การต่อสู้ที่ยาวนานจบสิ้นลงพร้อมกับชัยชนะที่อัศวินต่ำต้อยเช่นเขาคว้ามาให้จักรวรรดิได้ จากอัศวินถูกเลื่อนยศเป็นลอร์ดอย่างรวดเร็ว ชาวเมืองต่างโห่ร้องยินดีกับการชนะสงครามในครั้งนี้ นั่นหมายความว่าราชอาณาจักรบาทีเรี่ยนมิต้องตกเป็นเมืองขึ้นของราชอาณาจักรใด เรามิต้องส่งส่วยไปที่เมืองใดอีกแล้ว นั่นคือความภาคภูมิใจเดียวของชีวิตลาร์ซ
ถึงจะน่าเสียดายที่มิได้มีคนในครอบครัวยินดีกับเขาเพราะว่าท่านพ่อและท่านแม่ด่วนจากไปเสียก่อน ในครอบครัวของเขาเหลือเพียงแม่เลี้ยงและน้องชายต่างแม่อีกสองคนเท่านั้น
คฤหาสน์มาเดลีนถือเป็นบ้านที่แสนจะอึดอัดสำหรับเขา ถึงจะรู้ว่าลูอีสและลาม่อน น้องชายที่ไม่เอาไหนทั้งสองคนจะไม่มีวันมาแย่งตำแหน่งผู้นำตระกูลไปจากเขา แต่การอยู่กับแม่เลี้ยงมันก็ทำให้เขาอึดอัดมากทีเดียว
ราชโองการถูกประกาศออกมา นั่นคือการแต่งงานของเขากับท่านหญิงเมอลิน ดาฟเน่ และนั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยู่แต่ในสนามรบทำให้เขาไม่รู้จักนางและไม่เคยเห็นหน้านางมากก่อน
เป็นถึงท่านหญิงแต่ต้องมาแต่งงานกับลอร์ดมองยังไงก็ดูเหมือนว่านางถูกหมิ่นเกียรติ แต่งานแต่งที่จัดการโดยองค์จักรพรรดิมิมีทางที่จะยกเลิกได้ ถึงอย่างไรงานแต่งนี้ก็ถูกต้องจัดขึ้น
ลาร์ซคิดเอาไว้ในใจแล้วว่าเขาจะหย่าให้นาง ทันทีที่ครบห้าปี และเขาจะไม่แตะต้องตัวของสตรีผู้นี้เลย นางควรจะได้อยู่กับคนที่คู่ควรและเหมาะสม มิใช่สามัญชนที่ถูกเลื่อนขั้นเช่นเขา
เขาเห็นหน้าดาฟเน่ครั้งแรกในวันแต่งงาน แม้จะอยู่ภายใต้ผ้าคลุมแต่ใบหน้านั่นก็งดงามอย่างไม่มีสิ่งใดจะเทียบ ดวงหน้าที่งดงามดุจศิลปะชั้นเลิศนั้นสามารถตราตรึงใจเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ความคิดของลาร์ซเริ่มเปลี่ยนไป เขาเริ่มคิดอยากจะลองใช้ชีวิตกับนางดูและสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่นกับนาง...
"อย่าได้คิดว่าจะเอามือสกปรกของเจ้ามาแตะต้องตัวข้า! ข้ามิอาจทนอยู่กับ มาเดลีนที่ยากจนข้นแค้นได้"
เธอโยนกระดาษให้เขา พอลาร์ซเปิดดูนั่นคือเช็กเงินสด เป็นเงินในจำนวนที่เรียกว่ามหาศาล
"หวังว่าเจ้าจะไม่โง่จนเกินไปขนาดที่จับเป็นเพียงแค่ดาบกับหอกหรอกนะ ทำธุรกิจอะไรก็ได้ที่ทำให้มาเดลีนร่ำรวยและมีอำนาจขึ้นมา แน่นอนว่าเราจะหย่ากันในอีกห้าปี แต่ในระหว่างนี้ข้ามิอาจอยู่อย่างเสียเกียรติได้ เงินปันผลจากรายได้แบ่งกันคนละครึ่ง แบ่งให้ข้าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ โอนมาให้ข้าสามสิบเปอร์เซ็นต์อีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์เอาไปสร้างคฤหาสน์ ซื้อเครื่องแต่งกายให้คนที่มาเดลีนเสียใหม่ซะ"
ดาฟเน่ลุกขึ้นพร้อมกับกระชากผ้าคลุมหน้าออกมา เธอถอดชุดเจ้าสาวแสนสวยนั่นออกมาพร้อมกับเปลี่ยนเป็นชุดเดรสสีชมพูอ่อน
"อีกเรื่อง อย่ามายุ่งกับชีวิตประจำวันของข้า ข้าจะไปนอนกับใครหน้าไหนท่านไม่มีสิทธิ์ เราเป็นสามีภรรยากันเพียงแค่ในนาม"
เธอยกมือขึ้นมาลูบท้ายทอยของเขาเบาๆ
"เจ้าก็แค่โชคดีลาร์ซ แต่ข้าดันเป็นสตรีที่โชคร้าย...!!!"
เธอเดินออกไปพร้อมกับเรี่ยวแรงที่หมดลงของเขา ลาร์ซทรุดลงกับพื้น ที่มือของเขากำเช็กเอาไว้แน่น!
เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เขาไม่คู่ควรกับสตรีเช่นเธอเลย สี่ปีที่อยู่ด้วยกัน กับข่าวลือเกี่ยวกับภรรยาที่คบชู้ไปเรื่อยมันทำให้หัวใจของลาร์ซสร้างกำแพงเอาไว้สูงมากทีเดียว เขาหมดศรัทธากับความรักและคิดว่ามิอาจรักใครได้อีกแล้ว จนมาพบเจอกับสตรีผู้หนึ่งที่ทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป
"ตุบ!!"
ดาฟเน่ถูกผลักออกอย่างแรงจนเธอหงายหลังล้มลงกับพื้น ให้ตายเถอะเขากล้าที่จะทำร้ายเธอจริงๆงั้นเรอะ!!
"จะ..เจ็บนะ!!"
ความรู้สึกของลาร์ซกำลังสับสนแต่ตีกันมั่วไปหมด เขาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสตรีเช่นดาฟเน่ได้อย่างไร!!
แต่เขาน่าจะผลักเธอแรงเกินไป...การทำร้ายสตรีเป็นสิ่งที่เขาไม่คิดที่จะทำ เพราะเขาคือลอร์ดที่มีเกียรติอันดีงาม
ลาร์ซลุกขึ้นก่อนจะอุ้มดาฟเน่ขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าจะต้องกระทำเช่นไรจึงพาเธอเดินมายังที่พักที่ทางพระราชวังเตรียมเอาไว้ให้ เนื่องจากงานเลี้ยงจะจัดขึ้นสามวัน ทางพระราชวังจึงจัดที่พักสำหรับตระกูลต่างๆเอาไว้ให้เพื่ออำนวยความสะดวก
เธอมองหน้าเขาพร้อมกับขมวดคิ้ว หมอนี่จะเอายังไงกันแน่ เดี๋ยวรุนแรงเดี๋ยวอ่อนโยน ตามไม่ทันนะโว้ย!!
"สามี ท่านผลักภรรยารุนแรงเช่นนั้นควรจะกล่าวขอโทษข้า..."
"ขอโทษ"
"..."
เหตุใดถึงกล่าวออกมาได้ง่ายดายป่านนั้น ปกติแล้วจะต้องเถียงคอเป็นเอ็นเลยไม่ใช่หรือ? แต่เธอในตอนนี้มิได้มีเวลามากนัก
ดาฟเน่โน้มคอของลาร์ซเพื่อให้เขาก้มลงมาจุมพิตเธออีกครั้ง ที่น่าแปลกก็คือเขาก้มหน้าลงมาพร้อมกับหยุดขาที่กำลังก้าวเดินลง ตอนนี้เราอยู่ที่หน้าเรือนด้านหลัง อีกไม่กี่ก้าวจะถึงประตูของเรือนรับรองแล้ว แต่ว่าเขากลับไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ
ลาร์ซรู้สึกแปลกใจกับการเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของตัวเอง ในใจร่ำร้องให้ปฏิเสธและผลักไสเธอออกไปเสีย ถึงเธอจะเป็นภรรยาตามกฎหมายแต่สตรีเช่นเธอมิคู่ควร ทว่าร่างกายกลับมิทำเช่นนั้น ราวกับว่าเธอได้มาปลุกเร้าความต้องการที่อยู่ในก้นบึ้งในจิตใจของเขาออกมา เป็นครั้งแรกที่ลาร์ซกล่าวคำว่าขออีกหน่อยใจในหลายรอบทีเดียว
อยากได้มากกว่านี้ มากอีกนิดสิได้โปรด
เขานั่งลงที่ม้านั่งในสวนโดยมีเธอนั่งอยู่บนตัก ริมฝีปากของเรายังคงบดขยี้กันและกันอย่างมันเขี้ยว
ดาฟเน่ยกมือขึ้นมากอดคอเขาเอาไว้แน่น เธอมิอาจเสียเขาไปได้อีกแล้ว ยังไงในค่ำคืนนี้เธอจะต้องมีชีวิตรอดและหายใจต่อไปในร่างของดาฟเน่ และเขาคือสามี การกระทำเรื่องเช่นนี้กับเขามันสมควรแล้ว นี่คือเรื่องที่เขาต้องกระทำกับภรรยา
ลาร์ซสอดมือเข้าไปใต้กระโปรงของเธอเขาลูบที่เรียวขาขึ้นไปด้านบนช้าๆผ่านกางเกงซับในตัวบาง
ที่จริงเขาควรจะอุ้มเธอเข้าไปด้านในเรือนรับรองและกระทำกันบนเตียงในที่มิดชิด แต่เขาในตอนนี้มิอยากหยุดการกระทำลงเลยแม้แต่นิดเดียว เราต่างก็กำลังหวาดกลัวว่าหากหยุดการกระทำนี้ลงอีกฝ่ายจะกล่าวคำปฏิเสธออกมาและเราจะพลาดโอกาสการเป็นหนึ่งเดียวกันในครั้งนี้ไป เขาและเธอเลือกที่จะไม่พูดกันสักประโยค มีเพียงสายตาเท่านั้นที่เราใช้บอกความต้องการของกันและกัน
เขาอุ้มเธอขึ้นมาพร้อมกับจับมือของเธอให้ไปถอดกระดุมกางเกงเขาออก ลาร์ซสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นเทาของดาฟเน่ เธอถอดกระดุมอย่างเชื่องช้า นั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดในใจเล็กน้อย
ลาร์ซใช้นิ้วเกี่ยวกางเกงซับในของเธอออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะให้เธอนั่งลงบนตักเขาอีกครั้ง ดูภายนอกราวกับว่าเรากำลังโอบกอดกันธรรมดาเพราะว่ากระโปรงของดาฟเน่ได้ปิดบังส่วนล่างของเราเอาไว้จนหมด
มันร้อนมากทีเดียว เธอกำลังนั่งทับแก่นกายของเขา ดาฟเน่สัมผัสได้ถึงความเปียกแฉะที่หว่างขา นี่เรียกว่าการมีอารมณ์หรือว่ามีความต้องการใช่หรือไม่ เขาอุ้มเธอขึ้นอีกครั้งพร้อมกับจับแก่นกายของเขาดันเข้าไปด้านในของเธอช้าๆ
ดาฟเน่เม้มปากแน่น มันทรมานมากทีเดียวในตอนที่ส่วนที่ใหญ่ที่สุดมุดเข้าไป เธอรู้สึกได้ถึงด้านในที่แหวกออกเพื่อรับเขาเข้ามา
ลาร์ซก้มหน้าลงซบที่ไหล่ของดาฟเน่ เขากัดกรามแน่นเพราะมันคับแคบมากเกินกว่าที่คิดเอาไว้ แถมเธอยังตอดรัดเขาไม่หยุดจนเขาไม่กล้าแม้แต่จะขยับ
เสียงลมหายใจของเธอเริ่มหอบแรงขึ้นเมื่อตัวตนของเขาเข้าไปจนสุด ดาฟเน่ใช้มือของเธอจิกไปที่แผ่นหลังของลาร์ซเพื่อบรรเทาความหฤหรรษ์ที่เธอได้รับ เราต่างก็ไม่มีใครกล้าส่งเสียงร้องครางออกมาเพราะเรานั่งอยู่ในสวน เธอสบตาเขาราวกับว่าเขาคือแสงสว่างเดียวในค่ำคืนที่มืดมิดเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้จักคำว่าร่วมรัก ถึงอย่างนั้นเธอก็อยากจะกล่าวขอบคุณออกไปจริงๆที่ครั้งแรกของเธอคือลาร์ซ
ต่อจากนี้เขาจะจ้างคนมาฆ่าเธอหรือว่าจะส่งใบหย่ามา เธอก็จะยอมรับโดยดี และไม่คิดหยิบยกเอาการกระทำในวันนี้มาเรียกร้องอะไรเลย
"...ขยับสิ เจ้าคงไม่คิดว่านั่งเฉยๆเช่นนี้แล้วมันจะจบลงหรอกนะ?"
ถึงอยากจะเอ่ยถามว่ามันต้องทำเช่นไรแต่ดาฟเน่ก็เลือกจะไม่ถามเขาออกไป เธอเริ่มขยับเอวบดลงไปช้าๆ
อื้อ! รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆเลย รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ลาร์ซหันหน้าไปมองทางอื่นเพราะหากว่าเขามองใบหน้าของดาฟเน่ต่อไปเขาจะต้องเสร็จสมออกมาอย่างแน่นอน เธอทำในจังหวะที่เนิบช้าแต่ทว่ามันเข้าไปลึกมาก ทุกครั้งที่เธอขยับทำเอาเขาเสียวจนแทบจะอั้นไม่อยู่
เขารู้สึกว่านี่มันเกินความอดทนของเขามามากเกินไปแล้ว และตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน คนที่งานน่าจะทยอยกลับที่พักซึ่งมันจะต้องเดินผ่านทางนี้ ไม่ดีแน่หากมีคนพบเห็น ต้องรีบจบการกระทำในครั้งนี้ซะ แล้วค่อยพาเธอไปกระทำต่อในห้อง นั่นหมายถึงในกรณีที่เธอเองก็ต้องการ
เขายกมือขึ้นมาจับเอวของเธอเอาไว้ ก่อนจะกระแทกขึ้นไปอย่างแรง
"ไม่มีเวลาแล้วดาฟเน่..."
เธอรีบยกมือขึ้นมาปิดปาก พร้อมกับโอบกอดเขาไว้แน่นก่อนที่เราจะเดินทางถึงขอบฟ้าพร้อมกัน