ความเดิม- "แค่นี้รักษาไว้ให้ไม่ได้หรือไง ก็บอกแล้วว่าผมจะไปเอาด้วยตัวเอง" ธันทรพูดซ้ำ ๆ อย่างคนหัวเสีย
……………………………………
อีกด้านของผู้มาใหม่
"อะไรกันคะพี่ธัน เสียงดังใส่เด็กมันทำไม น้องทำอะไรผิด" เป็นธันจิราที่เอ่ยขึ้นหลังจากยืนฟังอยู่นานและเข้าใจเหตุผลที่พี่ชายหัวร้อนในครั้งนี้
"….." ธันทรเงียบอย่างคนต้องการระงับอารมณ์ตัวเอง
"พี่ธันคะ จิรามีเรื่องจะบอกค่ะ ตามมาทางนี้ค่ะ" ธันจิราเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินนำหน้าพี่ชายไป
ธันทรได้ยินเช่นนั้นจึงเดินตามน้องสาวไปอย่างเสียมิได้ เมื่อเห็นว่าเดินออกมาไกลแล้วจึงเอ่ยถามน้องสาวขึ้น
..เรียกพี่มามีอะไรก็ว่ามา..
..เรื่องไลน์นั่นหนูเป็นคนอ่านเองแหละ น้องคงเข้าใจว่าพี่รู้เรื่องแล้วแต่ไม่ตอบก็เท่านั้นเอง.. ธันจิราบอกความจริงไป
…… ธันทรเงียบแต่จ้องเป๋งหน้าที่น้องสาวตาไม่กระพริบ
..ก็ใครให้พี่ไม่ทำรหัสล็อคหน้าจอล่ะ.. ธันจิรารีบแก้ต่างเมื่อเห็นสายตาของพี่ชาย
..แล้วทำไมไม่บอกพี่ ดีนะที่วันนี้เจอกันที่คลินิก ถึงไม่เจอก็คงฝากเราไปคืนพี่อยู่ดี.. ธันทรพูดเศร้า ๆ
..หนักแล้วนะคะพี่ชาย มันมากกว่าชอบแล้วนะคะ จิราว่า..
..ก็ใครว่าแค่ชอบล่ะ..
..ยังไงคะ พี่ธันอย่าบอกนะว่าพี่รักลูกศิษย์ของหนูจริง ๆ..
..อือ..
..อายุห่างกันสิบแปดปีเลยนะคะ จะไหวเหรอ..
..ไม่รู้ซิ รู้แต่ว่าจะถอนตัวถอนใจแล้วเจ็บทุกทีเลย ห่างก็คิดถึงจนทนไม่ไหว พี่ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้เลยนะจิรา..พี่คงโดนแล้วหละ.. ธันทรเอ่ยขึ้นอย่างยอมรับชะตากรรม
..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า.. ในที่สุดพี่ก็ยอมจำนนท์ ทำใจยอมรับมันเถอะค่ะ น้องจะช่วยพี่เอง มานิดาเป็นเด็กดีมีน้ำใจค่ะ ถึงจะมีพี่สะใภ้เด็กไปหน่อยก็โอเค้ หนูรับได้ รวยจนไม่สำคัญ บอกเลย.. ธันจิราหักมุมเสียได้ทำเอาคนพี่ทำหน้าไม่ถูก
..อ้าวคิดว่าจะต่อว่าพี่เสียอีก..
..แล้วน้องรู้ตัวหรือเปล่า..
..ก็ดูรูปการณ์แล้วคิดว่าเจ้าหล่อนจะรู้ตัวมั๊ยล่ะ หรือถ้ารู้ก็ใจร้ายมากเลยนะ.. ธันทรเอ่ยขึ้นแล้วยกยิ้มแต่เป็นยิ้มที่จืดชืดเต็มที
..หึหึ ก็ซื่ออยู่ แล้วพี่ชายน้องว่าไงบ้างละคะ..
..อันนั้นยิ่งแล้วใหญ่ กางปีกปกป้อง ไล่ตรง ๆ ก็ยังไล่มาแล้วเลย..
..โอ้ว…งานหยาบละทีนี้ แต่ไม่เป็นไร เราจริงใจซ๊ะอย่าง ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะพี่ชาย ท่องไว้ ปะเข้าห้องตรวจได้แล้วคนไข้มารอแล้วเนี่ย..
ธันทรหลังจากสงบสติอารมณ์ได้จึงเรียกคนไข้เข้าตรวจโดยมีวารีเป็นคนเรียกเข้าห้องตรวจให้และมานิดานั่งประจำที่เคาน์เตอร์แทน
เมื่อได้เวลาเลิกงานมานิดาจึงเข้ามาหาธันจิราที่ห้องตรวจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก (เสียงเคาะประตูจากผู้ที่อยู่ด้านนอก)
"ว่ายังไงคะมานิดา"
"คือหนูจะเอานาฬิกาของอาจารย์หมอธันทรมาคืนค่ะ"
"อ้าว..อาจารย์หมอธันทรก็อยู่อีกห้องไง ก็เอาไปคืนเค้าเองซิ"
"คือ..เมื่อเช้าก่อนเข้างานหนูก็เอาไปคืนแล้วนี่คะ อาจารย์หมอก็เห็นว่าอาจารย์หมอธันทรอารมณ์ไม่ดี คือหนูไม่กล้า.." ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กจะพูดขาดคำ
"ไม่กล้าอะไร มานี่มากับผมเลย/จิราหมดคนไข้แล้วใช่มั๊ย งั้นพี่ขอตัวลูกศิษย์ไปปรับทัศนคติหน่อยนะ" ธันทรเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมกับจับจูงข้อมือบางและออกแรงฉุดดึงอยู่พอประมาณโดยไม่รอคำตอบจากน้องสาว
..เอ่อ อาจารย์คะ ปล่อยก่อนค่ะ หนูจะกลับไปช่วยพี่ดวงใจกับพี่วารีปิดคลินิกก่อนค่ะ หนูเกรงใจ.. มานิดาประท้วงอย่างไม่ชอบใจ
..ไม่ต้องแล้ว ทุกคนเค้ารู้หมดแล้ว ไม่รู้ก็แต่เรานี่แหละมานี่กับผมเลย.. ธันทรพูดพร้อมกับออกแรงจูงข้อมือบางไปที่รถยนต์คันหรูแล้วจับคนตัวเล็กยัดใส่เข้าไปในรถตัวเองโดยคนตัวเล็กไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะชายหนุ่มเกาะกุมตัวไว้ตลอด
..อาจารย์คะ หนูกลัว หนูทำผิดอะไรแค่หนูเอานาฬิกาที่อาจารย์ลืมไว้มาคืนก็แค่นั้นเอง..ฮึ่ก.. มานิดาหวาดกลัวจนน้ำตามันไหลออกมาเอง
ด้านชายหนุ่มพลันได้สติทันทีเมื่อเห็นน้ำตาของคนตัวเล็กที่เขาไม่เคยเห็นมันเลยตั้งแต่รู้จักเธอมา เขายังไม่ได้ออกรถในทันทีได้แต่สตาร์ทเครื่องไว้เท่านั้น เขารีบปลอดล็อคเข็มขัดนิรภัยแล้วเอี้ยวตัวไปโอบกอดคนตัวเล็กแล้วลูบหลังคนตัวเล็กอย่างปลอดประโลมและขอโทษอยู่ในที
..มานิดา..กลัวมากเหรอ อาจารย์ขอโทษ ให้อาจารย์ไปส่งที่บ้านอีกนะ พี่ชายจะได้ไม่ต้องมารับนะ ไลน์บอกพี่ชายเลยว่าอาจารย์จะไปส่ง และขอฝากท้องมื้อเที่ยงนี้ด้วย..นะ..มานิดานะ.. ธันทรพูดกระชั้นและออดอ้อนอยู่ในที
..ก็ได้ค่ะ..แต่อาจารย์ห้ามทำแบบนี้กับหนูอีกนะ..ไม้งั้นหนูจะไม่ไว้ใจอาจารย์อีกเลย จะไม่มาทำงานพิเศษที่คลินิกนี่อีกด้วย.. มานิดาบอกอย่างเด็ดเดี่ยว
..ครับ ๆ อาจารย์จะไม่ทำอีกแล้วครับ รับรองมันจะไม่มีอีก..นะครับ..
..ก็ได้ค่ะ หนูไว้ใจอาจารย์ได้ใช่มั๊ยคะ?.. มานิดาเอ่ยถามอย่างชั่งใจ
..ได้ครับ มานิดาไว้ใจผมได้.. ธันทรละล่ำละลักบอกอย่างเสือหมดลาย
..งั้นก็ออกรถเถอะค่ะ.. หนูคิดถึงฝีมือทำกับข้าวของพี่ชายหนูแล้ว ตะกี้ไลน์ไปบอกแล้วว่าอาจารย์จะขอทานมื้อเที่ยงด้วย..
..โอเคครับ ไปกันเลยครับ.. ธันทรเอ่ยอย่างโล่งใจที่สุดที่คนตัวเล็กไม่ดึงดันที่จะลงจากรถไปเพราะถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงทนไม่ได้อาจต้องทำอะไรรุนแรงกับคนตัวเล็กไปเป็นแน่ แต่เรื่องที่จะปล่อยไปคงไม่มีทาง
@บ้านวรรณวัฒน์
ธันทรจอดรถยนต์คันหรูที่หน้าประตูรั้วและสักพักประตูก็ถูกเปิดออกโดยเจ้าของบ้าน เขาจึงลดกระจกลงเป็นการขอบคุณและทักทายแล้วขับรถเข้าไปข้างในอย่างช้า ๆ และจอดลงที่หน้าบ้านเพื่อให้คนตัวเล็กไม่ต้องผจญแดดเป็นเวลานาน
"พี่นพ น้องหิวแล้ว ทำอะไรกิน น้องอยากกินส้มตำอีกจัง" มานิดาเอ่ยถามพี่ชายอย่างประจบ