หนึ่งเดือนแล้วหลังจากความสัมพันธ์แนบแน่นครั้งแรกได้ผ่านพ้นไป หนึ่งเดือนที่เธอแทบจะขลุกตัวอาศัยอยู่ที่ห้องของเขาแทบไม่ได้กลับห้องตัวเอง หนึ่งเดือนกับความสัมพันธ์ใกล้ชิดมากขึ้น สนิทมากขึ้น ดีขึ้นเรื่อย ๆ
“ดีจัง” พลับพลึงพูดด้วยรอยยิ้มมีความสุขพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดร่างสูงที่ห่างกันถึงยี่สิบเซนติเมตรจากด้านหลัง
“อะไร” เสียงราบเรียบดังขึ้นถามเธอด้วยรอยยิ้มมุมปากเบา ๆ
“มีคนทำข้าวเย็นให้กินเกือบทุกวัน ไม่ดีเหรอ” เธอเอียงตัวออกมาด้านข้างเพื่อสบตากับคนด้านหน้าแล้วพูดขึ้น
ผู้ชายนิ่งขรึมดูเย็นชา แต่กลับเป็นผู้ชายที่ทำอาหารเก่งและทำอาหารให้เธอได้กินเกือบทุกเย็นเลยก็ว่าได้
“น่ารัก” เธอชมออกมาก่อนจะเขย่งเท้าขึ้นไปหอมแก้มสากของเขาแล้วผละออกมาช่วยเขาจัดโต๊ะมื้อเย็น
“หวังผลอยู่แล้ว” เขายกยิ้มแล้วบอกให้เธอรู้ถึงผลแลกเปลี่ยน
“หื่น!” ผลที่ว่าก็คือเรื่องบนเตียงไง เรื่องที่เธอเข้าใจและได้คำตอบตั้งแต่สองอาทิตย์แรกที่มีสัมพันธ์กับเขาแล้วว่าทำไมผู้หญิงถึงอยาก One night stand กับเขานัก
เร่าร้อน ดุดัน อึดทน ต่อเนื่อง เขาคือคนที่ไม่ได้ครบเครื่องแค่เรื่องหน้าและหุ่น แต่ครบเครื่องไปถึงเรื่องบนเตียงอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นคำว่า 56 ที่คนชอบพูดกันขำๆว่าอยากได้...อืมนั่นแหละ
“ชอบไม่ใช่เหรอ” เขาถามเธอกลับด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ รอยยิ้มที่เธอได้เห็นบ่อยขึ้นหลังจากมานอนกับเขาทุกวัน
“ทำดีก็ชอบ” ไม่ปฏิเสธหรอกว่าชอบ มันก็สบายตัวดี หลับสบายดี แต่ที่มากกว่านั้น “เพราะชอบคนทำมากกว่า เลยพาลให้ชอบความหื่นไปด้วย”
ถ้าไม่ใช่เขาเธออาจจะไม่ได้ชอบแบบนี้ก็ได้
“คบคนที่หน้าตา” เขาว่าและส่ายหัวให้เธออย่างไม่จริงจัง
“ชิ๊! ว่าแต่คนอื่น” ผู้หญิงที่ตัวเองควงแต่ละคนมีใครไม่สวยหุ่นไม่เด็ดบ้างล่ะ เท่าที่เธอเคยเห็นนะมีแต่เอสไลน์ทั้งนั้น รวมถึงเธอด้วย
“จะว่าตัวเองสวย?” เขาเลิกคิ้วถามเธอกลับด้วยใบหน้าราบเรียบ
“พี่ผา!” เธออดเรียกเขาเสียงสูงและปั้นหน้าบึ้งใส่เขาไม่ได้
“ก็สวยไง ไม่งั้นพี่ไม่เอาหรอก” สวยในมาตรฐานของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าเขามีมาตรฐานที่เขาก็เลือกด้วยเหมือนกัน
“งอน!” เธอยู่หน้าว่าให้เขาอย่างไม่จริงจังตักข้าวเข้าปากคำใหญ่
“กินดี ๆ ติดคอไม่ผายปอดนะ” เขาเตือนขึ้นด้วยรอยยิ้มอย่างดีว่าเธอไม่ได้ขี้งอนกับเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้
“.....” เธอยู่ปากใส่เขาอย่างไม่สนใจและยังยัดข้าวคำใหญ่ใส่ปากอีกครั้งแล้วเคี้ยวแก้มตุ้ยราวกับเด็กน้อย แต่ก็เรียกรอยยิ้มให้เขาได้ง่าย ๆ
สัปดาห์นี้คณะของหินผาไม่มีเรียนเนื่องจากอาจารย์ส่วนใหญ่ติดสัมมนาหลายท่านส่งผลให้อาจารย์ที่ยังอยู่จึงยกคลาสเพราะรู้ดีว่านักศึกษาส่วนใหญ่คงไม่อยากถูกคั่นกลางวันหยุด และนั่นก็ทำให้เขาว่างพอที่จะมารับส่งเธอที่มหาลัย
“ไม่นานก็ถูกเขี่ยทิ้ง จะดีใจอะไรขนาดนั้น” ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องเรียนก็ได้ยินเสียงทักทายจากเพื่อนร่วมห้องที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากแถวที่พวกเธอเลือกนั่งดังขึ้น
“ขอดีใจหน่อยไม่ได้เหรอ ในเมื่อเป็นผู้หญิงคนแรกที่ถูกควงนานที่สุด” ไม่ต้องรอให้เธอตอบใบหม่อนก็ตอบแทนไปก่อนแล้ว
“จะบอกว่าควงนานอย่างเดียวไม่ได้นะ เพราะพี่ผาเขาพาไปอยู่ไปกินที่คอนโดเขาเลย” ซีนพูดเสริมขึ้นบ้าง
“มีใครบ้างไม่เคยไปคอนโดพี่ผา” ไปรยารีบย้อนขึ้นช่วยเพื่อนตัวเอง
“เหรอ แล้วมีใครบ้างได้กินนอนอยู่คนโดพี่ผา” ซีนย้อนถามกลับไปบ้าง
“จะรอดูว่าจะได้สักกี่น้ำ!” เรนนี่เจ้าของประโยคแรกที่ทักทายอย่างค่อนแคะดังขึ้นอย่างเกลียดชังเธอ
“ขอบคุณนะที่เอาประสบการณ์การถูกเขี่ยทิ้งของเธอมาใส่ใจและห่วงใยฉัน” ในเมื่อเพื่อนออกหน้าช่วยพูดกันหมดแล้วเธอก็ต้องกลับไปบ้างเพราะนี่มันคือเรื่องของเธอ เรื่องที่เรนนี่เพื่อนร่วมห้องเคยเป็นเด็กคุยของหินผามาก่อนเธอตั้งแต่เทอมหนึ่งแล้ว
“พลับ!” เจ้าตัวที่ถูกย้อนใส่เรียกเธอเสียงแข็งทันที
“ฉันพูดตรงไหนผิดไปเหรอ” เธอแสร้งทำหน้ารู้สึกผิดแล้วถามออกไป ก่อนจะพูดต่อ “ถ้าฉันพูดอะไรผิดไปก็โทษทีนะ แต่ถ้าไม่อยากให้ฉันพูดเธอก็ไม่ต้องยุ่งเรื่องของฉันก็ได้”
ประโยคที่ผ่านใบหน้าของความเป็นมิตรทำให้อีกฝ่ายกัดฟันอย่างเกลียดชังและหันกลับไปข้างหน้าห้องคืนทันที และนั่นก็เรียกเสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนเธอได้อย่างดี
เธอไม่เคยอยากทะเลาะกับผู้หญิงที่ไหนหรอกโดยเฉพาะเรื่องผู้ชาย แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันผู้หญิงเหล่านี้ต้องคอยหาเรื่องเธอด้วยทั้งที่พวกหล่อนก็ไม่ได้เป็นอะไรกับหินผาสักหน่อย เขาก็ควงคุยในเวลาสั้น ๆ แล้วก็แยกย้ายทั้งนั้น พวกหล่อนก็น่าจะรู้แล้วทำไมพอผู้ชายควงคนใหม่จะต้องคุยแซะหรือหาเรื่องบาดหมางกันด้วย
ชั่วโมงเรียนของเธอจบลงในเวลาบ่ายสาม พอลงจากอาคารเรียนมาพร้อมกับเพื่อนร่วมห้องคนอื่น ๆ ที่รวมถึงคนที่ไม่ชอบกันภายในลิฟท์เดียวกันว่าน่าอึดอัดแล้ว แต่หลังจากลงมานั่งที่ม้านั่งข้างอาคารเพื่อรอรถมารับกลับไม่ได้รับความสงบสุขอีกครั้ง
“เด็กใหม่ผาเหรอ” รุ่นพี่จากคณะอื่นเดินมาหยุดตรงหน้าม้านั่งของพวกเธอ พร้อมกับเพื่อนหล่อนอีกสองคนแล้วถามขึ้นอย่างตรงประเด็น
“มีอะไรคะ” เธอไม่ได้ปฏิเสธแต่ถามกลับคนตรงหน้าออกไปอย่างเบื่อหน่าย
เขาจะรู้ไหมว่าความหล่อและเสน่ห์ของเขาทำให้เธอวุ่นวายแค่ไหน ตั้งแต่คนเริ่มรู้ว่าตอนนี้เธอกับเขาอยู่ในความสัมพันธ์แบบไหน
“ไม่มีอะไร แค่อยากมาดูหน้า” คนตรงหน้าที่ค่อนข้างเปรี้ยวแม้จะใส่ชุดนักศึกษาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มมุมปาก
“เมียพี่ผาเหรอคะ” ด้วยความปากไวของเธอก็ถามออกไปอย่างห้ามไม่ได้
“หึ!” คนตรงหน้ารู้ว่าเธอกำลังประชดเพราะความหมายนี้ก็คือเป็นอะไรกับหินผางั้นเหรอถึงต้องมาดูหน้าผู้หญิงที่หินผาควง
และที่เธอได้รับความสนใจจากผู้หญิงเก่า ๆ ของหินผามากกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผ่านมานั้นก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่หินผาควงได้นานที่สุด คนที่หินผาพาไปอยู่ที่คอนโดของเขาด้วยกัน นี่เลยเป็นเหมือนความน่ากลัวและความไม่พอใจของผู้หญิงเหล่านี้
แต่เธอยังไม่ได้ทันพูดอะไรออกมาอีกก็มีรถ 911 Carrera s สีดำด้าน ดำทั้งคันเป็นที่ง่ายต่อการจดจำขับเคลื่อนมาจอดริมฟุตบาทใกล้ม้านั่งข้างตึก
“พี่ผามารับแล้ว กลับก่อนนะ” เธอหันไปบอกเพื่อนตัวเองด้วยรอยยิ้มและหันไปพูดกับรุ่นพี่ตรงหน้า "กลับด้วยกันไหมคะ เดี๋ยวบอกพี่ผาให้”
เธอถามอย่างเป็นมิตรก่อนจะลุกขึ้นสะพายกระเป๋าผ้า Nylon สีดำแบรนด์ที่ขึ้นด้วยตัว P มาสะพายก่อนจะแยกกับเพื่อนเดินตรงไปยังรถซุปเปอร์คาคันตรงหน้า เมื่อเดินมาถึงรถเธอก็หยุดหันไปมองด้านหลังของตัวเองเอียงหัวเล็กน้อยราวกับสงสัยที่ไม่เห็นอีกฝ่ายตามมา นั่นเลยตัดสินใจเปิดประตูก้าวขึ้นรถไปท่ามกลางสายตาของกลุ่มรุ่นพี่และนักศึกษาผู้หญิงอีกหลายคนที่มองมา
“ไม่ถามหน่อยเหรอคะ” เมื่อปิดประตูรถเขาก็เคลื่อนรถออกทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรทำให้เธออดไม่ได้ที่เป็นฝ่ายพูดก่อน
“อะไร” อะไรที่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงอะไรอยู่
“เหอะ! เสน่ห์แรงจนน่าหมั่นไส้! ตอนนี้พลับถูกผู้หญิงของพี่เข้ามาทักทายไม่เว้นวันเลย” เธอแค่นเสียงขึ้นแล้วโยนความผิดให้เขาอย่างน่าหมั่นไส้
“ก็ไม่ต้องสนใจ” เขาไม่ได้คบกับใครจริงจังทุกคนต่างก็รู้ดีว่าทุกอย่างแค่ชั่วครั้งชั่วคราว และตกลงกันอย่างดี เมื่อถึงสุขสมก็แยกย้าย
แต่ก็ยังมีบางคนที่ได้เข้ามาในจุดนี้ก่อนแล้วดันทำตัวเป็นเจ้าของ
“พี่ผาไม่ได้ติดต่อกับพวกเธอแล้วใช่ไหม” เธอไม่อยากสนใจหรอกแต่เธอก็ไม่คิดจะอยู่เฉย ๆ ให้คนอื่นแต่หาเรื่องซึ่งหน้าเหมือนกัน
“เอาเวลาไหนไปติดต่อล่ะ” เขาก็อยู่กับเธอทุกวันแยกกันแค่เวลาเรียนจะมีเวลาไหนไปติดต่อใคร ที่สำคัญกว่านั้นเขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าก็จริง แต่นั่นเพราะเขาควงทีละคนพอเริ่มคุยกันไม่รู้เรื่องก็เปลี่ยนไปเรื่อยทำให้กลายเป็นมีหญิงเยอะแบบนี้
“ถ้าพี่ผาเลิกยุ่งกับพลับแล้วมีคนอื่นนะ พลับไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนใหม่ของพี่ผาแบบนี้หรอก” เธอพูดขึ้นอย่างที่คิด ก่อนจะหันไปมองเขาแล้วพูดต่อ “หาเรื่องพี่ผายังดีกว่า”
ก็พูดไปงั้นแหละเพราะถ้าเธอถูกเขาทิ้งเหมือนคนอื่นเธอคงทำได้เพียงมูฟออนแล้วใช้ชีวิตตัวเองให้ดีที่สุด แล้วก็หวังให้เขาเสียดายในภายหลัง(แม้ไม่รู้ว่าเป็นแบบนั้นหรือเปล่า)
“ขู่เหรอ” เขาถามขึ้นด้วยรอยยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ได้เกรงกลัวเลยสักนิด
“พลับจะเอาความสามารถไหนไปหาเรื่องพี่ได้ล่ะ” เธอพูดพร้อมกับเอนหัวไปซบไหล่แกร่งของเขาอย่างออดอ้อน “แต่พลับไม่อยากให้ทิ้งพลับหรอกนะ พลับอยากอยู่ดูรอยยิ้มของพี่แบบนี้ตลอดไป”