผ้าสักที” วินเซนต์ลุกจากเตียงไปใส่เสื้อผ้า แต่เขาก็ต้องคิ้วขมวดเข้าหากัน เมื่อผีสาวตรงหน้าเอาแต่จ้องเขาไม่วางตา
“ไปรอฉันที่บ้านไปยัยผีหื่นเลิกจ้องฉันสักที”
“ชิ ก็ได้”ขอมองนิดหน่อยก็ไม่ได้ ที่กับสาวสวยคนเมื่อกี้ไม่เห็นหวงเลย หรือเพราะเธอเป็นผีเขาเลยไม่ให้มอง นายมันไม่ยุติธรรม
“ทำไมเขาขับรถช้าจังเนี่ย ฉันมารอตั้งนานแล้วนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำหลังจากเธอเดินวนไปวนมาอยู่หน้าประตูบ้านของเขานานสองนาน ก็ไม่มีทีท่าว่าชายหนุ่มที่นัดหมายจะมาสักที
รถหรูคันงามแล่นเข้าสู่รั้วบ้าน ความจริงเขาแกล้งขับรถชมวิวมาตลอดทางทำให้เขามาถึงบ้านช้ากว่าที่ควรจะเป็น
“นายหายไหนมา ช้ามาก”
“ฉันขับรถชมวิวอยู่” วินเซนต์พูดขนาดที่เขาเดินผ่านเข้าประตูบ้านไป
“เชื่อเขาเลย เอ้านายแล้วฉันละ”
“เชิญครับคุณกังหัน” วินเซนต์ยิ้มก่อนจะเรียกชื่อของหญิงสาวเพื่อเปิดทางเป็นการอนุญาตให้เธอเข้ามาในบ้านได้
“แค่นี้เองเหรอ”
“อืม จะไปยากอะไร เธอไม่เคยได้ยินเหรอโบราณเขาว่าอย่าเชิญใครเข้าบ้านโดยไม่เรียกชื่อ ไม่นั้นผีอาจจะเข้ามาในบ้านเธอก็ได้
“จริงดิ ขนลุกเลยอะ”
“ขนลุกอะไรเธอก็ผี อย่ามาลืมตัว”
“ก็จริง”
“เธอไปเดินดูเองนะ ฉันจะไปนอน ส่วนนั้นรูปแม่ฉัน” วินเซนต์พูดจบก็เดินออกไปปล่อยให้หญิงสาวยืนงงอยู่กลางห้องโถงของบ้าน
“ช่วยได้เยอะเลยค่ะ”เธอบ่นไล่หลังชายหนุ่มที่เดินหายไปจากสายตาแล้ว
“สวยจัง” ผู้กองกังหันเดินมาหยุดตรงรูปของหญิงสาวที่ชายหนุ่มบอกว่าเธอเป็นมารดาของเขา ดวงตาของคนในรูปดูสวยงามดุจหยอดน้ำ รอยยิ้มที่เปล่งประกายออกมาบ่งบอกได้ถึงความใจดีและเป็นมิตร
“ลองไปหาเธอหน่อยแล้วกัน” หญิงสาวหลับตานึกถึงคนที่อยู่ในรูป ทำให้ตอนนี้เธอมายืนอยู่ข้างเตียงในห้องพักผู้ป่วย VIP ของโรงพยาบาล
“ในรูปว่าสวยแล้วตัวจริงสวยกว่าเยอะเลยแฮะ ทั้งที่หลับอยู่แท้ๆ”หญิงสาวยืนมองใบหน้าของคนที่นอนหลับอยู่บนเตียง
แกร๊ก
เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา พยาบาลสาวถือเข็มฉีดยามาฉีดให้กับคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย
“คอยตรวจเช็กด้วยอย่าให้เธอฟื้นขึ้นมาได้”หมอที่เดินตามกันเข้ามาบอกกล่าวพยาบาลสาวที่ฉีดยาใส่กระบอกน้ำเกลือให้กับคนที่นอนหลับอยู่
“ได้ค่ะหมอ”
“หึ ไงน้องสาวของพี่ พี่รู้ว่าเธอได้ยินที่พี่พูด ขอโทษนะที่พี่ไม่ได้มาเยี่ยมเธอบ่อยๆ แต่เธอคงต้องนอนหลับไปอีกนาน ไว้พี่จะมาเยี่ยมเธอใหม่นะน้องรัก”ชายปริศนาที่เดินตามหลังคุณหมอมาพูดขึ้น เขาดูแก่กว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงเล็กน้อย หน้าตาดีและดูภูมิฐาน
“อย่าให้เธอฟื้นขึ้นมาก่อนที่จะมีการเลือกประธานคนใหม่ละ”ถึงแม้หน้าตาของชายปริศนาจะดูดี แต่ดูแล้วจิตใจของเขาไม่ได้ดีเหมือนภายนอกที่เขาแสดงออกมา
“ได้ครับท่านประธาน”คุณหมอตอบรับคำสั่งของชายปริศนาตรงหน้าอย่างว่าง่าย
“นี่มันเรื่องอะไรกัน แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องไม่ให้เธอตื่นด้วย เรื่องนี้ชักจะไม่ธรรมดาซะแล้วสิ”