ความเดิม- ..อาจารย์เค้าว่ายังไงบ้างละยัยนาง.. มานพเอ่ยถามขึ้นอย่างกลัวคำตอบอยู่ไม่น้อย
……………………………………….
..อาจารย์วางสายไปแล้วน่ะพี่นพ หมายความว่าอาจารย์เค้าจะวนรถกลับมาเอาหรือมาเอาวันหลังละเนี่ย ไม่เข้าใจจริง ๆ เลย อิอาจารย์บ้านี่ ของก็ราคาตั้งแพงยังไม่ห่วงมาเอาอีก.. มานิดาบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยแล้วเดินเข้าบ้านพร้อมกับนาฬิกาเจ้าปัญหาในมือ
สองพี่น้องรอแล้วรอเล่าจนตะวันคล้อยต่ำก็ไม่เห็นเงาหัวรถยนต์คันหรูของคุณหมอหนุ่มโผล่เข้ามาอีกเลย
ด้านมานิดาได้แต่คิดในใจว่าในวันหยุดนี้ต้องไปทำงานพิเศษที่คลินิกคุณหมอธันจิราอยู่ดีก็จะถือเจ้านาฬิกาเจ้าปัญหานี้ไปคืนกับน้องสาวของเขาเสียเลย เจ้าตัวจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไป
ส่วนมานพได้แต่ยิ้มเยาะตัวเอง เขารู้สึกจนแต้มก็คราวนี้ ..เหลี่ยมจริง ๆ.. ชายหนุ่มได้แต่พึมพำเบา ๆ แล้วเลิกสนใจอะไรอีกต่อไปเพราะชีวิตเขามีอะไรให้ทำอีกเยอะ จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมหุงหาอาหารสำหรับตัวเองและน้องสาว
..พี่นพ ทำอะไรกิน หนูอยากกินน้ำพริกปลาทู กับผักต้ม.. คนน้องบอกยิ้ม ๆ
..ได้ซิ เอาพริกสดในตู้เย็นไปเด็ดไป แล้วก็แกะหอม กระเทียมไว้ ล้างไว้รอเลย..
..ได้เจ้าค่ะ..อืม..พี่นพนี่นอกจากเป็นพยาบาลที่เก่งแล้วยังทำกับข้าวเก่ง เข้าใจคนเก่งอีก พี่นพไม่อยากเรียนหมอบ้างเหรอคะยังทันนะ พี่เพิ่งสามสิบต้น ๆ เอง แก่กว่านี้ก็มีถมไป
..ไม่หรอกพี่ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ แค่นี้ก็ดีถม ถ้าได้บรรจุที่สถานพยาบาลในชุมชนก็ยิ่งดีไปใหญ่ จะได้มีเวลาดูแลว่าที่คุณหมอตัวน้อยของพี่ให้ได้เต็มที่หน่อยไงไม่ดีเหรอ จะยุ่งแข่งกันทำไมเล่า..จริงมั๊ย.. มานพพูดยิ้ม ๆ แล้ววางมือบนศีรษะทุยของน้องสาวอย่างนึกเอ็นดู
..จริงด้วย เป็นหมอยุ่งจะตาย… มานิดาสำทับความเห็นของพี่ชาย
หลังจากทำอาหารเสร็จสองพี่น้องก็นั่งรับประทานอาหารมื้อเย็นกันอย่างอบอุ่นทั้ง ๆ ที่เป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา น้ำพริกผักต้ม แกงจืด ไข่เจียวแต่อร่อยเหลือหลาย หลังจากอิ่มจากมื้อเย็นสองพี่น้องช่วยกันเก็บล้างแล้วมานั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น
..อ้อ..พี่นพ วันหยุดนี้หนูจะเอานาฬิกาของอาจารย์ไปคืนคลินิกของอาจารย์หมอธันจิราด้วยนะคะ จะเอาไปให้แกเอาไปคืนพี่ชายแกอีกทีค่ะ..
..อือ..แล้วแต่เราซิ..ถ้าจะเอาไปก็อย่าลืมส่งข่าวบอกแกหน่อยแล้วกันเผื่อแกมาเอาด้วยตัวเองแล้วจะเก้ออีก..
..ค่ะ หนูส่งไลน์ไปบอกแกแล้ว แกอ่านแต่ไม่ตอบ มือคงไปโดนแต่ไม่ได้อ่านมั๊งคะ เค้าว่าเป็นหมอนี่ยุ่งคงจะจริงมีเวลาอ่านแต่ตอบไม่ได้บางทีมือไม่ว่างติดผ่าตัดอะไรงี้มั๊งคะ หึหึ.. มานิดาพูดจาประสาซื่อ
..อือ.. มานพอือออกับน้องสาวไปอย่างนั้นทั้งที่ในใจเดือดปุด ๆ เมื่อนึกถึงรอยยิ้มอย่างผู้มีชัยในครั้งนั้นของคุณหมอหนุ่ม
@วันหยุด@คลินิกแพทย์ใจดี
มานพขับรถจักรยานยนต์ไปส่งน้องสาวที่คลินิกอีกตามเคย และถึงคลินิกก่อนเวลา ประมาณ 15-20 นาที
..ขอบคุณค่ะพี่นพ ขับรถกลับดี ๆ น๊า หนูจะเข้าไปข้างในแล้วพี่แม่บ้านคงทำงานอยู่ข้างในคลินิกแหละ..
..เลิกเมื่อไรก็ไลน์บอกพี่รอสแตนบายเต็มที่ เพราะเขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนที่ธันทรแนะนำในตอนนี้เพราะต้องการลุ้นผลสอบก่อนถ้าไม่ติดค่อยคิดหาหนทางอีกที
..ได้เลยค่ะ..กลับได้แล้ว ทำมื้อเที่ยงไว้รอหนูด้วยน๊า..
..อืม..ได้.. มานพรับคำน้องสาวยิ้ม ๆ แล้วขับรถออกไป
ด้านมานิดาเมื่อเห็นว่าพี่ชายขับรถออกไปแล้วจึงเข้าไปในคลินิกบ้าง
"พี่ดวงค๊าหนูมาแล้วค่า มีอะไรให้ช่วยบ้างค๊า" มานิดาร้องเรียกแม่บ้านวัยกลางคนพร้อมกับเดินเข้าไปหลังคลินิก แต่ต้องแปลกใจเมื่อไม่พบแม่บ้านหรือใครสักคน
..อ้าวประตูก็เปิดแล้วใครเปิดล่ะ แล้วพี่ดวงอยู่ไหนกัน อ๊ะ ยังไม่เรียบร้อยเลยนิ่ ยังไม่ได้จัดเก้าอี้เลย.. หญิงสาวบ่นพึมพำแล้วลงมือจัดเก้าอี้และเช็ดโต๊ะ และวัสดุอุปกรณ์การแพทย์จนสะอาดสะอ้านพร้อมใช้ ตลอดจนนำบัตรคิวไปวางด้านหน้าเคาน์เตอร์
สักพักก็ได้ยินเสียงพนักงานอีกคนเข้ามา
"อ้าวน้องนางมาแต่เช้าเลย พี่ผ่านหน้าคลินิกเห็นคุณหมอกำลังจอดรถอยู่น่ะ มาเร็วเหมือนกันนะเหลือเวลาอีกตั้ง เกือบสิบนาทีกว่าจะเปิดคลินิก" วารีเอ่ยทักทายหญิงสาวแล้วพูดเปรย ๆ ขึ้นซึ่งอีกคนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคิดว่าคนเป็นเจ้าของคลินิกก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเป็นเรื่องธรรมดา
อีกด้านของผู้มาใหม่
"หวัดดีครับพี่ดวง หวัดดีครับสาว ๆ" คุณหมอหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี แล้วหันไปมองน้องเล็กสุดจนเต็มตา
ด้านมานิดาที่ได้ยินเสียงคุณหมอหนุ่มเกิดจำได้จึงรีบเดินเข้าไปหาอย่างไม่ปิดบัง
"คุณหมอคะนี่นาฬิกาที่คุณหมอลืมวางไว้ค่ะ หนูเอามาคืน ดูแล้วราคามันหลายอยู่ รีบ ๆ เอาไปคืนเถอะค่ะ ถ้าหายไปหนูกับพี่นพไม่มีปัญญาซื้อมาคืนหรอกค่ะ แฮร่" มานิดาพูดอย่างแสนซื่อแถมติดตลิกพร้อมกับยื่นนาฬิกาเจ้าปัญหาไปให้คนตรงหน้า
ส่วนคุณหมอหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วและจ้องคนตัวเล็กเรืองแสงอยู่นานแล้วเอ่ยขึ้น
"ก็บอกแล้วไงว่าจะไปเอาเองที่บ้าน วันนี้ก็ใส่อีกเรือนมาแล้วไง ใครเค้าใส่นาฬิกาสองเรือนล่ะ เรานี่พูดไม่รู้ฟัง" ธันทรเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกฉุน ๆ
"อ้าว..ก็หนูเห็นว่าราคามันแพงก็เลยคิดว่าเอามาคืนคุณหมอจะดีกว่านี่คะ คือ…"
"แค่นี้รักษาไว้ให้ไม่ได้หรือไง ก็บอกแล้วว่าผมจะไปเอาด้วยตัวเอง" ธันทรพูดซ้ำ ๆ อย่างคนหัวเสีย