อ้อนรัก 1

2435 Words
“ขอบคุณสำหรับค่ำคืนที่แสนจะวิเศษ ขอบคุณสำหรับใบทะเบียนสมรส เราจะเจอกันอีกครั้งในวันที่เราต้องอย่ากัน ผมจะติดต่อกลับคุณเอง เงินสดและเช็คสาม ใบนี้ เป็นของคุณในนาม นางเกดกนก กาสเตอร์บีท ไรท์ ภรรยาของนายแกลรี่ กาสเตอร์ บีท ไรท์” จากสภาวะครอบครัวที่ยากจนหัวหน้าครอบครัวติดเหล้าและการพนันอย่างหนักเมื่อเสียชีวิตไปแล้วก็ยังทำให้ภรรยาและลูกๆ ต้องลำบากลูกสาวคนโตต้องออกจากบ้านไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดเธอทำงานส่งเงินให้กับทางบ้านแต่ไม่เคยพอใช้เธอเฝ้าไฝ่ฝันว่าอยากมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยเหลือเธอและครอบครัวของเธอให้พ้นจากความลำบากนี่เสียที เกดกนก สาวน้อยวัย 22 ปี หญิงสาวร่างเล็กแต่ใจใหญ่ ใบหน้าสวยหวานตาโต จมูกโด่ง ผิวพรรณเปล่งปลัง มีเลือดฝาดสมวัยสาวเธอไม่เคยสนใจชายหนุ่มชาวไทยคนไหนมาก่อน ความฝันของเธอสามีเธอจะต้องเป็นหนุ่มตาสีฟ้า ผมสีบลอนด์ เธอชอบดูหนังต่างประเทศและชายในฝันของเธอก็มาจากพระเอกหนังคาวบอยเรื่องหนึ่ง ความสามาถพิเศษของเธอก็คือภาษาอังกฤษที่เธอทุ่มเทให้กับมันเธอได้ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันเพราะเธอทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวและหวังว่าซักวันจะเจอชายในฝันแต่ก็เหมือนกับฟ้าช่างแกล้งไม่ยอมส่งชายในฝันมาให้เธอชักทีเธอต้องพยายามหาเองและแล้วโอกาสก็มาถึง เธอแอบได้ยินรุ่นพี่ที่ทำงานด้วยกันพูดถึงเว็ปไซด์หาคู่ เธอจึงลองไปสมัครเอาไว้แล้วเขียนคุณสมบัติของชายในฝันของเธอลงไป สองเดือนผ่านไปเธอถึงได้รับข้อความจากเว็ปไซดว่ามีคนสนใจเธอ ซึ่งก็มีอยู่หลายคนหลายประเทศมากแต่เธอก็มาสะดุดตากับคนที่ชื่อ แกลรี่ ช่างเหมือนกับชายในฝันที่เธอวาดหวังไว้ไม่มีผิด ดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าน้ำทะเลผมเป็นสีบลอนด์หน้าตายิ่งแล้วใหญ่บอกได้คำเดียวว่าหล่อมาก เธอทำการยอมรับการสนใจจากเขาและได้ส่งอีเมลคุยกันบ้างเอ็มเอสเอ็นคุยกันบ้างเธอคุยกับเขาอยู่ประมาณสองเดือนกว่าเขาก็ขอเธอแต่งงานซึ่งเธอก็ได้ตอบตกลงแทบจะทันที ความจริงแล้วเธอไม่อยากจะตัดสินใจรวดเร็วอย่างนี้แต่เพราะความจำเป็นบังคับเจ้าหนี้กำลังจะมายึดบ้านและสวนส้มของครอบครัว เธอจึงจำต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อเป็นจำนวนกว่าครึ่งล้าน ซึ่งเธอก็ได้รับการช่วยเหลือจาก แกลรี่ โดยที่เขาไม่ถามเธอซักคำว่าเธอจะเอาเงินจำนวนนี้ไปทำอะไร เขาโอนเงินเข้าบัญชีให้เธอทันทีที่เธอเอ่ยปากของเขา มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกทราบซึ้งและรักเขามากขึ้นไปอีก เกดกนกตัดสินใจเดินทางไปแต่งงานกับเขาที่ประเทศเยอรมันทันทีหลังจากที่เอกสารทุกอย่างพร้อมและถูกตรวจสอบจากสถานที่ราชการว่าผ่านเขาให้คนจัดการเอกสารให้เธอทุกอย่างเธอได้วีซ่าเป็นวีซ่าแต่งงานเธอสามารถอยู่ในเยอรมันได้นานกว่าวีซ่าแบบอื่น และเมื่อเดินทางมาถึง เกดกนกก็ยิ่งตกหลุมรักแกลรี่มากขึ้นเมื่อเธอเจอตัวจริงที่แสนจะดูดีและเพอรเฟกของเขา ผมสีบลอนด์ของเขาเปล่งประกายระยิบระยับดูแล้วช่างน่าลูบไล้ยิ่งนัก ดวงตาสีฟ้าของเขาชวนให้เธอหลงไหล เขาช่างเอาอกเอาใจเธอสารพัด เขาพาเธอไปจดทะเบียนสมรส แล้วพาไปฉลองที่บนชั้นสูงสุดของโรงแรมหรู คอยรินไวน์ผลไม่ที่แสนจะอร่อยให้กับเธอแก้วแล้วแก้วเล่าจนเธอแทบหมดสติ เขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่มีเจ้าชายรูปงามมาคอบดูแลอยู่ใกล้ๆ และก็เป็นเพราะไวน์นั่นแหล่ะที่ทำให้เธอต้องเสียตัวให้กับเขาตั้งแต่คืนแรกที่เจอกัน เช้าวันต่อมา “บ้าที่สุด นี่หมายความว่ายังไงกัน” เกดกนก ช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันรวดเร็วมาก ราวกับว่าเธอฝันไป เธอรู้สึกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเธอเป็นเจ้าหญิงที่มีเจ้าชายมาคอยดูแล รักเธอ แต่ในขณะที่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกว่าตกจากสวรรค์เพราะการกระทำของผู้ชายคนเดียวกัน ร่างกายที่เปลือยเปล่า ร่องรอยที่ยังคงอยู่ตามร่างกายและบนผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดที่ตอนนี้มีรอยเปื้อนคราบเลือดจางๆ เป็นเครื่องยืนยันว่าเธอได้เสียสิ่งที่เธอได้หวงแหนที่สุดในชีวิตไปแล้ว เธอไม่ได้ฝันไปกระดาษโน๊ตเล็กๆ ที่มีข้อความแทงใจของเธออย่างรุนแรงและเช็คอีกสามใบลงชื่อเรียบร้อยแต่ยังไม่ได้กรอกตัวเลขยังอยู่ในมือเธอ เกดกนกมองไปที่หัวเตียงมีเงินสดอยู่จำนวนหนึ่ง เธอปัดมันทิ้งแล้วฟุ๊บตัวลงกับหมอนร้องให้จนแทบขาดใจ เธอร้องให้อยู่นานจึงค่อยๆ กวาดตามองไปรอบๆ ห้องลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะร่างกายของเธอบอบช้ำจากการถูกเขารุกราน เกดกนกมองร่างของตัวเองในกระจกในห้องน้ำ สั่งตัวเองให้เข้มแข็ง “เธอจะต้องเข้มแข็นนะ เกดกนก จะต้องไม่ยอมแพ้ เธอยังโชคดีที่ยังมีชีวิตรอดมาได้นายแกลรี่ กาสเตอร์ บีท ไรท์ คอยดูนะ ฉันจะตามหานายให้เจอแล้วจะจัดการกับนาย ฮึ นายยังรู้จักคนอย่างเกดกนกน้อยไปฉันจะตามไปสับนายให้เป็นชิ้นๆ เลย ไอ้บ้า คนหลอกลวง ไอ้ นายแกลรี่บ้า” เธอระบายความอัดอั้นตันใจกับสายน้ำที่ไหลลงมากระทบร่างบางจนพอใจแล้วจึงค่อยรู้สึกดีขึ้นมาบ้างเธอกลับมานั่งเก็บเงินและเช็คที่ตนเองปัดทิ้งกระจัดกระจายมาถือไว้ แล้วเธอก็ต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ ” ตายแล้วนี่ถ้าเกิดเราท้องขึ้นมาจะเป็นไงเนี้ย โอ้ย “เกดกนกรีบแต่งตัวเก็บข้าวของทุกอย่างใส่ในกระเป๋าเดินทางของเธอแล้วรีบเดินออกจากห้องตรงไปยังร้านขายยาถามซื้อยาคุมฉุกเฉินทานไปก็บ่นพึมพัมไป “ไอ้บ้าแกลรี่ เพราะนายคนเดียว ฉันเกลียดนายอย่าให้ฉันเจอนะ นายตายแน่ดีนายให้เงินฉันใช่ไหม รวยนะใช่ไหม สมใจนายแน่” เกดกนกกรอกจำนวนเงินลงในเช็คเป็นจำนวนที่ทำให้พนักงานธนาคารต้องหันมามองหน้าเธอแต่ก็ยอมให้เงินเธอ เกดกนก โอนเงินให้กับมารดาให้เอาเงินไปใช้หนี้ให้หมดและไถ่สวนส้มออกมาจากธนาคาร “แม่คะเกดส่งเงินให้แม่แล้วนะคะแม่เอาไปใช้หนี้เขาให้หมดนะคะ ให้น้องเรียนต่อเถอะนะคะ ถ้าแม่อยากจะทำบ้านใหม่แม่ก็ทำได้เลยนะเงินที่เกดส่งให้คงเกินพอแล้วค่ะ สบายดีค่ะแม่ เขาดีกับเกดมาก โธ่แม่คะถ้าเขาไม่รักเขาคงไม่ให้เงินมากขนาดนี้หรอกค่ะ รักษาตัวด้วยนะคะ รักแม่นะคะ” เกดกนกจำต้องพูดปดกับมารดาเพราะเธอไม่อยากให้มารดาของเธอท่านเป็นห่วง เธอเดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงร้านกาแฟแห่งหนึ่งซึ่งมีลูกค้าเข้าออกตลอดเธอเดินเข้าไปนั่งแล้วสั่งกาแฟมาดื่มรสชาติของกาแฟทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเธอนั่งเล่นในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้อย่างเพลิดเพลินแล้วสายตาก็มองเห็นป้ายเซ้งร้าน ความคิดหนึ่งพุ่งปรี๊ดเข้ามาในสมองน้อยๆ ทันที “น้องคะพี่อยากคุยกับเจ้าของร้านนี้หน่อยค่ะ” เกดกนก ตัดสินใจเซ็งร้านกาแฟแห่งนี้ต่อทันทีโดยไปเบิกเช็คเป็นเงินสดให้เจ้าของร้านทันทีที่ทำสัญญาต่อกัน เจ้าของเดิมใจดีมากที่เกดกนกไม่ต่อรองราคาเลยเธอคอยช่วยสอนวิธีการชงกาแฟอย่างไรให้อร่อยให้กับเกดกนก อย่างไม่หวงวิชาเลยทีเดียว นับจากวันนั้นเกดกนกก็ย้ายมาอยู่ที่ร้านซึ่งชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้องและห้องรับแขกเล็กๆ อยู่ เธอได้รู้จักกับ วีวี่ หรือ ปวีนา นักเรียนไทยที่มาทำงานที่ร้านนี้ และ ทามาร่า สาวออสซี่วัย 28 มือชงกาแฟที่แสนอร่อยซึ่งพักอยู่ด้านบนของร้าน และยังมีเด็กมาช่วยงานอีก 4-5 คน กว่าเกดกนก จะเรียนรู้งานทุกอย่างได้ก็เกือบสองเดือน เธอปรับปรุงร้านกาแฟสไตลฝรั่งเศษให้ดูเป็นไทยมากขึ้น โดยการมีขนมไทย เป็นของว่าง มีน้ำสมุนไพรไทย มาเสริม แล้วก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า พนักงานในร้านทุกคนต่างรักเกดกนกมากเพราะเธอใจกว้างไม่เอาเปรียบลูกน้องโดยเฉพาะ ทามาร่า ที่อยู่ด้วยกันข้างบนร้านกับ เกดกนก และวีวี่นักเรียนไทยทั้งสามคนกลายเป็นเพื่อนสนิทของกันและกันไปแล้วเกดกนก ก็ได้เปลี่ยนเชื่อร้านกาแฟ จากเดิมคือ เดอ คา เฟ มาเป็น เดอ คา เฟ บาย เฟรน เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วก็เกดกนกไปเรียนภาษาเยอรมันเพิ่มเติม ณ. โรงแรมในเครือกาสเตอร์แห่งหนึ่ง “บอสคะ ธนาคาร.....ต้องการเรียนสายด้วยค่ะ” เสียงใสๆ ของเลขาสาวสวยดังเข้ามาตามสายชายหนุ่มขานรับแล้วให้สายตรงเข้ามาในห้องทำงานของเขา “ครับ ผมแกลรี่ กาสเตอร์ บีท ไรท์ ครับ อะไรนะครับ อ้อ ใช่ครับเธอเป็นภรรยาของผมเอง อนุมัติได้เลยครับ ไม่มีปัญหา ตามนั้นแหล่ะครับ สวัสดี” ชายหนุ่มขบกรามแน่น เมื่อธนาคารแห่งที่ สอง โทรหาเขาเพื่อสอบถามการสั่งจ่ายเช็คของเขา เพียงแค่วันเดียวภรรยาคืนเดียวของเขา ใช้เงินเป็นล้านครั้งแรกก็สี่แสนครั้งที่สองนี่สิเป็นแปดแสนรวมทั้งหมดก็ล้านสองแสนยูโร “ยายบ้าเอ้ย ใช้อะไรของเธอนักหนานะ วันเดียวตั้งล้านกว่าพอลเข้ามาพบผมหน่อย” บอดี้กาดร์คนสนิทเดินเข้ามาหาเขาด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มซื่งเป็นลักษณะประจำตัวของเขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง “มีอะไรให้รับใช้ครับ บอส” “สืบให้หน่อยนะพอลว่าภรรยาของฉันน่ะใช้เงินทำอะไรนักหนาวันเดียวเป็นล้านกว่า” พอล ตาโต “วันเดียว ล้านกว่าเนี้ยนะแล้วบอสให้เธอไปได้ไงครับ” พอลเผลอตะโกนใสบอสของเขาเสียงดัง “เอ่อ..ก็.. ฉันทิ้งเช็คให้เธอไว้ 3 ใบน่ะแต่ไม่ได้กรอกตัวเลข” เขาตอบเสียงเรียบไม่บอกความรู้สึก “ผมจะจัดการสืบให้ขอเวลาสามวันครับบอส” พอลเดินออกจากห้องเขาไปแล้ว แต่ชายหนุ่มเจ้าของห้องยังคงยืนมองออกไปนอกกระจกของชั้นที่ 35 เขาคิดถึงคืนนั้น คืนที่เขามีความสุขที่สุดก็ว่าได้ เธอช่างบริสุทรไร้เดียงสาน่ารักช่างออดอ้อนเขาสารพัดไม่ว่าจะจากพิษของไวน์ที่เธอดื่มเข้าไปหรือจะเพราะอะไรก็ตาม ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นคนแรกของเธอกว่าเขาจะตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนั้น เขาต้องทำใจอยู่นานเขาเฝ้าจุมพิตไปทั่วทั้งใบหน้าสวยหวานอย่างไม่รู้เบื่อ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าคนที่เขาแต่งงานด้วยเป็นใคร เพราะเธออาจจะเป็นอันตรายได้เขายังไม่วางใจเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้ คาร์โล่ต้องการทำลายเขาและต้องการจะครอบครองโรงแรมในเครือ กาสเตอร์ บีท ไรท์ ของเขาโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง คาร์โล่ เป็นหลานบุญธรรมของคุณปู่ของเขาก็คือ เพนิเป้ กาสเตอร์ บีท ไรท์ ท่านแบ่งสมบัติให้หลานเท่าๆ กันแต่ด้วยความที่คาร์โล่ บริหารงานผิดพลาด ทำให้บริษัทของเขาไปไม่รอดเขาแต่งงานกับมารีญาลูกสาวของคู่แข่งคนสำคัญของ แกลรี่ และพวกเขาได้สร้างโรงแรมที่ไหญ่กว่า แต่กลับบริหารโรงแรมจนโรงแรมแทบไม่มีกำไร จึงได้เทขายหุ้น และคุณปู่ของเขาท่านก็ได้ยื่นมือเข้าช่วยโดยการกว้านซื้อหุ้นกว่า แปดสิบเปอร์เซนต์โดยได้มอบหมายให้ แกลรี่เป็นผู้บริหารงานต่อท่ามกลางความไม่พอใจของคาร์โล่ เขาจึงคิดที่จะกำจัดแกลรี่เพื่อเพนิเป้จะได้เหลือทายาทเพียวคนเดียวก็คือ เขา คาร์โล่เคยส่งคนมาลอบทำร้ายแกลรี่หลายครั้งแต่ก็ทำไม่สำเร็จ แกลรี่รอดไปได้ทุกครั้งซึ่งทำให้เขายิ่งโกรธแค้นแกลรี่มากยิ่งขึ้น ก๊อกๆ “เชิญ” “นี่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับคุณผู้หญิงครับท่าน” พอลได้ยื่นแฟ้มเอกสารให้กับแกลรี่ “ขอบใจมากพอล ไปพักเถอะ” “ครับ บอส” แกลรี่ หยิมแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับเกดกนกมานั่งอ่านที่โต๊ะตรงระเบียงห้อง อ่านไปขมวดคิ้วไปบางทีก็ยิ้มออกมา “หึๆ ช่างฉลาดจริงๆ สมกับเป็นมาดาม กาสเตอร์ จริงๆ รู้จักทำมาหากินเก่งทีเดียวที่เอาตัวรอดไม่ร้องให้ขี้มูกโปงกลับบ้านไป” ชายหนุ่มมองไปยังรูปถ่ายในอิริยาบทต่างๆ ของผู้ที่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาอย่างพิจารณา ลูปไล้รูปของเธอแต่ละใบด้วยความทะนุถนอม “พอล มีเรื่องให้ช่วยหน่อยให้คนคอยดูแลเธออยู่ห่างๆ นะ ซัก สองสามคน” แกลรี่ยกโทรศัพท์สังงานพอลโดยมิรอคำตอบจากเลขาคนสนิท จากที่คิดว่าจะไม่เจอเธออีกนานตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว เป็นเธอเองที่เข้ามาอยู่ใต้จมูกเขาเอง อยากรู้นักถ้าเจอกันเธอจะทำหน้ายังไงเท่าที่ดูๆ แล้ว หญิงสาวก็ใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ทุกข์ร้อนอะไรอาจจะลืมเขาไปแล้วก็ได้แต่เขานี่สิ ผ่านมาตั้งสามวันแล้วยังไม่เคยมีนาทีไดที่ไม่คิดถึงเธอเลย “แล้วเจอกันนะ ภรรยาของผม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD