EP.7 นี่มันละครน้ำเน่ารึเปล่า

2896 Words
Episode 7 "เฮียต้องแฮฟสตินะ!" ช่วงนี้ชีวิตของผมกำลังคืบคลานเข้าสู่สมรภูมินักศึกษาอย่างแท้จริง อย่างแรกเลยก็คือ การสอบมิดเทอมกำลังจะเปิดฉากขึ้น อย่างที่สองผมทำงานเกือบทุกวันเพราะตั้งใจจะหยุดช่วงสอบ ไม่งั้นไม่ได้อ่านหนังสือแน่นอน อย่างที่สามคือโปรเจ็กต์งานกลุ่มนั้น มัน มา แล้ว!! กูเครียดกว่าสอบอีกครับ ปกติก็ไม่ค่อยได้นอนอยู่แล้ว นี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ อย่างวันนี้หลังจากที่เราเรียนคาบบ่ายกันเสร็จ เลยตกลงกันหอบงานมาทำกันที่คอนโดเฮีย เพราะมีพื้นที่กว้าง อีกอย่างถ้าหิวก็ลงไปข้างล่างมีเซเว่น แล้วก็ยังมีซุปเปอร์อยู่ใกล้ๆ คอนโดอีกด้วย ถ้าอยากได้พวกผักสด ของสดอะไรพวกนี้ก็ไปซื้อได้ สะดวกโคตรๆ แอ๊ด... “เชี่ย! พวกมึง ทำไมทำห้องกูสกปรกขนาดนี้” เฮียหมีที่คาดว่าออกไปทำงานเพิ่งกลับมา เพราะดูจากการแต่งตัวแล้วหล่อ เนี้ยบมาก พอเปิดประตูเข้ามาเห็นห้องรกไปด้วยกระดาษเกลื่อนกลาดก็บ่นออกมาทันที “เฮีย มึงอย่าเหยียบนะเว้ย ถ้าพังมึงได้ตัดใช้กูแน่” ไอ้ใหม่ชี้หน้าขู่เฮีย เพราะแกเดินมาเกือบเหยียบโครงบ้านที่เราประกอบกันจนใกล้จะเสร็จแล้ว ถ้าพังนี่กูยอมอ่ะ...ยอมตัดใหม่ไง ไม่งั้นจะเอางานไหนส่ง โถ่ชีวิต “เออๆ กูไม่เห็นเหอะ แล้วพวกมึงแดกไรกันยัง?” เฮียแกเหลือบดูนาฬิกา ผมเลยมองตามก็เห็นว่าบ่ายสามแล้ว ถึงว่ารู้สึกหิวๆ “ยังเลยครับ ถ้าเฮียจะใจดีทำให้กินจะหล่อมากๆ เลย” ไอ้เบ๊บได้ทีประจบเฮียแกทันที “ไอ้ทำอ่ะก็ได้อยู่ แต่ของสดหมดตู้ละ เพราะฉะนั้นกูต้องการทาสหนึ่งอัตรา” “ไอ้หมอก/หมอกไง” ไอ้ใหม่กับไอ้เบ๊บประสานเสียงกันโดยที่มิได้นัดหมาย ทีอย่างนี้แม่งสามัคคีกันฉิบหาย “เวร! ทำไมต้องกู เห็นมั้ยกูตัดหลังคาอยู่เนี่ย” “แต่กูกำลังติดกาว ซึ่งตอนนี้มันยังไม่แห้ง” “เราก็วาดส่วนอื่นอยู่นะ ส่วนของหมอกง่ายสุด ทำเมื่อไรก็ได้” “เออๆ!! ทีอย่างนี้พวกมึงนี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ” “ก็เราเพื่อนรักกันเนอะใหม่” “ใช่ครับเพื่อนเบ๊บ” จากนั้นพวกมันก็แท็กมือกัน ผมเลยได้แต่คว่ำปากใส่แม่ง “เอ้าไปเร็วครับน้องหมอก เพื่อนไล่แล้วยังไม่ลุกอีก” เฮียหมีเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเอาตีนเขี่ยขาผม “ชิ ตามบัญชาครับ” ผมพูดประชดเสร็จก็ลุกตามเฮียมาโดยที่ไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย กะว่าอยากกินอะไรก็จะยืมตังเฮียก่อน แล้วเนียนๆ ไม่คืนแม่ง เออ แต่ลืมไปเฮียบอกจะทำกินที่ห้องนี่หว่า เอ๊ะ แต่ก็ฟรีเหมือนกัน ทางไหนก็วินๆ ทั้งคู่ อิอิ “มึงยิ้มไร ทำงานจนเพี้ยนเหรอ?” เฮียหมีทำหน้าเอือมถามผม “เรื่องของผมน่า ว่าแต่ซุปเปอร์มันใกล้แค่นี้เอง จะเอารถไปไมอะ?” ผมถามขณะที่เรากำลังเดินไปทางที่จอดรถแทนที่จะเดินไปซุปเปอร์มาเก็ตข้างคอนโด “กูว่าจะแวะไปหาต้นน้ำก่อนแป๊บนึง เห็นน้องบอกช่วงนี้งานเยอะ วันนี้กูโทรไปก็ไม่รับ” เฮียมันว่าพลางทำหน้าเครียดตอบผม “เป็นห่วงว่างั้น?” “เออดิ แฟนทั้งคน ช่วงนี้ยิ่งไม่ค่อยได้เจอกันเลยด้วย” “อ่าฮะ รีบไปเลย เดี๋ยวเฮียขาดใจตายก่อน” ผมว่าพลางยักคิ้วล้อเลียนเฮียหมี “กวนตีน” เฮียมันเอามือผลักหัวผม จากนั้นเราทั้งคู่ก็ขึ้นรถบีเอ็มคันหรูของเฮียเพื่อมุ่งหน้าไปที่หอน้องต้น หรือก็คือหอเก่าผมนั้นเอง แต่ทำไมผมถึงรู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง ตอนออกมาจากห้องคิ้วข้างขวานี่กระตุกรัวๆ กระตุกจนจะหลุดแล้วเนี่ย พอเฮียจอดรถเสร็จ เฮียก็รีบเปิดประตูรถลงไปโดยที่ไม่มีทีท่าที่จะรอผมที่กำลังปลดสายเบลต์เลยสักนิด คือก็มาด้วยกันเนอะ รอกันหน่อยก็ได้ป่ะ “เฮียรีบไปตามควายรึไง หอมันไม่ได้เดินหนีหรอกเว้ย” “มึงว่าแฟนกูเป็นควายหรอ” “เปรียบเปรยอ่ะ เข้าใจปะ” ส่วนควายมันก็เฮียไงยังไม่รู้ตัวอีก! ประโยคนี้ต้องเก็บไว้ในใจ “เออ ก็เร็วๆ ดิ” เฮียมันพูดเสร็จก็เดินขึ้นบันไดไปเลย ผมเลยต้องรีบวิ่งตามเฮียไป ผมว่าขาผมก็ไม่สั้นนะ เออ! สั้นกว่าเฮียนิดเดียวเถอะ เดินเร็วฉิบหาย นี่ก็ขึ้นแค่ชั้นสองเองทำไมกูเหนื่อยแล้ววะ รู้สึกแก่ ทั้งๆ ที่อายุสิบเก้ากว่าๆ พอผมเลี้ยวขึ้นบันไดมาผมก็เห็น...ผมก็เห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นทันที แม่งเป็นไปได้ไงวะ เหรียญสิบ! เหรียญสิบตกอยู่ที่พื้นตรงหน้าผม! ผมนี่รีบก้มเก็บเลยครับ เปล่างกนะ เราต้องรู้จักคุณค่าของเงินสิ นี่เข้าเซเว่นซื้อลูกอมได้ตั้งถุงหนึ่งแหนะ อ้าวผิดประเด็นเหรอ โทษๆ เอาใหม่ คัท! ผมมองไปทางซ้ายก็เห็นเฮียยืนอยู่หน้าห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องของน้องต้น เลยห้องเก่าผมไปสามห้องเองแหะ แต่ไม่ยักจะเคยเจอกันเลย ผมเลยรีบเดินไปหาเฮีย แต่ก่อนที่ผมจะถึงตัวเฮีย ก็เห็นประตูห้องต้นน้ำเปิดซะก่อน “ใครครับ? มาหาต้นน้ำเหรอ?” อือหื้อออ ซิกแพคกระแทกตามาก เป็นผู้ชายด้วยกันยังต้องยกนิ้วให้ ถึงจะไม่บึกเท่าเฮียก็เถอะ แต่ก็แอบแซ่บอยู่นะ (อันนี้ไอ้ใหม่ก็สอนมา) ถุ้ย! ต้องบอกว่า ชิบ หาย แล้ว! ต่างหาก นี่มันไอ้น้องชินซัมติงของน้องต้นนี่หว่า ออกมาสภาพกางเกงยีนส์ตัวเดียว ผมเผ้ารุงรัง ที่หน้าอกก็มีรอยมือ รอยข่วน คิดในแง่ดีน้องเขาอาจจะเล่นคาดิโอกันก็ได้ เพราะมันเล่นในที่ร่มได้ไง เฮียหมีเบิกตากว้างเล็กน้อย แล้วมองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าของไอ้น้องชิน “มึงแหละเป็นใคร? ทำไมมาอยู่ห้องต้น แล้วต้นไปไหน?” “ทำไมผมต้องตอบคำถามกับคนที่ผมไม่รู้จักล่ะครับคุณหมี?” มันตอบแล้วยักคิ้วกวนตีนใส่เฮียหมี เดี๋ยวนะ..มึงบอกไม่รู้จักแต่เรียกชื่อเขาถูกได้ยังไง แถวบ้านกูเรียกกวนตีน มึงตั้งใจกวนตีนเฮียใช่มั้ยยยย “ถอยเลยมึง!!” เฮียหมีคิ้วกระตุก สีหน้าเริ่มหงุดหงิดแล้วด้วย จากนั้นก็ผลักไอ้ชิน (กวนตีนขนาดนี้งดเรียกน้องละ) จนติดประตู แล้วพุ่งเข้าไปในห้อง ผมเห็นแบบนั้นเลยรีบวิ่งไปเกาะประตูมองเข้าไปในห้องบ้าง ไม่กล้าเดินเข้าไปหรอกครับกลัวโดนลูกหลง ไอ้ชินพอเห็นผมก็ยกมือไหว้แล้วยิ้มให้ “อ้าวพี่หมอกมาไง” “เชี่ย! อย่าเรียกชื่อกู” อิดอกกกก (ยืมเชี่ยใหม่มาใช้แป๊บ) จะเรียกชื่อกูทำมายยยย ผมหันไปด่าไอ้ชินที่ยืนพิงประตูมองผมอย่างยิ้มๆ แล้วคือมึงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยรึไงวะ “ต้น!!!!!” อยู่ๆ เฮียก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ผมหันเข้าไปมองก็เห็นฉากเด็ด เด็ดจริงๆ ไม่ได้ตัด ไม่ได้ร่วงแต่อย่างใด คือน้องต้นมันนอนอยู่บนเตียงแถมใส่แต่เสื้อยืดสีดำตัวใหญ่ ซึ่งก็คงไม่ต้องเดาว่าเป็นของใคร น้องคงไม่อยากเต้นฮิปฮอปหรอกมั้ง “อือ..เสียงดังจัง เฮ้ย เฮียหมี!!!” น้องมันเมาขี้ตาอยู่แค่แป๊บเดียวก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่งมองเฮียตาโต ดีนะยังมีผ้าห่มปิดช่วงล่างไว้ ไม่รู้ว่าใส่กางเกงรึเปล่า แต่จากหน้าประตูแล้วสภาพน้องก็ไม่ต่างอะไรกับไอ้ชินเลย คือผมเผ้ารุงรัง ปากบวมเจ่อ อือหื้อ คิสมาร์คที่คอมันเยอะกว่าวันนั้นที่เห็นอีก คาดว่าคงมีรอยอีกมากใต้ร่มผ้า ไม่รู้รอยที่คอยกับหน้าโกรธๆ ของเฮียอันไหนมันแดงกว่ากันแล้ว แล้วคืออยากถามไอ้ชินมึงข่มขืนน้องต้นหรือยังไง ทำไมน้องหน้าเพลียขนาดนั้น หันไปมองหน้ามัน มันก็ยืนกอดอกพิงประตู ดวงตาฉายแววสนุกสนานเต็มที่ คือมึงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรกับเขาเลยสินะ ส่วนน้องต้นนี่หน้าหดจะเหลือสองนิ้วแล้ว ก้มหน้าหลบตาเฮียหมีใหญ่เลย ความรู้สึกของผมตอนนี้เหมือนกำลังดูฉากละครน้ำเน่าสุดๆ งั้นขอตั้งชื่อเรื่องว่า ชู้รักที่หอน้อยกับควาย(เฮีย)หนึ่งตัว เตรียมถือกล้องซูมหน้าเฮียหมีแป๊บ “นี่มันอะไรต้น?!” เฮียหมีตะคอกเสียงดัง “คือต้น....คือ...ต้นไม่รู้จะพูดยังไง” “หึ ไม่รู้จะพูดยังไงหรอ? แล้วที่ทำนี่คือไรวะ!!! ปั้ง!!!” เฮียมันโกรธเลือดขึ้นหน้าสุดๆ แม่งเตะเตียงที่น้องมันนั่งอยู่จนน้องสะดุ้งเลยอ่ะ ฮือ กูกลัวแทน “เฮ้ย! เฮียใจเย็นดิ” ผมพูดออกไป แต่ขาก็ยืนอยู่ที่เดิม คือก็ห่วงน้องมันนะ แต่กูก็ห่วงตัวเองมากกว่าไง กลัวเฮียเปลี่ยนใจจากเตะเตียงมาเตะกูแทน “เฮียต้องแฮฟสตินะ!” “พะ...พี่หมอก พี่หมอกบอกเฮียหรอครับ?” น้องมาหันมามองผมที่ยืนแอบอยู่ตรงประตูแล้วถามออกมาด้วยเสียงตื่นๆ “เฮ้ย ป่าวเลยๆ เฮียมาเอง” ผมรีบโบกมือปฏิเสธทันที ฮือ กูก็ยืนอยู่เฉยๆ ทำไมเรื่องวิ่งเข้าใส่ซะงั้น “อะไร! มึงรู้อะไรไอ้หมอก!!” เชี่ยหันมามองกูตาเขียวปั๊ดเลย “กูถามไม่ได้ยินหรอ?!!” เฮียหมีตะโกนแล้วทำท่าจะเดินมาหาผม แต่ถูกน้องต้นดึงมือไว้ก่อน “ต้นผิดเอง คุยกับต้นนี่แหละ” “ว้า..เราคงเป็นส่วนเกินสินะ ป่ะพี่หมอกไปหาไรกินข้างล่างดีกว่า ผมหิวว่ะ” ไอ้ชินมันหันมาพูดกับผมเฉย หน้าตาเหมือนรู้สึกผิดที่เป็นส่วนเกินของเฮียหมีกับน้องต้น แต่ขอโทษกูดูไง ว่ามึงแสร้งทำ จากนั้นมันลากผมออกมาจากตรงนั้นเลย ไม่ถงไม่ถามสักคำว่ากกูอยากมากับมึงรึเปล่า พอมันลากผมลงมาได้มันก็พาผมมานั่งโต๊ะไม้หินอ่อนหน้าหอ แต่ประทานโทษเถอะนี่ก็เพิ่งจะห้าโมง มันออกจะแปลกๆ ที่ไอ้หน้าหล่อนามว่าชินมานั่งถอดเสื้ออยู่หน้าหอเนี่ย พอมันนั่งลงเสร็จก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ หน้ามันนิ่งมาก ตาก็มองออกไปยังถนนเบื้องหน้า แถมไม่พูดไม่จาอีก “เฮ้อ...ขอตัวดิ๊” ผมถอนหายใจแล้วลงไปนั่งข้างมัน แล้วแบมือขอบุหรี่จากมัน “พี่สูบด้วย?” มันเลิกคิ้วหันมามองผม “เออ ทำไม? หน้ากูเหมือนเด็กดีหรอ?” “หึ ไม่รู้จริงดิ?” มันหัวเราะในลำคอ จากนั้นก็เคาะๆ บุหรี่ออกมาจากซองให้ผมตัวนึง เชี่ยของแพงด้วยนะนั่น พอผมคาบไว้มันก็บริการจุดไฟแช็คให้ถึงปาก บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ จากนั้นมันก็หันไปมองถนนเหมือนเดิม เราก็นั่งมาได้ราวๆ สิบนาทีได้ ไอ้ข้างบนจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ กูตายแน่ๆ ถ้าเฮียหมีลงมา “พี่ไม่อยากถามผมหรอ?” อยู่ๆ คนข้างตัวก็พูดขึ้น แต่ตามันก็ยังมองถนนอยู่ ผมเลยลองมองดูบ้าง มันอาจะชอบนั่งนับรถที่ขับผ่านไปผ่านมาเหมือนผมก็ได้นะ “ฮึ ถ้ามึงอยากพูด มึงก็พูด กูไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น” “พี่นี่น่าสนใจแฮะ” “อย่าสนใจกูเลย กูขอละ” มันเงียบไปสักพัก แล้วจู่ๆ ก็โพล่งขึ้น “ผมรักไอ้ต้น” “กูก็ดูรู้มะ เจอทีไรจะสิงกันทุกที” “ฮ่าๆ แล้วพี่ว่ามันรักผมบ้างมั้ย?” เสียงมันฟังดูสั่นเครือเล็กน้อย ผมเลยหันไปมองหน้ามัน แต่ตามันก็ยังมองตรงไปยังถนนเบื้องหน้า ผมเลยไม่รู้ว่าแววตาตอนที่มันพูดประโยคนี้มันเป็นยังไง แต่ฟังจากน้ำเสียงมันก็ดูเศร้าพอสมควร “กูจะรู้ได้ไงวะ มึงนี่ถามแปลกๆ” “นั่นสิ พี่ยังไม่รู้เลย แล้วผมจะรู้ได้ไง” “เอ้า..มึงสนิทกันมากกว่ากูป่ะ? กูมันคนนอกนะครับ” สนิทแบบชนิดที่แนบชิดกันไปทุกสัดส่วน “ขนาดตัวอยู่ติดกัน มันยังโทรไปอ้อน ไปหาถึงคอนโดไอ้หน้าหมีนั้นได้เลย” เออดี เฮียชื่อหมีแล้วหน้ายังเหมือนหมีอีก “กูล่ะปวดหัวกับความสัมพันธ์ของพวกมึง” ผมพูดพลางขยี้หัวตัวเอง “ว่าแต่พี่รู้ได้ไงว่าผมกับไอ้ต้นแบบ…” คราวนี้มันหันมามองหน้าผมแล้วนิ้วชี้มาจิ้มๆ กัน แหมน่ารักเนอะ “คือกูเห็นพวกมึงเกือบเล่นหนังสดกันหน้าร้านพี่เต ตอนที่กูเจอมึงครั้งแรกไง” มันทำหน้างงสักพัก แล้วก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจ “แล้วนี่มึงจะเอาไง?” “ไม่เอาไง ผมก็อยู่เฉยๆ” “ฮะ ข้างบนนั้นอาจจะตีกันตายเลยนะ แถมคงไม่ดีกันแล้วด้วย นอกใจขนาดนี้” “หึ ผมมาก่อนไอ้เฮียนั่นนะ ผมรู้จักมันก่อน ผมได้มันก่อน และผมก็รักมันก่อนที่จะคบกับไอ้เฮียนั่นอีก” คราวนี้มันหันมามองหน้าผมเต็มตา ผมเลยได้เห็นแววตาที่เจ็บปวดกับน้ำเสียงที่เศร้าสร้อยอย่างชัดเจนของมัน “แล้วทำไมมึงไม่ทำอะไรให้มันถูกต้องวะ” “ไอ้ต้นมันบอกมันสับสน สับสันเหี้ยไรวะ!! ได้กันตั้งหลายครั้งแล้ว แม่งบอกสับสน แล้วเสือกไปคบกับไอ้เฮียนั่น พอผมถามว่าทำไมทำอย่างนี้ มันก็บอกเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แม่งผมโครตเจ็บอ่ะพี่” ไอ้ชินมันพูดใส่อารมณ์แบบจัดเต็ม คงเพราะมันได้ระบายออกมา มันดูเก็บกดมานาน “กูคงไม่พูดว่าเข้าใจหรอกว่ะ เพราะกูไม่เคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ แต่ก็ถูกของน้องมัน มึงไม่ได้เป็นอะไรกัน คำว่าเซ็กซ์ไม่ได้วัดระดับความสัมพันธ์ที่มึงจะได้ ถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอมรับความสัมพันธ์นั้นหรอกนะเว้ย” ผมพูดแล้วจ้องหน้ามันอย่างจริงจัง “สรุปผมมันโง่เองที่เอาตัวเองไปเจ็บเหรอวะ?” “มึงไม่ได้โง่เว้ย แต่มึงต้องถามตัวเองว่ามึงทำอะไรเพื่อให้ได้ความสัมพันธ์นั้นรึเปล่า” ไอ้ชินเงียบไปเหมือนมันใช้ความคิด มังคงใช้นะ คงไม่ได้มีหัวไว้กันหูอย่างเดียวหรอกมั้ง “เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้ทำไรเลยว่ะ อยากก็เอามัน เบื่อก็ผลักไสมัน ผมคิดว่ายังไงมันก็ยอมผม มันจะไม่หนีผม ผมเรียกมันต้องมา ผมมาหามันต้องอยู่ จนกระทั่งมันบอกผมว่ามันคบกับคนๆ นึงอยู่ ผมแม่งโคตรช็อกว่ะ ทำไรไม่ถูกซักอย่าง โครตน่าสมเพช” “เออ มึงมันน่าสมเพช เสือกคิดได้ตอนเขาไปอ้าขาให้คนอื่นแล้วเนี่ย” “เชี่ย! พี่นี่พูดซะผมเห็นภาพตาม คิดแล้วแม่งขึ้นฉิบหาย” มันว่าพลางขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด “อ้าว ด่ากูอีก กูอุตส่าห์นั่งฟังมึงพล่ามนะ” ผมพูดแล้วขยี้บุหรี่ลงใต้โต๊ะไม้หินอ่อน หันไปก็เห็นว่าอีกคนที่ไม่ได้สูบแล้ว “เออ แล้วกูถามจริงๆ เลยนะ มึงรับได้หรอที่น้องต้น..เออ..ไปเอากับคนอื่น” “หึ รักไปแล้วนี่หว่า มันจะไปเอากับใครอีกสักกี่คนผมก็รักว่ะ” “เชี่ย มีความคมคาย” ผมพูดแล้วพยักหน้าให้มัน “หึๆ พี่นี่คุยถูกคอว่ะ ขอเบอร์หน่อยดิ” “เรื่อง!! กูหาเหาใส่หัวพอแล้ว” ผมทำหน้าขยาดใส่มัน มันเลยหัวเราะเบาๆ “ฮะๆ อย่าคิดมากดิ เผื่อผมเครียดไงจะได้โทรไประบายให้ฟัง” “เพื่อนมึงไม่มีไง?” “มี แต่พี่ก็คุยรู้เรื่องดีไง” “เฮ้อ...เออๆ เอามือถือมาดิ” ผมแบมือลงตรงหน้ามัน มันก็ยื่นโทรศัพท์ที่ปลดล็อกแล้วให้ผม เบะปากแป๊บขนาดภาพหน้าจอยังเป็นภาพไอ้น้องต้นเลย หลงอะไรเบอร์นั้น! “อ่ะ ยิงมาละกัน เดี๋ยวกูเมม” “เมมเบอร์แล้ว เมมผมไว้ในหัวใจด้วยนะ” “ถุ้ย! เก็บไว้ใช้กับน้องต้นเถอะ กูขนลุก!!” ผมทำหน้าสยองใส่มัน มันเลยหัวเราะยิ้มกว้างใส่ผม เฮ้อ..มันคงจะอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วอะนะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD