บทนำ
เมียหมอผี
© สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ๒๕๓๗
และฉบับเพิ่มเติม ๒๕๕๘
ห้ามมิให้ผู้ใดคัดลอก เลียนแบบ ดัดแปลง
หรือเผยแพร่ด้วยวิธีการอื่นใดโดยมิได้รับอนุญาต
Facebook เพจ Writer ใจดินสอ / เดือนสิบสอง
----------
เปรี้ยง!
แผ่นฟ้าสีครึ้มแผดเสียงร้องก้องกังวาน ยามที่แสงสีขาวแหวกว่ายเป็นรอยแยก ค่ำวันนี้มีพายุลูกใหญ่โถมเข้ามายังเมืองหลวงของประเทศไทย ต้นไม้น้อยใหญ่เวลานี้โอนเอนไปตามแรงลม บ้างก็โค่นล้ม บ้างก็กิ่งหัก
ตุบ!
ถังขยะสีน้ำเงินอ้วนกลมริมถนนหน้าบ้านล้มกลิ้งไปตามพื้นถนน นกน้อยใหญ่บนต้นไม้ บ้างก็ตกหล่นจากรวงรัง บ้างก็หนาวสั่นอยู่บนกิ่งไม้ยามที่ห่าฝนเทลงมา
เปรี้ยง!
เสียงสายฟ้าฟาดลงกลางหม้อแปลงไฟฟ้า ที่ติดกับเสาไฟริมรั้วบ้านหลังใหญ่ ประกายไฟอ่อน ๆ ดับวูบลงแทบจะทันทีทันใดเมื่อผีเจ้าที่สาวบริกรรมคาถาป้องปัดอันตรายในเขตของตน
“ป่านทอ ปอถัก” เสียงหวานทรงอำนาจเรียกสองบริวารสาว ดวงตาคมเฉี่ยวทอดมองไปนอกรั้วบ้านที่มีแต่ห่าฝนสีขาวโพลนเทลงมา
“ค่ะ ท่านตรีนุช” สองบริวารสาวรีบวิ่งออกมายังระเบียงศาล ซึ่งมีผู้เป็นใหญ่ยืนรออยู่
“แบ่งหน้าที่กันไปตรวจตราบ้าน ตอนนี้หม้อแปลงโดนฟ้าผ่า ไฟในบ้านน่าจะดับ” เจ้าที่สาวเริ่มสั่งงานสองบริวาร “คนหนึ่งไปตรวจดูหลังบ้านว่ามีต้นไม้หรืออะไรล้มลงมาในรั้วไหม อย่าให้ผู้อาศัยเป็นอะไร อีกคนเฝ้าหน้าบ้านไว้ให้ดี ตอนนี้เจ้าของบ้านอีกคนยังไม่กลับมา ถ้ามีรถวิ่งเข้ามาก็อย่าให้ถนนลื่นจนผู้อาศัยขับรถลำบาก ระวังกิ่งไม้หักตกใส่ผู้อาศัยด้วย”
“รับทราบค่ะท่านตรีนุช” สองบริวารสาวรับคำก่อนจะหายวับออกจากศาลไป
“ส่วนเราคงต้องเข้าไปในตรวจความเรียบร้อยในบ้าน” เรียวปากสีแดงสดพึมพำก่อนจะหายวับออกจากศาลไป
วูบ~
เพียงอึดใจเดียวเรือนร่างอรชรในชุดสูทสีดำรัดรูปก็ปรากฏกายขึ้นในบ้านหลังใหญ่ ดวงตาคมเฉี่ยวกวาดมองข้าวของในบ้านว่ายังอยู่เรียบร้อยดีไหม ไม่มีไฟฟ้าลัดวงจรหรือใครเปิดเตาแก๊สทิ้งไว้ ก่อนจะเดินไปปิดหน้าต่างสองสามบานที่เปิดทิ้งไว้ ตอนนี้ฝนสาดเข้ามาจนพื้นกระเบื้องใกล้หน้าต่างเปียกชุ่มไปหมด แม้จะย้ายเข้ามาประจำการในบ้านหลังนี้นานแล้ว แต่ตรีนุชก็ยังไม่คุ้นเคยกับพื้นที่ในบ้านเท่าไรนัก คงเพราะเธอไม่ค่อยได้เข้ามาในบ้าน
“บ้านเงียบจัง…” เจ้าที่สาวพึมพำขณะเดินขึ้นไปชั้นบน มือเรียวขาวซีดจับราวบันไดขณะสองขาเรียวค่อย ๆ ก้าวขึ้นไป
“พอไออุ่นไม่อยู่ก็ไม่อยากเข้ามาในบ้านเลยแฮะ” เสียงหวานเอ่ยถึงลูกสาวคนเล็กของบ้าน ไออุ่นกับเธอรู้จักกันเพราะไออุ่นเป็นภรรยาของเพื่อนเธอ เด็กคนนั้นแต่งงานกับผีโดยที่คนในบ้านไม่มีใครรู้ ไม่สิ…คนในบ้านรู้กันหมดยกเว้นแม่ของไออุ่น
“ขออย่าให้เจอเลยนะ” เจ้าที่สาวพึมพำเมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแล้ว ในใจนึกถึงชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา เขาชื่ออคิน เป็นลูกชายคนโตของบ้าน เป็นพี่ชายของไออุ่น เธอรู้จักเขาแต่เขาไม่รู้จักเธอ เขาไม่เคยเจอเธอ เพราะเธอไม่เคยปรากฏกายให้เขาเห็นเลยสักครั้ง ตรีนุชคอยระมัดระวังตัวเองอยู่ตลอดเวลา ยิ่งรู้ว่าอคินมองเห็นผี เธอก็ยิ่งระวังตัวแบบยกกำลังสอง
กฎของโลกวิญญาณคืออยู่แบบเงียบ ๆ ไม่แสดงตัวให้คนเป็นหรือผู้อาศัยในบ้านเห็น ทำหน้าที่แค่ดูแลปกป้องความปลอดภัยของผู้อาศัย แต่ทุกวันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับเปลี่ยนแปลงไป กฎที่ว่าเริ่มโดนแหกไปทีละข้อ คนรักกับผี ผีรักกับคน คนกับผีแต่งงานกัน มีลูกด้วยกัน แถมวันดีคืนดีคนยังตามรังควานผี จนผีอย่างพวกเธอต้องอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ
“อคินลูก น้องไอยังไม่กลับบ้านเลย แม่โทรหาก็ไม่ติด” เสียงหวานของหญิงวัยกลางคนเอ่ยกับลูกชายที่หน้าประตูห้อง
เจ้าที่สาวแม้จะพรางตัวแล้วแต่ก็ยังต้องคอยหลบสายตาของใครบางคนอยู่ ร่างอรชนเดินเลียบ ๆ เคียง ๆ ไปตามกำแพงบ้าน ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในผนังแล้วปรากฏกายขึ้นในห้องนอนหนึ่ง ยังดีที่บรรยากาศในบ้านนั้นมืดทึบเพราะไฟดับ เธอเลยทำงานง่าย ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะมองเห็น
“ฝนตกหนักขนาดนี้น้องไอคงค้างบ้านลูกเขยแม่แหละ แม่ไม่ต้องห่วงหรอก” เสียงสองแม่ลูกคุยกัน “แม่รีบเข้านอนได้แล้ว เดี๋ยวผมเอาไฟฉายกับน้ำดื่มเข้าไปให้ ไฟดับแบบนี้อย่าเดินไปไหนนะครับ เดี๋ยวจะสะดุดล้มเอา อย่าลงไปชั้นล่างด้วย มืดแบบนี้เดี๋ยวจะตกบันได” ผู้เป็นลูกชายพูดกับแม่ขณะเดินเข้ามาส่งร่างบอบบางในห้องนอน
ช่วงเวลานั้นเองที่มือเรียวกำลังเอื้อมไปหยิบของบางอย่างที่กลิ้งอยู่บนพื้น ด้วยกลัวว่าผู้อาศัยจะเหยียบมันจนลื่นล้ม และนั่นก็เป็นช่วงเวลาเดียวที่คนเป็นลูกก้มลงมาเก็บหลอดยาดมของแม่ขึ้นไปถือไว้
หมับ!
“อ๊ะ!” เจ้าที่สาวร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะรีบหายวับออกจากห้องนอนนั้น เมื่อครู่เธอรู้สึกว่ามือเขาสัมผัสกับหลังมือเธอและคล้ายกับว่าสบตากัน
“ไม่เห็นหรอกมั้ง เราพรางตัวอย่างดี แถมในห้องก็มืดมากด้วย” เสียงหวานเย็นยะเยือกปลอบใจตัวเอง หัวใจดวงน้อยยังเต้นโครมคามอยู่เลยเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไออุ่นของฝ่ามือหนาที่แตะหลังมือเธอทำให้คิดไม่ตกด้วยกลัวว่าเขาจะมองเห็น
ร่างอรชรไล่ความวิตกเมื่อครู่ออกไป ก่อนจะเดินไปยังห้องนั่งเล่นของบ้าน กวาดมองไปรอบ ๆ อีกครั้งแล้วหายวับออกจากบ้านไป
>>> พี่อคินไม่เห็นจริงจริ๊ง