“ใช่” อธิคมน์ตอบสั้นๆ พลางก้มมองคนตัวเล็กที่ก้าวตรงไปข้างหน้า ดวงตาสีเข้มพลันอ่อนแสงขณะก้าวตามหญิงสาวไป ที่แห่งนี้เขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาเยือน แม้ไม่ใช่ที่ลับแต่มันคือบ้านเกิดของเขา เป็นมรดกเดียวที่ตากับยายทิ้งเอาไว้ให้ก่อนจากโลกนี้ไป เพียงแต่กว่าจะมาอยู่ในมือของเขาจริงๆ ก็กินเวลาหลังจากนั้นร่วมสิบปี...
หญิงสาวก้าวลงไปยังเรือนแพด้านล่าง ก่อนจะหันไปยิ้มให้ชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มสดใสแกมตื่นเต้น
“อากาศดีจังเลยค่ะคุณคมน์ กั้งชอบที่นี่” คนตัวบางส่งเสียงหวานเจื้อยแจ้วให้กับคนที่เดินตามมา แล้วลงไปยังเรือนแพด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ก่อนจะเกาะราวระเบียงมองออกไปยังท้องน้ำเบื้องหน้า
“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องชอบ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยขึ้นข้างกาย ทำให้คนตัวเล็กหันไปมองเขาด้วยสายตาเจือยิ้ม จึงได้เห็นว่ายามนี้คนตัวโตมีสีหน้าผ่อนคลาย นัยน์ตาสีเข้มที่มักกระด้างเป็นนิจแลดูอ่อนแสงลงยามทอดสายตามองออกไปข้างหน้า ราวกับว่ากำลังอยู่ในช่วงรำลึกความหลังครั้งเก่าแต่เยาว์วัย
“คุณเคยคิดอยากกลับมาอยู่ที่นี่แบบถาวรบ้างไหมคะ” คำถามของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มหลุบตามองคนข้างกายแล้วนิ่งไปอึดใจหนึ่ง
“ขึ้นไปดูห้องนอนกันดีกว่า” เขาไม่ยอมตอบคำถาม แต่กลับทำนัยน์ตากรุ้มกริ่มใส่นัยน์ตากลมโต ทำให้คนตัวบางขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ผิวแก้มเป็นสีเรื่อ แต่ก็ยอมให้เขาจับจูงขึ้นไปยังตัวเรือน
ระหว่างเดินไปนั้น หล่อนสังเกตว่าเขามีบางอย่างที่ติดค้างอยู่ในใจ คงเป็นเรื่องไม่ค่อยน่าจดจำนัก เมื่อหล่อนถามออกไปจึงยังไม่มีคำตอบให้...
กังสดาลเดินสำรวจตัวเรือนภายในด้วยความรู้สึกพอใจลึกๆ เพราะโปร่งโล่งและดูสบายตา ไม่เหมือนกับเรือนไทยบางหลังที่น่ากลัวตั้งแต่มองจากด้านนอก ทว่าเรือนไทยหลังนี้เป็นอะไรที่ตรงกันข้าม...
“เมื่อก่อนบ้านนี้เล็กและเก่ามาก จะพังแหล่ไม่พังแหล่ จนฉันได้มันมาเป็นของตัวเอง ก็เลยรีโนเวตใหม่ทั้งหลัง แต่ก็ยังคงรูปแบบเดิมเอาไว้”
ร่างสูงก้าวมาหยุดลงข้างกายหญิงสาวเมื่อหล่อนยืนอยู่ที่นอกชาน หันหน้ามองเข้าไปยังตัวเรือนด้วยสายตาชื่นชม
“กั้งชอบค่ะ”
ทั้งรอยยิ้มและแววตาวิบวาวของหญิงสาวทำให้เขารับรู้ว่าหล่อนชอบมันมากกว่าเพนต์เฮาส์ที่อยู่ด้วยกันเสียอีก
“ชอบกว่าห้องที่เราอยู่กันอีกเหรอ” เขาหยั่งเชิง พลางยกมือขึ้นโอบไหล่นุ่ม หญิงสาวช้อนตามองเขาก่อนยิ้มจาง
“ถ้าจะบอกว่าชอบมากกว่า คุณคมน์คงไม่โกรธกั้งหรอกนะคะ”
อธิคมน์หัวเราะเบาๆ กับคำตอบของหล่อน
“จะโกรธทำไม เราเข้าไปดูห้องนอนกันดีกว่านะ”
ท่อนแขนแกร่งโอบรัดร่างเล็กพาตรงไปยังห้องนอนโดยไม่ยอมให้หญิงสาวอิดออดหรือปฏิเสธ
เมื่อประตูห้องปิดลง ต้นคอระหงก็ถูกจูบลงมาจากด้านหลัง หญิงสาวเอียงคอหนีรอยจูบแสนหวามด้วยความสยิวกาย พลางยกมือขึ้นไล้ลูบแก้มสากของเขาแผ่วๆ
“คุณคมน์ คนเยอะแยะ” เจ้าของเสียงหวานเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนพร่า ทว่าคนเอาแต่ใจในเรื่องอย่างว่าอย่างอธิคมน์หรือจะสนคนเยอะแยะข้างล่างนั่น
“พวกนั้นไม่สนใจเราสองคนหรอก” เขากระซิบบอกคนตัวบาง ก่อนจะดันร่างเล็กตรงไปยังเตียงกว้าง
“อ๊ะ!” หญิงสาวผวาขึ้นเมื่อคนที่ตามลงมาคร่อมทับงับลงตรงเนินอกที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา มันไม่ถึงกับเจ็บแต่ก็ทำให้รู้สึกแปลบๆ แกมตกใจได้เช่นกัน
อธิคมน์จ้องมองคนตัวนุ่มด้วยสายตาวาววาม เกิดความต้องการหล่อนขึ้นมาอย่างแรงกล้า เขาปลดกระดุมเสื้อตัวสวยจนเกือบหมด แล้วดึงบราเซียร์สีหวานขึ้นไปกองบนเนินเนื้ออวบงาม ก้มลงดูดเม้มยอดถันสีเรื่อราวกับหิวกระหาย ทำเอาเจ้าของร่างงามสั่นยะเยือกขึ้นทั้งตัว ผวาร่างกกกอดเขาเอาไว้ด้วยอาการสั่นระริกจากเพลิงปรารถนาที่เขาเป็นคนปลุกมันขึ้นมา
กระโปรงผ้าถูกถลกขึ้นมากองบนเอวคอด ขณะที่ซับในตัวบางร่นลงไปค้างอยู่ที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง อีกข้างถูกยกขึ้นเกี่ยวสะโพกสอบ เสียงรูดซิปกางเกงดังสะท้านในความรู้สึกของหญิงสาว ก่อนจะหลับตาพริ้มเมื่อปลายนิ้วชื้นๆ ของเขาแตะลงยังกลีบสาวแสนบอบบางที่แย้มอ้ารอรับการเติมเต็ม
“อ่า...คะ...คุณคมน์”
สะโพกผายยกหยัดขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเขาขยี้ฝ่ามือบนกลีบบอบบาง จากนั้นจึงสอดปลายนิ้วทั้งสองเข้าไปทักทายความอุ่นลื่นที่เริ่มฉ่ำชื้นจากภายในอย่างสนิทสนม ขยับเขยื้อนเข้าออกเนิบนาบเชื่องช้าอยู่ไม่กี่ครั้ง จากนั้นแรงกระชั้นจึงกระแทกกระทุ้ง กระชับชิดความนุ่มลื่นพร้อมกับที่ริมฝีปากของเขาก็รวบดูดยอดถันสีอ่อนสลับซ้ายขวาไปพลาง เพียงอึดใจเขาก็ดึงมือข้างนั้นออกแล้วแทนที่ด้วยท่อนลำที่ตั้งผงาด
หญิงสาวขยับร่างเล็กน้อยเพื่อตอบรับการสอดเสียบ ก่อนจะห่อปากครางซี้ดซ้าดเมื่อเขาสอดลำกายที่ขยายเหยียดเต็มที่เข้ามาทั้งหมด...
“โอ...วว” น้ำเสียงที่ครางพร่าบ่งบอกถึงความเสียดเสียวที่อัดแน่นเข้ามาอย่างล้ำลึก ก่อนจะเงียบหายไปในลำคอเมื่อถูกเขาจูบซับเสียงหวานเอาไว้พร้อมกับโถมกายกระแทกกระทั้น
จังหวะประชิดร่างตรงกึ่งกลางกายและเสียงเสียดสีของเนื้อผ้าที่ยังคงอยู่บนตัวของทั้งคู่แบบครบทุกชิ้นยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของทั้งสองพลุ่งพล่านเป็นทวีคูณ ต่างโยกโยนไปมาตามครรลอง เรือนกายผะผ่าวด้วยไอร้อนที่เกิดจากการสอดผสานกันระหว่างคนสองคน
ทันทีที่ชายหนุ่มผละริมฝีปากห่างออกมาจากเรียวปากหวาน น้ำเสียงครวญครางก็เล็ดลอดจากลำคอระหง
“อ๊า!”
ทั้งใบหน้างามแหงนเริด เรือนร่างที่โผล่พ้นขอบผ้าแดงเรื่อ เช่นเดียวกับใบหน้าคมเข้มที่ร้อนผ่าวจากเพลิงราคะ ดวงตาสีเข้มจดจ้องมองหญิงสาวด้วยแววตาร้อนแรง สะโพกสอบขยับโยกหนักหน่วงขึ้นทุกครั้ง ยิ่งเร่งเร้า ยิ่งเสียดเสียวสุดใจ
กังสดาลเผยอริมฝีปากพร้อมส่งเสียงกรีดร้องเมื่อจุดสุดยอดมาเยือนเร็วกว่าทุกครั้ง จนต้องดึงมือที่กอดรัดเขาเอาไว้ออกมาปิดปากตนเองอย่างรวดเร็วทว่ายังคงมีเสียงที่หลุดออกมาได้อยู่ดี
อธิคมน์คำรามกระหึ่มเมื่อกระแทกกายแกร่งเข้าสู่ซอกสวาทลึกล้ำที่ดูดกลืนเขาเป็นระยะอย่างหนักหน่วงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนดึงกายออกจากร่องลึกแล้วฉีดพ่นเชื้อพันธุ์ลงเนินสวรรค์ ร่างกำยำกระตุกเกร็ง เสียดเสียวจนขนกายลุกชันไปทั้งร่าง ร้อนผ่าวราวกับเพิ่งเดินลุยไฟมาหมาดๆ จากนั้นจึงพลิกกายลงนอนเคียงข้างร่างระหงที่อยู่ในอาการอ่อนเปลี้ย
นาทีต่อมาชายหนุ่มพลิกร่างนอนตะแคงมองคนที่หอบระทวยก่อนกดริมฝีปากลงบนนวลแก้มแดงปลั่ง หญิงสาวสบตาคมเข้มร้อนแรงแล้วยิ้มจาง การร่วมรักกับเขาครั้งนี้เกิดขึ้นและจบลงอย่างรวดเร็ว ทว่ากลับเต็มไปด้วยความเสียวซ่านมหาศาล
ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหยิบกระดาษชำระ แล้วหมุนกลับไปหาร่างเล็กที่ยังนอนระทวย ก่อนจะจัดการเช็ดทำความสะอาดให้หล่อนอย่างเบามือ การกระทำของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยที่ผ่อนลงเมื่อครู่ค่อยๆ เต้นแรงขึ้นอีกครั้ง
เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบตาคู่หวานที่ยังฉ่ำเยิ้มเพราะฤทธิ์เสน่หา
“คืนนี้จะชดเชยให้อีก” เขาบอกพลางกดจูบลงบนเรียวปากอิ่ม จากนั้นก็ทิ้งกระดาษชำระลงถังขยะก่อนหันกลับมา ภาพของหญิงสาวที่กำลังดึงซับในตัวจิ๋วสวมกลับเข้าไปตามเดิมทำให้คนมองรู้สึกร้อนผ่าวตรงซอกขาอีกครั้ง เพราะท่วงท่าแสนธรรมดาติดเอียงอายนิดๆ ยามอยู่ต่อหน้าเขา ทำให้คนที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อครู่ร้อนรุ่มขึ้นมาอีกหน และก่อนที่หญิงสาวจะติดกระดุมเสื้อ ร่างสูงใหญ่ก้าวเพียงครั้งเดียวก็ประชิดร่างเล็ก
กังสดาลเลิกคิ้วสูงพร้อมกับหัวใจที่เต้นโลดเมื่อสบตากับคนที่รั้งหล่อนให้ยืนขึ้นทั้งตัว
“รอคืนนี้คงไม่ไหวแล้ว ชดเชยตอนนี้เลยแล้วกันนะ...”
สิ้นเสียงกระซิบสั่นพร่า ร่างงามก็ถูกเขากดลงบนเตียงกว้างอีกหน จากนั้นเสื้อผ้าที่เคยค้างคาบนร่างของทั้งสองจึงถูกกำจัดจนสิ้น เพียงไม่กี่อึดใจเสียงครวญครางก็ดังผสานกันอีกครั้ง
นพยกมือค้างที่หน้าประตูห้องนอน คิ้วสีเข้มเลิกขึ้นนิดๆ ขณะที่ริมฝีปากหยักยกคล้ายยิ้ม จากนั้นเขาก็ลดมือข้างนั้นลงแนบลำตัว แล้วหมุนร่างกลับลงไปด้วยท่าทางสบายใจอย่างที่สุด
“เฮียล่ะ” โดมเอ่ยถามขณะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นจิบ ริวได้ยินเข้าก็หันไปมองบ้าง ทว่าอีกฝ่ายไหวไหล่ แต่นัยน์ตาพราวแสงอย่างเด่นชัด เพียงแค่นั้นคนถามก็ยกยิ้มขึ้นอย่างรู้ทัน...
ช่วงเวลาพักผ่อนของเจ้านาย ต่อให้เป็นอาหารมื้อพิเศษมากแค่ไหนก็ยังต้องรอไปก่อน เพราะตอนนี้ อธิคมน์มีอาหารเลิศรสที่แสนล้ำค่ายิ่งกว่าอยู่แล้วทั้งคน...