2.คนสวยมีสามีแล้ว (1)

1450 Words
ทันทีที่ดวงตาคู่เข้มดุเหลือบมาเห็นเธอก็ชะงักไปเช่นกัน ทว่าเขายังตีสีหน้าเฉย มองนิ่งแต่อิซาเบลรู้สึกถึงแวววาววับในนั้น หญิงสาวแทบไม่อยากขยับขาเดินต่อด้วยซ้ำ “อิซซี่ นี่พี่พี รพี ส่วนนี่อิซซี่ อิซาเบลครับพี่” ภากรแนะนำง่ายๆ และคำพูดของอีกฝ่ายก็ทำให้อิซาเบลต้องยกมือไหว้ผู้ชายลามกในสายตาตนเองอย่างจำใจ ทว่าเร็วจนชายหนุ่มยกมือรับไหว้ไม่ทัน “พี่พีเพิ่งกลับจากอเมริกา ทำงานที่โน่นหลายปีน่ะ” “ยินดีที่ได้รู้จักครับ อิซซี่” ไม่รู้เพราะอะไรน้ำเสียงเข้มของนายรพีคนนี้ยามเอ่ยชื่อเธอ ทำให้อิซาเบลรู้สึกขนลุกประหลาด หรืออาจเพราะเขาเคยทำทีท่าคุกคามตนมาก่อน แต่จะอย่างไรก็ตาม หญิงสาวหมายหัวเขาเอาไว้แล้ว ‘ฉันจะไม่ไปไหนมาไหนกับนายคนลามกนี่เพียงสองคนแน่’ “ขึ้นรถเลยๆ สายมากกว่านี้จะร้อนจัด” เจ้าของรถผายมือ ภากรก็เดินไปเปิดฝากระโปรงด้านหลังรถ ส่วนรพีก็มาช่วยขนของอย่างมีน้ำใจ ทั้งยังก้าวยังเธอพร้อมยื่นมือมาจะช่วยหิ้วกระเป๋า ทว่าอิซาเบลขยับหลบพร้อมส่งสายตาไม่ไว้ใจ ทันได้เห็นว่าเขายกยิ้มมุมปากนิดหนึ่ง ยิ่งกระตุกต่อมหงุดหงิดของหญิงสาว “นี่เราจะไปต่างจังหวัดกันด้วยรถบุโรทั่งนี่น่ะหรือ” “อย่ามองมันแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกสิ เจ้านี่แรงดี วิ่งฉิวเลย ถนนขรุขระแค่ไหนก็เอาอยู่” ริมฝีปากอิ่มสวยเบะปากอย่างจงใจให้ชายหนุ่มเห็น “บางอย่างมองภายนอกแวบเดียวก็เดาได้ว่าไม่ปลอดภัย” ดวงตาคู่เข้มดุพราวขึ้นแวบหนึ่ง หากรพีกลับตีหน้าเฉยยามโต้กลับเธอ “ของแบบนี้มันต้องลองก่อน น้องอิซซี่ยังไม่ได้ลอง อย่าเพิ่งตัดสินว่าดีหรือไม่ดี ไม่แน่ลองแล้วอาจจะถูกใจ อยากนั่งบ่อยๆ ก็ได้ จริงไหมกร” ชายหนุ่มหันไปหาแนวร่วมเมื่อเห็นว่าใบหน้าสวยชักสีหน้า ทั้งริมฝีปากอิ่มยังเม้มอย่างไม่พอใจกับประโยคแฝงความนัยของเขา “อืม จริง อิซซี่อาจจะไม่ชินรถแบบนี้ แต่เรานั่งแล้วสบายนะ ถึงจะเสียงดังหน่อย แต่ช่วงล่างมั่นคง ข้างในก็กว้างไม่อึดอัด” ภากรบอกตามตรงขณะเข้ามาช่วยยกกระเป๋าหญิงสาวใส่ท้ายรถ เขาขึ้นรถคันนี้เมื่อวันก่อน ถือว่านั่งสบายทีเดียว แม้ภายนอกดูเก่า แต่เป็นรถหรูที่ราคาสูงเมื่อหลายปีก่อน ชายหนุ่มคิดว่าอิซาเบลน่าจะเคยชินกับการนั่งรถราคาสูงคันโตหรูหราจากในวัง คิ้วเข้มของรพีซึ่งยืนอยู่ถัดไปด้านหลังภากรยักสูงขึ้นเล็กน้อยให้เธอ อิซาเบลกัดริมฝีปากด้วยความขัดใจที่เพื่อนร่วมงานหนุ่มพูดเข้าทางอีกฝ่าย “อย่าให้เครื่องดับกลางทางก็แล้วกัน แล้วใครเป็นน้องคุณไม่ทราบ” พูดจบหญิงสาวก็สะบัดหน้าเดินไปเปิดประตูด้านหลังขึ้นไปนั่งรอในรถ ราวต้องการบอกว่าพื้นที่เบาะหลังทั้งหมดเป็นของเธอ ภากรออกจะงุนงงที่อยู่ๆ เพื่อนร่วมงานสาวที่มักจะร่าเริง ไม่ขี้บ่น ไม่เรื่องมาก ก็หงุดหงิดขึ้นมา กำลังจะขยับปากช่วยแก้ต่างให้อิซาเบล หนุ่มรุ่นพี่ก็เดินไปขึ้นรถประจำตำแหน่งคนขับเสียก่อนแล้ว ชายหนุ่มจึงคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ถือสาหญิงสาว ทว่าขึ้นมานั่งข้างคนขับ รพีก็พูดคำที่ทำให้ภากรต้องเหลือบมองสีหน้าอิซาเบลผ่านกระจกมองหลัง “ก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ได้อยากมีน้องสาว อยากมีอย่างอื่นมากกว่า” สีหน้าขัดอกขัดใจกับแววตาราววางโรจน์ราวลุกเป็นไฟจากเพื่อนร่วมงานคนสวยทำเอาภากรลอบถอนหายใจ ‘ข่าวพิเศษนี้จะไปรอดไหม หวังว่าคงไม่จบด้วยการเป็นข่าวอาชญากรรม นักข่าวสาวเชือดคอนักข่าวหนุ่ม ขณะออกไปทำข่าวด้วยกันหรอกนะ’ คนที่นั่งเบาะหลังกอดอกเชิดหน้าเอนกายพิงเบาะตลอดทางด้วยสีหน้าบึ้งตึง ทว่าก็ราววางมาดนางพญาไม่ต้องการให้ใครแตะต้องด้วยเช่นกัน ทำเอาสองหนุ่มพูดคุยกันเองมากกว่า นานครั้งภากรจะชวนหญิงสาวพูดหรือถามความเห็น ซึ่งอิซาเบลก็ตอบเพียงสั้นๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เก็บข้อมูลจากการฟังรพีกับภากรคุยกันไปด้วยอย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แล้วก็ได้รู้ในเรื่องที่ตนยังไม่รู้ ทั้งยังต้องยอมรับว่ารพีมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดทีเดียว กองทัพจากอเมริกาทำการรบกับเวียดนามเพราะพิษสงครามเย็นที่โซเวียตสนับสนุนคอมมิวนิสต์ทางฝ่ายเหนือ และสหรัฐอเมริกาหนุนหลังฝ่ายใต้นั้นยืดเยื้อมาหลายปีโดยมีฐานทัพในประเทศไทยอย่างไม่เปิดเผย โดยให้ทุกอย่างเป็นคำสั่งจากผู้บัญชาการทหารของไทย ทว่าสื่อหนังสือพิมพ์ของอเมริกาตีแผ่ความโหดร้ายของสงครามนี้ ทั้งเรื่องฐานทัพในประเทศไทย เวลานี้นักข่าวจากอเมริกาเข้ามาในไทยไม่น้อย รวมถึงการต่อต้านการทำสงครามกับเวียดนามจากประชาชนชาวอเมริกัน ขณะที่หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยยังไม่นำเสนอข่าวที่ต่างไปจากทางรัฐบาล แต่เวลานี้หนังสือพิมพ์ของพวกเธอกำลังคิดจะทำในสิ่งที่แตกต่าง หากก็ยังต้องรอดูวาระเวลากับโอกาสเหมาะสมที่จะนำเสนอเรื่องนี้ ฐานทัพของกองทัพอเมริกาตั้งอยู่ทั้งทางภาคอีสาน ตะวันออก ภาคกลางที่ตาคลี นครสวรรค์ รวมถึงกรุงเทพฯ ที่ดอนเมือง ซึ่งตอนนี้รพีกำลังพาอิซาเบลกับภากรไปที่โคราช และวางแผนจะไปจังหวัดอื่นในภาคอีสานต่อไป “แต่ละฐานทัพมีหน้าที่ต่างกัน มีฐานลับด้วย ความจริงผมตั้งใจจะไปทุกที่ แต่เวลาสองสัปดาห์คงไม่พอ ครั้งนี้เรามาทางอีสานก่อน กลับไปแล้วผมอาจจะออกไปที่อู่ตะเภาคนเดียว หรือไม่ก็กับภากร” งานที่ภากรออกไปทำกับรพีเมื่อวันก่อนก็คือไปที่ฐานทัพดอนเมือง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่การแสดงตัวว่าไปทำข่าวอย่างโจ่งแจ้ง คิ้วเรียวสวยขมวดเมื่อชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยชื่อตน หากก็เพียงเม้มริมฝีปาก ในเมื่อคุณโยธินบอกว่ารพีเป็นหัวหน้ากองข่าวเฉพาะกิจนี้ เขาก็มีสิทธิ์ตัดเธอออกจากการทำงานเมื่อไรก็ได้ “เดินทางมาครั้งนี้ก็ต้องระมัดระวัง ไม่ให้คนมองออกว่าเราเป็นนักข่าว เราจะมาแบบนักท่องเที่ยว คุณกับผมมาฮันนีมูน ภากรเป็นน้องชายผมที่มาด้วย มาคอยถ่ายรูปให้เรา เพราะจะบอกว่าเป็นน้องชายคุณ ดูหน้าตาก็รู้ว่าไม่ใช่” “อะไรนะ” อิซาเบลถามกลับเสียงสูง “ทำไมต้องเป็นฉันกับคุณ ฉันกับภากรก็ได้นี่” “ภากรเป็นช่างภาพ เขาต้องคอยเก็บภาพ” รพีตอบเสียงเรียบ ทว่าก็เป็นคำตอบที่ทำให้หญิงสาวแย้งไม่ออก ส่วนภากรเองก็เห็นด้วยกับวิธีนี้ เพราะการถ่ายภาพคู่รักบังหน้าช่วยให้ผู้คนไม่จับสังเกตนัก “แล้วเรื่องห้องพัก?” นี่เป็นสิ่งแรกที่อิซาเบลนึกขึ้นมาได้ หากบอกว่าเป็นคู่ฮันนีมูนก็ต้องพักห้องเดียวกัน “ยังไงเราก็ต้องใช้ห้องสองห้อง กลางคืนไม่มีใครมาสังเกตหรอกว่าผมนอนห้องไหน” หญิงสาวถอนหายใจ ทว่ายังไม่ทันสิ้นสุดก็ต้องตีหน้ายักษ์ “หรือถ้าคุณอยากให้พักด้วย ผมก็ไม่ขัดนะ” “บ้าน่ะสิ” “หึๆ” ชายหนุ่มเพียงหัวเราะในลำคอ และมองถนนตลอดเวลาแม้จะโต้ตอบกับหญิงสาว อิซาเบลสะบัดหน้าหนีมองออกไปยังต้นไม้หนาเขียวขจีริมทางนอกรถแทนบรรยากาศไม่น่าอภิรมย์ภายในรถเพราะมีคนชอบก่อกวนอารมณ์ให้พานหงุดหงิด ขณะเดียวกันคนที่อดสังเกตสองหนุ่มสาวไม่ได้ก็คือภากร ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มคิดว่าหนุ่มรุ่นพี่อย่างรพีค่อนข้างเคร่งขรึมและเป็นผู้ใหญ่ แต่อีกฝ่ายกลับหาเรื่องต่อคำยั่วโมโหอิซาเบลอย่างหน้าตาย ใบหน้าคมคายนั่นเรียบเฉยทว่าแววตาดูสนุกราวพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด หรือว่า...รพีจะเกิดอาการสะดุดรักแรกพบสาวสวยลูกครึ่งเพื่อนร่วมงานของเขาเข้าให้ ======
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD