‘สวย’…
คำเดียวเลยที่หนูคิดขึ้นได้ตอนเห็นหน้ากิ๊กเก่าหมอกันภัยคือ ‘สวย’ และยิ่งดูก็ยิ่งสวย มิน่าล่ะ หมอกันภัยถึงไม่มีเมีย แฟนเก่าสวยมากนี่เอง จะหาแฟนใหม่ที่สวยเท่าแฟนเก่าก็คงยาก
มิลาดาคิดในใจขณะนั่งอยู่ในห้องลงยันต์พร้อมกับกันภัยและหญิงสาวอาคันตุกะ
“มึงมีอะไรก็ว่ามา พูดจบก็ไปเสีย กูไม่อยากให้ผัวมึงมาตามลากตัวมึงถึงเรือนกู” กันภัยนั่งอยู่บนตั่งติดหน้าต่าง ยกแขนขึ้นพาดขอบหน้าต่าง มองมายังภคนางค์ที่นั่งอยู่ตั่งข้าง ๆ แล้วสั่งเธอ
“คือ...” ภคนางค์ลังเลที่จะบอกเล่าเรื่องราว เธอหันไปมองหน้าสาวน้อยมิลาดา เป็นสัญญาณว่าอึดอัดใจที่จะพูดต่อหน้าคนแปลกหน้า
“หนูออกไปก่อนนะคะหมอ หมอกับคุณนางจะได้คุยกันสะดวก” มิลาดารู้ตัว เสนอขึ้นมาทันที
“ไม่ต้อง! กูบอกแล้วไงว่าทุกครั้งที่มีลูกค้าหรือลูกศิษย์ผู้หญิงมึงต้องอยู่ในห้องลงยันต์กับกูด้วย” กันภัยสั่งห้ามเธอเสียงแข็ง
มิลาดาที่นั่งอยู่ตรงตั่งตัวเดียวกันกับกันภัย เคียงข้างอยู่คู่เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบข้างหูเขาเสียงเบา พยายามอย่างเป็นที่สุดที่จะไม่ให้หญิงสาวสวยใบหน้าเศร้าคนนั้นได้ยิน
“แต่เขาไม่ได้เป็นลูกค้าหรือลูกศิษย์หมอกันภัยนี่คะ เขาเป็นแฟนเก่าของหมอ”
“ถ้าอย่างนั้นมึงยิ่งต้องอยู่” กันภัยพูดเสียงดัง ขัดกับมิลาดาที่พยายามกระซิบกระซาบ มันทำให้มิลาดาอดใจไม่ไหว พูดโต้ตอบเสียงดังบ้าง
“งื้ออออ... ทำไมล่ะคะหมอ? ไม่เอาอะ ทำไมหนูต้องอยู่ฟังหมอพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้กับแฟนเก่าหมอด้วย?”
“อยู่! ในฐานะแม่ของไอ้แก้วและไอ้ทองก็ได้” กันภัยสั่งเสียงแข็งและคำพูดของเขาทำให้ใบหน้าสวยเศร้าของภคนางค์ยิ่งเศร้าลงไปอีก
“หมอ! พูดแบบนั้นได้ยังไงคะ!? เดี๋ยวคนเขาเข้าใจผิดกันพอดี” สาวน้อยโวยวาย
“ไม่ผิดหรอก ก็ไอ้แก้ว ไอ้ทองเรียกมึงว่า ‘แม่’ เรียกกูว่า ‘พ่อ’ ผิดตรงไหน? หรือมึงว่าไม่ใช่?” กันภัยยกยิ้มที่มุมปากแล้วถามมิลาดา อารมณ์เคร่งขรึมเมื่อแรกเจอหน้าภคนางค์ลดลงไปเมื่อได้หยอกล้อสาวน้อยข้างกาย
“เด็กคนนี้... มองเห็นแก้วกับทองเหรอคะ?” ภคนางค์ถามขึ้นมา เธอคุ้นเคยกับกันภัยจึงคุ้นเคยกับรูปปั้นกุมารเล็ก ๆ สองตัวที่อยู่ในห้องพระของกันภัยด้วย เธอรู้ว่าเขาปลุกเสกพวกมันขึ้นมานับสิบปีแล้ว แต่เธอไม่เคยเห็นหรือเคยได้ยินเสียงของพวกมันเลยสักนิด
“เห็นหรือไม่เห็นไม่ใช่เรื่องของมึง มึงมีเรื่องอะไรก็ว่ามา” กันภัยวกกลับเข้าเรื่องอีกครั้ง
ภคนางค์อยากจะซักถามมากกว่านั้นแต่ก็จนใจ จึงได้เอ่ยปากถึงเหตุผลแท้จริงที่ทำให้เธอต้องบากหน้ามาหาเขาในวันนี้
“ก้อง... ก้อง... เขานอกใจนาง... นางไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร...”
“ก็เลยมาพึ่งผัวเก่า? มึงบ้าหรือเปล่าภคนางค์? ไอ้ก้องมันเป็นคนเจ้าชู้ มันเหมือนพ่อ ก่อนมึงจะเลือกไปเป็นเมียมันมึงก็รู้ แสดงว่าทำใจไว้แล้ว มาถึงตอนนี้ เสียใจก็สายไปแล้ว” กันภัยพูด น้ำเสียงเย้ยหยัน ที่ริมฝีปากมีรอยยิ้มเยาะปรากฏขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
“นางไม่ได้มาหาก้านในฐานะคนรักเก่า แต่มาหาในฐานะที่ก้องเป็นน้องชายก้านนะคะ อย่างน้อยพี่ชายก็ควรเตือนสติน้องชาย” ภคนางค์พูดแล้วทำท่าจะร้องไห้อีก
“เตือนยังไงก่อน? คนรักของกูอย่างมึงมันยังแย่ง มึงยังคิดจะให้กูไปเตือนสติมันเหรอ?” กันภัยถามน้ำเสียงแข็งกร้าว
มิลาดาได้แต่อ้าปากค้าง ฟังเรื่องราวของสองหนุ่มสาวที่เป็นดั่งละครฉากใหญ่ ปะติดปะต่อได้ใจความว่าน้องชายหมอกันภัยแย่งหญิงคนรักจากพี่ชายไปและวันนี้หญิงคนนั้นก็กลับมาพึ่งพิงเขา ร้องขอความเป็นธรรมจากเขาผู้เป็นพี่สามี
“หรือไม่อย่างนั้น... สักยันต์อะไรสักอย่างที่ทำให้ก้องรักนางคนเดียวได้ไหมคะ? ยันต์อะไรก็ได้ เสียเท่าไหร่นางก็ยอม” ภคนางค์กล่าวอ้อนวอน
“มึงบ้าหรือเปล่านาง? มึงไม่ได้ทำงานทำการอะไร ครอบครัวก็แค่พอมีพอใช้ เงินมึงมาจากไอ้ก้องทั้งหมด ไอ้ก้องมันน้องกู สุดท้ายก็เงินครอบครัวของกูที่มึงจะเอามาจ่ายให้กู มึงกลับไปเสียเถอะ ไปรับสภาพกับสิ่งที่มึงเลือก” กันภัยพูดตัดเยื่อใย ทำให้น้ำตาของภคนางค์ไหลอาบแก้มทันที
“นางแค่ตัดสินใจผิด... ตอนนั้น... นางแค่รู้สึกว่านางไม่เหมาะที่จะอยู่ในอำเภอเล็ก ๆ แบบนี้” ภคนางค์พูดแล้วหลบตากันภัย
อ้อ... ที่แท้ก็ไม่อยากอยู่บ้านนอก พอเข้าใจได้หรอกนะ ดูหมอกันภัยสิ นุ่งผ้าขาวม้าทั้งวัน บ้านใหญ่โตก็จริงแต่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็น้อยชิ้น แถมอยู่แถวนี้ สถานบันเทิงที่อยู่ในรัศมี 30 กิโลเมตรก็มีแต่เซเว่นอิเลเว่น คุณคนสวยคงอยากมีสังคมทันสมัย อยู่ในกรุงเหมือนสาว ๆ คนอื่นเขาแหละ
มิลาดาพยักหน้าหงึก ๆ แล้วคิดในใจ เหมือนเข้าใจความรู้สึกของภคนางค์เป็นอย่างดี
“แต่มึงไม่ได้อยู่คนเดียว มึงอยู่กับกู” กันภัยพูดสั้น ๆ
“แต่ก้านไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตของนางนะคะ พูดง่าย ๆ การดำเนินชีวิตของเราไปกันไม่ได้” ภคนางค์ชี้แจงให้เขาฟัง
“งั้นชีวิตของมึงคงเข้ากับไอ้ก้องได้ดีล่ะสิ เฮอะ! มิน่าล่ะ เข้ากันได้ดีจนต้องซมซานมาหากูถึงเรือน” กันภัยพูดประชดแล้วแค่นเสียงเฮอะออกมา
“เออ... หมอคะ... หนูว่ามันเริ่มเป็นเรื่องส่วนตัวของหมอกับแฟนเก่าเกินไปหรือเปล่าคะ? ให้หนูออกไปรอนอกห้องเถอะนะ หนูอึดอัด” สาวน้อยมิลาดาเริ่มขมวดคิ้วนิ่วหน้า ถึงจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องของกันภัย แต่ไม่อยากอยู่ฟังคนเขาทะเลาะกันเท่าไหร่นัก
“ออกไปทำไม? คนของกูก็ต้องอยู่กับกู” กันภัยหันมาถามเสียงดุกับเธอพร้อมดึงแขนบางของสาวน้อยให้กระเถิบเข้ามานั่งใกล้เขาอีกนิด
มิลาดารู้สึกว่าเขาต้องการแสดงให้คนรักเก่าเห็นว่าเธออยู่ในฐานะที่ไม่ธรรมดา อาจต้องการให้เจ้าหล่อนเข้าใจผิดด้วยว่ามิลาดาคือคนรักใหม่ของหมอยันต์กันภัย เมื่อคิดได้ดังนี้มิลาดาจึงรู้ได้ทันทีว่าเธอถือไพ่เหนือกว่ากันภัยอยู่ตอนนี้ สาวน้อยจึงรีบฉวยโอกาสเลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบข้างหูของหมอยันต์รูปหล่อ
“หมอคะ ตอนนี้หมอต้องการให้หนูแสดงเป็นคนรักของหมอ หยามหน้าแฟนเก่าไหมคะ? ถ้าต้องการ... หนูขอให้หมอเลื่อนคิวสักของหนูขึ้นมาได้ไหมคะ? สัก... อาทิตย์หน้า รับรองว่าหนูแสดงเป็นคนรักได้แนบเนียนจนคนรักเก่าของหมอแทบอยากจะกรี๊ดแล้ววิ่งหนีลงเรือนแบบไม่คิดจะกลับมาหาหมอเลยค่ะ”
กันภัยขมวดคิ้วนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันมาสบตากับมิลาดาที่ส่งยิ้มหวานแฝงแววเจ้าเล่ห์มาทางเขา
“ก้านคะ... สรุป ก้านจะช่วยนางไหม? ถ้ายังไม่อยากสักยันต์ให้นาง ก็ให้นางอาศัยอยู่กับก้านสักพักเถอะค่ะ นางยังไม่มีที่ไป และยังไม่อยากกลับบ้านไปเจอก้องด้วย” ภคนางค์ที่เห็นกันภัยไม่ใส่ใจเธอพูดแทรกขึ้นมา หวังว่ากันภัยจะหันมามองเธอแทนเด็กสาวหน้าฝรั่งที่นั่งข้างกัน
คำถามของภคนางค์ถูกตอบกลับด้วยการกระทำ กันภัยคลายปมคิ้วที่ขมวดอยู่ออก ยกยิ้มร้ายที่มุมปากข้างหนึ่งก่อนที่จู่ ๆ จะบรรจงจูบลงบนริมฝีปากอิ่มน้อย ๆ ของมิลาดาอย่างแผ่วเบา
เรียวปากหนาร้อนของชายหนุ่มพร้อมหนวดเคราที่จิ้มลงมาตามริมฝีปากและผิวบางของมิลาดาทำให้เธอวาบหวิวในใจปนกับจั๊กจี้ จูบจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้มิลาดาถดตัวออกมาโดยธรรมชาติแต่กันภัยก็ขยับตัวตามไปทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่ยังคงประกบติดกันและแนบแน่นยิ่งกว่าเดิม
เมื่อถดตัวหนีไม่พ้น มิลาดาจึงดันอกเขาออกแต่แรงของสาวน้อยก็ไม่ส่งให้ร่างใหญ่ของกันภัยขยับเขยื้อนแต่อย่างใด มันกลับทำให้ริมฝีปากหนานั้นบดลงมารุนแรงขึ้น หนุ่มหล่อบีบคางเธอเบา ๆ และเมื่อสาวน้อยเผยอริมฝีปากออกเขาก็สอดแทรกลิ้นร้อนเข้าไปล้วงควานเอาความหวานจากโพรงปากเล็ก ตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กแล้วดูดดุนมันเบา ๆ
รสจูบของกันภัยยังมีความหวานล้ำจากผลไม้ลอยแก้วก่อนหน้านี้ มันหวานซ่านและทำให้มิลาดาใจเต้นไม่หยุด กว่าหมอยันต์รูปหล่อจะถอนจูบออกมิลาดาก็หอบแฮกเสียแล้ว
ฉากจูบหวามไหวของสองหนุ่มสาวทำให้ภคนางค์อ้าปากค้าง ในใจของสาวสวยสับสนจนทำอะไรไม่ถูกจน ส่วนมิลาดาก็ได้แต่ปากสั่น หน้าแดง ไม่คิดว่าจูบแรกจะถูกกันภัยขโมยไปอย่างง่ายดายเพียงนี้ ความเงียบปกคลุมห้องใหญ่จนกระทั่งกันภัยเป็นฝ่ายเริ่มพูดออกมาก่อน
“ภคนางค์ ถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็อยู่ไป ห้องแขกมีหลายห้อง อย่ายุ่งกับห้องของดาร์ลิงก็พอ แค่ดูมึงก็คงรู้ว่ากูไม่อยากให้ดาร์ลิงไม่สบายใจ ดังนั้นหากดาร์ลิงบอกว่าอึดอัดเมื่อไหร่ มึงก็ต้องไปจากเรือนหลังนี้ เพราะเรือนหลังนี้ที่ใหญ่สุดก็คือแม่ไอ้แก้วและไอ้ทอง”