12.ไม่รู้ตัว

1882 Words
"เป็นเกียรติของข้าที่ได้พบเจอกับเลดี้ที่งดงามเช่นท่านหญิงดาฟเน่..." ที่ส่วนล่างของเขามีเพียงห่มผืนเล็กคลุมเอาไว้เท่านั้น แต่ถึงสภาพเขาจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังเดินเข้ามาหาเธอ "แกรนด์ดยุคแตกต่างจากที่ข้าได้ยินมานะคะ" กาเลนหัวเราะ "แล้วเจ้าล่ะ เจ้าเป็นเหมือนกับที่ข้าได้ยินรึเปล่า?" "มีคำกล่าวว่าข่าวลือย่อมต้องหารสอง ข่าวลือของข้าก็เช่นกัน มีข่าวลือแพร่สะพัดออกไปมั่วๆว่าข้าเคยร่วมรักกับบุรุษสองคนพร้อมกัน..." "อ่า..ข่าวลือนั้นทำข้าประทับใจ เสียดายที่มันไม่จริง" "ค่ะ เพราะที่ถูกต้องคือสามคนต่างหาก...แกรนด์ดยุคเบอริฮาน บางทีเราอาจจะร่วมมือกันกระทำบางอย่าง ที่ลึกซึ้งร่วมกันได้ ท่านว่ารึเปล่า?" เขาปล่อยผ้าห่มที่คลุมความเป็นชายของเขาลง เพื่อโชว์ให้เธอเห็นขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ "ทำไมเราไม่มาเริ่ม...กันเลยล่ะ ข้ามั่นใจว่าข้าคนเดียวสามารถทำให้เจ้าร้องครางดังกว่าไอ้เวรสามคนนั่น" เธอหัวเราะเบาๆ "ท่านก็รู้ว่าข้าเป็นคนที่ทำอะไรต้องมีข้อแลกเปลี่ยน" เธอยกนิ้วขึ้นมาวนที่หน้าอกของเขาเบาๆ ก่อนจะใช้นิ้วขยี้เบาๆที่ยอดอกเขา "ซี๊ด!..ข้ายอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้ขึ้นเตียงกับเจ้าสักครั้ง!!" รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นใบหน้าที่งดงามของเธอ "ขอบคุณค่ะ ขั้นแรกเลย ท่านควรจะสวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนค่ะ" ...... "สตรีมากมายที่ข้ารวบรวมมาให้พระองค์ในวันนี้ ต่างก็มีชาติกำเนิดที่ดี อีกทั้งหน้าตางดงาม ข้าเป็นเพียงชายแก่ที่หวังอยากจะเห็นบาทีเรี่ยนไปไกลและยิ่งใหญ่กว่านี้ และพระองค์จะต้องมีจักรพรรดินีเพื่อสืบทอดสายเลือดดวงอาทิตย์แห่งจักรวรรดิ" อีสเซยกยิ้มให้กับอดีตผู้นำตระกูลเบอริฮาน "เราอยากจะยกแกรนด์ดยุคเป็นตัวอย่างเรื่องความรัก ชีวิตคู่ของแกรนด์ดยุคนั้นราวกับเทพนิยาย ความรักเดียวที่มั่นคงและหวานซึ้ง เราคงจะต้องใช้เวลาหาสตรีผู้นั้นอีกสักหน่อย สตรีที่จะทำให้หัวใจของเราเต้นแรงและอยากจะมองที่นางเพียงคนเดียว" อดีตผู้นำตระกูลเบอริฮานกำมือแน่น เขายกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มพร้อมกับเดินหมุนตัวจากไป อีสเซกวาดสายตามองหาดาฟเน่ นี่นางตั้งใจจะให้เขาเต้นรำกับสตรีอื่นจริงๆงั้นหรือ? เขาถอนหายใจก่อนจะส่งมือให้เลดี้ฟินตั้น นางวางมือบนมือของเขาด้วยท่าทีที่แสนจะเบื่อหน่าย "พระองค์เต้นรำแต่กับหม่อมฉันจนมิมีบุรุษใดมาขอหมอมฉันเต้นรำด้วยแล้วนะเพคะ!!" "ทำยังไงได้ เจ้าเป็นสตรีเดียวที่มิได้รักเรานี่" จีน่ามองหน้าของอีสเซ หากว่าเขาสนใจเธอสักนิดก็คงจะเห็นถึงความเจ็บปวดจากสายตาของเธอ เธอคือเพื่อนห่างๆของอีสเซและดาฟเน่ อาจจะเป็นเพราะว่าเธอเข้าวังมาบ่อยทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเด็กหญิงและเด็กชายที่งดงามราวกับงานศิลป์ ไม่ว่าจะมองทางไหน คำว่าคู่ควรมันก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอีสเซและดาฟเน่ เธอคิดว่าพอโตขึ้นสหายทั้งสองจะได้แต่งงานกันซะอีก มันกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งและไร้หนทางเป็นไปได้ แต่ทว่าอีสเซมิใช่คนที่จะยอมแพ้ เขาต่อสู้อย่างหนักนั่นก็เพื่อรอคอยให้ดาฟเน่ขึ้นเป็นจักรพรรดินีเคียงข้างเขา ในขณะที่ดาฟเน่พยายามทำทุกอย่างให้ชื่อเสียงตัวเองไม่ดี... ขนาดเธอที่เป็นสหายยังไม่เข้าใจการกระทำของดาฟเน่เลยจริงๆ เพียงแค่เก็บตัวเงียบๆในคฤหาสน์มาเดลีน พอถึงวันที่นางหย่ากับลอร์ดมาเดลีนนางก็จะสามารถแต่งงานกับอีสเซได้ อาจจะมีคำครหาอยู่บ้างแต่ด้วยชื่อเสียงที่ไม่มีการเสื่อมเสีย สุดท้ายคำครหาก็จะหมดสิ้นไป แต่นางมิทำเช่นนั้น หากว่าไม่รักเหตุใดไม่ปล่อยมือจากอีสเซเล่า ผูกมัดเขาเอาไว้ด้วยเหตุอันใดทั้งที่ตัวเองไม่คิดจะรักเขา และนี่คือสาเหตุหลักที่จีน่าเริ่มตีตัวออกหากดาฟเน่ แต่เธอยังคงพูดคุยกับอีสเซเหมือนเดิม... และไม่สามารถทำให้เขาล่วงรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อัดแน่นในใจของเธอ "...จริงสิ วันนี้พระองค์พบเจอสตรีที่พึงใจไหมคะ ข้าได้ยินว่าอดีตผู้นำตระกูลเบอริฮานพยายามอย่างมากที่จะเฟ้นหาสตรีให้มาเข้าร่วมในงานนี้" "เจ้าก็รู้ว่าเรามิอาจรักใครได้อีกแล้ว ขอบคุณสำหรับการเต้นรำที่แสนจะงดงามนี่นะ" เขาส่งยิ้มให้เธอก่อนจะเดินจากไปทันทีที่เพลงจบ แต่อีสเซก็ต้องชะงักเมื่อดาฟเน่เดินควงแขนมากับแกรนด์ดยุคเบอริฮาน ชายผู้นั้นโอบกอดเธอเอาไว้แนบชิดเกินกว่าคำว่าสนิทสนมไปไกลมากทีเดียว ดาฟเน่หัวเราะเบาๆด้วยท่าทางที่น่าหมั่นไส้ เธอกวาดสายตามองไปรอบๆก็เห็นว่าคนทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยงเริ่มซุบซิบกันบ้างแล้ว เมื่อเพลงบรรเลงขึ้นเธอก็เริ่มเต้นรำกับกาเลนด้วยท่าทางที่สนิทสนมเกินพอดี เขาโอบกอดเธอเอาไว้ตลอดเวลาอย่างหลงใหล "อย่าลืมสัญญาก็แล้วกันดาฟเน่!" "ท่านแกรนด์ดยุคมิคิดว่าเราต่างก็ได้ประโยชน์จากการควงคู่กันในวันนี้งั้นหรือคะ ท่านจะถูกพูดถึง..ไม่สิ เบอริฮานจะถูกกล่าวถึงในทางที่แย่สุดๆจากการเต้นรำของเรา" "รู้ไหมว่าข้าไม่ชอบใจสายตาที่ทำราวกับรู้จักข้าดีของเจ้าเลย ดาฟเน่เราพึ่งเคยพบหน้ากัน จริงอยู่ที่ข้าได้ยินเรื่องของเจ้ามานาน.." เขาหมุนตัวเธอก่อนจะโอบกอดด้านหลังของเธอแทน "เหตุผลที่เจ้าไม่เต้นรำก็เพราะว่าเจ้าเต้นรำได้ห่วยแตกสุดๆไปเลยใช่ไหม?" ดาฟเน่หัวเราะเบาๆ "ข้ารู้จักท่านมากกว่าที่ท่านคิด รู้แม้กระทั่งว่าท่านคือบุตรนอกสมรสของอดีตผู้นำตระกลู กาเลน ข้าทำประโยชน์ให้ท่านได้มากกว่าการร้องครางบนเตียงแน่นอน อยู่ที่ท่านจะเลือกความสุขเพียงฉาบฉวยหรือจะเลือกอิสรภาพจากการหลุดพ้นคำสั่งของบิดาของท่าน..." เขาหมุนตัวเธออีกครั้งในจังหวะสุดท้าย เราทั้งสองสบตากันเนิ่นนานถึงแม้ว่าเพลงจะจบลงแล้ว "เอาสิ ข้าอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะมีความสามารถอย่างที่โอ้อวดเอาไว้รึเปล่า?" "เลือกได้ดี ข้าจะส่งบัตรเชิญมาให้นะคะ หวังว่าท่านแกรนด์ดยุคจะเมตตาให้ข้าเลี้ยงข้าวท่านสักมื้อ" อีสเซเดินเข้ามาพร้อมกับจับมือของดาฟเน่เอาไว้ กาเลนหรี่ตามองอีสเซก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงเพื่อทักทายตามมารยาท "หากแกรนด์ดยุคเต้นรำกับดาฟเน่เสร็จแล้ว เราขอพานางไปเต้นรำบ้างนะ" "ตามพระประสงค์เลยครับ ฝ่าบาท" อีสเซยกมือขึ้นมาโอบกอดดาฟเน่เอาไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของก่อนจะพาเธอเดินออกมาข้างนอก เขาปรายตามองเธอราวกับรอยคอยคำกล่าวอธิบาย เขาเข้าใจดาฟเน่เสมอเกี่ยวกับบุรุษที่เธอไปอยู่ด้วย แต่ชายพวกนั้นมิใช่บุคคลที่มียศถาบรรดาศักดิ์เลย ในใจพลันเกิดความเจ็บปวด คิดไปถึงว่าเธออาจจะตีจากเขาแล้วไปอยู่กับแกรนด์ดยุคแทน ชีวิตของเขาเสียอะไรก็ได้แต่เสียดาฟเน่ไปมิได้ หรือว่าจะต้องเริ่มต้นที่การทำลายเบอริฮานก่อนซะ จัดการด้วยข้อหาอะไรดีนะ.. "อ่า มันค่อนข้างจะน่าผิดหวังที่งานนี้ไม่มีซุปเห็ดนะคะ หรือว่าเราควรจะไปทานอาหารที่ร้านอื่น...." ดาฟเน่ชะงักเล็กน้อยที่เห็นสายตาที่เจ็บปวดของอีสเซ เขาขมวดคิ้วมองเธอราวกับว่ากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก "อีสเซ เจ้ากำลังคิดถึงเรื่องอันใดกัน?" "อธิบายเรื่องแกรนด์ดยุคเบอริฮานมา ดาฟเน่เจ้าเป็นอะไรกับเขา เหตุใดถึงควงคู่กันมาราวกับสนิทสนมเช่นนั้น แล้วเมื่อครู่ข้าเห็นตอนเต้นรำว่ามันโอบกอดเจ้าด้วย...." เธอตกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆอีสเซก็ตะคอกเธอเสียงดัง ใบหน้าของเขามันแดงก่ำด้วยความโกรธเคือง อีกทั้งบรรยากาศรอบๆก็มืดมนอย่างประหลาด "....จะไปอยู่กับเขางั้นหรือ จะทิ้งข้าไปอาศัยอำนาจของแกรนด์ดยุครึไง?" อ่า ไปกันใหญ่แล้ว.. เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้ "อีสเซ เจ้ากำลังเข้าใจผิด ที่ข้าเข้าหาแกรนด์ดยุคก็เพราะต้องการช่วยเหลือเจ้าไง? เพราะทันทีที่เจ้าปรากฏตัวในงานนี้ พวกหนังสือพิมพ์ต่างๆก็พร้อมจะเขียนข่าวเรื่องที่เจ้ามิยอมคัดเลือกสตรีมาเต้นรำลงไป วันพรุ่งนี้หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก็จะลงข่าวถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมขององค์จักรพรรดิ..." ความโกรธของเขาค่อยๆจางหายไปตามคำกล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงที่แสนจะไพเราะของเธอ เขามองหน้าของดาฟเน่อีกครั้ง ในขณะที่เธอเองก็จ้องมองที่ดวงตาของเขาเช่นกัน "..แต่พรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะลงข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของข้ากับแกรนด์ดยุคแทน ความสนใจจะพุ่งไปที่เบอริฮานแทนที่จะเป็นเจ้า..." เขากุมมือดาฟเน่ที่กำลังจับใบหน้าของเขาอยู่ก่อนจะจุมพิตที่หลังมือเบาๆ "ขอโทษที่โกรธในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไปเถอะ ไปหาร้านอร่อยๆทานซุปที่เจ้าอยากกินกัน...." ดาฟเน่ถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะบรรยากาศน่ากลัวเมื่อครู่จางหายไปแล้ว เธอมองมือของอีสเซที่กำลังกุมมือของเธอด้วยหัวใจที่อิ่มเอม ใบหน้าของเขาขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อจากความอับอายที่โกรธเคืองในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ใบหน้าที่เขินอายของเขานั้นมันน่ารักน่าเอ็นดูมากทีเดียว.. มันน่ารักจนตราตรึงเข้าไปในใจของเธอโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย "ปัง!! ปัง!! ปัง!!" เสียงปีนยิงเข้ามาในสวนหลายสิบนัด อีสเซรีบโอบกอดเธอเอาไว้เขาพาเธอไปหลบที่มุมของกระถางต้นไม้ เศษดินและเศษหญ้าฟุ้งกระจายขึ้นจนเกิดเป็นฝุ่นควันโดยรอบ... เธอลืมตาขึ้นมามองมือปืน เขาสวมชุดสีดำพร้อมกับเล็งปืนมาที่หน้าเธอ ดาฟเน่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะกระถางที่เป็นเกราะกำบังของเราแตกกระจายไปแล้ว หากความคิดของเธอมันเป็นความถูกต้องละก็ ปืนนัดนั้นจะไม่ถูกลั่นไกลออกมา และจะมีคนมาช่วยเธอก่อน!! "คุ้มครององค์จักรพรรดิ และท่านหญิง!!! ไปไล่จับคนร้ายให้ได้!!!" ดวงตาของเธอเบิกกว้างความตกใจ!! เธอรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารแล้ว!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD