EPISODE 1 ที่เดิมๆ คนเดิมๆ

1462 Words
ทิวา หลง ดาว EPISODE 1 คนเดิมๆ ที่เดิมๆ โดย GISEIE _GINOICHI "เหมือนเดิม" เสียงทุ้มต่ำ เอ่ยออกมาด้วยท่าทีเรียบนิ่ง ทิวากร หรือ สิงห์ นายตำรวจหน้านิ่งของส.น ประจำจังหวัดเชียงราย ที่หลายคนยกสมยานามให้ว่าสิงห์ดุ ทั้งที่ ภายนอก เขากลับไม่ได้ดู คล้าย หรือไกล้เคียงกับฉายานั้นสักนิด ความสูงหนึ่งร้อยเก้าสิบ ผิวพรรณสะอาดเกลี้ยงเกราสีเดียวกับหยกขาว สันจมูกตั้งตรงรับกับตาคมขีดเดียว ที่มองกี่ทีก็ชวนให้หลงไหล ไหนจะปากกระจับสีแดงอมม่วงนั่นอีก “ ตรงไหนของมันวะ ที่ดูโหด?" เหนือสมุทร เอ่ยพรางทอดสายตามองเพื่อนน้องชาย ที่นับเป็นเพื่อนเขาด้วยอย่างพินิจพิเคราะห์ "มึงอย่ารู้เลยเฮีย" เมฆินทร์ ยิ้มมุมปาก ปลายนิ้วชี้ ถูวนขอบแก้วเหล้าทรงเหลี่ยมช้าๆ ก่อนจะส่งมันให้คนพี่ ‘อย่างที่บอก ด้านมืดของมัน ใช่ว่าใครอยากจะได้เห็นก็เห็น ’ "ลองชิมดู ว่าสู้ของเฮียพายุได้ไหม" "ฮึ...มึงก็รู้ เหล้าใคร ก็สู้เหล้าเฮียพายุไม่ได้ หรือมึงจะเถียง ไอ้สิงห์" เหนือสมุทร กล่าวถึงคนที่ไม่อยู่ร่วมวง แล้วยังเผื่อคำถามไปถึงคนเด็กกว่า "นั่นมันของแน่นอนอยู่แล้ว" "แล้ววันนี้ พวกเฮียไม่รีบกลับรึไง?" เสียงทุ้มขรึมเอ่ถามด้วยท่าทีเรียบนิ่ง ดวงตาสีนิลหรี่มองคนแก่กว่า ก่อนจะเอ่ยประโยคถัดไปที่ชวนให้คนฟังหงุดหงิด "ไม่เอานะ ตอนกำลังติดลม แล้วคนนั้นคนนี้โทรตาม ทิ้งกูเฝ้ากองขวดอยู่คนเดียว" ทิ้งให้เฝ้าไม่เท่าไร ดันทิ้งให้จ่ายเงินด้วย ท้ายประโยคดังก้องอยู่ในหัว แผ่นหลังตรงเหยียดพิงเก้าอี้ เผยให้เห็นมวลกล้ามเนื้อช่วงอก ที่เจ้าของมันปลดกระดุมเสื้อให้เห็นพอรำไรขับบุคลิคให้ดูสุขุมให้ชวนมองเป็นพิเศษ "ส้นตีนเถอะ...ใครจะมาตามพวกกู " เมฆินทร์ กวาดสายตามองทีละคน ดวงตาคมกริบ ดูท้อแท้ และสิ้นหวัง เมื่อคิดถึงสภาพ ความเป็นจริง ว่านอกจากพวกเขาจะโสดสนิทแล้ว ยังค่อนข้างไร้มิตรจะคบหาอีกด้วย 'ใครจะมาเอาคนอย่างพวกเขาไปทำพันธุ์’ "เลิกเพ้อเจ้อ แล้วแดกเหล้าเถอะ " "อย่างน้อย มันก็เมาเท่ากันทุกขวด ไม่เหมือนใจคน" ทิวากร เอ่ยตัดบทด้วยเนื้อเสียงเรียบนิ่งไม่ต่างจากอารมณ์ "ไม่ใช่สิ กูอุส่าห์หอบความทุกข์ มาปรึกษาแล้วดุูพวกมึงแต่ละคน โดยเฉพาะมึงไอ้สิงห์ กูอุส่าห์เห็นมึงเป็นที่พึ่ง ไอ้เพื่อนเวรตะไล พูดจาราวกับคนละทางโลกจะไปบวช" เมฆินทร์ เอ่ยด้วยสุ้มเสียงดุติดหงุดหงิด เสี้ยวหน้าคมจริงจัง จนคนฟังอย่างทิวากร หัวคิ้วหนาขมวดมุ่น มือหนายกแก้วเหล้าขึ้นจิบช้าๆ ไม่ยินดียินร้ายในคำกล่าวโทษของเพื่อน กลับกัน ทิวากรดันเห็นความเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายเป็นเรื่องตลกซะมากกว่า 'คนกิเลสหนาอยากกูเนี่ยนะ จะละทางโลกไปบวชน่าขำสิ้นดี ช่างคิดได้นะมึง' "เมาจนเพ้อเจ้อ ลองห่างจากพลอยนิราดูมั่งไหม มึงเริ่มติดกลิ่นมันมาแล้วถือว่ากูเตือน" สันจมูกคมโน้มลงมาสูดกลิ่นแปลกประหลาดชั่วครู่ ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำจะเอ่ยด้วยท่าทางไม่จริงจัง ผิดกับคนฟังอย่างเมฆินทร์ ใบหน้าหล่อพลันเรียบตึงขึ้นเรื่อยๆจนไอเย็นค่อยๆแผ่มารอบตัว ทิวากร หัวเราะในรำคอเบาๆ "ฮึๆ" "เพื่อนกัน....เขาไม่หึง เผื่อมึงไม่รู้" "เก็บปากมึงใว้แดกเหล้าเถอะ....หรือถ้าว่างมากจริงๆ กูมีอะไรจะวานมึงหน่อย" ต้นประโยค ถูกเอ่ยด้วยเสียงเข้ม หากแต่ปลายประโยค ถูกลดระดับลงเป็นเนื้อเสียงที่อ่อนกว่าปกติอีกทั้งคนพูดยังมองมาด้วยแววตาพราวระยับต่างจากทุกทีจนคนถูกมองอย่างทิวากรสำผัสได้ถึงเค้ารางเเห่งความหายนะจากชุดความในหัวขี้เลื่อยของเพื่อนรัก เหนือสมุทรที่รู้ทันคนเป็นน้อง จึงเอ่ยปรามออกมาเบาๆ "กูรู้นะ ว่ามึงคิดอะไรอยู่" "คิดดีๆ ก่อน..มึงคิดดีๆ" "กูคิดมาดีแล้วเฮีย ไอ้สิงห์ มันคือตัวเลือกที่หน้าใว้ใจที่สุด และที่สำคัญมันไม่มีทางรักใคร มันจะไม่ทรยศเรา" เมฆินทร์เอ่ยเสียงเครียด หากแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ "แล้วมึงถามมันรึยัง?" เหนือสมุทร ถามพราง มองสบตาอีกคนที่กำลังถูกกล่าวถึง "ก็...กำลังนี่ไง " "สิงห์ มึงกำลังคบใครอยู่ไหมตอนนี้" มือที่จับแก้วเหล้าเตรียมจะยกขึ้นดื่ม ชะงักกลางอากาศชั่วครู่ ก่อนที่ไม่กี่วินาที เจ้าของมันจะยกขึ้นจิบดับอารมณ์หยาบ ดวงตาสีดำสนิท กวาดมองผู้ร่วมวง ริมฝีปากที่คล้ำ แย้มขึ้นเอ่ยด้วยท่าทีจริงจังไม่ต่างกัน " กูไม่คิดจะไม่มีใคร" “ไอ้ห่า!”เมฆินทร์สบถเสียงหลง "กูเตือนมึงแล้ว" เหนือสมุทร รีบบอกปัดราวกับถูกของร้อน ปฏิกิริยาแบบนั้น ทำเอาคนฟังอย่างทิวากรเลิกคิ้วขึ้นสูง "มึงกำลังจับคู่ให้กูกับน้องมึง?" ทิวากรถามเสียงเรียบ ในหัวพอจะเรียบเรียงเหตุการณ์ได้แบบอยาบๆ เขารู้ ว่าเพื่อนสนิทอย่าเมฆินทร์ และเหนือสมุทร มีน้องสาว และพวกมันก็คลั่งรักเอามากๆสะด้วย แล้วอยู่ดีๆ คนที่ถนอมน้องสาวราวกับใข่ในหินอย่างพวกมัน ดันมาอยากได้คนแบบเขาไปเป็นน้องเขย ต้องสิ้นคิดขนาดไหน? "กะ..ก็ไม่ใช่" ดวงตาสีอำพันล่อกแล่กก่อนที่กรอลหน้าคมจะถูกประพรมไปด้วยเม็ดเหงื่อจนฉ่ำชื้น “มึงกำลังโกหกกูหมอก” เนื้อเสียงขรึมเจอไปด้วยความกดดันรับกำดวงตาสีนิลที่เหล่มองมาอย่างจับผิด จนคนถูกมองอย่างเมฆินทร์ ต้องชูมือขึ้นหลา คล้ายผู้ต้องขังยอมศิโรราบ "เออ ใช่ก็ใช่" "ไอ้นั่น ที่มึงชอบกิน มึงลองนึกดูดีๆนะ ถ้ามึงจีบน้องกูสำเร็จ มึงได้แดกยันตายเลย แล้วมึงคิดดูดีๆสิ มึงจะได้เป็นมากกว่าเพื่อน กับคนดีๆอยากพวกกูอีก มีตรงไหนไม่คุ้มวะ!" เมฆินทร์ กล่าวพรางลุกขึ้นตบอกด้วยความมั่นใจ ต่างจากเหนือสมุทร ที่ยกมือบังหน้าหลีกหนีความอับอาย "ถุย! ไอ้สัส พอเลยมึง นอกจากกางเกงใน ทุกอย่างในร่างกายยันการใช้ชีวิต กูแทบจะทำแทนมึงหมดแล้ว ยังเสือกอยากให้กูไปดูแลน้องมึงอีก พอเลย กูจะถือว่ามึงไม่เคยพูด" ทิวากรตัดบท เหนือสมุทร พยักหน้ารับเห็นด้วย เหลือแต่เมฆินทร์ ที่ไม่ค่อยพอใจในผลลับ แต่ก็ยังพูดออกมาไม่ได้ เขามั่นใจ ว่าถึงเขาจะโง่เรื่องอื่น แต่เรื่องนี้ เขาดูไม่ผิด ไม่มีใครเหมาะกับทิวากร เท่า นับดาว เชื่อเขาสิ! วงเหล้าดำเนินการต่อไปช้าๆ จวบจนถึงเวลาแยกย้าย เมฆินทร์เมาจนฟุบหลับเหมือนทุกที เหนือสมุทร ก็ปลีกตัวไปก่อนตั้งแต่หัวค่ำ คงเหลือแต่ทิวากร ที่ต้องทำหน้าที่ส่งมันกลับเหมือนเช่นทุกครั้ง มือหนาล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของเพื่อนรัก คว้ามือถือเครื่องหรูมากดส่งข้อความ ไปยังช่องแชทของคนเดิม ที่เขาเฝ้าส่งมาตลอดหลายปี เจ้าของโปรไฟล์ รูปโดนัท สีชมพู เคลือบด้วยวนิลาสีขาว 'หมวยเล็ก' "พี่เธอเมา" "มาเอากลับที" ประโยคสั้นๆ ไม่มีการแนะนำตัว หรือขยายความต่อตากนั้น ทิวากร ก็แค่ทำ....เหมือนทุกที พราวนพา หลุบตาลงมองหน้าจอทันทีที่เสียงการแจ้งเตือนดังขึ้น ไม่ต้องเดาเธอก็รู้ เวลานี้ คนที่กล้าทักมา คงมีแต่คนเดียว แล้วถ้าเธอเดาไม่ผิด ก็คงเป็นเพื่อนพี่ชายคนนั้น คนที่ตามเธอทุกครั้ง แต่ไม่เคยอยู่ให้เธอเห็นตัวเลย 'เพื่อนเฮียเมฆินทร์ ที่ชื่อสิงห์' "ขอบคุณค่ะ...รบกวนเฮียอีกแล้ว" พราวนพา หรือนับดาว ตอบกลับ ในใจก็คาดหวัง ว่าเขาคนนั้น คงจะอยู่รอคำตอบจนเมื่อผ่านไปราวสิบนาที ข้อความยังไม่ถูกอ่าน คนตัวเล็กก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก...เขาไม่อ่าน..และไม่คิดจะตอบดังเช่นที่เคยทำ ร่างเพรียวระหงษ์หยุดมือจากสิ่งที่ทำอยู่ชั่วคราว กลิ่นโดนัทที่พึ่งอบเสร็จใหม่ๆหอมฟุ้ง นับดาว ดันมันกลับเข้าเตาอบรักษาอุณหภูมิแบบรีบๆ ก่อนจะรีบคว้ากระเป๋าออกจากบ้านไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD