“โควตามันฝรั่งยังได้หลายกิโลถึงจะเป็นหัวเล็กๆ ยังถือว่ามากหากนับเป็นต้น อย่างที่เห็นว่ามันเทศกลับได้แค่หัวสองหัว ขึ้นอยู่กับสมาชิกในครอบครัว ฉันจึงนำมันปลูกไว้ที่บ้าน รอให้มันแตกยอดออกมาจากนั้นค่อยตัดเป็นท่อนๆ เพื่อปักชำหลังจากฝนตก”
“ใช้ยอดปลูกหรือ? ฟังดูน่าสนใจ ฉันนำมันสองหัวไปปลูกที่ไร่ แบบนั้นก็พอทำได้ใช่มั้ย”
“ทำได้แน่นอนค่ะ แต่ก่อนจะปลูกต้องนำกิ่งที่ตัดไปแช่น้ำก่อน เพื่อมั่นใจว่าจะติดทุกกิ่งท่อน”
“วิเศษ! แบบนี้มันสองหัวคงได้หลายต้นทีเดียว”
“ฉันยังมีความลับหนึ่ง เพื่อทำให้พืชของเราออกผลผลิตมาเยอะๆ”
“อะไรหรือ เธอสามารถบอกพวกเราได้มั้ย”
“ปุ๋ยสูตรลับค่ะ ไว้ฉันจะแบ่งให้ทุกคนไปลองใช้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามนำไปขายต่อ เป็นหัวเชื้อแบบเข้มข้นที่ต้องผสมน้ำให้เจือจางก่อน ไม่อย่างนั้นแทนที่ต้นไม้จะงาม มันจะตายเหมือนตอนคนกินเกลือเป็นกระสอบ ใส่นิดเดียวอย่าเยอะ” ปุ๋ยน้ำเป็นอะไรที่เห็นผลไว้มาก แต่ต้องใช้ตอนที่พืชโตสักหน่อย หรือจะรดบำรุงดินก็ได้ แต่ที่งอกงามอาจมีหญ้าปะปน
“ตกลง! ฉันจะเชื่อฟังเธอ หากมันออกมาดี ฉันรับรองว่าในหมู่บ้านนี้ใครก็แตะต้องเธอกับอี้หานไม่ได้”
“ใช่! ฉันด้วยอีกคน ใครกล้าหาเรื่องเธอสองคนฉันจะอัดมัน”
จอบในมือหนุ่มน้อยชะงักไปเล็กน้อย ส่งผลให้แรงเหวี่ยงลดลง ก่อนคนที่ถือจอบขุดดินจะเหล่ตามองข้างใบหน้านวล ที่กำลังขะมักเขม้นตั้งใจปลูกมันฝรั่ง เหลืออีกเพียงไม่กี่หลุมจะทำเสร็จ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเฟิ่งอิงถึงทำดีกับทุกคนนัก ไม่ใช่เพราะมีน้ำใจเท่านั้น แต่ยังให้คนในหมู่บ้านเป็นเกราะคอยปกป้อง วิธีการของเธอนี่มันทำให้เขาตื่นตาตื่นใจจริงๆ
ไม่กี่วันต่อมามีฝนตกตอนกลางคืน เฟิ่งอิงดีดตัวจากที่นอนทำอี้หานตกใจ เธอวิ่งออกไปรองน้ำฝนแต่ถูกเขาห้ามไว้ด้วยการกอดเอวเธอแน่น ทำให้ตอนนี้สาวน้อยจมอยู่ในอ้อมกอดของหนุ่มน้อย แต่เธอตื่นเต้นมากจนลืมสังเกตความแนบชิดที่แสนล่อแหลม ณ ขณะนี้
“นายห้ามฉันทำไมล่ะ? เราควรออกไปรองน้ำไว้ดื่มสิ”
“รออีกสักพักเถอะ อย่าลืมว่านี่คือฝนแรกที่ตกลงมา ยังมีฝุ่นผงในอากาศที่เกิดจากสงครามนะ”
เขาชี้มือออกไปด้านนอก คืนนี้เป็นคือจันทร์สว่างแต่เพราะฝนที่ตกลงมามันจึงมืด ถึงอย่างนั้นดวงตาที่ปรับการมองเห็นสามารถดูละอองน้ำใสๆ ลอยกระจาย ความเย็นทำอะไรเธอไม่ได้ เมื่อมีวงแขนแกร่งอันอบอุ่นกอดเธอ
“ดีจัง นี่เป็นฝนแรกที่ไม่ทำให้ฉันรู้สึกกลัว”
“ต่อไปเธอไม่ต้องกลัวอีก เราจะอยู่กันที่นี่ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมีความสุข”
“แต่ว่าเหตุการณ์ยังไม่สงบอย่างแท้จริง นายอาจถูกเกณฑ์ไปรับใช้ชาติ ถึงเวลานั้นจะต้องแยกจากกัน”
“วางใจเถอะ ถึงจะต้องถูกขูดรีดไปบ้าง แต่หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากเมืองสำคัญ ไม่ใช่เขตที่ตั้งของกลุ่มเคลื่อนไหว พวกเขาไม่เคลื่อนพลมาที่นี่หรอก แค่ออกห่างจากดงกระสุนไม่นับว่าดีหรือ”
“อืมดีมาก หว๋าเย็นจัง! น้ำฝนมันช่างต่างกับน้ำในลำคลอง ฉันชอบรสชาตินั้น”
“ไว้รอฉันเก็บเงินอีกหน่อย เราค่อยก่อปูนทำอ่างเก็บน้ำฝนไว้ดื่ม”
“แบบนั้นจะถูกใจฉันมาก! เราจะมีอ่างเพื่อรองน้ำไว้ใช้ ทดแทนของเก่าที่พังไป”
“อิงอิง ถ้าเธอง่วงเธอนอนได้เลย เท่าที่ฉันดูคิดว่าฝนน่าจะตกทั้งคืน ไว้เราค่อยรองน้ำในตอนเช้า”
เหมือนมนต์สะกด เปลือกตาของเธอหรี่แคบลงจนปิดสนิท ร่างของเธอยังคงจมอยู่ในวงแขนของอี้หาน เขานั่งกอดเธอไว้เอาคางเกยซบ มองเธอแล้วอมยิ้ม รู้สึกว่าตนเองเลือกไม่ผิด ที่เขาไม่ได้ขวนขวายหาสิ่งจอมปลอมเช่นในอดีต
มีแต่ทำแบบนี้จึงไม่สูญเสียเธอไป และไม่เสียความเป็นตัวเอง บางอย่างเมื่อเดินเข้าไปแล้วมันไม่สามารถกลับออกมาได้ ดังแมลงที่บินเข้าหาเปลวไฟ ทั้งที่รู้ว่ามันร้อนจะแผดเผาแต่เพราะแสงสว่างเหล่านั้นหลอกล่อ ถึงอยากกลับตัวก็ทำไม่ได้ นอกจากสู้จนหมดสิ้นสิ่งที่มี
ในตอนเช้าระหว่างที่อี้หานเดินสำรวจไร่อยู่ มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งเข้ามาท่ามกลางหมอกสีขาวที่เลือนราง ไร้ประกายร้อนของแสงแดด ชายคนหนึ่งในเครื่องแบบก้าวเท้าลงมายืนอย่างมั่นคง ก้าวเดินบนพื้นดินที่เฉอะแฉะรองเท้าหนังขัดมันราคาแพง ฝ่าหญ้าหนาที่มีหยดน้ำเกาะสะบัดตามแรงที่เคลื่อนผ่าน
เขาเห็นแล้วแต่ยังคงสงบนิ่งราวผืนน้ำที่ไม่ถูกกระทบ เขาเพียงหันมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่มีความกระตือรือร้นหรือประจบประแจงอยากเข้าหา ความเบื่อหน่ายที่แสดงออกมาช่างเย่อหยิ่ง จนนายทหารที่ติดตามไม่พอใจ
“คุณมาหาผมถึงที่นี่ มีอะไรหรือครับ”
“ฉันเห็นบางอย่างในตัวนาย ฉันมีข้อเสนอที่ดีมาก นายจะได้โอกาสฝึกฝนร่วมกับสหายคนอื่น ซึ่งเป็นหน่วยงานพิเศษที่มีความสำคัญอันสูงสุด คนที่ผ่านการฝึกนี้จะได้รับภารกิจ เมื่อทำสำเร็จนายจะได้ติดยศตามความเหมาะสม ฉันรู้ว่านายคือคนที่มีไหวพริบมีความสามารถ นายจะเติบโตมีอนาคตที่ยาวไกล อาจไปได้มากกว่าฉัน”
“ขอบคุณครับ แต่ผมอยากเป็นเกษตรกรมากกว่าจับอาวุธลอบสังหาร”
“ฉันเห็นประกายอันเจิดจรัสในตัวนาย ทั้งความเป็นผู้นำและการตัดสิน มันจะไม่ดีกว่าถ้าได้ทำเพื่อประเทศ นายไม่อยากจบเรื่องที่วุ่นวายเพื่อสร้างความสงบ ถึงเวลานั้นนายจะได้เสพสุขมีทั้งอำนาจชื่อเสียงเกียรติและเงินทอง”
“ด้วยการต้องเข่นฆ่าเพื่อนร่วมชาติหรือครับ? ผมจะยินดีหากได้เป็นทหารของประเทศนี้ ที่ต่อสู้ในสงครามกับคนที่ไม่ใช่เผ่าชาติพันธุ์เดียวกัน แต่ว่าสงครามโลกจบแล้ว ผมคิดว่าเราอยู่ห่างกันไว้หน่อยเถอะครับ มันจะทำให้คนเข้าใจผิด”
“โจวอี้หาน! นายต้องคิดดีๆ นี่คือเกียรติยศที่คนอย่างนายหาไม่ได้อีกแล้ว”
“ผมมีเกียรติครับท่าน การเป็นพลเมืองของประเทศคือเกียรติของผม เกษตรกรอาจดูไม่มีอำนาจ แต่หากทุกคนสามารถมอบผลผลิตที่เพียงพอออกมา ให้ประชาชนได้กินอิ่มไม่ต้องอดมื้ออิ่ม มีหลายคนที่สูญเสียอยู่ข้างนอก ไม่เพียงไร้ที่อยู่เท่านั้น แต่ยังกำลังรอเพื่อให้มีอาหารตกถึงท้อง”
“แม้จะบอกว่ามีการแจกจ่ายอาหาร มีสวัสดิการแต่ใช่ว่ามันจะทั่วถึง ยิ่งเป็นพื้นที่ชนบทที่ห่างไกล ดินกับรากไม้ยังถูกขุดขึ้นมาประทังชีวิต ได้โปรดเข้าใจจุดยืนของผม”
“นายดื้อกว่าที่ฉันคิด ฉันก็อยากดูว่าที่ดินสามไร่ของนายมันจะสร้างประโยชน์ได้มากแค่ไหน!” นายพันโทเดินกลับไปอย่างขุ่นเคือง เสียงประตูรถปิดดังราวกับมันจะพัง แต่ไม่ได้ทำให้คนมีปฏิกิริยาใด
อี้หานไม่ได้โกรธ แต่กลับยิ้มออกมาแล้วทอดสายตามองความงามตรงหน้า สีเขียวอ่อนกับหมอกน้ำค้างสีเทาแกมขาวมันคือภาพที่สบายตา ความเย็นชื้นอาจหนาวเล็กน้อย เพราะเสื้อที่สวมมันค่อนข้างบาง มีกลิ่นดินชุ่มเปียกพอดมแล้วกลับทำให้คนรู้สึกง่วงนอน ในหัวอยากคลานขึ้นที่นอนซุกตัวขดใต้ผ้าห่ม
คิดดังนั้นจึงหันหลังกลับบ้าน ป่านนี้เฟิ่งอิงน่าจะต้มน้ำแกงเสร็จ ได้ซดร้อนๆ และนอนพักฟังเสียงฝน นี่ยังไม่ใช่สวรรค์อีกหรือ
“อี้หานเป็นยังไงบ้าง มีต้นข้าวโพดไหลตามน้ำไปหรือเปล่า”
“ไม่เลย เพราะรากมันติดแน่นและหลุมไม่ได้ตื้น ลำต้นถึงหน้าแข้งฉัน ตั้งตรงไม่ได้ทำให้โค่นง่ายๆ พอได้ฝนดูจะโตไวกว่าเดิม เจ้ามันฝรั่งก็แตกกิ่งก้านออกมาหลายก้าน ไม่น่าเชื่อว่าแค่เศษไส้ปลาที่เธอหมักเคล้าดิน และขี้เถ้ารองหลุมพวกนั้นจะทำให้พืชงอกงามขนาดนี้”
“แบบนี้ถือว่าทำถูกสูตร ฉันกำลังรอยอดมันเทศที่กำลังแตกยอดออกมา ไว้ให้เถาเครือเลื้อยยาวกว่านี้จะเริ่มเอาไปปักชำ ฉันว่าปลูกล้อมรอบที่ดินคงไม่เลว”
เฟิ่งอิงลอบชำเลืองอี้หาน เธอลังเลว่าควรถามเขาไหม เกรงว่ามันจะกลายเป็นเธอคอยจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวเขามากเกินไป
“เธอมีอะไรจะถามฉันรึเปล่า”
“นี่ฉันเอ่อ! นายมองออกชัดขนาดนั้นเลย”
“พูดมาเถอะ เธอสงสัยอะไร”
“ฉันได้ยินเสียงรถ แต่แถวนี้ไม่มีใครมีรถยนต์นอกจากพวกทหาร เขามาหานายหรือเปล่า”
“อืมก็เรื่องเดิม แต่ฉันยืนยันและปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เธอวางใจ ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหน”
“แต่ถ้านายอยากไป อย่าให้ฉันเป็นตัวถ่วงเลย ฉันไม่อยากถูกเกลียดอ๊ะ!”
เฟิ่งอิงสะดุ้งเบิกตากว้าง ที่จู่ๆ ปลายนิ้วเย็นของเขาแตะที่ปากของเธอ พร้อมสายตาที่มองมากำลังปรามไม่ให้เธอพูดเช่นนี้อีก
“อย่าพูดแบบนั้น ฉันจะไม่เกลียดเธออิงอิง” ไม่เพียงแค่คำพูด สองแขนที่ผอมแต่แข็งแรงจะดึงรั้งเธอเข้าไปกอดอย่างหวงแหน
เฟิ่งอิงตกใจทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวก็ตอนที่ตัวเธอจมอยู่ในอ้อมกอดเขา เธอไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนด้วยซ้ำ ใบหน้าของเธอแนบกับแผงอกที่แบนราบ เธอรู้สึกว่ามันไม่ได้แย่อะไร ถึงจะแข็งไปทว่าอบอุ่นจนไม่อยากผละออก ยังคุ้นเคยอย่างประหลาด อาจเพราะเธอมักจะฝันถึงเรื่องนั้น คิดขึ้นมาให้หน้าแดง
บ้าจริง! ทำไมถึงวนเวียนกับเรื่องบนเตียง ที่ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วคือเสียงหัวใจของเขามันเต้นเร็วมาก เหมือนคนที่กำลังหวาดกลัว แต่นั่นจะเป็นไปได้อย่างไร? คนอย่างเขามีอะไรให้ต้องกลัวด้วย
“ก็ได้ ฉันจะไม่พูดแล้ว ตอนนี้นายช่วยคลายวงแขนก่อนได้ไหม มันแน่นเกินไปฉันหายใจไม่ออก” เสียงอู้อี้ของเธอทำให้อี้หานหัวเราะ เขาพอใจที่เธอไม่ได้ต่อต้านสัมผัสจากเขา มันทำให้ระยะห่างของทั้งคู่ลดลง ในอนาคตเขาจะเข้าใกล้เธอมากกว่านี้ พัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ จนเธอยินดีจะอยู่กับเขาอย่างจริงจัง
ผ่านไปหลายสัปดาห์ อี้หานเดินทางเข้าเมืองเช่นเดียวกับผู้ชายในหมู่บ้านเพื่อหางานทำ เฟิ่งอิงคอยดูแลพืชไร่กับแปลงข้าวโพดต้นพันธุ์มันเทศ เธอไม่รอให้เขามาช่วยแต่มักจะทำมันด้วยตัวเอง ทยอยตัดยอดมันไปเสียบ แน่นอนว่าก่อนจะทำแบบนั้นเธอต้องยกร่องให้สูงเท่าหัวเข่า เพื่อให้มันออกหัวได้ดี ระหว่างนี้ยังคงเดินไปรอบหมู่บ้าน นำปุ๋ยน้ำที่หมักเองไปแจกคนที่เป็นมิตร หลายคนบอกเธอว่ากลิ่นมันแย่กว่าของเสียที่ถ่ายออกมา แต่ถึงอย่างนั้นเขาล้วนยินดีที่ได้ไป
“พี่เสี่ยวอิง มีหัวแล้ว! หัวใหญ่มาก”
“หืม? อาเป่าหมายถึงหัวมันหรือ”
“ครับหัวมัน เท่านี้เลยเท่ากำปั้นอาเป่า”
“เมื่อวานพาเขาไปดูไร่ ไม่รู้ว่าซนหรืออยากรู้เห็นเขาเขี่ยลงไป ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง ถึงได้เห็นว่ามันฝรั่งออกมาหลายหัว น้าตกใจจนรีบกลบดินแทบไม่ทันกลัวว่าจะมีตัวอะไรมาคุ้ยกัดกิน”
เฟิ่งอิงคำนวณตอนนี้ปลูกมาได้เดือนครึ่ง ซึ่งอายุเฉลี่ยของมันที่โตเต็มที่คือแปดสิบถึงร้อยวัน เธอกำลังคิดว่ามันออกหัวเร็วเกินไปหรือไม่
“เราต้องรอดูดอกที่บาน เมื่อมันบานยกแปลงจะสามารถตัดยอดแล้วรอให้แห้งลง จากนั้นจะสามารถขุดขึ้นมาได้ จากที่ฉันสังเกตถ้าดินยังชื้นอากาศร้อนกลางวันแต่เย็นมากกลางคืน อาจสามารถปลูกรอบสอง เท่านี้ตอนคืนผลผลิตจะทำให้เหลือมันจำนวนมาก”
“ดี! เอาตามที่เธอว่า ส่วนคนอื่นน้าจะช่วยบอกข่าวพวกเขาเอง ยังมีคนที่ไม่รู้ดีชั่วคอยสร้างข่าวลือหาเรื่องเธอแต่เขาไม่ได้พูดถึงโดยตรง มันจึงยากจะจัดการ”