EP.9 เฮียขอพื้นที่ให้เฮียบ้าง

2871 Words
Episode 9 "อย่ามาน่ารักใส่กู" อะแฮ่ม...ในที่สุดผมก็ได้มีตอนเป็นของตัวเองสักที หลังจากที่ฟังหมอกพล่ามมาซะหลายตอน อุตส่าห์ติดสินบนไรท์ไปตั้งหลายท่า? อย่าคิดมากสิครับไรท์ขอถ่ายรูปเฉยๆ หรอก หึหึ หืมว่าไงนะ...นี่ยังอยากจะรู้จักเฮียคนนี้กันอีกเหรอ? เฮ้อ...ก็ได้ๆ ผมก็แค่คนธรรมดา ที่หล่อ รวย เพอร์เฟกต์ตัวสูง หุ่นนายแบบ จบนิเทศน์ อายุ 25 ปีบริบูรณ์ แค่นั้นเอง *ยิ้มอ่อน แล้วมีคนถามว่าทำไมดูเหมือนเฮียไม่เศร้า ไม่เสียใจเลยที่เลิกกับต้นน้ำ มันก็แน่นอนอยู่แล้วที่เฮียหมีคนจะรู้สึกเสียใจ ผมก็มีความรู้สึกนะ คบกันมาจนเกือบจะสามเดือนแล้วด้วย! แต่มากกว่าความเสียใจคือความเจ็บใจ ที่ถูกน้องมันสวมเขาให้เป็นควายป่าในทุ่งหญ้าแอฟริกากันอ่ะครับ *บีบน้ำตา แต่ความสัมพันธ์ของเรามันก็ก้าวกระโดดกันไปหน่อย มันเหมือนเราสองคนแค่ต่างคนต่างถูกใจ แต่ไม่มีฝ่ายไหนที่ถูกรัก คบกันเหมือนแค่เติมเต็มในส่วนที่เราต่างขาดกันไป ผมก็ทำใจเผื่อไว้แล้วถ้าเลิกกัน เพราะหลังๆ น้องมันก็ไม่มีเวลาให้ ส่วนผมก็ทำงาน เจอหน้าหมอกมากกว่าต้นน้ำอีก (แน่สิเฮียคุณมึงอยู่ด้วยกันนะ) แต่ที่มันโกรธสุดๆ เนี่ย คือผมเสียหน้าไง! ไปเป็นควายให้น้องจูงเล่นอยู่ตั้งนาน สุดท้ายเราสองคนคนก็จบกันด้วยดี? ดีสุดๆ ในส่วนของผมที่จะทำให้ได้อ่ะนะ แต่ก็อีกนั่นแหละ ผมเกลียดหน้าไอ้เด็กชื่อชินนั้นฉิบหาย ยียวนกวนตีน! คิดแล้วของขึ้นทุกที แค่ได้ยินชื่อก็หงุดหงิดแล้วละครับ และผมรู้ว่าพวกมันสามคนเป็นห่วงผม โดยเฉพาะหมอก ผมเลยไม่อยากให้มันเครียดไปด้วย พอมันเสนอกอดปลอบ ผมก็เลยสนอง แล้วหมอกก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ไหนจะซอกคอหอมๆ ที่มีกลิ่นสบู่อ่อนๆ นั้นอีก มันทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นมากเลยละ โครก... โอเค ท้องผมร้องเองแหละ คนหล่อก็หิวเป็นครับ หลังจากที่หมอกเปิดประตูห้องผมออกไปแล้ว ผมก็ลุกตามไป แล้วพุ่งตัวตรงเข้าไปในครัวทันที เพราะเริ่มจะทนความหิวไม่ไหว แต่ก็ถูกหมอกฉุดให้นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าวแทน “เฮียนั่งๆ เดี๋ยวผมตักให้เนอะ” มันยิ้มประจบผมทันที คงสำนึกได้ว่าตัวเองมีความผิดอยู่สินะ ถึงได้บริการดีขนาดนี้ “เร็วๆ ดิ หิวเว้ย” ในเมื่อมันพร้อมจะบริการผมขนาดนี้ ก็ขอแกล้งมันเล่นหน่อยแล้วกัน แอบเห็นด้วยว่ามันเบะปากใส่ผม แต่ปล่อยไปก่อน ทบยอดไว้ หึหึ “ไงเฮีย ออกมากแดกข้าวได้ละหรอ? นึกว่าแดกน้ำตาจนอิ่ม” ไอ้ใหม่เดินเข้ามานั่งตรงข้ามผม งานมึงสำคัญมากสินะ ถึงได้อุตส่าห์ถือโมมาตัดด้วย ส่งเรียนไม่เสียดายตังจริงๆ น้องผมเนี่ย “อย่างกูไม่ร้องไห้หรอกเว้ย กูแค่รู้สึกเสียหน้า แล้วก็เจ็บใจที่โง่เป็นควายเนี่ย” ผมว่า โดยเน้นประโยคหลังพูดใส่ไอ้หมอกเต็มๆ “เป็นผมจะกระทืบซ้ำแม่ง” “นั่นก็เหี้ยไป แล้วมึงรู้เรื่องนี้มาก่อนมั้ย?” ผมถามมันพลางขมวดคิ้ว “เฮ้ย! ไม่เลยๆ ไอ้หมอกคนเดียวเลย ถ้าผมรู้ผมบอกเฮียแล้วดิวะ” ไอ้ใหม่รีบปฏิเสธพัลวัน แล้วชี้มือชี้ไม้ไปที่หมอกทันที “รักเพื่อนแค่ไหนถามใจดู” หมอกส่งสายตาเอือมๆ ให้ไอ้ใหม่ ในมือมันก็ถือจานข้าวที่มีข้าวผัดหน้าตาน่ากินอยู่ในมือ “อ่ะๆ เฮียกินๆ นี่ข้าว ไม่ใช่หญ้า” มันพูดแล้ววางจานข้าวลงตรงหน้าผม จากนั้นมันก็วิ่งตึงตังเข้าไปในห้องผมแทน แล้วกลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กในมือ “มาๆ ผมเช็ดผมให้เนอะ กินไปด้วยเช็ดหัวไปด้วย จะได้ผ่อนคลาย” มันว่าแล้วค่อยๆ เอาผ้าเช็ดหัวผมที่ยังไม่แห้งดีอย่างเบามือ ซึ่งจริงๆ ผมเองก็ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับหัวตัวเอง แต่ถ้ามันมือเบาขนาดนี้ ผมก็โอเคครับ หึ “ตบหัวแล้วลูบหลังกูนี่หว่า” ผมว่าพลางตักข้าวเข้าปาก “ป๊าวววว เช็ดหัวให้อยู่ชัดๆ” “มีความเมียสูงมากเพื่อนกู” ไอ้ใหม่ที่ไม่รู้เลิกก้มหน้าก้มตาตัดโมตั้งแต่เมื่อไร เงยหน้ามามองผมกับหมอกอย่างล้อเลียน “แหม เฮียก็เนอะ ขนาดกูเป็นน้องยังไม่ให้เล่นหัวเลย” “มันเล่นที่ไหน มันเช็ดหัวกูอยู่มะ” ผมว่าแล้วยักคิ้วส่งให้ไอ้ใหม่ “ปากมึงนี่ ขอสาปแช่ง! ให้กรรไกรบาดนิ้ว” หมอกว่าด้วยน้ำเสียหงุดหงิดเล็กๆ “พ่องมึง บาดขึ้นมา มึงมาตัดแทนกูไหมล่ะ” มันทำหน้าเหวี่ยงใส่หมอก จากนั้นก็เปลี่ยนมาคุยกับผมแทน “สรุปว่าไง เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกกับเขาแล้วค่ะ งี้ป่ะ?” ไอ้ใหม่ร้องเป็นทำนองเพลง แล้วส่ายไหล่ไปมา รู้สึกอยากตัดความเป็นพี่เป็นน้องกับมันมากครับ ไปเอาความปัญญาอ่อนแบบนี้มาจากไหนวะ “เลิกดิ ต่อไปกูจะได้ไม่ชนประตูแล้ว” ผมพูดแขวะไอ้คนที่เช็ดหัวให้ผมอยู่ไปด้วย “ฮะ คือไรวะ” ไอ้ใหม่ทำหน้างงถามผม “ถามเพื่อนมึงดิ” ผมว่าแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงบอกมัน “แหะๆ เฮียจำได้ด้วยหรอ” มันพูดแล้วเอาผ้าพาดไว้กับเก้าอี้พร้อมกับนั่งลงข้างผม จากนั้นมันก็รีบหันมายิ้มประจบผมทันที “พอเฮอะ แขวะจนตัวผมแหว่งหมดแล้วเนี่ย มาๆ ป้อนข้าวให้เลยดีมะ” มันทำท่าจะจับช้อนที่ผมถืออยู่ ผมเลยเอาช้อนเคาะมันไปที “กวนตีน อยู่เฉยๆ เลยมึงอ่ะ” ผมส่ายหัวน้อยๆ ให้กับความกะล่อนของมัน “ไรง่า...เฮียอ่ะ อุตส่าห์ง้อ” มันกอดอกแล้วบุ้ยปากน้อยๆ มองผมตาใส “อย่ามาน่ารักใส่กู” ผมพูดแล้วยิ้มน้อยๆ อยู่กับมันนี่ไม่เคยเครียดเกินห้านาทีสักทีแฮะ “เฮีย! พูดงี้ต่อยผมเถอะ ผมออกจะหล่อ มองไงว่าน่ารักวะ” มันว่าแล้วทำท่าเสยผม อืม...ท่าเสยผมที่ผมคิดว่าถ้าตัวเองทำคงหล่อ พอมันทำก็...ดูน่ารักดี อ่า..สมองผมคงเริ่มมีปัญหาแล้วล่ะ “ไม่เอาอ่ะ กูไม่นิยมทำร้ายเด็ก” ผมว่าแล้วเอามือขยี้หัวมันอย่างเอ็นดู “ฮึ่ย ผมฟูเป็นรังนกหมดแล้วมั้ง” มันว่าแล้วปัดมือผมออกไม่แรงนัก “ฮัลโหล กูยังอยู่ตรงนี้ นี่เฮีย เลิกปุ๊บ กะเต๊าะไอ้หมอกต่อเลยว่างั้น?” ไอ้ใหม่โบกมือไปมาเพื่อแสดงตัวว่ามันยังอยู่ตรงนี้นะ “สัดใหม่ กูแค่กำลังชดใช้กรรมเถอะ มึงอย่าจุดประเด็นได้ป่ะ” หมอกหันไปด่าไอ้ใหม่พลางทำหน้าเหวี่ยงเพื่อนตัวเองเต็มที่ “หึหึ เพ้อเจ้อนะมึง” ผมเอื้อมมือไปผลักหัวมันเต็มแรง จนมันเกือบตกเก้าอี้ “มึงเขินรึไงเฮีย ผลักกูซะเกือบตกเก้าอี้ โมกูเกือบเบี้ยวอีก” ไอ้ใหม่โวยวายใหญ่ เพราะมันพูดไปด้วยตัดไปด้วย “แหมทีหัวมันนะขยี้เบาอย่างกับขนนก หัวกูนี่ผลักซะเหมือนขยะเลย ลำเอียงสุด!” “มึงดูดีๆ กูหรือมันที่เขิน ฮ่าๆ” ผมว่าแล้วยักคิ้ว บุ้ยปากไปทางหมอก ที่ตอนนี้นั่งหน้าแดงอยู่เงียบๆ แต่ตามันนี่มองดุทั้งผมทั้งไอ้ใหม่ ซึ่งมันไม่น่ากลัวเลยครับ “งื้อ หนีมาในครัวกันหมดเลยอ่ะ” น้องเบ๊บเดินงัวเงียเข้ามา แล้วนั่งกับพื้นข้างๆ หมอก จากนั้นก็เอาหัวตัวเองมาแหมะไว้กับหน้าขาของหมอก ตามันก็จ้องหน้าผมแบบเบลอๆ ไอ้นี่ทำไมชอบอ้อนหมอกตลอดเลยวะ “กูเห็นมึงหลับเลยไม่อยากปลุกไง เด็กกำลังโตจะได้สูงไวๆ” ไอ้นี่ก็เป็นโรคชอบแหย่ไอ้เบ๊บเหลือเกิน “ตัวสูงไป ถ้าจิตใจต่ำเหมือนใหม่ เราก็ไม่โอเคนะ” น้องเบ๊บพูดทั้งๆ ที่ยังมองหน้าผมอยู่ หมอกปล่อยก๊ากกับประโยคเมื่อกี้ทันที ส่วนผมข้าวในปากแทบพุ่ง ไม่รู้น้องมันด่าผมหรือด่าไอ้ใหม่กันแน่ “ปากมึงแม่งก็มีอยู่แค่นั้น ด่ากูเจ็บแสบเหลือเกินนะ” ไอ้ใหม่ว่าพร้อมเอากรรไกรชี้หน้าน้องเบ๊บ “มึงแพ้น็อคว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” หมอกตบโต๊ะอย่างชอบใจ ก่อนจะก้มลงไปถามเบ๊บ “มึงจ้องหน้าเฮียหมีทำไมวะ?” “เออ จ้องเฮียทำไมครับ?” ผมถามน้อง มันคือคนเดียวในนี้ที่ผมพูดเพราะด้วย เพราะผมคิดว่าถ้าหยาบคายใส่น้องผมคงรู้สึกผิดและแย่มาก น้องมันดูเรียบร้อย ดูเป็นคุณหนูสุดๆ ทั้งหมอกทั้งไอ้ใหม่ก็ชอบโอ๋มัน ทำเหมือนเบ๊บเป็นน้องพวกมันอีกทียังไงยังงั้น “ผมกำลังมองความเปลี่ยนแปลงฮะ” ผมทำหน้างงใส่เบ๊บมัน “ยังไงครับ?” ผมเลิกคิ้วถามมัน “ก็จากควายที่ค่อยๆ กลายเป็นคนไงฮะ ดูดิ เขาเฮียเริ่มหดจนหมดแล้วอ่ะ” น้องมันพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่หัวผม ผมก็อึ้งสิครับ น้องมันกวนตีนผม ถูกมะ? “เชี่ย กูฟังกูยังเจ็บแทนอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้ใหม่พูดแล้วหัวเราะไปด้วย ส่วหมอกถึงกับต้องกลั้นขำไว้จนตัวสั่น “เอ่อ...เบ๊บ อยากโดนเฮียกระทืบหรอครับ?” ผมถาม ในใจก็อยากทำตามที่บอกจริงๆ “พ่อบอกว่าคนเราต้องใช้สมองมากกว่ากำลังนะฮะ” มันก็พูดหน้าซื่อตาใสใส่ผม ราวกับที่มันพูดเป็นเรื่องปกติ เหมือนกับว่ามันไม่ได้ว่าผมแต่อย่างใด “อิเหี้ยกูขำ ฮ่าๆๆๆ” << ไอ้ใหม่ “เฮียก็แพ้น็อคว่ะ ฮ่าๆๆๆ” << หมอก “......” << ผม หลังจากที่ผมทานข้าวเสร็จ หมอกก็อาสาล้างจาน ทำความสะอาดห้องครัวให้ เจ้าสองตัวที่เหลือที่เห็นว่าผมไม่เป็นไรแล้ว ก็เตรียมตัวจะกลับกัน “มึงไม่ค้างที่นี่กันเลยว่ะ ยังทำไม่เสร็จนิ?” ผมถามไอ้ใหม่กับน้องเบ๊บที่หอบงานบางส่วนไว้ในมือของพวกมัน “ไม่อ่ะ เดี๋ยวเอางานไปทำต่อที่หอผม อีกอย่างเวลาเอางานไปส่ง หอผมมันใกล้มอดีด้วย” ไอ้ใหม่ตอบ “อ่าฮะ ตามใจพวกมึง กลับกันดีๆ ล่ะ” ผมบอกพวกมันทั้งสองคน “ครับเฮีย หวัดดีครับ” น้องเบ๊บไหว้ลาผม ผมก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็ไปบอกลาหมอกที่ยังอยู่ในครัว “หมอกเรากลับแล้วนะ บุยๆ” “เออๆ อย่ามัวแต่กัดกันจนงานไม่เสร็จล่ะ” “เหอะ มึงก็อย่ามัวสวีตกับเฮียกูจนรายงานไม่เสร็จล่ะ” ผมแอบขำเบาๆ ที่หมอกโดนไอ้ใหม่ย้อนใส่ “พ่องมึง สวีตห่าไรล่ะ พอๆ กลับไปได้แล้ว!” ไอ้หมอกที่คราวนี้คงทำความสะอาดห้องครัวเสร็จแล้ว ก็เดินออกมาเตะตูดไอ้ใหม่ทันที แล้วก็ดันพวกมันสองคนไปที่ประตูเป็นเชิงไล่ให้กลับ “เชี่ย เดี๋ยวงานร่วง เขินรุนแรงนะมึง ฮ่าๆ” มันว่าเสร็จก็พาน้องเบ๊บเดินออกจากห้องไป พอพวกมันไปแล้ว ห้องก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง “น้องเฮียแม่งกวนตีนว่ะ” หมอกเดินมานั่งเลื้อยที่พรมข้างล่างหน้าโซฟาที่ผมนั่งดูทีวีอยู่ โดยเจ้าตัวนั่งหันหน้ามาทางผม แล้วเอาแก้มแนบไปกับโซฟา “หึ ก็อย่าไปใส่ใจสิ เดี๋ยวมันก็เลิกล้อไปเอง” ผมว่าพลางหัวเราะเบาๆ เพราะมันทำหน้ายู่ใส่ผม “เฮียแหละ ชอบทำให้มันคิด” “เอ้าไอ้นี่ กูก็พูดไปตามที่กูรู้สึกเฉยๆ เอ๊ะ มันคิด หรือมึงคิดกันแน่?” ผมถามแหย่หมอกเล่น แต่หน้ามันกับค่อยๆ แดงระเรื่อขึ้น เออแม่ง...ยังไงผมก็มองว่ามันน่ารักมากว่าที่มันชอบบอกว่ามันหล่ออยู่ดีแฮะ “มะ..ไม่ได้คิด รู้หรอกเฮียแค่แกล้งอ่ะ ไปอาบน้ำดีกว่าร้อน!” มันว่าเสร็จก็ลุกหนีเดินเข้าไปในห้องตัวเองทันที ผมเลยขำเบาๆ ไล่หลังมันไป ขำตรงที่ห้องก็เปิดแอร์ แล้วคือมันเป็นคนขี้หนาวไง แต่บ่นว่าร้อน? ผมเลิกสนใจมันจากนั้นก็หันมาจดจ่อกับซีรี่ย์สุดโปรดที่กำลังฉายอยู่ในขณะนี้ “เฮีย แชมพูหมดอ่ะ ลืมซื้อ ยืมหน่อยดิ” อยู่ๆ ภาพซีรี่ย์ตรงหน้าก็หายไป กลายเป็นอะไรขาวๆ แทน อ๋อ..ก็แค่หมอกมันพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียว มีหยดน้ำเกาะพราวเต็มตัว มายืนตรงหน้าผมแค่นั้นเอง..ขาวมากครับ คอนเฟิร์ม ขาวกระแทกตาสุดๆ ไหนจะหัวนมสีชมพูอมส้มนั้นอีก “เฮีย เฮีย! มองหน้าผมดิ ไม่ใส่มองนม” หมอกว่าแล้วยกมือขึ้นปิดหัวนมตัวเองทันที “กูตั้งใจดูทีวีต่างหาก มึงเดินมาบังเอง ว่าแต่เมื่อกี้พูดว่าไรนะ?” รู้สึกสีข้างตัวเองถลอกจนเลือดซิบ “บอกว่ายืมแชมพูหน่อย” มันทำหน้าเหวี่ยงๆ ใส่ผมที่ไม่ได้ตั้งใจฟังมันพูด “ก็ไปหยิบดิ จะเดินมาอ่อยกูเพื่อ? ใจเย็นๆ กูเพิ่งอกหัก ขอกูทำใจก่อนดิ” ผมแกล้งทำเสียงจริงจังใส่มัน “โว้ย แค่แชมพูหมดนะ แล้วที่เดินมาถามเนี่ย เพราะเห็นว่าเป็นมารยาท ไม่ได้อ่อยเว้ย” มันว่าเสียงดัง แต่หน้านี่แดงไปหมด “มึงรู้ใช่มั้ย! กูชอบขาวๆ มึงเลยมาในสภาพนี้ ใจเย็นๆ นะ กูยังไม่อยากเสียตัว” ผมว่าแล้วแกล้งยกมือขึ้นมาปิดร่างกายตัวเอง เหมือนกลัวว่าจะโดนคนที่ยืนค้ำหัวอยู่จะพรากบริสุทธิ์?ไปจริงๆ “อกหักแล้วสมองเพี้ยนเหรอ? ไม่คุยด้วยละแม่ง” มันว่าแล้วทำท่าจะเดินหนี ผมเลยรีบฉุดข้อมือมันให้พลิกตัวมาหาผม หมอกที่กำลังจะเอี้ยวตัวเดินหนีไป คงยังไม่ทันได้ตั้งตัวมันเลยเซจนเกือบล้ม แต่มือมันก็ค้ำโซฟาไว้ได้ทัน สภาพตอนนี้คือล่อแหลมสุดๆ ลองคิดดูครับ ผมที่กำลังนั่งโซฟาอยู่ ส่วนมันขาข้างหนึ่งงอพับแทรกอยู่ตรงกลางหว่างขาผม ส่วนมือมันก็ค้ำโซฟาด้านหลังผมไว้ เหมือนมันกักผมไว้ในอ้อมแขนของมัน “ทำบ้าอะไ-” มันก้มหน้ามองผม ส่วนผมก็เงยหน้ามองมัน เราต่างคนต่างชะงัก เหมือนตกอยู่ในภวังค์ เพราะตอนนี้หน้าเราสองคนใกล้กันมาก มากจนผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ของอีกฝ่าย ผมเลยถือโอกาสสำรวจใบหน้าของหมอกอย่างละเอียด คิ้วเรียวสีดำสนิทเช่นเดียวกับสีผม ที่รับกันดีกับตาสองชั้นที่ไม่โตนัก แต่เวลายิ้มทีดวงตาจะกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวทรงคว่ำ จมูกโด่งปลายเชิด ปากบางเฉียบสีพีชที่ออกจะคล้ำนิดๆ เนื่องจากเจ้าตัวสูบบุหรี่ รวมๆ แล้วสำหรับผมมันเวลามันทำหน้าเฉยๆ มันจะหล่อ แต่พอมันยิ้มมันจะ...น่ารักมาก สุดท้ายผมก็กลับไปสบกับดวงตาสีน้ำตาลสุกใสนั้นอีกครั้ง เหมือนมันมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง หน้าของผมค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ จนจมูกของเราสองคนสัมผัสกัน และถ้าหมอกมันไม่รู้สึกตัวผละออกจากผมซะก่อน คงไม่จบแค่ที่จมูกสัมผัสกันแน่ “ผะ..ผมไปเอาแชมพูในห้องเฮียนะ” มันพูดละล่ำละลัก จากตอนแรกแค่ที่หน้าแดง ตอนนี้มันเหมือนจะเริ่มแดงไปทั้งตัวแทนแล้ว “อืม รีบอาบ ตากแอร์ตั้งนาน เดี๋ยวป่วย” ผมเองที่สติกลับมาครบถ้วนแล้ว ก็เอ่ยปากบอกมันอย่างเป็นห่วง แล้วหันไปดูซีรี่ย์ต่อเหมือนกับเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ผมคาดว่าผมคงดูไม่รู้เรื่องแล้วล่ะครับ “ครับ” มันว่าเสร็จก็รีบเดินออกไปทันที ส่วนผมตอนนี้ถึงสติจะกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่หัวใจนี่สิมันเต้นรัวเร็วผิดปกติ จนผมต้องยกมือขึ้นมากุมอกตัวเองไว้ เพราะกลัวมันจะเด้งออกมา แล้วก็ได้แต่คิดถึงตอนที่จมูกของเราสองคนได้สัมผัสกัน ยิ่งคิดหัวใจก็ยิ่งรู้สึกทำงานนัก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเมื่อกี้เปลี่ยนจากจมูกเป็นริมฝีปาก มันจะเป็นยังไงกันนะ

Great novels start here

Download by scanning the QR code to get countless free stories and daily updated books

Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD