ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้น

1872 Words
ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้น หญิงสาวใบหน้าสวยหวานสวมรองเท้าส้นสูงสีขาวราคาไม่ต้องพูดถึง เดินเข้ามาในบริษัทใหญ่ด้วยความมั่นใจ แล้วมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ “สวัสดีค่ะ ดิฉันพริกแกงจากบริษัทxxx มาขอพบคุณนาคินทร์ค่ะ” “ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าได้นัดเอาไว้หรือเปล่าคะ” “นัดค่ะ” “คุณนาคินทร์ยังไม่เข้าบริษัทเลยค่ะ น่าจะกำลังเดินทางมา” “ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันรอได้” เป็นเธอเองที่มาก่อนเวลา “ถ้างั้นเชิญทางด้านนี้เลยค่ะ” พนักงานพาหญิงสาวขึ้นไปนั่งรอในห้องผู้บริหารบนชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้ จากนั้นพนักงานคนนั้นก็เดินออกไปทิ้งให้หญิงสาวนั่งรออยู่คนเดียว เวลาผ่านไปได้สักครู่เธอรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา ซึ่งภายในห้องทำงานแห่งนี้มีห้องน้ำอยู่พอดี เธอจึงไม่รีรอขอเข้าห้องน้ำส่วนตัวทั้งๆที่เจ้าของห้องยังไม่ได้รับอนุญาต...ก็ไม่มีใครอยู่จะให้เธอขออนุญาตใคร! เมื่อเสร็จธุระส่วนตัวในห้องน้ำแล้ว เธอเห็นว่าเจ้าของห้องยังไม่มาสักที เธอจึงยืนแต่งหน้าและเติมลิปสติกนิดหน่อยก่อนที่จะก้าวเท้าออกมา แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียง “คุณนาคินทร์คะ ใจเย็นๆสิคะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นเข้าหรอกค่ะ” น้ำเสียงกระซิบกระซาบแบบมีจริตจะก้านเอ่ยขึ้น ทำให้เท้าที่กำลังจะก้าวเดินออกมาหยุดชะงักทันที “ไม่มีใครหรอกน่า ถ้ามีก็เห็นแล้วสิ” หญิงสาวใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ค่อยๆเปิดประตูออกมาเห็นชายหญิงกำลังกอดรัดกันอยู่บนโซฟาราคาแสนแพงที่เมื่อสักครู่นี้เธอนั่งอยู่ตรงนั้น “ปัก!” เสียงกระเป๋าถือแบรนด์ดังในมือเรียวสวยล่วงหล่นสู่พื้นจนเกิดเสียงทันทีเมื่อไม่คาดคิดว่าจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้ “ใครน่ะ!” เธอวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นโครมครามไม่ยอมหยุด “กลับไปก่อนป่ะ” นาคินทร์ผู้มีใบหน้าหล่อเหลาหันมาพูดกับหญิงสาวตรงหน้าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าได้นัดลูกค้าคนหนึ่งเอาไว้ “แต่...” “ผมไม่ชอบพูดซ้ำ” น้ำเสียงดุดันบ่งบอกถึงความรำคาญแต่สายตากลับจับจ้องไปที่ประตูห้องน้ำอย่างไม่วางตา “ก็ได้ค่ะ” เรไรคู่ขาที่ขอตามมาด้วยจากกิจกรรมอันแสนหวานตั้งแต่เมื่อคืน รีบจัดการเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยอยู่ให้กลับเข้าที่ดังเดิมก่อนที่จะเดินออกไปด้วยใบหน้าไม่พอใจ “ออกมา...” นาคินทร์เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเขาได้นัดกับลูกค้าคนหนึ่งเอาไว้ ไม่คิดว่าเธอจะมาเร็วก่อนเวลาแบบนี้ “..........” หญิงสาวที่อยู่ด้านในยังคงใจเต้นไม่หาย จะหนีก็ไม่ทัน จะปฏิเสธว่าไม่เห็น เขาก็คงไม่เชื่อเธอแน่ๆ “บอกให้ออกมาไง!” เขาเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง จนหญิงสาวที่หลบอยู่ด้านในสะดุ้ง จากนั้นเธอจึงค่อยๆก้าวเท้าเดินออกมาด้วยท่าทางสั่นๆนิดหน่อย “เห็นอะไรบ้าง” เขาถามขึ้นเสียงเรียบพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวานนิ่ง “ตาฉันไม่ได้บอดนี่คะ” ครั้นจะบอกว่าไม่เห็นอะไรเลยก็คงจะโกหก “คุณหนูพริกแกงสินะ” เขารู้จักเธอ “ค่ะ” “เชิญนั่งสิ” เขาผายมือให้เธอเดินนำไปที่โซฟาและก่อนที่เธอจะนั่งลง เธอมีท่าทีไม่อยากนั่งนึกรังเกียจกับเหตุการณ์ที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ แต่!... “ว้าย!! คุณจะทำอะไรน่ะ” ท่าทีของเธอนาคินทร์พอจะมองออก เขาจึงดึงเธอให้นั่งลงมาบนหน้าตักของเขาแทน แล้วกอดเธอเอาไว้ ด้วยใบหน้าที่แสนจะเจ้าเล่ห์สุดๆ “ปล่อยนะคะ!” พริกแกงดิ้นไม่ยอมหยุด เธอรู้สึกขยะแขยงผู้ชายคนนี้เป็นที่สุด แต่ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งกอดเธอเอาไว้แน่น “ถ้าคุณไม่หยุดดิ้น ผมจะทำกับคุณแทนผู้หญิงคนเมื่อสักครู่นี้” ประโยคนี้เขาก็แค่ขู่ อีกอย่างคือเขาไม่อยากให้เธอเอาเรื่องนี้ไปพูด เพราะมันไม่ใช่เรื่องดี “นั่นมันแฟนคุณนะ คุณจะทำกับผู้หญิงอื่นแบบที่ทำกับแฟนของคุณไม่ได้” เธอรีบพูดขึ้นเพื่อให้ตัวเองรอด แต่เธอพูดผิด! “แฟนเหรอ...ผมไม่มีแฟนนะ” เขาตอบออกมาอย่างหน้าด้านๆ “แล้ว...” “ก็แค่คู่นอนสนุกๆ” จบประโยคเขาก็โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยของเธอ แล้วจดปลายจมูกลงไปที่แก้มขาวเนียนของเธอพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ “ฟอด!” ทำไมผมถึงกล้าแสดงกิริยาแบบนี้ใส่เธอน่ะเหรอ ก็เพราะผมรู้จักเธอมานานแล้ว ถึงแม้ว่าการพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการของผมกับเธอจะไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่เธอก็คือผู้หญิงที่ผมชอบแอบมองเสมอ ไหนๆเธอก็คงมองผมเป็นผู้ชายมักมากไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะให้เสียแล้วนี่ “ไอ้บ้า ไอ้หื่น ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” ยิ่งเขามีท่าทีที่ไม่ให้เกียรติเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกขยะแขยงเขามากขึ้นเท่านั้น “ไม่ปล่อย...มาคุยเรื่องงานไม่ใช่เหรอ เริ่มกันเลยมั้ย” “ไอ้ทุเรศ คุณมันน่ารังเกียจ” “หยุดด่าผมสักที!” เสียงตะคอกของเขาทำเอาเธอจำเป็นต้องเงียบ “ปล่อยฉันลงไปนั่งดีๆก่อนเถอะนะ นั่งแบบนี้จะคุยรู้เรื่องได้ยังไง” เขายอมปล่อยแต่ทันทีที่เธอเป็นอิสระจากเขา เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกจากห้องทันที “นี่! มานี่เลย” ดีที่เขาขายาวแขนก็ยาว เขาก้าวสองทีก็คว้าเอวของเธอเอาไว้ได้ทัน แล้วทั้งสองก็กลับมานั่งกันอยู่ในท่าเดิมอีกครั้ง “ปล่อยนะ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ถ้าไม่ปล่อยฉันจะร้องให้คนช่วยจริงๆด้วย” ยิ่งเธอดิ้นมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นเท่านั้น “ชั้นนี้มีแค่ห้องทำงานของผมห้องเดียว ไม่มีใครได้ยินเสียงของคุณหรอก” เขาตอบอย่างผู้ชนะ พริกแกงเธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เธอจึงยอมหยุดดิ้นก่อนที่ร่างกายของเธอกับร่างกายของเขาจะฝังรวมร่างกันมากขึ้นไปกว่านี้ “มาคุยงานไม่ใช่เหรอว่ามาสิ ผมรอฟังอยู่” ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาอยู่ติดกับใบหน้าสวยของเธอไม่ถึงคืบ กระโปรงสั้นที่เธอสวมใส่อยู่ตอนนี้นั้นก็ร่นขึ้นมาเห็นขาอ่อนขาวเนียน ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกเขินอายเป็นที่สุด “ฉันต้องการมานำเสนอรายการสินค้าที่จะเอาขึ้นห้างของคุณกับคุยตกลงเรื่องราคาสินค้าบางตัวค่ะ” เธอจะพูดให้จบโดยไว เพื่อให้เธอได้ออกไปจากที่นี่เร็วๆ “มาว่าสิ” น้ำเสียงอบอุ่นกระซิบบอกเธอที่ข้างใบหูเบาๆ หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อตั้งสติแล้วเริ่มพูดในสิ่งที่ต้องการมาพูดทันที ในขณะที่เธอเริ่มพูดถึงรายละเอียดที่ต้องการนำเสนอให้เขาฟัง เขาก็นั่งฟังเธอพูดอย่างตั้งใจ กลิ่นหอมอ่อนๆจากร่างกายของเธอในก้อมกอดเขายิ่งทำให้เขารู้สึกถูกใจ และทันทีที่เธอพูดจบ “ตกลงครับ” “คุณยอมรับเงื่อนไขและราคาที่ฉันนำเสนอไปเมื่อสักครู่นี้จริงๆเหรอคะ” เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดง่ายเพราะเธอแอบโก่งราคาสินค้าบางรายการด้วย ไม่คิดว่าเขาจะยอมเธอง่ายขนาดนี้ “ก็ถ้าคุณง่าย ผมก็ง่าย” คำพูดของเขาคิดดีไม่ได้เลย ไหนจะท่านั่งที่คุยเรื่องงานกันคงต้องจดจำไปตลอดชีวิต “นี่!” เธอแหวใส่ “ใจเย็นๆสิครับคนสวย ผมน่ะไม่ค่อยชอบเสียเปรียบใครซะด้วยสิ” เพราะราคาที่เธอนำเสนอมา มันมากเกินจากมาตรฐานที่เขาควบคุมไว้ ข้อนี้เธอเองก็น่าจะรู้ดี “คุณต้องการอะไรเพิ่มว่ามาเลยค่ะ” “คุณไง” “ฝันไปเถอะ” “ใจเย็นๆสิครับ ผมไม่เคยฝืนใจผู้หญิงคนไหนนะ ถ้าคุณไม่ยอมผมก็จะไม่ทำ” เขาหมายถึงอะไร! “ยอมอะไรของคุณ พูดให้มันดีๆนะ” “ก็...ทุกอย่างนั่นแหละครับ ทานข้าว ดูหนัง ออกกำลังกาย ถ้าคุณตกลงยอมเป็นเพื่อนกับผม ผมจะเซ็นสัญญาให้คุณตอนนี้เลย” เขาใช้คำว่าเพื่อน นั่นจึงทำให้พริกแกงเบาใจลงไปได้หน่อย “ทานข้าว ดูหนัง ออกกำลังกาย แค่นี้แน่นะคะ” ถึงไม่ค่อยอยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่ประโยชน์ที่บริษัทของเธอจะได้รับมันก็น่าเสี่ยง “ก็บอกแล้วว่าผมไม่ชอบฝืนใจใคร คุณได้แค่ไหน ผมก็เอาแค่นั้นแหละ” แล้วท่านั่งตอนนี้ล่ะ แน่ใจนะว่าไม่ได้บังคับ! “ฉันไม่อยากมีปัญหา ถ้าเกิดผู้หญิงของคุณเห็นฉันอยู่กับคุณเข้าเธออาจจะไม่สบายใจ” “นั่นไม่ใช่ปัญหาของผม แล้วผมก็บอกคุณไปแล้วว่าผมกับเธอคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน” “ฉันขอกลับไปคิดเงื่อนไขของคุณก่อนแล้วกัน” พริกแกงค่อยๆพาตัวเองลงไปจากหน้าตักของเขาได้จนสำเร็จ “ไม่ต้องคิด อ่ะผมเซ็นให้เลย” เขาคว้าแฟ้มที่หญิงสาวถือเอามาด้วย ในนั้นมีสัญญาอยู่ เขารีบหยิบเอามาเซ็นชื่อ “นี่คุณ!” เธอกำลังจะแย่งสัญญากลับคืนมาก่อน แต่เขาที่เร็วกว่าคว้าเอาไปได้ก่อน แล้วจึงจดปลายปากกาลงไปในสัญญาใบนั้นทันที การลงลายมือชื่อเสร็จ ก็ถือว่าเอกสารฉบับนี้สมบูรณ์และใช้ได้เลย “แล้วถ้าฉันไม่ทำตามที่คุณต้องการล่ะ ไหนๆคุณก็เซ็นแล้วนี่ ขอบคุณนะคะ” เพราะในสัญญาไม่ได้ระบุเงื่อนไขบ้าๆของเขาลงไป “เห็นกล้องวงจรปิดนั่นมั้ย ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมต้องการ คุณได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่” ก็ท่านั่งคุยงานสุดแสนจะวาบหวิวซะขนาดนั้น ถ้านักข่าวได้ไปมีหวังเธอได้โด่งดังแน่ๆ “............” เธอเม้มปากแน่น เสียเปรียบทุกช่องทาง “ผมถือว่าคุณตกลงแล้ว ขอเบอร์ด้วยครับ” พริกแกงยังคงนิ่งเฉยใบหน้าไม่พอใจสุดๆ แต่ก็ทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ แต่แล้วคนใจร้อนก็ถือวิสาสะหยิบมือถือจากกระเป๋าของเธอขึ้นมา โดยใช้นิ้วมือของเธอปลดล็อคให้ตัวเองเสร็จ ได้เบอร์ได้ไลน์เรียบร้อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD