บทที่4
งอนหรือเปล่า
"อืม... ผมขอใช้ปากให้พี่ได้ไหม"
หนูใจ๋ไม่ทันที่จะตอบมือหนาก็สอดเข้าไปในกระโปรงพร้อมใช้นิ้วเกี่ยวกับกางเกงตัวน้อยไปไว้ด้านข้างนิ้วยาวทำงานทันทีโดยไม่ดีรออะไรทั้งนั้น
"ไม่ค่อยได้ช่วยตัวเองหรือไงแน่นเชียว"
"คนลามกพี่เขินนะ!"
ศรุตจับสองขาของเธอยกขึ้นเขารูดกางเกงตัวจิ๋วของเธอออกให้พ้นค้าความงดงามที่เขาได้เห็นของจริงกลิ่นหอม ๆ ที่เขาเฝ้ารอมานอนลอยขึ้นมาเตะจมูก เขาโน้มใบหน้าลงไปใช้ปากปรนเปรอให้กับเธอโดยใช้ลิ้นเลียตรงจุดอ่อนไหวลากลงมาตามรอยแยกก่อนจะตวัดขึ้นไปขยี้ที่จุดอ่อนไหวอีกครั้งเขาทำแบบนี้ซ้ำ ๆ จนน้ำหวานของเธอไหลออกมาอย่างพรั่งพรู
หมอศรุตดูดตรงจุดอ่อนไหวอย่างรุนแรงจนหนูใจ๋รีบยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อป้องกันเสียงร้องครวญครางของเธอดังออกไปด้านนอก
"อ๊าา~ ศรุตพี่เสียว" ยิ่งเธอร้องมากเท่าไหร่ศรุตก็ยิ่งออกแรงมากขึ้นเท่านั้น แท่งร้อนของเขาแข็งจนปวดหนึบจนทำให้เขาอึดอัดจนอยากจะปลดปล่อยลูกชายให้ออกมาสูดอากาศหายใจ
ตึก! ตึก! ตึก!
(พี่ศรุตอยู่ไหนค่ะ~)
เหมือนทุกอย่างต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงของมินตราดังขึ้นแถมยังวิ่งตรงมายังห้องของใจ๋ใจ๋ ทั้งสองจึงรีบพาออกจากกันศรุตยกมือขึ้นเช็ดปากเขามองไปยังเสื้อผ้าของใจ๋ใจ๋เมื่อเห็นเธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเขาก็รีบหมุนตัวเข้าไปหลบในห้องน้ำจนประตูห้องนอนถูกเปิดเข้ามา
"จ๊ะเอ๋! อะ อ้าวพี่ศรุตไม่ได้อยู่นี่เหรอคะ?" มินตรามองซ้ายมองขวาด้วยความสงสัยก็เมื่อกี้เธอวิ่งไปห้องนอนของศรุตแต่ไม่เห็นเขาอยู่ในห้องจึงคิดว่าพี่ชายน่าจะเข้ามาคุยกับใจ๋ใจ๋ที่ห้อง
"เอ่อ... พี่ไม่เห็นนะเข้าห้องน้ำอยู่หรือเปล่าเดี๋ยวพี่ลองไปเรียกให้"
"ไม่เป็นไรค่ะ พอดีว่าหนูซื้อขนมมาฝากพี่ศรุตไว้เสร็จธุระคงลงไปเองถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวก่อนนะคะพี่สาวก็ลงมาด้วยล่ะขนมเยอะแยะเลย" มินตรายิ้มหน้าระรื่นก่อนจะเดินออกจากห้องของใจ๋ใจ๋ไป
หนูใจ๋เดินมาเคาะประตูห้องน้ำเบา ๆ จนด้านในจึงเปิดออกมาพร้อมกับทำหน้าตาเคร่งขรึมผิดกับเมื่อกี้โดยสิ้นเชิงเขาเดินตรงมาหาหนูใจ๋หวังจะสานต่อแต่ก็ถูกเธอยกมือขึ้นปฏิเสธคนตัวสูงจึงทำได้แค่กระตุกยิ้มเห็นเธอลุกลี้ลุกลนแบบนี้มันน่าขย้ำชะมัด
หนูใจ๋เดินลงมาจากชั้นสองเพื่อมานั่งทานขนมไม่ถึงห้านาทีศรุตก็เดินตามลงมางานปาร์ตี้ฉลองต้อนรับสองหมอได้เริ่มต้นขึ้นแล้วแต่คนอยากจะลดเขาไม่ค่อยพูดกับใครนอกจากเดินไปคุยกับคุณพ่อคุณปู่คุณทวด ตอนนี้เขาเป็นถึงอาจารย์ศัลยแพทย์มีชื่อเสียงในวงการแพทย์แถมยังสร้างชื่อเสียงให้กับโรงพยาบาลของครอบครัวอีกด้วย
"ไปอยู่ตั้งนานไม่ใช่ว่าแอบไปมีเมียไม่บอกปู่นะศรุต"
"ไม่มีครับคุณปู่" เขาตอบเสียงดังฟังชัดก็เขาไม่มีเมียอยู่ที่โน่นเพราะตั้งใจจะมามีเมียอยู่ที่นี่ต่างหาก
"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อได้เกียรตินิยมกลับมาแถมยังสร้างชื่อเสียงให้กับโรงพยาบาลที่นั่นด้วย"
"ผมเองก็ไม่คิดว่าจะมายืนอยู่จุดนี้เหมือนกันครับว่าแต่ที่นี่ยังปกติดีใช่ไหมครับอีก 2-3 วันผมคงเข้าไปที่โรงพยาบาลช่วงนี้ขอพักก่อน"
"พักไปเถอะปู่อนุญาตหายเหนื่อยค่อยไปเริ่มงานที่โรงพยาบาลกัน ว่าแต่เจ้าศิลามันไม่มีเมียใช่ไหมปู่ล่ะกลัวใจมันจริง ๆ"
ศรุตส่ายหน้าไปมาเรื่องเมียน้องชายเขาคงไม่คิดที่จะมีแต่ถ้ากินเล่นเคี้ยวเล่นก็คงตั้งแต่วันแรกที่ไปเหยียบพื้นดินอเมริกาไปถึงก็หิ้วแอร์โฮสเตสเข้าโรงแรมเลย หลังจากนั้นน้องชายเขาก็กินเล่นไปเรื่อยไม่ได้จริงจังกับใครส่วนตัวเขาอายุปูนนี้ยังคงรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้เพื่อคนที่เขาแอบรักมานาน
และเธอต้องเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสและได้ใช้มัน
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราหลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันเดินทางกลับหนูใจ๋รีบเดินออกมาหาศรุตที่ระเบียงบ้านศรุตกำลังมองแปลงดอกไม้ในยามค่ำคืนกลิ่นหอมอบอวลลอยฟุ้งเข้ามาเมื่อคนข้างกายขยับเข้ามาหาเขาก็ใช้จังหวะที่ไม่มีใครเห็นโอบเอวของเธอแล้วดึงรั้งเข้ามาหาตัว
"อุ๊ย! เดี๋ยวใครมาเห็นนะศรุต!"
"ก็เห็นไปสิ"
"ไม่ได้นะเรื่องนี้จะบอกให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาดพี่กลัวว่าผู้ใหญ่จะไม่เข้าใจ ถึงพี่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดและไม่ได้เติบโตที่นี่แต่ยังไงเราก็เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้วนะ"
"ก็ใช่... แล้วจะแคร์ทำไมผมยังไม่เห็นแคร์ใครเลยถ้ามัวแต่หลบ ๆ ซ่อน ๆ เมื่อไหร่จะได้อยู่ด้วยกัน"
ศรุตปล่อยมือออกจากตัวของหนูใจ๋เขารีบเดินหนีเข้าบ้านโดยไม่สนใจเลยว่าคนตัวเล็กกำลังมองตามแผ่นหลังของเขาด้วยความกังวล
หลังจากวันนั้นศรุตเหมือนจะหลบหน้าหนูใจ๋ทั้งสองจะได้เจอหน้ากันก็ตอนทานข้าวเช้าและข้าวเย็นเท่านั้นแต่ในระหว่างวันแทบจะไม่มีการสนทนากันเลยเวลาหนูใจ๋โทรหาเขาก็อ้างทำงานอยากจะไปหางานของเธอก็รัดตัวเหมือนกัน
อาการแปลก ๆ ของศรุตทำให้หนูใจ๋เริ่มรู้สึกผิดคงเป็นเพราะเธออยากให้เขาปิดบังเรื่องสถานะของหัวใจว่าเขาและเธอคบกันมาหลายปีแล้ววันนี้ความไม่สบายใจของเธอทำให้เธอต้องรีบขับรถมาหาศรุตที่โรงพยาบาลเพียงแค่มาถึงเธอก็รีบตรงไปยังชั้นผู้บริหารจนเห็นศรุตกำลังเดินเข้าห้องทำงานของเขา
"เดี๋ยวก่อนศรุต!"
-------------------------
งอนแหละไม่มีอะไรหรอก