ความเดิม- ..อ้อ..ว่าแต่ว่าคุณหมอจะคุยอะไรกับยัยนางหรือครับ เห็นบอกไว้ตอนแรก.. มานพเอ่ยถามอย่างนึกขึ้นได้
……………………………………….
..คืออย่างงี้จ้ะ ป้าจะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ ป้าไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ ป้าขอถามเราคำเดียวว่านามสกุลเดิมแม่เราก่อนที่จะมาจดทะเบียนสมรสและเปลี่ยนนามสกุลเป็นของพ่อเราน่ะ คือ 'เวียงวงค์' ใช่มั๊ย ชื่อพนิดา นามสกุล 'เวียงวงค์' ใช่มั๊ย.. คุณนายจันทราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ และกลั้นใจรอฟังคำตอบจากเด็กหนุ่ม
ด้านมานิดาที่เกิดทีหลังและไม่ค่อยจะทราบประวัติมารดาเท่าไรได้แต่หันไปมองคนพี่ทีและมารดาของคุณหมอที่นับถือทีสลับกันไปมา
มานพนั่งนิ่งอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ทุกอย่างมันตีรวนกันไปหมด เพราะเขาไม่ทราบวัตถุประสงค์การมาของหญิงวัยชราผู้นี้ แต่ในเมื่อ ทั้งหมดมันคือความจริงก็ตามนั้น และอีกอย่างหญิงชราคนนี้ดูท่าทางเป็นคนที่น่าจะเชื่อถือได้และเป็นถึงพยาบาลวิชาชีพ เป็นข้าราชการบำนาญที่เกษียณอายุราชการแล้ว เขามองไม่เห็นว่าหญิงชราจะได้ประโยนช์อะไรจากเขา ชายหนุ่มจึงตกลงใจตอบออกไป
..ใช่ครับ แม่ของผมชื่อ พนิดา นามสกุลเดิมคือ 'เวียงวงค์' จริงครับ..
..เหรอจ้ะ พรหมลิขิตจริง ๆ เลย แล้วแม่เรามีภูมิลำเนาเดิมที่จังหวัดอะไรจ๊ะ พอจะตอบป้าได้มั๊ย..
..เออ.ผมไม่ค่อยทราบครับ แต่ได้ยินพ่อเคยพูดถึงอยู่ครับว่าแม่มีญาติอยู่ที่เชียงรายครับ แต่ขาดการติดต่อกันนานแล้วครับ..
..ดีแล้วแหละ คงหมดอายุไขกันไปหมดแล้วมั๊ง คนตายก็ตายไปแล้วนี่เน๊าะ อย่าไปฟื้นฝอยหาตะเข็บเลยลุก เชื่อป้า..
..เอ่อ..คือ คุณท่านพูดแปลก ๆ นะครับ ยังกะคุณท่านทราบความเป็นมาเป็นไปอย่างนั้นแหละ.. มานพเอ่ยยิ้ม ๆ แต่เป็นยิ้มที่ดูจะเจื่อน ๆ เต็มที
..เอาเป็นว่าป้าจะเล่าความจริงให้ฟัง ก่อนอื่นป้าต้องขอโทษที่ป้าละลาบละล้วงสืบข้อมูลของเราอยู่ ป้าชื่อจันทรา หรือจันทร์ เป็นชาวเชียงรายโดยกำเนิด ครอบครัวของป้าเป็นข้าราชการ เมื่อตอนที่ป้าอยู่บ้านนอกมีน้องสาวคนสนิทที่รักกันเหมือนพี่น้องคลานตามกันมาชื่อพนิดา หรือ 'นิ' น้องเป็นคนสวยน่ารักตัวเล็ก ๆ ผิวขาวอมชมพู เรียนเก่ง พอน้องเรียนจบประถมก็เป็นสาวน้อย ๆ แล้ว..สวยด้วย..อยู่มาวันนึงก็มีคนมาขอน้องให้ไปทำงานในเมืองกับพ่อและแม่ของน้องแต่น้องไม่อยากไป อยากเรียนต่อในขณะที่ป้าเรียนจบมัธยมแล้ว และสอบพยาบาลได้ที่เชียงใหม่และต้องเข้ามาเรียนที่นั่น แล้วป้าก็ไม่ได้ข่าวน้องอีกเลย
เมื่อป้าเรียนจบใหม่ ๆ ป้าเคยให้เพื่อนช่วยสืบ ๆ ถาม ๆ ให้ก็รู้แค่ว่าน้องดาหนีออกจากบ้านไปอยู่เชียงใหม่แค่นั้น และเมื่อป้าเกษียณใหม่ ๆ ก็ไปสืบหาที่บ้านเก่าก็รู้แค่ว่าพ่อแม่ของน้องเสียแล้ว ส่วนญาติคนอื่น ๆ ก็แยกย้าย ที่ดินตรงนั้นก็เป็นของคนอื่นไป จนวันที่ตาธันพาหนูนางไปที่บ้านป้าได้เห็นหน้าหลานสาว ป้าจึงเริ่มสืบเรื่องนี้อีกครั้งอย่างจริงจัง และป้าคิดว่า พนิดา คงอยากฝากฝังลูก ๆ ให้ป้าช่วยดูแลต่อ.. คุณนายจันทราเล่าความหลังตั้งแต่ต้นจนจบ มีเสียงสั่นเครือบ้างในบางจังหวะ
ด้านมานพและมานิดาได้ฟังอย่างตั้งใจ คนน้องได้แต่ส่งสายตาไปหาพี่ชายเป็นเชิงถามเพราะเธอยังเล็กนักไม่ทราบเรื่องราวอะไรเท่าไร
..คือ..ผมไม่ทราบว่าที่คุณท่านพูดมันจริงหรือเปล่า..และไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของคุณท่าน..มันผ่านไปแล้ว และมันเรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้แล้ว เอาเป็นว่าผมจะดูแลน้องที่เป็นญาติคนเดียวโดยสายเลือดของผมให้ดีที่สุดครับ.. มานพบอกอย่างจริงจัง
..ป้าเข้าใจ..เป็นใครก็เชื่อยาก แต่ป้าอยากให้เราดูนี่ ดูซิ๊ว่านี่ใช่รูปแม่ของเรามั๊ย.. คุณนายจันทรายื่นรูปภาพขาวดำที่เธอเคยถ่ายคู่กับเพื่อนรุ่นน้องในวัยเด็กให้ชายหนุ่มดู และอีกหลาย ๆ ภาพในอิริยาบทต่าง ๆ
มานพรับรับเก่า ๆ มาดูทีละ ทีละใบ เด็กผู้หญิงในรูปมีใบหน้าละม้ายคล้ายมารดาของเธอในวัยผู้ใหญ่อยู่มาก ชายหนุ่มได้แต่นิ่งแล้วหลับตาลงไม่อยากรับรู้
อีกด้านของผู้มาใหม่
..เชื่อเถอะมานพ นั่นคุณแม่ของอาจารย์เอง ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คนแก่คนนึงจะมาโกหกเธอและน้องสาว เพื่ออะไรกัน..อาจารย์เองก็ได้ให้เพื่อนฝูงช่วยสืบกันมาแล้ว ความจริงมันก็คือความจริงนะ..คุณแม่ของอาจารย์รู้สึกผิดจนมาถึงทุกวันนี้เพราะช่วยฉุดเพื่อนรุ่นน้องในวัยเด็กขึ้นมาไม่ได้ จนวันที่ท่านได้เจอมานิดาท่านมีความหวังอีกครั้ง แต่ก็ต้องเสียดายที่รู้ว่าเขาคนนั้นได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่เขาก็ยังมีเมล็ดพันธุ์ที่ดีทิ้งไว้ให้พวกเรา คือเธอสองคนพี่น้องไง.. ธันทรเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่น
..ผมทราบครับว่าคุณท่าน คุณหมอ และอาจารย์ไม่ได้หวังผลหรือประสงค์ร้ายอะไรกับผมและน้อง แต่มันยากที่จะเชื่อครับ ผมขอเวลาครับ ผมขอโทษที่ทำให้ทุกผิดหวัง ตอนนี้ผมรู้สึกสับสนไปหมดแล้วครับ.. มานพตอบไปตามความรู้สึก
ส่วนมานิดารีบเข้าไปนั่งข้าง ๆ พี่ชายแล้วอิงซบศีรษะลงที่ไหล่ของคนพี่พร้อมกับกอดแขนคนพี่ไว้อย่างให้กำลังใจ
..พี่นพ นางจะอยู่กับพี่เสมอนะ นางรักพี่นพนะ..
..อือ..พี่รู้..พี่ไม่เป็นอะไรหรอก.. มานพบอกน้องสาวยิ้ม ๆ พร้อมกับลูบผมคนน้องอย่างเบามือ
ด้านคุณนายจันทรา ได้แต่สะท้อนใจ เพราะเธอรู้ดีว่าเด็กหนุ่มคราวลูกกำลังรู้สึกปวดร้าวกับความเป็นมาของบรรพบุรุษของตน แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อสิ่งนั้นมันเป็นปฐมเหตุที่ทำให้เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นและยุ่งยากไปหมด
..เอาเป็นว่าป้าเข้าใจเราน่ะลูก งั้นป้าคงต้องกลับเสียที มานานล๊ะ ป่านนี้ลุงคงเลิกงานแล้ว เดี๋ยวจะไม่เห็นใคร ว่าง ๆ ก็ไปเยี่ยมไปหาป้าที่บ้านได้นะลูก ที่นั่นยินดีต้อนรับเราและน้องเสมอ.. นางจันทราเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วทำทีว่าจะลุกขึ้น
..ขอบคุณครับที่เมตตาผมกับน้อง เดี๋ยวผมไปส่งครับ ผมช่วยครับ.. มานพเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วเข้าไปพยุงหญิงชราให้ลุกขึ้น