ความเดิม- "กินของผู้ใหญ่ได้ ไม่ชอบกินของเด็กค่ามันไม่แซ่บ" มานิดาตอบแบบโยนมาโยนกลับไม่ได้คิดอะไรแต่คนฟังคิดไปไกลแล้ว
…………………………………
ด้านมานพพอได้ยินคุณหมอหนุ่มพูดขึ้นแบบนั้นก็มองเขม่นคนพูดด้วยสายตาพิฆาตทำเอาอีกคนถึงกับหงอ ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว ส่วนมานพลุกออกไปในครัวสักครู่แล้วเดินกลับเข้ามาพร้อมกับจานผลไม้
“ผลไม้ล้างปากครับอาจารย์หมอ”
“ครับขอบคุณครับ ผมอิ่มพอดีเลย มื้อนี้ผมรู้สึกอร่อยมาก เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กินอะไรตามใจชอบ” ธันทรพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับหยิบผลไม้เข้าปากอย่างผ่อนคลาย
“ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อยซิครับ เราเดินไปคุยกันข้างนอกนะครับ/นางเดี๋ยวพี่ไปส่งคุณหมอที่หน้าบ้านนะ”
“ค่า.. พี่นพ/ขอบคุณที่มาส่งนะคะอาจารย์” มานิดาที่กำลังเก็บโต๊ะอาหารอยู่รีบออกมาหน้าบ้านเพื่อกล่าวขอบคุณพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้แขกผู้มาเยือนอย่างรู้มารยาท
“ครับมานิดา อาจารย์ไปก่อนนะ เจอกันเทอมหน้านะ ห้ามหนีกันไปไหนล่ะ” ธันทรรับไหว้ยิ้ม ๆ พร้อมกับพูดเป็นนัย
“ค่า ไม่หนี ไม่เกเรแน่ ๆ ค่า” มานิดาตอบอย่างร่าเริง
ตัดมาที่มานพเขาได้ยินน้องสาวตอบมาแบบนั้นเขาเดาว่าน้องสาวคงไม่ระแคะระคายอะไร คงแปลความหมายในฐานะลูกศิษย์กับอาจารย์จึงรับคำอย่างว่าง่าย แต่สำหรับเขาซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันเข้าใจมันดี ว่ามันมีนัยยะที่แอบแฝงอยู่ และวันนี้เขาต้องคุยกับชายหนุ่มรุ่นพี่คนนี้ให้รู้เรื่อง
สองชายหนุ่มเดินไปถึงหน้าบ้านซึ่งเป็นที่จอดรถยนต์คันหรูของอีกฝ่าย
..สงสัยอะไรก็ถามมาได้เลยครับมานพ.. ธันทรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเดินเข้าไปในครัวเพื่อเก็บล้างทำความสะอาดครัวต่อแล้ว
..ผมไม่อ้อมค้อมนะครับ อาจารย์หมอคิดยังไงกับน้องสาวของผมหรือครับ ผมมองแววตาของอาจารย์แล้วมันไม่เหมือนอาจารย์กับลูกศิษย์เลยนะครับ ผมขอเตือนไว้ก่อนนะครับ ผมไม่ยอมแน่ ๆ ถ้าอาจารย์จะมองน้องสาวของผมเป็นดอกไม้ริมทาง ถ้าอาจารย์มีตัวจริงอยู่แล้ว.. มานพพูดความในใจ ออกมาจนหมดไม่มีกั๊ก แถมขู่เล็ก ๆ อีกต่างหาก
..ใช่ครับผมไม่คิดกับมานิดาแค่อาจารย์กับลูกศิษย์ ผมยอมรับ.. ธันทรตอบหน้าตาเฉย
..แต่สังคมคุณหมอกับผมเราต่างกัน ทางที่ดีคุณอย่ามายุ่งกับน้องสาวของผมจะดีกว่า ผมไม่อยากให้น้องสาวของผมต้องสะดุด.. มานพบอกอย่างฉุน ๆ พร้อมกับเปลี่ยนคำสรรพนามเรียกขานอีกคนทันที
..ใจเย็น ๆ ครับมานพ คุณจะไม่เปิดโอกาสให้ผมอธิบายบ้างเลยเหรอ ทำไม ผมจะชอบรักมานิดาไม่ได้เหรอ?.. ธันทรเอ่ยถามขึ้นบ้าง
..งั้นคุณหมอก็บอกมาซิครับ ว่าคุณรู้สึกยังไงกับน้องสาวของผมกันแน่.. มานพถามขึ้นเน้น ๆ
..สนใจ สงสาร ถูกชะตา ชื่นชม ชื่นชอบ ยอมรับ แต่ตอนนี้ความรู้สึกข้างต้นที่บอกมามันเปลี่ยนไปครับ มันรู้สึกเหมือนได้เจอญาติที่ตามหาที่เคยผูกพันกันมา ไม่เห็นก็คิดถึงร้อนรนโหยหาอยากเจอ พอได้อยู่ใกล้ก็รู้สึกเย็นพอดี ๆ ที่รู้สึกร้อนรุ่มก็หายไป มันสบายใจเวลาอยู่ใกล้ ถ้าได้อยู่ด้วยคงสบายมากกว่านี้.. ธันทรพูดมันออกมาจากความรู้สึกข้างในอย่างตรงไปตรงมานั่นทำให้คนฟังอึ้งไปพักใหญ่
..คุณหมอกำลังจะบอกอะไรผมหรือครับ..
..คุณก็เป็นผู้ชาย ความรู้สึกทั้งหมดที่ผมพูดออกมาคุณคิดว่าเป็นคืออะไรล่ะ ผู้ชายคนนึงที่คิดถึงโหยหาและอยากอยู่ใกล้ ๆ ผู้หญิงคนนึงที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง..
..ผมไม่รู้ครับ ถ้าคุณไม่บอกก็ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับน้องสาวของผมเท่านั้นก็จบครับ..
..โอเค วันนึงที่ผมพร้อมจะพูดคำนั้น ผมจะมาที่นี่อีกครั้งและมาบอกคุณมานพด้วยตัวเอง แต่ขอผมได้เรียนรู้มานิดาให้มากกว่านี้จะได้ไหมครับ..
..ได้..แต่ให้อยู่ในขอบเขต และไม่ทำให้น้องสาวของผมไขว้เขวและเสียหาย อีกอย่างห้ามล่วงเกินน้องสาวของผมเด็ดขาด.. มานพบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
..ขอบคุณครับ ผมสัญญาด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย.. ธันทรเอ่ยยิ้ม ๆ
..ผมหวังว่าคุณหมอจะรักษาสัญญา กลับเถอะครับ ผมจะไปรอปิดประตูรั้ว.. มานพเดินออกมาจากหน้าบ้านแล้วมาหยุดรอคุณหมอหนุ่มที่ประตูรั้วเขารู้สึกไม่ชอบรอยยิ้มนั่นเลยมันเหมือนมีนัยยะแอบแฝงแต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
ด้านธันทรเมื่อเห็นว่าชายรุ่นน้องหัวร้อนเดินออกไปรอที่ประตูรั้วแล้วจึงจำใจต้องเปิดประตูรถและขับออกไปเพราะสงสารชายหนุ่มที่ต้องทนต่อแสงแดดที่แผดเผาในยามบ่าย
ตัดมาที่มานิดาที่กำลังเก็บกวาดโต๊ะ และเลยไปถึงอ่างล้างมือใกล้โต๊ะอาหารจึงไปพบกับนาฬิกาหรูซึ่งเป็นของผู้ชายและเธอเดาไม่ผิดคงเป็นของอาจารย์ของเธอแน่จึงรีบหยิบนาฬิกาแล้วกึงเดินกิ่งวิ่งมาหาพี่ชายที่หน้าบ้านทันที
..พี่นพ พี่นพนี่ใช่นาฬิกาของอาจารย์หรือเปล่า.. มานิดาเอ่ยถามขึ้นทั้งที่พอจะเดาได้ว่าเป็นของใคร
..น่าจะใช่นะ เพราะพี่คงไม่มีปัญญาซื้อนาฬิกาหรูขนาดนี้มาใส่หรอก.. มานพพูดยิ้ม ๆ แต่แอบมองบนในความอ่อยของคุณหมอหนุ่ม มิน่าละก่อนไปถึงได้ยิ้มแปลก ๆ
..ไม่ได้การล๊ะ หนูต้องโทรไปบอกเจ้าตัวเค้าหน่อยเพื่อความบริสุทธิ์ใจ.. มานิดาไม่รอความเห็นจากพี่ชายรีบต่อสายโทรศัพท์หาตัวการ เพียงครู่ก็ได้ยินเสียงปลายสายรับสายทันที
มานิดา: สวัสดีค่ะอาจารย์ อาจารย์ลืมนาฬิกาไว้ที่โต๊ะวางของใกล้ ๆ อ่างล้างมือค่ะ อาจารย์จะให้หนูเอาไปให้ที่คลิอาจารย์หมอจิราเลยมั๊ยคะ วันหยุดนี้หนูจะได้เอาไปให้
ธันทร: ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวอาจารย์จะไปเอาด้วยตัวเอง เก็บไว้ให้หน่อยน๊า อาจารย์กำลังขับรถอยู่ไม่สะดวกคุย แค่นี้ก่อนน๊า แล้วสัญญาณก็ถูกตัดไป
..อาจารย์เค้าว่ายังไงบ้างละยัยนาง.. มานพเอ่ยถามขึ้นอย่างกลัวคำตอบอยู่ไม่น้อย