17.ข้อเสนอที่เย้ายวนใจ

1833 Words
ดาฟเน่เปิดประตูด้านหลังห้องนอนของอีสเซก็พบว่าเธอเดินทะลุมาที่ห้องวาดรูปที่เขาเคยพาเธอมาตั้งแต่ครั้งก่อน เธอกวาดสายตามองรูปที่เป็นใบหน้าของดาฟเน่รอบๆห้อง มีรูปวาดใบหน้าของเธอแทบจะทุกอิริยาบถ ที่มากที่สุดคือรูปตอนที่เธอและเขากำลังร่วมรักกันแต่สิ่งที่สะดุดตาคือรูปในตอนที่เธอกำลังร้องไห้ รูปวาดนั้นสะท้อนอารมณ์เสียใจได้ดีมาก จนเธอที่เพียงยืนมองเฉยๆยังเศร้าไปตามอารมณ์ที่จิตรกรถ่ายทอดออกมาเลย บางทีเธอก็อยากจะถามอีสเซนะ ว่าเขาไปเรียนวาดภาพพวกนี้มาจากไหนกัน แต่ถึงจะมีรูปวาดและรูปปั้นเธอมากมายแต่ไม่มีรูปวาดใบหน้าของเขาเลย รูปในตอนที่เธอมีอะไรกันกับเขา ก็จะเห็นเพียงแค่ใบหน้าของเธอและร่างกายของบุรุษ ไม่มีหน้าตาของบุรุษที่ร่วมรักกับเธอสักรูปเลย เธอยกมือขึ้นมาแตะรูปวาดที่อยู่บนกระดานวาดรูปเบาๆ รูปวาดนั่นคือรูปครั้งก่อนที่เธอกำลังเล่นกับตัวเอง มันยังไม่เสร็จเพราะว่าเขายังไม่ได้ลงสี ห้องนี้มิได้รก..ตรงกันข้ามห้องนี้ถูกเก็บและทำความสะอาดอย่างเรียบร้อย นั่นหมายความว่าคนที่มาทำความสะอาดก็คงจะเห็นรูปพวกนี้หมดแล้วสินะ ถึงมันจะเป็นรูปวาดแต่หน้าเธอเด่นหราบนภาพซะขนาดนั้น ใครๆก็ต้องรู้ว่าเป็นเธอ ดาฟเน่ส่ายหน้าเบาๆ อยากจะเอารูปพวกนี้ไปเผาทิ้งจริงๆ!! เธอเดินออกไปจากห้องวาดรูปเพื่อไปที่สวนด้านหลัง ดอกไม้ส่วนใหญ่ที่เธอเจอก็คือดอกกุหลาบสีแดงสด ไม่ว่าจะเป็นที่นี่ หรือว่าที่คฤหาสน์มาเดลีน ต่างก็มีแปลงดอกกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่ อาจจะเป็นเพราะว่ามันดูแลง่ายและดอกของมันก็ยังคงเบ่งบานแม้ในวันที่หิมะตกเช่นวันนี้ เท้าของเธอเหยียบย่ำไปบนหิมะที่ปกคลุมพื้นอยู่ ดาฟกระชับผ้าคลุมเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงที่หน้าทุ่งดอกกุหลาบขนาดใหญ่ "ท่านเอง ก็เห็นความสวยของมันใช่ไหมคะ?" มีสตรีผู้หนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ นางส่งยิ้มให้ดาฟเน่อย่างอ่อนโยน สายตาที่มองมาที่เธอนั้นราวกับสตรีผู้นี้กำลังรอคอยเธออยู่ "ผู้คนมักจะถูกความงดงามของดอกไม้ดึงดูดเป็นธรรมดา โดยลืมไปว่าหนามของมันช่างแหลมคม" "ข้ามีชื่อว่าเวโรนิก้าค่ะ เวโรนิก้า จาเมล ท่านหญิงเองก็คงจะพอเดาออกว่าข้ามารอพบเจอท่าน" ตระกลูดยุคจาเมล? สตรีผู้นี้มีธุระอะไรกับเธอกันนะ? "ว่ามาสิ ตระกูลดยุคจาเมลมีปัญหาอะไรกับข้างั้นหรือ?" เวโรนิก้ารีบโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ใช่อย่างนั้น "ข้า..มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแต่งงานกับองค์จักรพรรดิค่ะ!! ข้าทราบดีว่าการมากล่าวเช่นนี้มันน่าละอาย แต่ข้ารู้นะคะ ข้ารับรู้ว่าความสัมพันธ์ของท่านหญิงและองค์จักรพรรดินั้นเป็นมากกว่าเพื่อนในวัยเด็ก ที่ข้ามาขอร้องในวันนี้ก็เพราะว่าข้ายินดีที่จะหย่ากับองค์จักรพรรดิให้ท่านหญิงทุกเมื่อ ทันทีที่ท่านหญิงหย่ากับลอร์ดมาเดลีน ตอนนี้องค์จักรพรรดิเองก็ถูกกดดันอย่างหนักเพื่อให้แต่งงาน ข้ามิได้รักพระองค์ค่ะ ข้าสาบานได้เลย!!" ดาฟเน่มิได้ปรายตามองสตรีผู้นั้นเลย เธอใช้มีดที่วางอยู่ตัดดอกกุหลาบออกมาราวสามดอก ก่อนจะส่งให้เวโรนิก้า "..บอกความจำเป็นของเจ้ามาสิ ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้ากับเขารักกัน เช่นนั้นข้าก็ขอฟังเหตุผลของเจ้าหน่อยเถิด" เวโรนิก้ายื่นมือไปรับดอกกุหลาบสีแดง ก่อนที่เธอจะนั่งคุกเข่าลง "เพราะว่าพี่ชายของข้ากำลังจะตายค่ะ ข้ามีพี่น้องสามคน พี่ชายสองคนและข้าคือลูกสาวคนสุดท้อง เมื่อปลายปีที่แล้วธุรกิจของจาเมลขาดทุนอย่างหนักจนเราประสบปัญหาทางการเงิน แต่เมื่อต้นปีท่านพี่คนที่สองที่เป็นนักเวทย์อยู่ที่หอคอย ก็นำเงินมาให้ครอบครัวของเราก้อนหนึ่งซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ทำให้ธุรกิจของจาเมลเดินหน้าต่อไปได้ แต่พอผ่านไปหนึ่งเดือนท่านพี่ก็ล้มป่วยลงอย่างหนัก พอข้าให้หมอที่หอคอยเวทย์มาตรวจดูก็พบว่าเป็นเพราะผลของเวทย์สะท้อนกลับ และการรักษาจะต้องใช้หินเวทมนตร์ ซึ่งหินเวทมนตร์นั้นมีเพียงองค์จักรพรรดิเท่านั้นที่อนุญาตให้ใช้ได้ ข้าสิ้นไร้หนทางจริงๆค่ะเพราะตอนนี้ท่านพี่คนแรกก็ล้มป่วยไปตามๆกัน คนที่จาเมลทุกคนจะต้องตายหากไม่ได้หินเวทมนตร์นั้นไปรักษา...." เธอก้มหน้ามองสตรีที่คุกเข่าอ้อนวอนด้วยอารมณ์ที่ตกใจ ดาฟเน่ยกมือขึ้นมากุมหัวใจที่เต้นแรงของเธอเอาไว้ ปลายปีคือเวลาที่เวด้าถูกแขวนคอและ...เธอได้เข้ามาอยู่ในร่างของดาฟเน่ หรือว่าที่เธอได้กลับมาหายใจอีกครั้งไม่ใช่เพราะว่าพรของพระเจ้า? อาจจะไม่ใช่อย่างนั้นก็ได้ บางทีเธออาจจะคิดมากไปเอง...เมื่อครู่นางบอกว่าพี่ชายของนางได้รับเงินก้อนโตมาเมื่อต้นปี บางทีหากเธอกลับไปตรวจสอบบัญชีรายจ่ายของดาฟเน่น่าจะรู้ชัดเจนมากกว่ามานั่งคิดไปเองว่าเรื่องนี้เกี่ยวกันหรือไม่ "เหตุใดถึงเสนอตัวจะแต่งงานล่ะ ทั้งๆที่แค่เจ้ามาขอหินเวทมนตร์กับองค์จักรพรรดิก็น่าจะเพียงพอ...?" "เพราะว่าข้าไม่รู้จักพระองค์มาก่อน อีกทั้งหินเวทมนตร์นั้นมีค่ามหาศาล ข้าไม่คิดว่าองค์จักรพรรดิที่ชั่....อ่ะ..เอ่อ องค์จักรพรรดิที่ดูใจร้ายจะมอบให้ค่ะ" "เจ้าคิดว่าข้าจะช่วยเหลือเจ้างั้นหรือสาวน้อย? ข่าวลือเกี่ยวกับตัวข้า เจ้าน่าจะรู้ดี ข้าคือดาฟเน่สตรีชั่วช้าแห่งยุคนะ!!" เวโรนิก้ายกยิ้มขึ้นมา นางก้มมองดอกกุหลาบในมือพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าที่แสนจะงดงามของดาฟเน่ "ข้ารู้นะคะ ว่าท่านหญิงใจดีกว่าที่คิด อาจจะเป็นเพราะข้าไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว อันที่จริงข้าคิดว่าข้าจะถูกด่าตั้งแต่ที่ข้าบอกว่าข้าจะแต่งงานกับองค์จักรพรรดิแล้ว แต่ท่านกลับไม่ต่อว่าสักคำแถมยังมอบดอกกุหลาบที่แสนงดงามนี้ให้ข้าอีกด้วย..." เวโรนิก้าสาบานได้เลยว่าเธอไม่เคยพบเจอสตรีใดที่มีเสน่ห์เย้ายวนเช่นนี้มาก่อน ขนาดสตรีด้วยกันยังอดประหม่ากับความงามนั้นไม่ได้แล้วบุรุษจะต้านทานไหวได้อย่างไรกัน!! "..น่าเสียดายที่ข้าต้องตอบว่าข้ามิอาจจะให้คำตอบแก่เจ้าได้ เจ้าต้องไปถามกับอีสเซเอาเอง อากาศเริ่มเย็นแล้วหากว่าเจ้ามีความกล้าพอก็เข้าไปรอเขาด้านในกับข้าสิ" เวโรนิก้าเดินตามดาฟเน่ไปติดๆ หญิงสาวยังคงกำดอกกุหลาบในมือแน่น ด้วยหัวใจที่เต้นแรง กลิ่นหอมหวานจากสตรีที่เดินนำหน้าเธอมันหอมหวานจนเวโรนิก้าอยากจะกล่าวถามออกไปจริงๆว่าท่านหญิงดาฟเน่ใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรกันแน่!! เหตุใดมนุษย์ถึงได้งดงามถึงเพียงนี้กันนะ แม้แต่แผ่นหลังยังงดงามเลยให้ตายเถอะ!! ดาฟเน่พาเวโรนิก้ามาที่ห้องรับรอง เธอเอนตัวล้มนอนลงบนโซฟาโดยมีหมอนอิงอยู่ นิ้วมือที่เรียวยาวหยิบหนังสือนิยายที่เธอชื่นชอบขึ้นมาอ่านด้วยท่าทีเกียจคร้าน "เหตุใดถึงจ้องมองข้าเช่นนั้นเวโรนิก้า ข้าทำอะไรผิดรึเปล่า?" "ไม่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น คะ..คือว่าท่านหญิงงดงามมากจริงๆค่ะ งดงามขนาดที่ว่าข้าเป็นสตรียังอดหวั่นใจมิได้ ความงามของท่านประดุจดังแสงอาทิตย์ที่สาดส่องมาท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายเลยค่ะ มันอบอุ่นและประทับใจ..." ดาฟเน่ขมวดคิ้วมองหน้าเวโรนิก้า เด็กสาวผู้นี้ดูราวกับกระต่ายน้อยเลยแฮะ แต่จะเป็นหมาป่าที่ห่มหนังกระต่ายมารึเปล่านั้น..ยังคงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ แต่ข้อเสนอที่นางยื่นมาน่าสนใจมากทีเดียว บางทีนี่อาจจะทำให้อีสเซเหนื่อยใจน้อยลง เขาจะได้ไม่ต้องมาทนตอบรับการจัดงานเลี้ยงน้ำชาเพื่อหาคู่ให้เขาอีก... เหตุใดถึงโล่งใจกันนะ นี่เธอไปสนใจเกี่ยวกับคู่ครองของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!! ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเธอกับเขาเป็นเพื่อนกันไงล่ะ เพื่อนในวัยเด็กที่สนิทสนมกัน... แต่เพื่อนกันเขาไม่นอนด้วยกันหรอกนะโว้ย!!! ใบหน้าของดาฟเน่พลันขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ เธอวางหนังสือนิยายลงก่อนจะยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ "น่าแปลกที่ดาฟเน่ของข้ามีเพื่อนดื่มน้ำชาด้วย.." อีสเซเดินเข้ามาพร้อมกับนั่งลงข้างดาฟเน่ เขาเลิกคิ้วมองสตรีน้อยผู้หนึ่งที่นั่งตรงกันข้ามเขา "นางบอกว่าจะมาแต่งงานกับเจ้าล่ะ" "ทหาร!! มาจับสตรีผู้นี้โยนออกไปซะ!!" ดาฟเน่รีบยกมือห้ามปรามอีสเซอย่างรวดเร็ว "เจ้าควรจะฟังข้อเสนอของนางก่อนสิ!! ให้ตายเถอะ!!" ดาฟเน่พยักหน้าให้กับเวโรนิก้าเพื่อส่งสัญญาณให้เธอพูดออกมา หลังจากนั้นเวโรนิก้าก็เล่าเรื่องราวต่างๆให้อีสเซฟัง เขาปรายตามองที่ดาฟเน่ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ "เจ้าก็เลยพานางมาหาข้า?" "ใช่ ข้าคิดว่าข้อเสนอของนางไม่เลว" "เลดี้จาเมลเจ้ากลับไปก่อน ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับหญิงคนรัก" เวโรนิก้าลุกขึ้นพร้อมกับทำความเคารพอีสเซและดาฟเน่ก่อนที่นางจะเดินออกไป "อีสเซ หากเจ้ายื่นมือช่วยเหลือนางในครั้งนี้ เจ้าจะได้จาเมลมาเป็นพวกได้อย่างง่ายๆเลย" "ตระกูลที่ล้มเหลวขนาดที่ทำธุรกิจขาดทุนข้ามิอยากได้เป็นพวกนะ!!" "ทุกคนต้องการโอกาสอีสเซ อย่างน้อยในเวลาหนึ่งปีก่อนที่ข้าจะหย่า เจ้าจะได้ไม่ต้องถูกเชิญไปงานเลี้ยงจับคู่" "นั่นคือประโยชน์ข้อเดียวที่เราได้รับ สตรีผู้นั้นจะมีอำนาจในฐานะจักรพรรดินี ในตอนนี้นางอาจจะเป็นกระต่ายใสซื่อน่ารักน่าเอ็นดู แต่พอนางมีอำนาจข้าเชื่อว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป" ที่อีสเซกล่าวมาก็ถูกต้อง.. "เช่นนั้นหากว่าเป็นการหมั้นล่ะ แค่หมั้นกับนางเจ้าก็จะไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องอำนาจที่มากเกินพอดีของนาง และสภาชนชั้นสูงที่คอยจับคู่ให้!!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD