EP.6 ทำไมเฮียทำตัวแปลก

2025 Words
Episode 6 "เปล่า...กูอยากได้" สำหรับเช้าวันเสาร์ที่ควรจะเป็นวันหยุดที่แสนสงบของผม ก็ดันมีมารหน้าตาหมีๆ มาขัดขวาง โดยการเข้ามาปลุกผมถึงเตียง แถมไม่พอ! ปลุกด้วยตีนอีกต่างหาก “มึงตื่นๆ ตื่นเว้ย!!” “อืออออ...จะนอน” ผมพูดอู้อี้เพราะเอาหน้าฝังลงกับหมอนอยู่ “สิบโมงแล้วเว้ย มึงจะไปขนของไม่ใช่ไง?” พูดอย่างเดียวก็ด้ายย ทำไมต้องกระชากหัวผมด้วย เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย “โอ๊ย เดี๋ยวผมร่วงหมดหัวกันพอดี ปล่อยๆ” ผมพูดพร้อมกับตีมือเฮียหลายๆ ที “ก็ลุกไปอาบน้ำดิ กูเสร็จแล้วเนี่ย เร็วๆ เลยสัด” “ครับๆ ไปแล้วๆ หู้วว รำคาญจริงเว้ย” ไอ้ประโยคแรกนั้นพูดเสียงดังกับเจ้าของห้อง ส่วนประโยคหลังพูดเบาๆ กับตัวเอง แต่คงเบาไม่พอ เพราะเฮียแม่งชี้หน้าคาดโทษผมอยู่ “กูได้ยินนะ” ผมเลยรีบลุกวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัวทันที ผมทำเรื่องออกหอ แล้วจ่ายเงินค่าหอเดือนนี้ที่ค้างไว้ จากนั้นก็ขนของใส่รถเฮีย เตรียมตัวออกจากหอ ขอแบบออกแล้วออกเลย จะไม่หันหลังกลับมาที่นี่อีก ฉันไม่เหลือความทรงจำใดๆ กับที่นี้อีกแล้ว “จะกินไร? กินข้างนอกหรือซื้อเข้าไป” เฮียมันถามหลังจากที่สตาร์ตรถขับออกจากหอเก่าของผม “แล้วแต่เฮียดิ แล้วนี่ไม่แวะหาน้องต้นเหรอ?” ผมถามเฮียหมีเพราะผมกับเฮียช่วยกันขนของลงมาอย่างเดียวเลย เฮียมันก็หน้าหงอยๆ ตอบ “ไม่อ่ะ ต้นไม่ว่าง ไปทำงานหอเพื่อน” “โถ่ว น่าสงสารจริงๆ มามะๆ เดี๋ยวน้องปลอบ” ผมพูดพลางชูแขนทั้งสองข้างไปหาเฮีย “ไปไกลๆ ตีนกูเลย เดี๋ยวกูเอาจริงขึ้นมามึงจะหนาว” เฮียมันผละมือออกจากพวงมาลัยข้างนึงมาผลักหัวผม “อย่านะเฮีย เฮียต้องแฮฟสติ ผมไม่อยากมีตราบาปในจิตใจ” “ตอแหลจริงๆ ติดไอ้ใหม่มารึไง?” “ผมก็ว่างั้น มันมีศัพท์ใหม่มาสอนผมตลอดเลย” อย่างเช่นช่วงนี้มันมาสอนคำว่า ไอแฮฟสติ ผมก็งงๆ ถามมันว่าใช้ทำไร มันก็ด่าผม “ควายหมอก มึงไม่ได้ดู the face เหรอ ดุเดือดเลือดสาด หาสาระไม่ได้ยิ่งกว่าตัวมึงอีก” คือกูก็ทำงาน เรียน ทำงาน วนลูปอยู่อย่างนี้กูจะเอาเวลาที่ไหนไปดู แค่ว่างตอบแชท เล่นเฟสบ้างก็บุญขนาดไหนแล้ววะ “ฮ่าๆ มันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว กูกับมันก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่หรอก” “ต่างนะเฮีย” ผมพูดเสียงจริงจัง “ตรงไหนวะ?” “เฮียเหี้ยกว่าเยอะ ฮ่าๆ” ตอบความจริงล้วนๆ “ไอ้หมอก เดี๋ยวมึงโดนถีบออกจากรถ” “เอ๊ย เฮียดีกว่าเยอะเลยยยยยยย” “ให้มันรู้ซะบ้าง สรุปแดกไร?” “พิซซ่ามะ ช่วงนี้ 1 แถม 1 โทร 1112” สปอนเซอร์ไม่ได้ แต่กูก็จะโฆษณาให้เพราะมันอร่อย! “เออก็ดี สั่งแดกที่คอนโดแล้วกัน” “เอาหน้าไรเฮีย หน้าหล่อๆ ของผมมะ?” “ถุย เอาหน้าไรก็ได้ที่ไม่ใช่หน้ามึงอะ โทรสั่งเลยๆ” “ฮ่าๆ รับทราบ!” พอเราสองคนโซ้ยพิซซ่าถาดกลางสองถาดจนหมด ย้ำว่าหมด คงเพราะใช้พลังงานไปเยอะประกอบกับตอนเช้ากินแค่ขนมปังรองท้องไปเท่านั้นเองเลยหิวจัด จากนั้นผมก็เข้ามาจัดของในห้อง เฮียหมีก็เข้ามาช่วยยกโต๊ะยกตู้ให้อยู่ในมุมที่ผมต้องการ “มึงจะถอดเสื้อทำไม” เฮียมันทำตาโตถาม หลังจากที่เห็นผมถอดเสื้อออก “เอ้า ก็ผมใส่เสื้อสีขาว เดี๋ยวมันก็เปื้อนดิ แถมร้อนอีกต่างหาก” ผมพูดพลางยกมือพัดๆ ตามเนื้อตามตัว “แอร์ก็มีป่ะ” “ผมขี้หนาวอ่ะ” ผมตอบเพราะตัวเองเป็นคนโดนแอร์มากๆ ไม่ได้ ไม่งั้นจะป่วยเอา ยิ่งตอนนอนนะ ต้องเอาผ้าห่มคลุมหัวไว้เลยอ่ะ มันเย็นหัวไงเวลาแอร์เป่าโดน “เรื่องมากว่ะ..ว่าแต่ดูดีๆ มึงนี่ค้าวขาวเนอะ ขนจั๊กแร้ก็ไม่มี เนียนไรขนาดนั้นวะ” เฮียมึงบอกจั๊กแร้กูไม่มีขน แต่ตามึงมองแต่หัวนมกูนี่คือไรวะ? อีกอย่างคือขนน่ะมันก็มี แค่มันอ่อนๆ จนแทบมองไม่มองเห็น แม่งไม่แมนเลยกู “เดี๋ยวๆ อิจฉาหรืออะไร” “เปล่า...กูอยากได้” “ฮะ! อะไรนะ อยากได้อะไรเฮีย?” ผมทำหน้างงใส่เฮีย “กะ..กู เอ่อ กูอยากได้ไม้ปัดฝุ่นไง เนี่ย โต๊ะเปื๊อนเปื้อน” เฮียมันพูดหน้าแดง แดงตั้งแต่หน้ายันคอ แล้วเอานิ้วปาดโต๊ะทำงานมาให้ผมดู คือเอาจริงๆ ผมเพิ่งเช็ดไปเมื่อวานเองนะ เปื้อนแล้วหรอวะ? “ผมเช็ดแล้วนะ เปื้อนอยู่หรอ?” ผมก้มมองโต๊ะทำงานตัวเองที่คิดว่าตัวเองเช็ดดีแล้ว “เนี่ยๆ มึงไม่เห็นเซลล์ฝุ่นหรอ? ไปตัดแว่นมาใส่ไป๊” “เซลล์ฝุ่น? เฮียตาดีขนาดนั้น?” ผมถามอย่างสงสัย “เออดิ สรุปไม้ปัดฝุ่นอยู่ไหน?” ทำไมเฮียดูลนๆ จังครับ “อ๋อ เห็นอยู่ข้างนอกอ่ะ เดี๋ยวไปหยิบให้” “งั้นเดี๋ยวกูไปหยิบเอง” ผมดึงมือเฮียไว้ก่อนที่แกจะก้าวออกห้อง สะดุ้งอะไรขนาดนั้นวะ ทำตัวเหมือนเด็กที่มีความผิดติดตัวแล้วมีคนจับได้งั้นแหละ “เฮียไม่สบายหรอ หรือแพ้ฝุ่น?” “ทะ...ทำไมวะ?” “หน้าเฮียแดงมากอ่ะ กินยามะ?” ผมว่าแล้วลองขยับเข้าไปใกล้ จากนั้นจึงเอาหลังมือไปแตะหน้าผากเฮียดู อืม...ก็ไม่ร้อนนะ แล้วทำไมเฮียหน้าแดงเพิ่มขึ้นไปอีกอ่ะ แถมยืนตัวเกร็งเลยด้วย “เออ... สงสัยกูแพ้อ่ะ กูออกไปก่อนนะ เดี๋ยวเข้ามาช่วยใหม่” เฮียมันรีบถอยหลังออกจากผมแล้วเดินออกไปจากห้องทันที “เป็นไรวะ?” ผมเลยได้แต่เกาหัวงงกับตัวเองแทน แปลก... ช่วงนี้เฮียหมีแปลกๆ ชอบแอบมองผมบ่อยๆ บางทีผมเผลอหันไปเจอแกเข้า ผมก็จะเห็นแกจ้องมาก่อนอยู่แล้ว แถมชอบสะดุ้งเวลาแตะเนื้อแตะตัว ทำอย่างกับผมเป็นของร้อนที่ต้องกระโดดหนีให้ไกลซะงั้น “หมอก..หมอก!!” “ฮะ เรียกทำไมเสียงดังไอ้เบ๊บ” ผมหันไปดุไอ้เบ๊บ ตกอกตกใจหมด “งื้อ ก็หมอกเหม่ออ่ะ เราเรียกตั้งหลายรอบก็ไม่ตอบ” “เออ มันเรียกมึงหลายรอบละ” แหมทีอย่างนี้เพื่อนใหม่เข้าข้างเลยนะครับ “โทษๆ แล้วเรียกไม?” “เราจะถามว่า ทำงานเสร็จแล้วจะอยู่กินข้าวบ้านเราป่าว ใหม่ก็จะอยู่กิน” เบ๊บมันถามผม เพราะวันนี้เรามีเรียนแค่ครึ่งเช้า พอเสร็จก็เลยมาขลุกตัวกันทำงานอยู่บ้านไอ้เบ๊บ “กินดิ ของฟรีกูไม่พลาด วันนี้ไม่ได้ทำงานด้วย เผื่อกูนอนนี่” “เย้! ไม่ได้นอนด้วยกันตั้งนานแหนะ” มันพูดแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี “น้อยๆ หน่อย ทีกูมาขอค้างนะ ต้องอ้างนู่นอ้างนี่กว่าจะยอม” “ก็ใหม่ตัวใหญ่ เบียดเราอ่ะ หมอกตัวพอดีๆ อีกอย่างเราชินกับหมอกมากกว่าด้วย” “ทำไมกูรู้สึกเป็นส่วนเกิน” ไอ้ใหม่พูดพลางตีหน้าเศร้า “ไม่ใช่นะ ก็เราสนิทกับหมอกมาก่อนเลยชินไง อย่าเศร้าสิ” ไอ้นี่บางทีมันก็ฉลาด บางทีมันก็โง่ อย่างตอนนี้เสือกดูไม่ออกว่าไอ้ใหม่แม่งเล่นละครอยู่ “มันตอแหลมึงดูไม่ออกไง๊เบ๊บ” ผมหันไปถามมัน “ใครเขาจะเอาเรื่องเพื่อนมาเล่นวะ กูรู้สึกงั้นจริงๆ” ไอ้นี่ก็ตอแหลไม่เลิก “งื้อออ หมอกอย่าว่าใหม่สิ อยากมาค้างบ้านเราก็มาได้นะ ต่อไปไม่ว่าแล้ว” ไอ้เบ๊บหันมาว่าผม แล้วจากนั้นก็ไปกอดไหล่พูดกับไอ้ใหม่ “จริงดิ กูค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย” มันน่าตบหัวให้หลุดจากคอ ขนาดไอ้เบ๊บกอดไหล่อยู่ข้างๆ มันยังแอบยักคิ้วจึกๆ ใส่ผมเลย “เลิกดราม่าครับ ลงไปกินข้าวกันเถอะ” ผมผลักหัวมันสองคน จากนั้นเราก็ลุกลงไปกินข้าวกันข้างล่าง พอกินข้าวเสร็จ เราสามคนก็มานั่งเล่นเกมส์ในห้องไอ้เบ๊บต่อ เล่นนานจนลืมเวลา จนไอ้ใหม่ที่เห็นเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ แล้ว เลยขอตัวกลับหอ ส่วนผมก็ตัดสินใจนอนที่นี่ เพราะไอ้เบ๊บมันอ้อนให้ผมนอนกับมัน มันบอกว่ามันเหงา เหตุผลมุ้งมิ้งมากครับ (-_-) “งั้นเราอาบน้ำก่อนนะ อย่าคุ้ยข้าวของห้องเราล่ะ” ไอ้เบ๊บกวนตีนผมก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป “กวนตีนละ กูไม่ใช่หมานะ” ผมบอกมันก่อนที่จะเดินออกมารับลมที่นอกระเบียง วันนี้อากาศดีมาก ลมพัดมาเอื่อยๆ เย็นสบายสุดๆ จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น “สวัสดีครับ ตอนนี้ร้านแก็สปิดแล้วนะครับ” (ฮะ...เบอร์ก็ถูกนี่หว่า) “ฮ่าๆ เฮียเด๋อเหรอ? ผมแกล้งเว้ย” (กวนตีน! กูจะถามว่าทำไมยังไม่กลับ อยู่ไหน?) “บ้านไอ้เบ๊บ วันนี้นอนบ้านมัน” (เชี่ยนี่ ไปไหนไม่เคยบอก ถ้ามึงตายนี่กูจะรู้มั้ย) “ขึ้นไรเนี่ย แหนะๆ เป็นห่วงผมก็พูดมาตรงๆ ดิ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน (เออ! แค่นี้แหละ) เฮียพูดจบก็วางสายไปเลย เออนี่คือไรวะ ตอบรับเฉยๆ หรือเป็นห่วง ถ้าอย่างหลังนี่สงสัยจะเขินเลยรีบวางไป โถ่ว น่าเอ็นดูจริงๆ แล้วกูนี่ยิ้มค้างเฉย อาการหนักแล้วนะ “คุยกับใครอะ? ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” ไอ้เบ็บที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ก็มายืนพิงสะโพกที่ประตูบานเลื่อนตรงระเบียง แต่ขอโทษเถอะ มึงวิ่งผ่านน้ำเอาหรอ? “เฮียหมีน่ะ โทรมาถามทำไมไม่กลับ” “แหม แลดูเป็นห่วงกันดีจริ๊งจริง” ไอ้เบ๊บมันทำหน้าล้อเลียน “ก็ตามประสาคนอยู่ห้องด้วยกันปะวะ” “ตอนใหม่มานอนนี่เฮียยังไม่โทรตามเลยนะ นี่อะไรหายไปยังไม่ทันข้ามคืนก็โทรตาม มีซัมติ่งแน่ๆ” “พอๆ มึงก็พูดเหมือนเฮียไม่มีแฟน เลิก มโน ครับ” ผมเดินเข้าไปหามัน แล้วเอานิ้วจิ้มหน้าผากมันจึกๆ “เป็นได้ก็เลิกได้ดิ” ไอ้เบ๊บพูดพลางยักไหล่อย่างกวนๆ “เดี๋ยวๆ คำนี้มันดูคุ้นๆ นะ แล้วมึงจะแช่งเขาทำไม?” “ใหม่พูดบ่อยจะตายเวลาเบื่อแฟนตัวเองอ่ะ แล้วเราก็ป่าวแช่งนะ แค่รู้สึกเฮียกับน้องคนนั้นดูไม่เหมาะกันอ่ะ” “เอ้า มึงเคยเห็นน้องเขาแล้วหรอ?” “อื้ม ตอนไปห้างกับใหม่อ่ะ บังเอิญเจอน้องกับเฮีย เฮียเลยแนะนำให้รู้จัก” “อ๋อ...แล้วมึงคิดว่าเฮียเหมาะกับคนแบบไหนล่ะ?” “หมอกไง ฮ่าๆ” เออ...ยังมาชี้หน้าหัวเราะใส่ผมอีก “ถุย มึงคิดว่ากูกับเฮียเข้ากันได้ว่างั้น ทุกวันนี้พวกกูแทบจะตีกันทุกวัน” “คนเรามักจะเข้ากันได้ โดยที่ไม่มีอะไรเข้ากันนะ” “ปรัชญาไปอีก พอๆ กูไปอาบน้ำล่ะ” “เราจะชิพแบบเงียบๆ ก็ได้ ฮุฮุ” ผมส่ายหัวให้กับความคิดอันน่าสยดสยองของมัน แค่คิดว่าผมกับเฮียเป็นแฟนกัน.... อืม พอเถอะ อย่าคิดเลย จากนั้นผมก็ดันมันให้เข้ามาในห้องแล้วก็หันไปปิดประตู ก่อนจะค่อยเดินเข้าไปอาบน้ำ ส่วนไอ้เบ๊บก็รีบกระโดดขึ้นเตียงตัวเองทันที “รีบๆ อาบ จะได้มานอน นอนเร็วๆ ตื่นมาจะได้สดชื่นนนน” มันว่าแล้วตบเตียงเสียงดังปุ๊ๆ “เออ พรุ่งนี้กูจะตื่นสักสี่โมงแม่ง” “เวอร์ไปละ” “ฮ่าๆ” หวังว่าคืนนี้ผมคงไม่เก็บเรื่องที่ไอ้เบ๊บพูดไปฝันนะ ไม่งั้นมันคงเป็นฝันร้ายที่น่ากลัวมากแน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD