ตอนที่2 บังเอิญพบเจอ

2242 Words
รรรรณาอุ้มลูกสาวตัวน้อยมากอดแน่นก่อนจะพยายามหลอกล่อให้ดูของเล่นอย่างอื่น เด็กยังไงก็เป็นเด็กเมื่อเด็กของที่ถูกใจก็ลืมเรื่องเมื่อกี้ไปแล้ว น้ำรินอุ้มตุ๊กตาหมีตัวน้อยพรางส่งยิ้มมาให้ผู้เป็นแม่ "น้ำรินอยากได้พี่หมีค่ะ"เด็กน้อยทำเสียงออดอ้อนออกมาให้กับผู้เป็นแม่ทันที "ได้ซิจ๊ะ พี่หมีตัวนี้ชื่ออะไรดีนะ"น้ำรินชอบตั้งชื่อสิ่งของทุกอย่าง หมีสีขาวตัวใหญ่เด็กน้อยก็เรียกว่าก้อนเมฆเพราะสีขาวนุ่มนิ่มเหมือนก้อนเมฆเลย "พี่หมีน่ารัก วันนี้น้ำรินคิดถึงปะป๊างั้นเรียกว่าปะป๊าได้ไหมคะ" "หื้ม ได้ซิค่ะ"พอได้รับอนุญาตจากมารดาเด็กน้อยก็ยิ้มดีใจออกมา "น้ำรินคิดถึงปะป๊ามากเลย ปะป๊าตัวจริงรีบกลับมาหาน้ำรินนะคะ"เด็กน้อยคุยกับพี่หมีสีน้ำตาลเสียงแจ๋วแต่คนฟังกลับพูดไม่ออกนึกว่าพอได้ของเล่นลูกสาวจะลืมทุกอย่าง แต่นี้กลับไม่ใช่เด็กน้อยตาใสคนนี้จำได้ไม่เคยลืม อีกด้านบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักกันดี โชคทวีกรุ๊ป บริษัทที่สร้างผลกำไรไม่น้อยยิ่งตอนนี้มาเปลี่ยนผู้บริหารใหม่เป็นรุ่นลูกชายของอดีตท่านประธานคนก่อน โชคทวีกรุ๊ปในยามนี้ก็ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาแววตาคมเข้มจ้องมองเอกสารบนโต๊ะอย่างพิจารณาตลอดเกือบสี่ปีที่ผ่านมาเขาพยายามตามหาแม่เสือสาวข้างกายในคืนนั้น เพราะตื่นขึ้นมาบนเตียงกว้างก็ไร้วี่แววของผู้หญิงที่ร่วมรักกัน เขาไม่ใช่คนโง่จนไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นบริสุทธิ์มากขนาดไหน ตลอดเวลาหลายเดือนหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้นชายหนุ่มก็พยายามตามหาก็ไร้วี่แววเลยจนตอนนี้เขาพอแล้ว ถ้ามันคือโชคชะตายังไงก็คงได้พบเจอกันอีกแต่ถ้าไม่ชาตินี้ทั้งชาติยังไงก็ไม่ได้เจอกัน "คุณอัคคีครับ ทางมิสเตอร์ทีมจะมาถึงห้างในอีกชั่วโมงข้างหน้าคุณอัคคีจะไปห้างเลยไหมครับ?"เสียงเลขาอย่างกฤษณะบอกเจ้านายหนุ่มที่นั่งหน้าขรึมอยู่ "อืม บอกคนของเราด้วยว่าอย่าให้มีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด" "รับทราบครับ"โชคทวีกรุ๊ปนอกจากจะเป็นเจ้าของนำเข้ารถยนต์แล้วครอบครัวเขายังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชั้นนำในประเทศอีกด้วย การที่มิสเตอร์ทีมเดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อการลงทุนร่วมในธุรกิจโปรเจคใหม่ที่ทางโชคทวีกรุ๊ปกำลังสร้าง ชายหนุ่มแววตาเรียบเฉยพร้อมขาที่ก้าวยาวเดินออกมาสายตาของเหล่าพนักงานต่างจับจ้องมาที่เขาอย่างหวานเยิ้ม เพราะไม่ว่าจะมองทางด้านไหน อัคคี ก็ดูดีเสียไปหมด เขาสูงเกิน180เซนติเมตร ผิวขาวเนียนกว่าผู้หญิงเสียอีก แต่ทว่าใบหน้าเขากลับเย็นชาไร้ความรู้สึกก็ไม่ปาน "ผมขอบคุณมากครับที่คุณสนใจร่วมธุรกิจกับเรา"หลังจากที่พูดคุยกับเสร็จเสียงของอัคคีก็บอกชายตรงหน้าพร้อมมือที่ยื่นออกมา "เช่นกันครับ ผมเองก็ดีใจที่คิดถูกแล้วกับการลงทุนในครั้งนี้"มิสเตอร์ทีมบอกชายหนุ่มก่อนจะจับมืออย่างเป็นมิตร หลังจากที่กฤษณะไปส่งมิสเตอร์ทีมเสร็จเขาก็เดินกลับเข้ามาหาเจ้านาย เพาะเห็นว่านี้ก็เที่ยงแล้ว "คุณอัคคีจะทานอาหารเที่ยงเลยไหมครับผมจะสั่งขึ้นมาให้" "ไม่ต้องหรอก ฉันจะลงไปเองจะตรวจดูห้างด้วย ไปด้วยกันสิวันนี้ฉันเลี้ยง" "ขอบคุณครับ"เขายิ้มให้เจ้านายก่อนจะลงไปพร้อมกัน เช่นเดียวกันของหญิงสาวแม่ลูกหนึ่งที่ในยามนี้พาลูกน้องมานั่งทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในห้าง เธอป้อนข้าวผัดไข่ใส่ปากน้อยๆ ที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ อยู่ "อร่อยไหมคะคนสวยของแม่" "อร่อยค่าาาา"เสียงหวานตอบย่างอารมณ์ดี รรรรณาป้อนลูกสาวคำตนเองคำอย่างมีความสุข หลังจากทานกันเสร็จได้ไม่นานเด็กน้อยตาใสในยามนี้ก็หาวขึ้นมา นี่ล่ะน่าเด็กกินอิ่มแล้วก็ง่วงเลย "งั้นวันนี้เรากลับบ้านกันเลยนะ"น้ำรินพยักหน้าก่อนจะยื่นแขนขึ้นให้มารดาอุ้ม เธอส่งยิ้มก่อนจะสบายกระเป๋าพร้อมอุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมา "กลับบ้านกันน่า"เธอลูบศีรษะของลูกสาวอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินไป ทว่าพอเดินมาอีกทางกลับต้องชะงักเท้านิ่งเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่กำลังเดินมากับผู้ชายอีกคน เธอจำได้ในทันทีผู้ชายในความทรงจำของเธอตลอด4ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอัคคีเขาจะเดินไปศูนย์อาหารแต่ต้องชะงักไม่ต่างกันเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นที่เขาเคยตามหามานานหลายเดือน แถมในตอนนี้สภาพที่เห็นก็ทำเอาคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เด็กคนนั้นคือใคร? คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวสมองของชายหนุ่ม เขาเห็นแววตาร้อนรนนั้นก็ยิ่งไม่เข้าใจ เธอเองก็คงจำเขาได้สินะ หรือไม่ได้กันแน่แต่แววตาที่วิตกนั้นบอกได้ชัดเจนว่าเธอเหมือนรู้จักเขา "เอ่อท่านประธานครับ มีอะไรรึเปล่า?"อัคคีไม่ตอบแต่มองผู้หญิงตรงหน้านิ่ง เมื่อเท้าสั่งให้เดินเข้าไปหา รรรรณากลับรีบก้มหน้าลงก่อนจะสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เธอต้องไม่แสดงพิรุธออกมาสิ ผู้ชายคนนี้ไม่รู้เสียหน่อยว่าน้ำรินเป็นลูกสาวเขา เมื่อคิดได้อย่างนั้นหญิงสาวก็รีบเดินเบี่ยงไปอีกทาง "เดี๋ยว!" น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมสายตายังคงจับจ้องไปที่หนูน้อยแก้มซาลาเปานั้นอย่างตะหงิดใจ รรรรณาแทบหยุดชะงักเธอพยายามบอกตัวเองอย่าตื่นตระหนกมากเกินไป ใบหน้าสวยกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะยอมหันมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่เธอยกมือขึ้นมาจับศีรษะลูกสาวเพื่อไม่ให้หันมา "ไม่ทราบว่าเรียกดิฉันเหรอคะ?"เธอตีมึนถามอย่างใจเย็น แววตาคู่สวยถึงจะไม่กล้าสบตาคนตัวสูงกว่าแต่ก็ไม่ออกอาการอะไรมากมาย เมื่อได้ยินคำของอีกฝ่ายใบหน้าหล่อเหลาถึงกลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เธอกำลังเล่นละครว่าไม่รู้จักเขาสินะ เสียงหัวเราะในลำคอดังเล็กน้อยก่อนจะปั้นหน้าใส่แม่ปลาทองแสนน่ารักคนนี้ต่อ เขาจำเธอได้ไม่มีผิดแน่น้ำเสียงหน้าตาริมฝีปากนั้นเขาไม่มีวันลืม "ครับ ผมว่าเราเคยเจอกันมาก่อนใช่ไหม?" "มะ ไม่เคยหรอกค่ะคุณคงจำคนผิดแล้ว"รรรรณาเปล่งเสียงออกไป ถึงจะพยายามทำน้ำเสียงให้ไม่น่าสงสัยมากแค่ไหนแต่สายตาที่พยายามจับจ้องมานั้นก็ทำเอาหญิงสาวไปไม่เป็น "มามี๊ขา น้ำรินง่วงแล้วค่าาา"เสียงน้อยที่งัวเงียบอกผู้เป็นมารดาทำให้สายตาของอัคคีสนใจไม่น้อย "ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวก่อนนะคะ"เธอตัดบทก่อนจะรีบย่ำเท้าเดินผ่านหน้าชายหนุ่มอย่างเร่งรีบ ท่าทางหญิงสาวเขาจับพิรุธได้ทันทีทั้งอายุเด็กที่พอคาดเดาได้ทั้งระยะเวลาอุ้มท้องทั้งเหตุการณ์ในคืนนั้นมันคล้องจองกันเกินไป แถมหน้าตาแม่หนูน้อยนั้นก็เหมือนเขาหลายอย่าง หัวใจชายหนุ่มเมื่อคิดอย่างนั้นก็เต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะเขาเป็นพ่อคนแล้วงั้นเหรอ แถมลูกสาวหน้าตาน่ารักเหลือเกิน "ฉันต้องการให้นายสืบเรื่องสองแม่ลูกนั้น!" อัคคีจ้องมองกระดาษสีขาวตรงหน้าแววตาคมเข้มจับจ้องไม่กระพริบเมื่อสิ่งที่เขาให้คนไปสืบเรื่องราวของผู้หญิงคนนั้นภายในใจของชายหนุ่มก็เต้นโครมครามออกมา ไม่ผิดอย่างที่เขาคิดไว้เด็กน้อยคนนั้นเป็นลูกเขาจริงๆ ถึงจะไม่ได้รับการยืนยันว่าดีเอ็นเอตรงกับของเขามากแค่ไหน แต่จากการคำนวณอายุเด็กหญิงและวันที่เกิดเรื่องมันใกล้เคียงกันจนเหมาะเจาะแถมใบหน้าเด็กคนนั้นก็เหมือนเขาไม่น้อย อัคคีมั่นใจเต็มร้อยว่าเขาเป็นพ่อผู้ให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อยสุดแสนจะน่ารักคนนั้น ครั้งแรกที่เห็นหน้าความรู้สึกของเขาก็แปลกไปเหมือนโลกใบนี้มีสีสันมากขึ้นกว่าเดิม "ตอนนี้คุณรรรรณาอาศัยอยู่กับลูกสาวกันสองคนที่อพาร์ทเม้นท์ครับ"เสียงเลขาคนสนิท "ลูกสาวฉันชื่ออะไร?" "น้ำริน หรือรรรรญาครับ เดี๋ยวนะครับละลูกสาวคุณอัคคีเหรอครับ!"เสียงชายหนุ่มถามอย่างตกใจที่จู่ๆ เจ้านายเรียกแม่หนูน้อยคนนั้นว่าลูกสาว ตอกแรกถึงจะแปลกใจไม่น้อยที่จู่ๆ ชายหนุ่มสั่งให้ไปตามสืบเรื่องราวของสองแม่ลูกนั้น ใครจะไปคิดว่าแท้จริงแล้วผู้หญิงกับเด็กน้อยคนนั้นเป็นลูกเมียของเจ้านายตน "ไปมีตอนไหนครับทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลย" "อย่าว่าแต่นายเลย ฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองมีลูกสาว มารู้อีกทีดูสิโตจนเดินได้แล้ว"พอคิดแบบนี้ความรู้สึกไม่พอใจจึงเผยออกมาทำไมเธอต้องปิดบังไม่ยอมบอกเขาด้วย ตื่นมาก็ไม่เห็นใครเสียแล้วเขาตามหามานานหลายเดือนก็ไม่มีวี่แววเธอเลยสักนิดเหมือนอยู่คนละโลกกันไม่มีผิด ระยะเวลาที่เขาเสียไปตั้งเกือบ5ปี เขาไม่ยอมง่ายๆ แน่ "ฉันจะไปหาเมียกับลูกของฉันนายช่วยไปบอกคนเตรียมรถให้ด้วย" "ครับๆ คุณอัคคี"คำว่า 'เมียและลูกของฉัน' ทำเอาคนฟังแปลกใจมากไปกว่าเดิมด้วยนิสัยของชายหนุ่มแล้วการที่จะพูดอะไรพวกนี้คือยากมากแต่มาวันนี้เขากลับพูดได้อย่างหน้าตาเฉย อัคคีเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลด้วยความที่เขาไม่ลงรอยกับคนเป็นพ่อสักเท่าไหร่ทำให้ชายหนุ่มไม่เคยกลับไปที่บ้านใหญ่อีกเลยหลังจากที่มารดาเขาเสียชีวิตไป ยิ่งท่านวายุภัคบิดาของเขาเป็นผู้ชายเจ้าชู้ด้วยแล้วทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจอยู่มากเพราะหลังจากที่แม่ของเขาตายไปไม่กี่เดือนให้หลังท่านวายุภัคก็มีเมียใหม่ถึงไม่ได้ตบแต่งกับผู้หญิงคนนั้นแต่ใครๆ ก็รู้ว่าหล่อนคือเมียใหม่ของพ่อเขา อพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่งที่สองแม่ลูกอย่างรรรรณากับลูกสาวอาศัยอยู่หลังจากวันนั้นที่เจอหน้าผู้ชายคนที่เธออยากจะลืมไปตลอดชีวิตความคิดของหญิงสาวปั่นป่วนอย่างบอกไม่ถูกอีกใจก็อยากหนีไปจากตรงนี้อีกใจก็บอกว่าเธอไม่ควรหนีอีก เรื่องของเธอกับผู้ชายคนนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด สนิทก็ไม่สนิททำไมเธอต้องหนีด้วย ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาสติของหญิงสาวกลับคืนมาเธอพยุงร่างตนเองลุกขึ้นก่อนจะตรงไปที่ประตูเพราะคิดว่าป้าสมพิศเจ้าของหอจะมาเก็บค่าห้องเฉกเช่นทุกเดือนเธอจึงเปิดประตูอย่างไม่คิดอะไรแต่ทว่าทันทีที่เห็นคนที่มาแววตาตกใจของอีกฝ่ายจึงเผยออกมาอย่างชัดเจน ตอนนี้เหมือนมีฟ้าผ่าลงมาในใจของหญิงสาวเมื่อคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุดในขีวิตกลับมายืนอยู่หน้าของเธอในเวลานี้ "ใครมาหาค่าาาคุณแม่? ใช่ลุงหมอใจดีรึเปล่า?"เสียงลูกสาวตัวน้อยชะโงกหน้าออกมาดูอย่างสงสัยน้ำรินทิ้งการ์ตูนเรื่องโปรดวิ่งตามมารดาออกมาเพราะอยากเห็นว่าใครมาหาใช่ลุงหมอใจดีอีกรึเปล่า แต่ทว่าคำว่าลุงหมอใจดีทำเอาใบหน้าหล่อเหลาของอัคคีกระตุกสงสัยไม่น้อย "ไม่คิดจะเชิญผมเข้าบ้านหน่อยเหรอครับคุณรรรรณา?"เสียงที่เอ่ยออกมาทำเอาคนที่ยืนไร้สติตื่นไม่น้อย "ฉันไม่รู้จักคุณ!"เสียงห้วนของรรรรณาบอกชายคนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ "แน่ใจ!?"เขาเอ่ยพร้อมสายตาที่จับจ้องใบหน้าสวยอย่างไม่ลดละ เมื่ออีกฝ่ายเงียบเขาไม่รอช้าเดินเลี่ยงกายเข้ามาอย่างถือวิสาสะก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องนี้ มันคับแคบอย่างบอกไม่ถูก "คุณลุงคือใครเข้ามาบ้านน้องน้ำรินทำไมคะ?" เขาหันมามองลูกสาวก่อนจะย่อตัวลงตรงหน้า มือหนายกขึ้นมาลูบศีรษะเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน "ลุงคือปะป๊าของน้องน้ำรินไงครับ" "0_0!"เด็กน้อยตาโตเมื่อได้ยินว่าปะป๊า "พูดอะไรออกมาน่ะ! อย่ามายุ่งกับลูกของฉันนะคุณ"รรรรณาโวยวายใส่ชายตรงหน้า "ลูกของเราต่างหาก"ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งจนทำให้คนฟังถลึงตาใส่อีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD