13 คืนลงทัณฑ์2

1829 Words
“เสร็จแล้วพี่” ใครคนหนึ่งเดินมาบอกกับนพ ชายหนุ่มจึงพยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปยังหญิงสาวหน้าคมหวานอีกครั้ง แล้วส่งซองธนบัตรให้หล่อน อรทัยหลุบตามองซองสีขาวตรงหน้าอยู่อึดใจ ก่อนจะรับเอาไว้แล้วเปิดซองนับจำนวน ทว่าจำนวนที่นับเกินมามากมายนั้นทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา “เฮียบอกว่าให้คุณรับเอาไว้ เพราะคุณต้องใช้มัน และฝากขอบคุณเรื่องอาหารด้วย” สิ้นเสียงของนพ ดวงตาของอรทัยคล้ายจะพร่าลง จำนวนเงินในซองนั้นมากมายกว่าค่าอาหารหลายเท่าตัว แต่หล่อนไม่นึกยินดีเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับรู้สึกเหมือนคนที่จนหนทาง ต้องรับมาด้วยความจำใจและที่เขาให้ก็เพราะสมเพชเวทนา นพราวจะดูออกว่าหล่อนคิดเช่นไร ใบหน้าที่หมองลงนั้นบอกชัดเจนว่าหล่อนกำลังคิดมากและเสียใจอยู่ไม่น้อย “อย่าคิดมากเลยคุณ ส่วนที่เกินจากค่าอาหารให้คิดเสียว่าเป็นค่าแรงที่พวกคุณต้องเหน็ดเหนื่อยกับพวกเราทุกครั้งที่กลับมาที่นี่” อรทัยหันไปมองตาชูที่ยืนรอปิดรั้ว ก่อนจะมองไปยังมารดาที่ทำท่าอยากรู้อยากเห็นอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ “ฝากขอบคุณเขาให้ด้วยนะคะ” หญิงสาวบอกออกไปแค่นั้นแล้วกลับเข้าไปประจำที่คนขับ นพจึงถอยหลังออกไปสองสามก้าว มองรถที่กำลังออกตัว ตั้งใจยืนอยู่ตรงนั้นจนกว่าอีกฝ่ายจะพ้นประตูรั้วบ้านออกไป ขณะที่รถเคลื่อนตัวช้าๆ คนที่อรทัยอยากพบมากที่สุดก็ก้าวออกมายืนที่ระเบียง ร่างสูงใหญ่เกาะราวลูกกรงโดดเด่นอยู่ตรงนั้น ทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างยินดี อธิคมน์มองลงไปยังลานบ้าน สบตาของคนที่กำลังส่งยิ้มให้เขา แต่แล้วรอยยิ้มของหล่อนกลับจางลงเหมือนดอกไม้ที่เหี่ยวเฉายามถูกน้ำร้อนลวก เมื่อท่อนแขนของเขามีมือนุ่มนิ่มของใครบางคนวางทับลงมา ทำให้ชายหนุ่มละสายตามาจากอรทัย แล้วก้มลงมองคนที่กำลังถามบางอย่างกับเขาด้วยท่าทางใส่ใจ นพที่มองขึ้นไปบนเรือนละสายตาจากเจ้านายกลับมายังอรทัย จึงได้เห็นแววตาหม่นเศร้าของหญิงสาวก่อนที่เจ้าหล่อนจะเบือนหน้ากลับ จากนั้นรถกระบะก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากบ้าน เมื่อท้ายรถพ้นรั้ว ตาชูก็จัดการปิดและล็อกอย่างแน่นหนา นพถอนหายใจยาวก่อนจะหันกลับไปยังตัวบ้าน แต่ไม่วายปรายตามองขึ้นไปยังคนทั้งสองที่เรือนชาน เขาสบตาเจ้านายแวบหนึ่ง ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะโอบไหล่ของคนตัวบางพาออกไปจากบริเวณนั้น ขณะที่กังสดาลกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจกเงาด้วยอาการคล้ายคนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง อธิคมน์ก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปหยุดข้างหลังพลางสบตาคู่สวยของหญิงสาว แล้วดึงหวีออกจากมือของหล่อนก่อนจะทำให้คนตัวบางใจไหววูบเมื่อเขาค่อยๆ กดหวีลงบนเส้นผมนุ่มนิ่มอย่างเบามือ “คิดอะไรอยู่” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยถาม คนตัวเล็กสบตาคมแล้วยิ้มผ่านกระจกบานสวย แต่แล้วรอยยิ้มเมื่อครู่ก็ค่อยๆ จางลงยามคิดถึงแววตาของใครอีกคนเมื่อตอนเย็น หล่อนรู้สึกได้ว่าสายตาของพวกเขาทั้งสองมีสายใยบางๆ ส่งผ่านถึงกัน “ไม่มีอะไรค่ะ แค่คิดอะไรเพลินๆ เท่านั้น” ตอบพลางยิ้มให้เขาอีกครั้งแล้วหลบสายตาคมกริบ ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขารู้ว่าหล่อนโกหก มือใหญ่หวีผมให้หล่อนอีกครู่ เมื่อมันเรียบสวยดีแล้วจึงวางหวีลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง รั้งร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืน สอดมือเข้าไปกอดเอาไว้ที่หน้าท้องเรียบแบน วางเอาไว้เช่นนั้น ก่อนจะกดจุมพิตลงบนนวลแก้มนุ่มหอม มือข้างหนึ่งที่วางนิ่งเริ่มไม่นิ่ง เพราะมันเลื่อนขึ้นมายังทรวงอกอวบหยุ่นจากนั้นเริ่มออกแรงนวดคลึงเบาๆ พร้อมกับที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนเข้าครอบครองคนที่พลิกใบหน้าหันมามองเขาอย่างแม่นยำ “อืม…” น้ำเสียงอ่อนหวานครางแผ่วออกมา เป็นแบบนั้นอยู่อึดใจใหญ่ ร่างระหงจึงถูกหมุนตัวหันกลับมาหาคนตัวโต ดวงตาคู่สวยสบตาคมกริบพลางทอดถอนลมหายใจบางเบาเมื่อชุดนอนตัวบางที่เพิ่งสวมถูกปลดลงไปกองบนพื้นห้อง เปิดเปลือยร่างงามเด่นชัดเต็มสองลูกตาคม ริมฝีปากได้รูปขยับคล้ายจะยิ้ม เมื่อหญิงสาวเม้มปากและหลับตาพริ้ม เขาจึงแกล้งหล่อนด้วยการก้มลงดูดแรงๆ ที่ซอกคอระหง ได้ผล คนตัวบางลืมตาโพลงมองเขาอย่างตกใจ “คุณคมน์ อย่าทำแรงสิคะเดี๋ยวเป็นรอย” หญิงสาวบอกเสียงพร่า ทว่าคนที่ทำรอยยังทำต่อไปราวกับไม่ได้ยิน จนหล่อนต้องเอียงร่างหนี แต่เขากลับยิ่งทำให้มันเป็นรอยเด่นชัดขึ้นไปอีก ทำให้คนที่พยายามหลบหลีกคร้านที่จะห้ามปราม “คุณคมน์” น้ำเสียงอ่อนหวานทอดอ่อนราวจะตัดพ้อออกมาเบาๆ แต่เมื่อสบนัยน์ตาเจ้าเล่ห์หญิงสาวก็ต้องแก้มเรื่อขึ้นเมื่อเขากล่าวออกมาว่า “ก็ตั้งใจให้เป็นรอย ทำโทษคนหนีเที่ยว” “แต่กั้งต้องไปทำงานอีก กว่ารอยจะหายใช้เวลาสองสามวันเลยนะคะ” “ใส่เสื้อปิดคอไปทำงานสิ” คำตอบของเขาทำเอาหญิงสาวถึงกับมองบน “แต่ว่า...” “นี่ของฉัน” จู่ๆ เขาก็บอกออกมาขณะกดริมฝีปากเม้มเบาๆ ลงบนต้นคอระหง ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงมายังแอ่งชีพจร “ตรงนี้ก็ของฉัน” หัวใจดวงน้อยเต้นรัว ยอดถันชูชันสั่นระริกก่อนจะส่งเสียงแผ่วเมื่อเจ้าเม็ดจิ๋วสีหวานถูกบีบบี้เบามือจากเจ้าของดวงตาสีเข้ม มุมปากข้างหนึ่งยกขึ้นเมื่อสบนัยน์ตาคู่งามที่เริ่มพร่าเบลอกับการเล้าโลม “โดยเฉพาะตรงนี้” ขณะบอกมืออีกข้างที่วางทาบแผ่นหลังเลาะเลื่อนมาด้านหน้าแล้วลูบไล้เบาๆ กับส่วนสาวที่กลางกายจนเจ้าของสะดุ้งเฮือก แก้มแดงเถือก “เพราะงั้น ฉันจะทำรอยเอาไว้ทุกที่ เธอจะได้จำไว้เสมอว่าตัวเองเป็นของใคร” ดวงตากลมโตสบเจ้าของหน่วยตากว้างก่อนที่ภาพตรงหน้าจะพร่าเบลอเมื่อใบหน้าคมสันเคลื่อนเข้ามาใกล้ จนในที่สุดเปลือกตาบอบบางก็พริ้มปิด พร้อมร่างนวลเนียนอวบอุ่นที่ถูกประทับตีตราไปทีละส่วน... ร่างเล็กที่ถูกทำรอยเอาไว้เป็นหย่อมๆ ผ่อนกายลงบนเตียงกว้าง ตามด้วยร่างสูงใหญ่กำยำที่ทาบทับแนบสนิท ชายหนุ่มกอดจูบราวจะกลืนกิน เขาย้ำให้หล่อนรู้ด้วยสัมผัสร้อนระอุว่าทั้งเนื้อทั้งตัวและหัวใจดวงนี้เป็นของใคร หญิงสาวได้แต่ขบกัดริมฝีปากอิ่มและเผลอครางด้วยความเสียดเสียวยามที่เขาสอดกายชำแรกเข้ามาอย่างหนักหน่วงแต่นุ่มนวลในที จากนั้นการเคลื่อนไหวที่ปลุกอารมณ์เร่าร้อนในตัวของคนทั้งคู่ก็รุนแรงขึ้นตามครรลองเสน่หา เขากระทั้นกายแกร่งเป็นจังหวะหนักหน่วง ส่งร่างอ้อนแอ้นให้โยกคลอนไปตามแรงกระแทก หญิงสาวสั่นผวาทุกครั้งที่ถูกสอดเสียบเข้ามา อย่างหนักหน่วง เป็นการเติมเต็มที่เร่าร้อนและอิ่มเอมเสียจนไม่อาจอยู่เฉย สองมือจึงลูบไล้ไขว่คว้าและกอดเกี่ยว เช่นเดียวกับท่อนขาเรียวเสลาที่โอบกระชับไปรอบสะโพกสอบที่ขับเคลื่อนส่งแรงมหาศาลสู่เรือนกายอ่อนนุ่ม ผ่านไปเกือบสิบห้านาที หญิงสาวถูกพลิกกายเปลี่ยนท่า จากนอนราบรับความรักแทบสำลักเขาก็จับหล่อนหันหลังคลานเข่า แล้วโยกกายส่งสายใยสวาทมาจากด้านหลัง ทว่าทุกการสอดเสยเสียบใส่นั้นลึกล้ำจนต้องปลดปล่อยเสียงครางออกมาไม่ขาดสาย บอกให้เขารู้ว่าหล่อนจวนเจียนแตะขอบสวรรค์เต็มที ถึงตอนนั้นเขาก็ชะลอความหนักหน่วงลง แล้วกอบขยำเคล้นคลึงเต้าอวบสล้าง อีกมือขยุกขยิกบดขยี้ที่จุดกระสันร่วมกับการสอดลำกายใหญ่โตเสียบลึก ยิ่งเร่งเร้า หล่อนยิ่งดูดรัด จนเป็นเขาบ้างที่แทบปลดปล่อยธารสวาทออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ใบหน้าที่ซบแนบไปกับที่นอนนุ่มบิดเบี้ยวเหยเกไปกับอารมณ์ซ่านสยิวที่ปะทุขึ้นหลายครั้งหลายครา แต่คนตัวโตกลับทรมานหล่อนด้วยการกระทั้นกายหนักหน่วง แต่เมื่อจวนเจียนแตะสายรุ้งก็ผ่อนจังหวะดึงอารมณ์หล่อนเอาไว้ แล้วกระแทกกายส่งหล่อนขึ้นไปอีก เขาทำแบบนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนหญิงสาวแทบขาดใจ... เช่นเดียวกับท่วงท่าร่วมสวาทที่เปลี่ยนไปอย่างหลากหลาย สุดท้ายร่างกลมกลึงขยับไหวที่หน้ากระจก ดวงตาที่ปิดลงเพราะความเสียวเสียดปรือเปิด จึงได้สบนัยน์ตาคมกริบที่พร่ามัวกำลังมองมายังหล่อนตาไม่กะพริบ นวลแก้มอิ่มร้อนผ่าว หัวใจเต้นระรัวยามสบตา และเห็นว่าทั้งหล่อนและเขากำลังร่วมรักกันอยู่ในท่ายืนประกบหลัง เพียงไม่กี่อึดใจเขาก็จับหล่อนนั่งลงบนโต๊ะเครื่องแป้งไม้สักตัวโตแข็งแรง ทำเครื่องสำอางของหล่อนบางชิ้นตกกระทบพื้นเมื่อสะโพกที่เขาช้อนอุ้มถูกวางลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง จากนั้นท่อนลำยาวเหยียดก็เคลื่อนสู่ช่องทางคับแน่นที่ชื้นฉ่ำ หญิงสาวสะบัดร้อนสะบัดหนาวแหงนหน้าเริดเมื่อเขาส่งแก่นกายสอดเสือกเข้ามาในร่างกายอวบอุ่น ใบหน้าคมก้มลงจูบริมฝีปากที่เผยอคราง มือหนึ่งนวดคลึงเต้าอวบอิ่ม อีกมือช้อนท่อนขาเรียวเอาไว้ที่ท้องแขน แล้วขับเคลื่อนสะโพกก่อนกระแทกเอ็นอวบเข้าออกในโนมเนื้อนุ่ม ให้กลีบสาวห่อหุ้มแล้วเสียดสีไปกับท่อนเนื้อแข็งกล้าของเขาอย่างหนำใจ เสียงครวญครางของสองหนุ่มสาวคลอประสานไปท่ามกลางความมืดมิดของกาลเวลา บางครั้งมีเสียงนกร้อง เสียงแมลงสอดแทรกเข้ามา บ้างก็เป็นเสียงลมหวีดหวิวและกิ่งไม้ที่ไหวลู่ไปกับหลังคาบ้าน ทว่าไม่มีสิ่งใดทำให้จังหวะการร่วมรักของคนทั้งสองต้องถูกทำลาย เพราะอธิคมน์หมายใจไว้ว่าจะมอบความสุขให้กับหญิงสาวได้ดื่มด่ำอย่างเต็มอารมณ์หวาม ก่อนเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น เพราะที่นั่นอาจมีความยุ่งยากรำคาญใจบางอย่างที่รอหล่อนอยู่...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD