@ ไร่ตะวันวาด
ไร่ตะวันวาดตั้งอยู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ปลูกองุ่นหลายสายพันธ์ สายพันธุ์ชีราซทำไวน์แดง สายพันธ์เชอนินบลอง ทำไวน์ขาวและองุ่นกินผลสดแบบมีเมล็ดและไร้เมล็ด
ภายในไร่ได้ซ่อนบ้านสวยอิงแอบธรรมชาติไว้หนึ่งหลังมองดูแล้วอบอุ่นใจแก่ครอบครัวมาก บริเวณหลังบ้านยังมีหุบเขาเรียงรายเล็กใหญ่ทอดตัวยาว ต้นไม้เขียวชอุ่ม ด้วยตอนนี้เป็นฤดูฝนของเดือนกันยายน
ทุกเย็นทอตะวันจะโทรถามอาการของผู้เป็นบิดา เป็นประจำทุกวัน วันนี้ก็เช่นกันครืด ....ครืด... เสียงสมาร์ทโฟนของเผด็จดังขึ้นเขาจึงเอื้อมมือหยิบ หน้าจอขึ้นใบหน้าของลูกสาวแสนสวยแล้วตั้งใจโชว์หน้าจอให้แขกขาประจํารู้ว่าลูกสาวโทรมา
แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข อยากอวดลูกสาว
"ฮัลโหล...ตะวันเหรอลูก" แล้วเจตนาเปิดโฟนให้พ่อหนุ่มนิสัยดีหน้าตาหล่อเหลาลูกเจ้าของไร่องุ่นและโรงไวน์ส่งออกฟังด้วย
ส่วนสีหน้าเขานั้นอึมครึมอย่าบอกใคร แต่จำเป็นต้องนั่งอยู่ตรงนั้น เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท
"สวัสดีค่ะพ่อ กินข้าวหรือยังคะ"
"อ๋อ... ยังเลยลูก วันนี้แม่เขามีหลายเมนูรอนิดนึง"
"ทำหลายอย่าง คงอร่อยน่าดู ฝีมือแม่"
"เอ๊ะ! ปกติก็ทำแค่อย่างสองอย่าง ทำไมวันนี้ทำหลายอย่างคงเหนื่อยแย่เลย"
"พอดี วันนี้พ่อมีแขก" พ่อเริ่มวาดลวดลายแล้ว
"ใครคะ? ป้าเพ็ญเหรอคะ"
"ไม่ใช่ นี่ไงพ่อดินแดน" ว่าแล้วพ่อก็หันหน้ากล้อง สมาร์ทโฟนมาทางดินแดนโดยที่ชายหนุ่มไม่ทันตั้งตัวเหมือนจงใจจะให้เห็นหน้ากัน
"เอ่อ สวัสดีครับ" ทักทายพอเป็นพิธีแล้วรีบคืนสมาร์ทโฟนกลับคุณน้าผู้มีลูกสาวสวย
ทักทายเพียงขณะเดียวก็ได้เห็นสาวสวยในชุดนอนลายการ์ตูนน่ารักนั้น ต้องรีบคืนโดยไวใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวกลัวควบคุมตัวเองไม่ได้
ทางด้านทอตะวันยังไม่ได้พูดอะไรเลย เห็นเงาคนผู้ชายสีผิวค่อนข้างกรำแดดยังไม่ได้พิจารณาว่าจะหล่อเหลาอย่างที่เผด็จกล่าวไว้หรือไม่ อยู่ที่กรุงเทพฯเห็นคนหล่อเดินกันเกลื่อนถนน
"ค่ะ ค่ะ สวัสดีค่ะ" คุณดิน.......
"ดินแดน ผมชื่ิอดินแดน " ได้ยินแต่เสียงตามมาตัวเจ้าของเสียงนั้นหน้าดำเอาเรื่องแล้ว
สายตาดุดันคมกริบแต่ทอตะวันไม่รับรู้ถึงสายตานั้น
"อุ๊บส์! ขะ ขอโทษค่ะ ที่เรียกผิดแหมมันก็คล้าย ๆ กันนะคะ" หญิงสาวแกล้งแหย่แต่เขาไม่เล่นด้วย
"คุณ ดิน... แดน" คริ คริ ตะวันกลั้นหัวเราะไว้กลัวเสียมารยาท อย่างน้อยนายคนนี้ก็ได้ช่วยเหลือพ่อกับแม่ของเธอไว้ไม่น้อย
วันนี้พอแค่นี้สำหรับคุณดินแดน แค่พอหอมปากหอมคอคุยกับพ่อดีกว่า "วันนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ?"
“ก็เหมือนเดิมแหละลูก ยังชาๆ ที่ขาอยู่" พ่อตอบกลับด้วยแววตาอ่อนโยน"
"ทำกายภาพบำบัดตามที่คุณหมอนัดหรือเปล่าคะ?" ทอตะวันก็อดเป็นห่วงอีกไม่ได้
"ไปตามนัดทุกครั้งแหละจะว่าไปพ่อก็ได้คุณดินแดนเขานี่แหละ พาไปหาหมอแม่เขาก็ขับรถไม่เป็น"
ความดีมันต้องใส่ข้อมูลไปให้เยอะๆ หน่อยยัยลูกสาวจะได้ซึมซับวันละนิดเขาคิด ดินแดนที่นั่งอยู่ด้านข้างกับเผด็จพ่อของทอตะวัน ฟังสองคนพ่อลูกคุยกันก็จับใจความได้ว่าทอตะวันจะกลับมาช่วยงานที่บ้านสิ้นเดือนนี้
ทอตะวันวางสายไปแล้ว.......
สองคนจึงนั่งคุยกัน หนึ่งคนหนุ่มอีกหนึ่งวัยใกล้เลข 6 คุยกันจิปาถะส่วนมากเกี่ยวกับโรงไวน์ของดินแดนจนถึงมื้ออาหารเย็น ดินแดนก็ตกลงใจกินอาหารเย็นบ้านนี้ซะเลย เขาเคยได้ลิ้มลองแล้วฝีมือการทำอาหารของน้าตะวันวาด ก็ไม่เป็นรองใคร
ใครจะว่าเขาเห็นแก่กินก็ยอมเถอะ
หลังจากกินอาหารเย็นแล้ว ชายหนุ่มก็รับอาสาล้างจานเพื่อแลกกับอาหารแสนอร่อย น้ำพริกปปลาทูกับผักพื้นบ้านปลอดสารพิษและต้มยำปลาช่อนตัวโตพิเศษที่ไข่ปลาช่อนนั้นอร่อยมาก
ใจเขาเผลอคิดไปถึงทอตะวันแบบไม่รู้ตัว
ทอตะวันจะทำอาหารเป็นไหมนะ......
@ บริษัท H Group
ระยะเวลา2 สัปดาห์ที่ทอตะวันสอนงานให้กับวีณานั้นผ่านไปด้วยดี แต่เธอก็คงมีภารกิจการการวางแผนร่วมกับประธานธีทัต
ทุกวันมักกลับบ้านเกิน2ทุ่ม มาหลายวันแล้ว วันนี้ก็เช่นกัน เธอกับเขาตัวแทบจะสิงกันอยู่แล้ว
"คุณทอตะวันวันนี้ดูคุณเหนื่อยล้ามากวันนี้ผมไปส่งคุณละกัน"
"ไม่เป็นไรค่ะ ไหวค่ะไหว สบายมาก" ในใจคิดให้เข้มแข็งไว้นะทอตะวัน
"เอาเป็นว่าตอนเช้าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ผมไปรับคุณที่คอนโด ตอนเย็นกลับพร้อมกันตามนี้นะ " บอสพูดจบก็ไม่ได้ฟังคำคัดค้านแต่อย่างใด
เก็บเอกสารปิดโน๊ตบุ๊คแล้วเดินนำทอตะวัน ออกจากออฟฟิส โดยมีรปภ.ของบริษัทคอยดูแลปิดประตูบริษัท
ทอตะวันพาร่างอันหิวโหยเดินตามออกไป
ภายในลิฟท์โดยสาร
โครก...คราก.. โครก..คราก เสียงท้องร้องของใครบางคนจากด้านหลังของบอส ร้องประท้วงออกมาแล้ว
บอส..คงไม่ได้ยินหรอกนะ ทอตะวันเอามือกุมท้องไว้
แสบ แสบท้อง หิวจนตาลาย
ท้องของฉันจะมาร้องอะไรเอาตอนนี้ อายเขานะ
ฮึ... เสียงท้องร้องที่ไม่ใช่ของเรา...ก็คงเป็นของทอตะวันแน่นอน
ออกจากลิฟท์ทอตะวันเดินจ้ำอ้าว มุ่งหน้าไปยังรถของบอส
"คุณน่าจะหิวข้าวแล้ว " บอสหยุดเดินกระทันหันทำให้ร่างน้อยที่โซเซมาตลอดทางแทบจะลงกองกับพื้นดีที่บอสมือไวคว้าไว้ได้
"อึบ.. นี่คุณหมดแรงขนาดนี้เลยเหรอ" คว้าเอวบางมาไว้ข้างตัวแล้วเดินประคองไปเลย วันนี้รู้สึกว่าจอดรถไกลจัง
"รถบอสจอดอยู่ไหนเมื่อไหร่จะถึง ขาตะวันจะลากแล้วค่ะ"
"ก็ที่เดิม คุณคิดไปเองว่ามันไกล" คนตัวโตกว่าทำตาดุใส่
ใช้งานเราหนักแล้วยังทำดุใส่อีก ........
ทอตะวันจำต้องแบกร่างตามเขาไป
เมื่อทั้งสองขึ้นรถโดยบอสเป็นคนขับ ทอตะวันนั่งด้านหน้าคู่กันทำให้เห็นใบหน้าที่สวยหวานซีดเซียวเพราะความหิว
"ให้ไวเลยค่ะ หิวจนตาลายจะกินคนได้แล้ว"
"งั้น คุณก็กินผมสิถ้าคุณหิวผมยอม" พูดไปแล้วสองแง่สองง่ามหรือเปล่าไม่รู้ที่รู้ทอตะวันหุบปากฉับเลย
"กินข้าว ดีกว่า ไม่อยากกินบอส เดี๋ยวติดคอตาย" คนอย่างทอตะวันหรือจะยอม
"ถ้า คุณไม่กินจะเสียใจทีหลังนะ" บอสหยอดอีก ตั้งแต่ทอตะวันลาออกบอสก็รู้จักใช้คำพูดที่ฟังแล้วมันแปลกๆ พิกล
@ ภัตตาคาร กลางกรุง
ขับรถไปได้สักพักก็ถึงภัตตาคารหรูกลางกรุง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าที่นี่ต้องมีแต่อาหารเลิศรสของไฮโซชื่อดังที่นิยมกันมาก
บรรยากาศดีเกินคาดบอสเลือกมุมที่ดีที่สุดของร้าน มานั่งยังไม่ทันหายร้อน อาหารก็พร้อมเพรียงกันเบียดเสียดบนโต๊ะ
"บอสคะ เรามากันสองคนสั่งเยอะขนาดนี้แล้วกินหมดไหมคะ"
"เชิญคุณกินเลยคุณทอตะวัน ผมรู้คุณหิว" ว่าแล้วบอสก็หิวเหมือนกันทั้งสองต่างเอร็ดอร่อยกับอาหาร
จนทุกอย่างที่เห็นว่าเยอะในตอนแรก มันได้ถูกจัดการหมดไปแล้ว
"ถ้าคุณยังไม่อิ่มผมสั่งเพิ่มให้ เอาไหม?" บอสถาม
"เอาเป็นของหวานอีกซัก1อย่างแล้วกันค่ะ"
"ได้ ได้สิ เอาคนละถ้วยเลย" กินข้าวกับทอตะวันแล้วมันอร่อยขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ทำไมเราไม่พามานะ
คิดช้าอีกแล้ว ธีทัตเอ๋ย
หลังจากอิ่มแล้วเมอซิเดสคันหรูก็เคลื่อนตัวออกจากภัตตาคารสู่คอนโดของทอตะวัน ยามค่ำคืนแสงสีในมหานครใหญ่ก็งดงามใล่เล่น หญิงสาวมองเพลินจนหลับไปในที่สุด ทั้งที่พยายามฝืนตัวเองเต็มที่