ในวันที่ฝนตก..

1170 Words
อากาศเมืองไทยปีนี้มันแปรปรวนมาก ๆ เลยเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่หน้าร้อนแต่ฝนก็ตกแทบทุกวันเลยและพอเข้าหน้าฝนก็คงไม่ต้องถามนะว่าฝนจะตกยังไง.. คะจะตกไม่หยุดแน่นอนแลด้วยเรื่องฝนแล้วมันเลยทำให้เธอต้องลำบากมาก ๆ เพราะเวลาที่เธอจะต้องมาส่งน้องดรีมมันก็ค่อนข้างจะทุลักทุเลหน่อยแต่โชคดีที่น้องดรีมเป็นคนชอบเล่นน้ำและยิ่งน้ำฝนด้วยยิ่งชอบแต่ด้วยความที่เธอเป็นแม่เธอจึงเป็นห่วงลูกกลัวว่าลูกจะป่วย.. และทุก ๆ วันพ่อของเธอก็มักจะสรรหาอาหารเครื่องดื่มที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับหลานสาวตัวน้อยของท่านเสมอ.. เธอโชคดีนะที่พ่อของเธอเข้าใจและพ่อก็รักเธอและน้องดรีมมาก ๆ พ่อเคยบอกให้เธอหยุดทำงานและอยู่บ้านคอยเลี้ยงลูกก็พอเพราะงานที่พ่อทำและเงินเดือนที่พ่อได้รับนั้นก็เยอะพอสมควรแต่เธอไม่อยากทำแบบนั้นเธอต้องการแบ่งเบาภาระให้พ่อและด้วยความดื้อดึงของเธอนี่แหละมันเลยทำให้เธอเลือกที่จะออกมาทำงานหาเงิน.. “คุณแม่ได้รองน้ำฝนไว้ให้หนูรึเปล่าคะ?” “น้องดรีมลูกรองจนล้นออกมาแล้วค่ะทำไมถึงชอบนักฮึน้ำฝนเนี่ย..” “ก็มันเย็นนี่คะมันสดชื่นมาก ๆ เลยนะคะเวลาอาบน้ำฝนเนี่ย..” “แต่แม่เป็นห่วงหนูนะคะกลัวหนูจะไม่สบาย..” “หนูสบายมาก ๆ เลยค่ะไม่มีตรงไหนเลยที่ไม่สบายมีก็แต่คุณแม่ที่ไม่สบาย.. คุณแม่เจ็บที่เท้าน้องดรีมเป็นห่วง..” “คุณแม่ก็สบายดีค่ะมันก็แค่ปวดเป็นบางครั้งค่ะไม่ได้มากมายเลย..” เธอรู้ดีว่าถึงแม้เธอจะบอกว่าเธอไม่เป็นอะไรแต่ถึงอย่างนั้นน้องดรีมก็ยังคงเป็นห่วงเธอเฉกเช่นเดียวกันกับที่เธอและพ่อเป็นห่วงน้องดรีม.. “ขอบคุณนะคะน้องดรีมคุณแม่และคุณตาก็เป็นห่วงน้องดรีมมาก ๆ นะคะ..” “ขอบคุณนะคะคุณแม่และคุณตา..” หึหึ.. “ค๊า.. คนสวยของแม่.. ไปกันตรงนี้น้ำมันนองเยอะเดี๋ยวรองเท้าจะเปียกเอา..” “แต่คุณแม่เอาถุงเท้าสำรองใส่มาแล้วไม่ใช่เหรอคะ?” “ใช่ค่ะแต่รองเท้าไม่ได้ใส่มาให้ถ้าขืนปล่อยให้หนูเดินเอง.. ” “คุณแม่อะอย่าสิคะน้องดรีมไม่ได้คิดจะเล่นน้ำเลยนะคะไม่ได้คิดเลยสักนิด..” ฮ่า ฮ๋า ฮ่า.. “ค่ะ ๆ ไม่คิด ๆ เอาเป็นว่ารอกลับไปเล่นที่บ้านดีกว่านะ..” “ก็ได้ค่ะ.. ” วันนี้ฝนตกหนักเหมือนกันนะแล้วการจราจรในเมืองกรุงเทพถ้าวันไหนที่ฝนตกวันนั้นยิ่งทำให้น่าเบื่อมากกว่าเดิมหลายสิบเท่า.. ไม่ว่าจะหันไปทางใดก็เห็นแต่รถและความมืดของเมฆฝน.. สายฝนที่กระหน่ำตกลงมานั้นทำให้ผู้คนใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นกว่าเดิม.. “คุณพัทจะให้หรี่อแอร์รึเปล่าครับ?” “ไม่เป็นไรมันก็ไม่ได้หนาวขนาดนั้นหรอก..” สายตาของเขากวาดมองไปยังด้านนอกของหน้าต่างรถด้วยความเบื่อหน่ายและไม่มีอะไรทำในยามนี้เขาจึงเลือกที่จะมองไปรอบ ๆ และนั่นทำให้เขาสะดุดเข้ากับสิ่ง ๆ หนึ่งที่เขาคิดว่าเขาคงจะตาฝาดไปแน่ ๆ “พิบูล.. ตรงนั้นคือโรงเรียนเหรอ?” ขวับ.. “น่าจะใช่นะครับคุณพัท.. น่าจะเป็นโรงเรียนรัฐธรรมดาที่ภายในมีวัดด้วย..” เมื่อเขามองผ่านกระจกมองหลังเขาเห็นสีหน้าของเจ้านายแปลกไปทันที.. บริเวณหว่างคิ้วที่ย่นเข้าหากันราวกับว่ามีบางสิ่งที่กวนใจและทำให้เจ้านายของเขารู้สึกไม่ค่อยพอใจกับคำตอบมากนัก.. ก็เจ้านายถามเขาก็ต้องตอบในสิ่งที่เขาพอจะเดาออกสิ.. “โรงเรียนที่มีวัดอยู่ด้านใน.. หรือเรียกง่าย ๆ ว่าโรงเรียนวัดน่ะเหรอ?” “ใช่ครับถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ.. ว่าแต่คุณพัทมีอะไรรึเปล่าครับ?” “ไม่มีอะไรแค่สงสัยเฉย ๆ ” ~~~~ “โรงเรียนวัดเหรอ? แล้วเธอไปทำอะไรที่โรงเรียนวัดเป็นครู? หรือว่าทำงานที่นั่น? หรือว่าไปทำบุญ?” เมื่อเขาได้เห็นเธออีกครั้งมันก็ทำให้จิตใจของเขาว้าวุ่นมาก ๆ เลยงานวันนี้เขาทำไม่รู้เรื่องและฟังไม่ค่อยได้ใจความเลยสักประโยคและนั่นเลยทำให้เขาต้องขอพักการประชุมออกไปก่อน.. คนอื่นก็ถามถึงเหตุผลที่เขาขอพักการประชุมจะให้เขาตอบยังไงได้นอกจากรู้สึกไม่ค่อยสบายถ้าให้เขาตอบว่าเพราะมีบางอย่างกวนใจเขาอยู่.. มันก็จะดูตลกและไม่เป็นมืออาชีพเอามาก ๆ น่ะสิ.. อีกฟากฝั่งของกรุงเทพมหานคร.. “น้องดรีมจะกินแต่ไข่น้ำไม่ได้นะลูกหนูต้องกินอย่างอื่นด้วย..” “แต่คุณแม่ขาคุณตาทำไข่น้ำอร่อยนี่คะ..” “พอแล้ว ๆ แม่เรานี่ขยันบ่นจังเลยเนอะน้องดรีมมาหาคุณตาดีกว่า..” “พ่ออะชอบเข้าข้างดรีมแล้วแบบนี้ดรีมจะกินอย่างอื่นเป็นได้ยังไงกันคะ?” “เถอะน่า.. เดี๋ยวพ่อจัดการเองเราน่ะกินข้าวเยอะ ๆ ผอมไปรึเปล่าช่วงนี้หึ? ” “ก็ไม่นะจ๊ะปกติเลยกินข้าววันละสามมื้อเหมือนเดิมทุกอย่างเลยจ๊ะพ่อ..” ผอมเหรอ? ก็ไม่นะปกติดีทุกอย่างเลยละ หลับฝันดี กินอะไรก็อร่อยมาก ๆ ด้วย.. “เหรอ? แต่ทำไมดูเหมือนเราผอมลง.. สงสัยเสื้อผ้าที่ใส่ด้วยรึเปล่านะเลยทำให้ดูผอม..” “ก็อาจจะเป็นไปได้นะจ๊ะพ่อ.. กินข้าวกันดีกว่าวันนี้มีน้ำพริกปลาทูแล้วก็ผักต้มด้วย.. น้องดรีมลองกินฟักทองต้มดูสิคะอร่อยนะหวานดี..” “เดี๋ยวค่อยกินก็ได้ค่ะคุณแม่มันไม่หนีไปไหนหรอก..” “เอ๊ะน้องดรีมนี่.. ” ฮ่า ฮ่า ฮ่า.. “เดี๋ยวพ่อจัดการเองเราน่ะกินข้าวไป..” เสียงหัวเราะของบ้านหลังเล็กนั้นมักจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ มีรอยยิ้มกันถ้วนหน้าด้วยการพูดและการแสดงความเห็นของเด็กสาวตัวน้อยแสนน่ารักนั้นมักจะทำให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาหรือบ้านใกล้เรือนเคียงต้องหัวเราะออกมาทุกครั้งที่เด็กน้อยเริ่มต่อปากต่อคำกับผู้เป็นแม่.. แม้ว่าช่วงแรก ๆ ผู้คนมักจะพูดครอบครัวนี้ไปในทางไม่ดีแต่เมื่อวันเวลาผ่านไปผู้คนก็เริ่มลืมเลือนแต่ก็ยังคงมีบ้างที่ผู้ใหญ่บางคนมักจะใช้คำพูดและคำถามที่ไม่สมควรใช้มันแต่ครอบครัวนี้ก็เลือกที่จะไม่ตอบโต้แต่อย่างใด..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD