EP.4 ทำไมเฮียมือเบาจัง

2063 Words
Episode 4 "ถอดเสื้อสิ" ขณะนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในรถบีเอ็มคันหรูของเฮียหมี ไม่กล้าแตะอะไรเลยครับ แลดูแพงไปหมดทุกอย่าง แพงยันคนขับอ่ะคิดดู “กูว่ามึงไปโรงบาลก่อนเถอะ สภาพมึงเหมือนโดนรุมโทรมมาสักสิบคืน” เฮียหมีปรายตามองผมนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปมองทาง “เฮีย คำนั้นมันใช้กับผู้หญิงปะวะ” “หน้าอย่างมึงมันก็ใช้ได้เถอะ สรุปเอาไง” “ไม่ไปอ่ะ เปลืองเงินแย่ ซื้อยาไปทาๆ ก็คงหาย” ผมส่ายหน้าปฏิเสธนิดหน่อย ดำเนินมาถึงตอนที่ 4 แล้วนะคะ ก็ขอฝากติดตามกันไปเรื่อยๆ ค่ะ ฝากคอมเม้นท์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ผมละเมอฝันว่าเจอหมอพูดมากเลยซัดกันซะมันเลย หมอก็เลยทำแผลให้ผมแบบเงียบๆ แทน พอถึงชื่อผม เฮียหมีแกก็ลุกไปเอายามาให้ แอบเห็นในใบเสร็จราคาหลายพันเลย ก็แน่ล่ะ เล่นพามาโรงพยาบาลเอกชน ราคามันก็ต้องแพงหูฉี่เป็นธรรมดา พอผมมาถึงห้องก็เห็นเฮียหมีเหลือบดูเวลา ผมเลยเหลือบดูบ้าง เชี่ย! ตีสามแล้ว ลืมโทรบอกพี่เต ผมเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็เห็นสายไม่ได้รับจากพี่เตหลายสาย เลยโทรกลับไปขอโทษ แล้วบอกว่ามีปัญหานิดหน่อย ไม่ได้กลับเข้าไปแล้ว แล้วก็ขอลางานยาวถึงอาทิตย์หน้าเลย เพราะคาดว่าสภาพร่างกายตัวเองตอนนี้คงไม่ไหว พี่เตก็บ่นนิดๆ หน่อยๆ แต่น้ำเสียงก็ดูเป็นห่วงผมอยู่นะ จากนั้นแกจึงวางสายไป “มึงไปนอนที่ห้องไอ้ใหม่เลยนะ” “เฮ้ย ไม่เป็นไรเฮีย ผมนอนที่โซฟาก็ได้” ผมยกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน เพราะเกรงใจ แค่พาไปหาหมอ จ่ายค่ายาให้ผมขนาดนี้ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว “นอนไปเถอะ มันย้ายข้าวของไปหมดละ” สงสัยเฮียเห็นผมทำหน้างงใส่เลยไขความกระจ่างให้ “มันย้ายไปยึดห้องเมียแล้ว เห็นมันบอกเลิกกับเมียคนนี้เด็ดขาด ยัยนั่นก็เลยย้ายออก มันเห็นหอใกล้มอดีเลยย้ายไปซะงั้น กูช่วยมันขนของไปเมื่อเย็นอยู่ ดีนะของมันไม่เยอะเท่าไหร่” คือมึงอยากจะย้ายก็ย้ายไปง่ายๆ อย่างงี้เลยเหรอวะ “อ๋อ ถึงว่า เห็นเมื่อเย็นมันบอกจะไปเคลียร์กับเมียมัน” “เออ ห้องมันเลยว่างไง มึงก็นอนๆ ไปก่อน ผ้าปูผ้าห่มไอ้ใหม่มันก็ทิ้งไว้นี่ นอนได้สบายๆ มึงอยากไปเมื่อไรก็ค่อยไป แต่อาจจะรกๆ นิดนึงนะ เพราะกูยังไม่ได้ให้แม่บ้านเข้าไปทำความสะอาด” “เฮียแม่งคนดีว่ะ ขอบคุณมากนะครับ ผมคงรบกวนแค่สองสามวันแหละ” ผมยกมือไหว้ขอบคุณเฮียหมี “แน่นอนสิว่ะ กูเนี่ยคนดีสัดๆ มึงแค่มองไม่ค่อยเห็น” เออ ปกปิดมิดมาก “คร้าบบบ งั้นผมเข้าห้องเลยนะ” “เออๆ กินยงกินยาให้เรียบร้อยล่ะ กูไปทำงานต่อละ ถ้ามีไรก็เรียกนะ” “ครับๆ ฝันดีนะเฮีย” อย่างน้อยคืนนี้ก็มีเตียงให้นอนแหละว่ะ ถึงเตียงจะนุ่มน่านอนแค่ไหน แต่ผมก็คงนอนไม่สบายตัวหรอก เพราะตอนนี้รู้สึกเจ็บแผลแบบสุดๆ เลย ทั้งที่หน้า ที่มือ ตัวอีก นี่ยิ่งไม่อยากคิดถึงวันพรุ่งนี้เลยว่าจะทรมานขนาดไหน อยากซ่าดีนักกูนิ ความรู้สึกแรกหลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมา เรียกว่าสะดุ้งตื่นเถอะ คือ ปวด ปวดมาก ปวดฉิบหาย ปวดแบบวายป่วงมาก เผลอนอนทับแผลที่หน้าอีก เพราะตัวเองเป็นคนชอบนอนคว่ำ ทรมานง่ะ แต่ก็ต้องฝืนลุกไปอาบน้ำ ใช้เวลาไปนานพอสมควร ท้องก็ร้อง เลยออกมาข้างนอกห้อง ก็เห็นเฮียหมีนอนสภาพอิดโรยอยู่ที่โซฟา โดยที่ทีวีเปิดค้างไว้อยู่ ผมดูนาฬิกาก็เห็นว่าบ่ายโมงจะบ่ายสองแล้ว แล้วตอนนี้ก็หิวโคตรๆ ก็คงจำเป็นต้องปลุกแล้วล่ะ “เฮียๆ ตื่นๆ จะบ่ายสองละนะ” ผมเขย่าตัวเฮียหมีเบาๆ ไม่ใช่ว่าอยากอ่อนโยนอะไรหรอกนะ แต่คือกูไม่มีแรงไงครับ “หืมมม...อ้าวมึงตื่นละอ๋อ กูเพิ่งนอนไปไม่กี่ชั่วโมงเองนะ” “แต่ผมหิวง่ะ” “มึงก็ไปหาแดกเองดิวะ มือตีนก็มี” คือเฮียมึงพูดอะไรมึงลืมตามามองสภาพร่างกายกูก่อนมั้ย “เฮียอย่าลืมว่าผมโดนยำมา ถ้าจะกรุณาหาแดกให้ผมหน่อย ก็จะเป็นพระคุณมาก” “เออเชี่ย กูลืมๆ งั้นกูไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวออกไปซื้อให้” เฮียหมีรีบเด้งตัวลืมตาขึ้นมามองหน้าผมทันที “จะดีเหรอเฮีย ผมเกรงใจ” “ถุ้ย! มึงมาปลุกกูขนาดนี้ มึงเรียกเกรงใจเหรอ?” เฮียหมีเอามือมาผลักหัวผมเบาๆ “เชี่ย ตัวมึงร้อนๆ ด้วย กูคงต้องซื้อยามาด้วยสินะ” เฮียเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับผม จากนั้นก็เดินเข้าห้องตัวเองไป ผมเลยเดินมานั่งที่โซฟาเพื่อดูทีวีแทน “อยากแดกไร” เฮียหมีที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วเดินไปหยุดที่ประตูทางออกแล้วหันมาถามผม “เฮียกินไรก็อันนั้นแหละ ผมไงก็ได้ แต่ไม่เผ็ดนะ” ผมกินได้เกือบทุกอย่างจริงๆ ครับ ยกเว้นความเผ็ดเพราะมันทำให้ผมแสบท้องง่าย มันทรมานสุดๆ เลยนะ “ขอโอริโอ้ปั่นด้วยก็จะดีมากครับ” “เออ สั่งเหมือนเป็นเจ้าของห้อง” “โถ่ววว สงสารผมหน่อย ว่าแต่ผมไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงได้ป่ะ?” “ไม่ได้! ห้องกูเขตปลอดบุหรี่ สภาพมือมึงยังคีบบุหรี่ได้อีกเหรอ?” เฮียมันดูถูผมครับ! เออ..เฮียดูถูกแล้วครับ “ชิ ว่าแต่เฮียหมี ช่วงนี้เดินผ่านประตูไม่ชนบ้างอ๋อวะ?” “ฮะ ก็ไม่นิ ประตูห้องกูออกกว้าง” “ป่าว ผมรู้สึกช่วงนี้เหมือนเห็นเขาบนหัวเฮียอ่ะ” “อ้าวเชี่ยนี่ กูไม่ใช่กระต่ายนะ เดี๋ยวกูซ้ำซะเลย ไปละสัด” มีความคิดว่าตัวเองน่ารักมากสินะ “ฮ่าๆ คร้าบบบ” เฮ้อ อุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี แถวบ้านกูเรียกเตือนไหมวะ แหม ก็เรื่องของคนสองคนจะเข้าไปยุ่งมากๆ ก็กระไรอยู่ ปล่อยให้เฮียแกรู้เองละกัน กว่าจะกินเสร็จก็ใช้เวลาในการตักข้าวเข้าปากที่ความเร็วเท่ากับหอยทากคลาน คือปากก็เจ็บ มือก็เจ็บอ่ะ ฮึก ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่พื้นหน้าโซฟา เฮียหมีซื้อข้าวมาให้ก็เสิร์ฟให้ถึงหน้าทีวีเลย กินเสร็จก็ยังเอาไปล้างให้ ช่างเป็นคนดีมีน้ำใจยิ่งนัก อ้า...พอกินเสร็จ หนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน “มึงกินยายัง? กินยาแก้ไข้ด้วยนะ” “อือ” รู้สึกเสียงตัวเองยานคางมาก เพราะเริ่มง่วงอีกแล้ว ตอนนี้หน้าก็แนบโต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว “มึงปวดแผลมากมั้ย?” “อือ” “ทำแผลก่อนเร็ว ลุกๆ” “อือ” “อือ ก็ลุกเว้ย มึงจะไหลไปกับโต๊ะไม่ได้นะ” เฮียหมีฉุดผมขึ้นมานั่งบนโซฟา “ก็มันง่วง...ห้าววว” “แดกยาก่อนเลย เอ้า” เฮียรีบยัดยาใส่ปากผม “แค่กๆ เฮียหมีจะฆ่าผมหรอวะ” สำลักเลยแม่ง บอกดีๆ ก็ได้ป่ะ “ลีลาอยู่ได้ มาๆ ทำแผลกัน” “เฮ้ย เดี๋ยวผมทำเอง” แหม ผู้ชายสองคนมานั่งทำไรแบบนี้มันดูจั๊กจี้แปลกๆ ออก “มึงเจียมสังขารมึงด้วย” เฮียหมีทำหน้าเหวี่ยงใส่ผม แต่มือก็ค่อยๆ แกะพวกผ้าก็อตตามหน้าผม จัดการป้ายยาลงไปใหม่ แล้วก็ปิดแผลด้วยผ้าก็อตผืนใหม่ ทุกการกระทำของเฮียมันสะกดสายตาผมไว้ ทั้งสายตาที่มีความจริงจัง ทั้งมือที่ค่อยๆ บรรจงทำแผลให้อย่างเบามือ ผิดกับปากหมาๆ แล้วก็มือสากๆ ใหญ่ๆ ของเฮียแก “มองหน้ากูทำไม?” “ทำไมเฮียมือเบาจัง” ผมถามพลางปรือตาอย่าง่วงๆ “กูเป็นคนอ่อนโยนไง” “แล้วทำไมเฮียหล่อจังวะ” “อันนี้กูก็รู้ตัวดี แหนะๆ แอบชอบเค้าเหยอตัวเอง” “ถุยใส่หน้าได้ปะ” ขอทำการกลอกตามองบนใส่เฮียในความหลงตัวเองของแกครับ “ถ้าจะทำอย่าถามเลยสัด” เฮียมันว่าพลางเอามือยันหน้าผม “เอ้า ถอดเสื้อสิ” อะไรคือการเอามือมาถกเสื้อกูววว “เฮ้ย! ไม่ต้องๆ เดี๋ยวผมทาเอง” อะไรกัน อยู่ๆ มาบอกให้ผมถอดเสื้อ ลูกเขามีพ่อมีแม่นะ ทำอะไรประเจิดประเจ้อที่สุด! “มือมึงก็เจ็บ อย่าเรื่องมากน่า หุ่นอย่างมึงไม่ทำให้กูมีอารมณ์หรอกเว้ย” “ใช่เรื่องป่าววะ เกรงใจหรอก” ปากผมก็พูดไป แต่มือก็ค่อยๆ ถอดเสื้อยืดออก เพราะมือตัวเองเจ็บจริงๆ ขนาดจับแปรงสีฟันยังสั่นอ่ะคิดดู “เชี่ย...ทำไมมึงขาวจังวะ มึงสักด้วยเหรอ?” เฮียพูดพลางทำตาโตมองสำรวจตัวผม...ใช่ครับผมสักไว้ตรงเหนืออกด้านซ้าย สักคำว่า be Alive เป็นตัวหนังสือแบบแนวอาร์ตๆ สวยๆ “นี่เฮียมองรอยสักหรือมองผิวผมเนี่ย ฮะ” แอบรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาของเฮียที่มองสำรวจร่างกายผมอยู่ตอนนี้ “รอยสักประเด็นรอง ผิวมึงประเด็นหลัก ขาวสัด มึงฉีดกลูต้า?” “มันคือไรวะ? แต่ผมก็ขาวมาตั้งแต่เกิดละนะ อีกอย่างผมคนเชียงใหม่นะเฮีย” “เออวะ เจอกี่ทีก็เห็นมึงใส่แต่เสื้อฮู้ดคลุม เคยโดนแดดบ้างป่ะ?” “ผมชินน่ะ...แล้วก็ทายาให้ผมสักทีดิ๊” “เออๆ...กล้ามนงกล้ามเนื้อก็ไม่มีเลยนะมึง” เฮียมันหันไปหยิบยาทาบนโต๊ะมาทาพวกรอยช้ำให้ “มึงขาวขนาดนี้ แม่งรอยช้ำเห็นชัดมากอ่ะ สมัยก่อนห้าวมากรึไง รอยแผลเป็นเต็มเลยเนี่ย” “ฮ่าๆ นิดหน่อย ตามประสาวัยรุ่นน่า” จากนั้นเฮียมันก็จับผมหันหลัง เพื่อทายาต่อ ยอมรับจริงๆ ว่ามือเฮียมันเบาผิดคาดมากๆ เล่นเอาผมเคลิ้มเลย เพราะปกติก็ชอบให้ไอ้เบ๊บลูบหลังอยู่แล้ว “เสร็จละ” “ขอบคุณครับ” ผมพูดเสร็จก็รีบใส่เสื้อ ไม่ใช่ไรหรอกมันหนาว! หนาวทั้งสายตาเฮีย หนาวทั้งแอร์ “ชิบ! ..กูเกือบลืม กูต้องไปส่งงานลูกค้า คงไปสักชั่วโมงสองชั่วโมง ไงมึงก็เฝ้าห้องกูไปนะ” “ได้ๆ ออกไปก็ซื้อข้าวมาบำเรอน้องด้วยนะ” “มึงเพิ่งแดกมะ” “หิวอีกแล้ว เฮียกลับมาก็ข้าวเย็นพอดีไง” “เออ! ใครเป็นเจ้าของห้องกันแน่วะ” เฮียหมีมันเอามือผลักหัวผมแรงๆ ทีนึง แล้วรีบไปหอบข้าวหอบของออกไปข้างนอก “เฝ้าห้องดีๆ นะ คนแปลกหน้ามาเคาะอย่าเปิดไปเล่นด้วยล่ะ” “เฮียหมีผมจะยี่สิบแล้วนะ” “ฮ่าๆ ไปละๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD