01 บทที่ 1 - 1

1676 Words
หลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ดวงยิหวาก็ตัดสินใจออกมานั่งที่โซฟาตัวเดี่ยวหนานุ่มตรงมุมรับแขกที่มีชุดโซฟาเนื้อดีตั้งอยู่ เธอไม่อาจทำใจอยู่ในห้องนอนที่มีร่องรอยแห่งการตอกย้ำว่าเธอได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญของชีวิตลูกผู้หญิงไปแล้ว เพียงแค่คิด...ริมฝีปากบางก็ถูกเม้มแน่นเพื่อข่มกลั้นเสียงสะอื้น มือบางยกขึ้นเช็ดหยาดน้ำตาที่ยังคงหลงเหลือแม้ว่าจะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักมาแล้วก่อนหน้านี้ ร่างเล็กยกขาทั้งสองข้างของตนขึ้นตั้งชันกับโซฟาแล้วใช้แขนเรียวเล็กทั้งสองข้างกอดมันไว้แน่นราวกับต้องการปลอบใจตัวเองให้เข้มแข็ง เธอพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ อยู่หลายครั้งเพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเอง แม้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะไม่ได้ช่วยเธอมากเท่าไหร่ก็ตาม แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยให้ความคิดของเธอค่อยๆ เข้าที่ และสามารถคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ได้แม้จะเป็นไปอย่างเชื่องช้ากว่าที่เคยเป็นมา เธอถูกคนพวกนั้นหักหลังสินะ... ดวงตากลมโตกวาดตามองไปรอบๆ ห้องจนได้เห็นชื่อที่สลักอยู่บนแก้วน้ำและเครื่องใช้หลายๆ ชิ้น บอกให้รู้ว่าเธอยังคงอยู่ที่แห่งเดิมที่เธอเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ ที่นี่...โรงแรมชื่อดังระดับเจ็ดดาวที่ในชาตินี้เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้เข้ามาใช้บริการ สถานที่เกิดเหตุที่เธอตกลงมาทำงานบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มที่นอนร่วมเตียงกับเธอตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา แค่งานง่ายๆ ที่เธอรับไว้ทำไมมันถึงได้กลายเป็นเรื่องเลยเถิดแบบนี้ไปได้นะ หญิงสาวพยายามเค้นความทรงจำที่เลือนหายเพื่อให้ตัวเองหาทางปฏิเสธความจริงที่เธอยังไม่อาจทำใจยอมรับได้ แต่เหตุการณ์สุดท้ายที่ปรากฏในสมองก็เป็นเพียงภาพที่เธอกำลังนั่งกินอาหารอยู่ที่ห้องอาหารชื่อดังภายในโรงแรมแห่งนี้ร่วมกับพระเอกหนุ่มชื่อดังซึ่งเป็นเป้าหมายของเธอเท่านั้น ซึ่งชายคนนั้นก็คือ นายปุณณ์ คนที่นอนเปลือยเปล่าร่วมเตียงกับเธอเมื่อเช้านี้นั่นเอง ริมฝีปากบางถูกเม้มแน่นอีกครั้งเมื่อนึกย้อนถึงฉากเมื่อเช้าจนใจเสียและพาลแค้นเคืองไปยังกลุ่มคนที่กล้าหักหลังเธอแบบนี้ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ เธอถูกว่าจ้างแค่ให้ทำอย่างไรก็ได้ขอแค่ให้สุดท้ายได้นั่งร่วมโต๊ะกับพระเอกหนุ่มอย่างน้อยสักสิบนาที จากนั้นก็จากมาแบบเนียนๆ ไม่ให้อีกฝ่ายจับพิรุธได้ แค่นั้น...ก็จะมีภาพแอบถ่ายระหว่างเธอกับเขาในหนังสือพิมพ์วันถัดไป และตามที่ตกลงไว้อีกเรื่อง ค่าจ้างของเธอจะสูงขึ้นทันทีหากเธอสามารถทำให้เกิดการแตะเนื้อต้องตัวระหว่างเธอกับเหยื่อได้ แต่มันต้องไม่ใช่ขนาดนี้! แค่จับมือ...จับมือเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่คุยกันไว้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันลึกซึ้งจนเกินการควบคุมไปแล้ว ไหนจะกองทัพนักข่าวที่พร้อมใจกันมาปรากฏตัวในตอนเช้านี้อีกล่ะ ทุกอย่างมันชัดเจนแล้วว่าสุดท้ายเธอก็เป็นแค่เพียงหมากอีกตัวหนึ่งของเกมนี้เท่านั้น แล้วเธอพลาดตอนไหนกัน...ดวงยิหวาพยายามใช้สติที่มีเหลือทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืน ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนเสมอ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ความทรงจำของเธอเริ่มพร่าเลือนและหายไปในที่สุด เธอทบทวนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนที่ตากลมโตจะเบิกกว้างเมื่อคิดถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ เรื่องที่นอกเหนือไปจากแผนการก็คือ น้ำสตรอว์เบอร์รี่ที่นำมาเสิร์ฟให้เธอและพระเอกหนุ่มที่โต๊ะทั้งๆ ที่ไม่ได้มีใครสั่งเอาไว้ น้ำสตรอว์เบอร์รี่สีชมพูสดที่เธอดื่มไปหลายอึกใหญ่แล้วยิ้มอย่างชอบใจกับรสชาติหอมหวานของมัน ยาปลุกเซ็กส์อย่างนั้นหรือ...ร่างบางครางออกมาเมื่อภาพที่เธอคิดว่าเป็นเพียงแค่ความฝันเริ่มไหลกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง ในน้ำสตรอว์เบอร์รี่ทั้งสองแก้วนั้นคงมียากระตุ้นบางอย่างที่ทำให้ตัวเธอและพระเอกหนุ่มไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้ ถึงภาพทุกอย่างจะพร่าเลือน แต่ร่องรอยทั้งบนตัวเธอและคราบเลือดที่ปรากฏบนเตียงคือ หลักฐานที่ชัดเจนถึงความหวามไหวที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน...ถึงแม้ว่าเธอจะอยากให้มันเป็นแบบนั้นแค่ไหนก็ตาม เสียงเปิดประตูระเบียงที่ดังขึ้นพร้อมกับการก้าวกลับเข้ามาในห้องพักของปุณณ์กับณัฐพลเพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของเขา ทำให้ร่างบางที่กำลังขบคิดอย่างหนักรีบซบหน้ามุดเข้ากับหัวเข่าของตนทันทีเมื่อยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับคนทั้งสอง พวกเขาจ้องมองไปยังร่างบางแล้วสบตากันชั่วครู่ ก่อนจะพากันไปนั่งที่โซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่ถัดจากโซฟาที่หญิงสาวปริศนานั่งอยู่ก่อนหน้า ณัฐพลหรี่ตามองร่างเล็กอย่างสำรวจด้วยท่าทางที่ยังไม่ค่อยวางใจ ในขณะที่พระเอกหนุ่มจับจ้องไปยังร่างบางที่กำลังนั่งเกร็งตัวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ความเงียบก่อตัวอยู่สักพักก่อนที่ปุณณ์จะตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปทรุดตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาวแล้วเอื้อมมือไปจับไหล่ของเธออย่างแผ่วเบา “คุณ” ร่างบางผวาเฮือกก่อนที่จะรีบเอี้ยวตัวหลบมือหนาด้วยความตกใจ ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยน้ำตาตวัดหลบสายตาคนตรงหน้าด้วยความหวาดระแวงจนทำให้อีกฝ่ายชะงักงัน ก่อนที่จะความรู้สึกบางอย่างจะตีตื้นขึ้นมาในอกอย่างควบคุมไม่ได้ ชายหนุ่มพยายามควบคุมหัวใจที่กำลังสั่นไหวของตัวเองให้นิ่งสงบอีกครั้ง ก่อนจะส่งรอยยิ้มปลอบโยนให้กับร่างเล็กตรงหน้าที่ยังคงมีท่าทีตื่นกลัว ด้วยเข้าใจดีว่าสิ่งที่เธอกำลังเผชิญนั้นหนักหนาเพียงใด “ไม่เป็นไรนะคุณ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน” พระเอกหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนหากแต่หนักแน่นจนคนฟังหันกลับมามองอย่างสงสัย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจกับการแสดงออกที่คาดไม่ถึงของเขา “ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเอง คุณไม่ต้องกังวลนะ” เสียงทุ้มยังคงเอ่ยต่อก่อนจะเอื้อมมือไปกุมมือบางเอาไว้ “รับผิดชอบเหรอ” ร่างบางที่ยังคงสับสนทวนคำพร้อมมองอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มอย่างใจเย็นมาให้ ก่อนที่มือหนาจะกระชับมือของหญิงสาวให้แน่นมากยิ่งขึ้น “ใช่...ผมจะไม่มีวันปล่อยให้คุณเผชิญหน้ากับปัญหานี้เพียงลำพังอย่างแน่นอน” ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมเศร้าแทนคำสัญญาอันหนักแน่นของเขาที่มีให้แก่หญิงสาว แววตาของคนฟังวูบไหวก่อนจะเบนหนีเมื่อหัวใจของเธอเกิดเต้นผิดจังหวะอย่างที่เธอไม่คุ้นชินนัก ความอ่อนโยนที่ได้รับอย่างไม่คาดคิดทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดก่อนจะถูกความสับสนเข้ามาแทนที่ ผู้ชายที่มองเธออย่างห่วงใยในยามนี้ควรจะโกรธเธอมากกว่าไม่ใช่เหรอ... ในเมื่อเธอเป็นคนที่นำพาปัญหาครั้งใหญ่เข้ามาในชีวิตของเขา “เรื่องรูปถ่ายทางเราเองก็พยายามจัดการปิดข่าวให้อยู่ อีกอย่าง...ปุณณ์เองก็ช่วยเอาผ้าห่มบังคุณเอาไว้ บางทีอาจจะไม่มีรูปของคุณหลุดออกไปก็ได้” ณัฐพลที่ยังคงนั่งมองจับสังเกตเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาบ้าง ดวงยิหวาจึงหันไปมองทางเขาด้วยสายตาที่ดีขึ้น ใบหน้าของเธอเริ่มมีประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้ง “จริงๆ เหรอ จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้...เรื่องของเราจะไม่เป็นข่าวใช่มั้ย” ดวงยิหวาเอ่ยถามพระเอกหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่กระตือรือร้นมากขึ้น นั่นสินะ...อย่างน้อยถ้าเรื่องนี้ถูกปิดไว้และกลายเป็นความลับ ขอแค่เพียงไม่มีรูปของเธอหลุดออกไป เพียงเท่านี้...คนรอบตัวเธอก็จะไม่มีวันได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว “ทางเราจะพยายามอย่างเต็มที่นะ” ปุณณ์ตอบโดยพยายามปรับน้ำเสียงไม่ให้ตึงเครียดเพื่อให้หญิงสาวตรงหน้ารู้สึกสบายใจให้มากที่สุด แม้ลึกๆ แล้วจะไม่แน่ใจมากนักในเรื่องรูปถ่ายของหญิงสาว เพราะกว่าเขาจะรู้สึกตัว นักข่าวก็กระจายอยู่รอบเตียงแล้ว “เอาเป็นว่าตอนนี้คุณทำใจให้สบายก่อนเถอะ แล้วเรามาหาทางแก้ปัญหาร่วมกันดีกว่า” ณัฐพลเอ่ยสำทับพลางทำท่าครุ่นคิดบางอย่างด้วยความลังเล ชายหนุ่มเบนสายตาไปมาระหว่างหญิงสาวและเพื่อนสนิทด้วยความสับสน ก่อนจะลอบถอนหายใจออกมาเมื่อความห่วงใยในตัวเพื่อนสนิทของเขานั้นผลักดันให้เขาเอ่ยบางประโยคออกมาในที่สุด “ผมคิดว่า...ผมไม่คุ้นหน้าคุณเลยนะ” “คะ” ดวงยิหวาอุทานอย่างแปลกใจพร้อมกับมองอีกฝ่ายงงๆ “เมื่อคืนคุณบอกว่าเป็นเพื่อนกับปุณณ์เลยมาขอนั่งร่วมโต๊ะด้วย ผมเลยอยากรู้ว่าคุณพอจะจำผมได้หรือเปล่า เพราะผมเองก็เรียนที่เดียวกับปุณณ์มาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน” ณัฐพลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของร่างเล็กตรงหน้าจนลมหายใจของคนถูกมองสะดุดลงทันทีเมื่อเริ่มเข้าใจถึงความนัยของเขา ไหล่บางเริ่มเกร็งขึ้นมาอีกครั้งเมื่อความตึงเครียดเริ่มครอบงำจนทำให้สับสน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD